ผ้าในโลกนี้มีหลากหลายประเภท ซึ่งการดูแลผ้าในแต่ละประเภทก็ดูแลแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของเนื้อผ้า โดยการแบ่งประเภทผ้า สามารถแบ่งเป็นหลักๆ ได้ 3 ประเภทด้วยกัน เส้นใยธรรมชาติ (Natural Fiber) เส้นใยสังเคราะห์จากสารเคมี
(Chemical Synthetic Fiber) เส้นใยสังเคราะห์จากวัสดุธรรมชาติ (Natural Synthetic
Fiber) เส้นใยจากธรรมชาติเส้นใยฝ้าย (Cotton)เป็นผ้าที่ได้จากเส้นใยธรรมชาติจากพืช สามารถซักด้วย สบู่ หรือผงซักฟอกได้ มนต่อแสงแดดและความร้อนได้ดี ในการดูแลรักษา ควรรีดในขณะที่ยังชื้นอยู่ หรือควรพรมน้ำก่อนรีด ควรรีดให้แห้งสนิท ถ้ารีดไม่แห้งสนิทเมื่อเก็บไว้อาจจะทำให้เกิดราได้ เส้นใยไหม (Silk)เป็นผ้าที่ได้จากเส้นใยธรรมชาติจากสัตว์ ผ้าไหมไม่ทนแสงแดด ซึ่งจะทำให้ผ้าไหมขาดเร็ว ก่อนนำผ้าไหมไปตัดชุดควรนำไปอบไอน้ำก่อนเพื่อไม่ให้เนื้อผ้าหดและสีไม่ตกง่ายในภายหลัง วิธีการดูแล ไม่ควรใช้น้ำยาซักแห้ง หรือผงซักฟอก เพราะจะทำให้สีตก และเก่าเร็ว ควรใช้สบุ่อ่อน แชมพูเด็ก หรือผลิตภัณฑ์สำหรับผ้าไหมโดยเฉพาะ ผสมน้ำอุ่นตีเป็นฟอง น้ำเสื้อผ้าไหมจุ่มลง และใช้มือขยำและซักตรงที่มีรอยสกปรก เช่น ที่คอ ปลายแขน ปลายขา ปลายกระโปรง นำขึ้นบีบให้น้ำสบุ่ไหลออกแล้วนำไปซักน้ำอุ่น อีกอย่างย้อย 2 ครั้ง หรือจนกว่าจะหมดฟอง แล้วใช้ผ้าขนหนูซับน้ำออกโดยการปูชุดผ้าไหมลงบนผ้าขนหนูแล้วค่อยๆม้วนผ้าตามขวาง โดยทิ้งไว้ 5-10 นาทีโดยไม่ต้องบิด แล้วนำไปแขวนผึ่งลม พอหมาดๆแล้วนำไปรีด เส้นใยลินิน (Linen)เป็นผ้าที่ได้จากเส้นใยธรรมชาติจากพืชเช่นเดียวกับฝ้าย แต่มีข้อแตกต่างกันอยู่นิดหน่อยคือ ลินิน จะแข็งและดูดซับน้ำได้ดีกว่า ฝ้าย แต่จะไม่ยืดหยุ่นเท่ากับฝ้าย การดูแลรักษา คล้ายกัน ผ้าลินินจะยับง่ายกว่าจึงควรใช้การม้วนเก็บมากกว่าการพับ เส้นใยขนสัตว์ (Wool)เป็นผ้าที่ทำมาจากขนของสัตว์เช่น แกะ เฟอร์ กระต่าย เป็นต้น ถ้ามีรอบเปื้อนให้รีบใช้แปรงแปรงออกโดยเร็ว หากเปื้อนน้ำให้รีบสบัดออก หรือใช้ผ้าแห้งเช็ดออก ผ้าขนสัตว์ต้องแปรงทุกครั้งหลังจากสวมใส่ ให้ใช้แปรงที่มีขนนุ่มและแน่น จะทำให้รอยเปื้อนหรือคราบสกปรกหลุดออกได้ดีแล้ว ยังทำให้เส้นขนไม่จับตัวเป็นก้อน ข้อสำคัญคือห้ามแปรงตอนผ้าเปียกให้แปรงตอนแห้งเท่านั้น เส้นใยสังเคราะห์จากสารเคมีผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester)หากใครเป็นคนที่ชื่นชอบการใส่เสื้อยืดเอามากๆ อาจจะต้องเคยใส่เสื้อยืดที่ผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ 100% เพราะผ้าโพลีเอสเตอร์มีคุณสมบัติที่คล้ายกับผ้าคอตตอนหรือผ้าฝ้ายอย่างมาก เป็นเส้นใยที่มีความยาวนุ่ม เงามัน เบาบาง ยับยาก แต่สามารถดูดความชื้นได้น้อย และเมื่อใส่ไปนานๆ เนื้อผ้าอาจจะเป็นขุยได้ ผ้าไนลอน (Nylon)โดยส่วนมากผ้าไนลอนจะไม่ค่อยนิยมนำมาผลิตเป็นเสื้อผ้า เพราะเวลาสวมใส่จะไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากนำมาผลิตเป็นเสื้อผ้าก็จะมีราคาที่ไม่สูง ส่วนมากจะผลิตเป็นกระเป๋า ร่ม ถุงผ้าไนลอน มากกว่า เพราะคุณสมบัติของผ้าไนลอนมีความแข็งแรง ทนทานมาก ไม่ยับง่าย เนื้อผ้าสามารถทรงตัวได้ดี ทนต่อเชื้อราและการถูกขัดสีได้ดี ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex)ใครที่นึกไม่ออกว่าผ้าสแปนเด็กซ์เป็นยังไง ให้นึกถึงกางเกงเลกกิ้งหรือเสื้อที่ผ้ามีลักษณะยืดหยุ่นมากๆ เพราะคุณสมบัติของผ้าสแปนเด็กซ์คือมีความยืดหยุ่นสูงมาก เมื่อยืดออกแล้วปล่อยกลับก็จะคงอยู่ในรูปทรงเดิม และแถมยังมีน้ำหนักที่เบาสบายอีกด้วย เส้นใยสังเคราะห์จากวัสดุธรรมชาติผ้าเรยอน (Rayon)ผ้าเรยอนไม่ได้ผลิตมาจากเส้นใยสังเคราะห์สารเคมี แต่ผลิตมาจากวัสดุธรรมชาติ และได้ผ่านกระบวนการทางเคมี ถักทอจนเกิดเป็นผืน ผ้าเรยอนถูกผลิตขึ้นมาให้มีคุณสมบัติที่เหมือนกับผ้าฝ้าย คือเนื้อผ้านุ่ม มันเงา สามารถระบายความร้อนได้ แต่ก็ยังไม่สามารถสู้ผ้าฝ้ายได้ ส่วนมากคนจะนิยมมาใช้ทดแทนเสื้อผ้าที่ผลิตจากผ้าฝ้าย เพื่อลดต้นทุนการผลิต ราคาจึงถูกกว่า . . และหากสนใจสินค้าจากทางบริษัทฯ สามารถติดต่อได้ทาง เบอร์โทร : 02-514-3263 Line : @paspand ที่มา - https://www.smartprintfabric.co.th/fabric-care-by-type/ - https://www.mcshop.com ความหมายและความสำคัญของการดูแลเสื้อผ้าการดูแลเสื้อผ้า หมายถึง การทำความสะอาดและเก็บรักษา โดยวิธีขจัดรอยเปื้อน ซัก ตาก รีด เก็บ พับ หรือแขวนในถุงเก็บเสื้อหรือในตู้ การดูแลเสื้อผ้ามีความสำคัญ ดังนี้1. เสื้อผ้าสะอาด ไม่มีคราบสกปรก หรือมีกลิ่นเหม็นจากเหงื่อไคล 2. ป้องกันไม่ให้เกิดโรคผิวหนังอันเนื่องมาจากเสื้อผ้าสกปรก เช่น หิด กลาก เกลื้อน ผมผื่นคัน 3. ถนอมเนื้อผ้าให้ทนทาน ไม่เสื่อมสภาพ และมีอายุการใช้งานยาวนาน 4. ส่งเสริมบุคลิคภาพของผู้ใส่ให้ดูดี สง่างาม เป็นที่ชื่นชอบของผู้พบเห็น 5. ผู้สวมใส่เกิดความมั่นใจ และความภาคภูมิใจ 6. ปลูกฝังลักษณะนิสัยให้เป็นคนรักความสะอาด ประเภทของเสื้อผ้า เสื้อผ้าแบ่งตามชนิดของเส้นใยที่นำมาเป็นผืนผ้าเป็น 3 ประเภท
ดังนี้ |