รู้จัก เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Controller) ไม่มีคำว่า “ หยุด ” สำหรับ ATC ATC อาชีพที่เครียดที่สุดในโลก การปฏิบัติหน้าที่ เส้นทางการเตรียมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ATC หลักสูตร ATC Fast Track
ที่มา : www.aerothai.co.th น้องๆ ที่สนใจอาชีพเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ (หรือ Air Traffic Controller หรือ ATC) สามารถยื่นสมัครสอบกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (หรือเรียกสั้นๆ ว่า วิทยุการบินฯ หรือ บวท. หรือ AEROTHAI) ซึ่งเป็นหน่วยงานพลเรือนที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่ดูแลด้านการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศเหนือน่านฟ้าไทย ควบคู่ไปกับหน่วยงานควบคุมจราจรทางอากาศในส่วนของคุณทหารค่ะ -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*- น้องที่มีความสนใจจะเข้ามาเป็น ATC นั้น ตามคุณสมบัติพื้นฐานของบริษัทที่กำหนดไว้ก็คือ – อายุไม่เกิน 27 ปี เมื่อเอกสารพร้อม ใจพร้อม และบริษัทเปิดรับสมัครเมื่อไหร่ ก็เดินก้าวย่างสวยๆ หล่อๆ ด้วยความมั่นใจเข้ามาสมัครสอบได้เลยค่ะ ปกติแล้วทางบริษัทจะเปิดรับสมัครทุกปี อาจจะมีบางปีที่เว้นช่วงไปบ้าง อย่างของปีนี้ที่รับสมัครไปเมื่อตอนต้นปี เว้นช่วงมาตั้ง 2 ปีแหน่ะค่ะ แต่ยังไงก็ตาม บริษัทยังต้องการพนักงานเพิ่มอยู่ตลอดนะคะ เพราะอุตสาหกรรมบ้านเราเติบโตเร็วมากและมีการขยายงานอยู่ตลอดเวลา พี่ๆ ต้องการพลังคนรุ่นใหม่มาเสริมทัพ น้องๆ สามารถเตรียมตัวให้พร้อมไว้ได้เสมอเลยค่ะ หลังจากสมัครเรียบร้อย คราวนี้ก็เข้าสู่กระบวนการสอบที่ค่อนข้างจะยาวนานแล้วล่ะค่ะ บางคนเคยถามว่า พี่คะ สอบ ATC ยากเหมือนสอบนักบินมั้ย ตามความเห็นพี่ พี่ว่ายากพอๆ กันค่ะ เข้มข้นพอๆ กัน แต่ของคุณนักบินอาจจะข้นกว่าและซับซ้อนกว่าอีกหน่อย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น กระบวนการสอบและวิธีการสอบแต่ละอย่างก็เพื่อช่วยให้บริษัทได้รับน้องๆ ที่มีความสามารถตรงกับความต้องการของงานในแต่ละประเภทนั้นแบบตรงเป๊ะโชะเด๊ะเลยนั่นเองค่ะ -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*- สำหรับขั้นตอนการสอบของ ATC นั้นเราก็จะเริ่มกันด้วย 1. การสอบข้อเขียน — ข้อสอบจะมีสามวิชานะคะ นั่นก็คือ แต่น แตน แต๊นนนนนน …… – ความรู้พื้นฐานคณิตศาสตร์ (ระดับม.
ปลาย) 2. ทดสอบทักษะในการใช้แป้นคอมพิวเตอร์ ⌨️ (keyboard) หรือพูดง่ายๆ ก็คือสอบพิมพ์ดีดนั่นเองค่ะ เกณฑ์ที่พี่ๆ อยากได้ก็คือน้องสามารถพิมพ์ภาษาอังกฤษได้ไม่ต่ำกว่า 25 คำต่อนาที ตรงนี้มีคำแนะนำส่วนตัวนิดนึง คือเวลาที่พิมพ์ไม่ต้องรีบพิมพ์มากนะคะ ค่อยๆ พิมพ์ให้ถูกต้อง ผิดน้อยที่สุด backspace มาแก้น้อยที่สุด
ใจเย็นๆ รับรองผ่านฉลุยค่ะ (แต่ถ้าใจเย็นขนาดใช้นิ้วจิ้มทีละตัว อันนี้ก็อาจจะไม่ทันนะค้า เอาแบบพอเหมาะละกันเนอะ) น้องๆ ที่อยากฝึกซ้อมมากขึ้น ก็อาจจะลองหาโปรแกรมสำหรับฝึกพิมพ์มาลองใช้ดูได้ค่ะ มีการจับเวลาให้พร้อมเสร็จสรรพ เสริมความมั่นใจไปอีกขั้นนึง 3. สอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษฟุดฟิดฟอไฟค่ะ ลักษณะการสอบจะเทียบเคียงกับการสอบวัดระดับมาตรฐานการใช้ภาษาอังกฤษที่กำหนดของ ICAO (ICAO ย่อมาจากอะไร ใครตอบได้ให้รับรางวัลที่กัปตันเหม Mahesak Wongpa เลยค่ะ <= กัปตันจะสะดุ้งมั้ยคะเนี่ย ) ซึ่ง ATC และนักบินจะต้องผ่านการทดสอบนี้ทุกคน และอย่างน้อยต้องได้ในระดับ 4 (Operation Level/Level 4) เพราะนักบินต้องบินไปทั่วโลก ATC เองก็ต้องเจอนักบินที่มาจากทั่วทุกมุมโลกเช่นกัน ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางที่เราจะใช้ในการสื่อสาร ดังนั้นความสามารถในการพูดโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษจึงสำคัญมากๆ ค่ะ ในส่วนนี้เราสามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้เลย เตรียมแนะนำตัวเองและฝึกซ้อมถามตอบไว้คร่าวๆ ก็ได้ ว่าทำไมถึงรู้จักหรือสนใจอาชีพนี้ มีความสนใจเรื่องไหนเป็นพิเศษรึเปล่า ปกติแล้วเวลาว่างชอบทำอะไร มีงานอดิเรกอะไรบ้างมั้ย สมัยที่พี่สอบ (ซึ่งถือเป็นอดีต past tense ที่ผ่านมานานมากกกกกกกกกแล้ว) พี่บอกว่าพี่ชอบดูหนังค่ะ คุณกรรมการถามพี่ว่าล่าสุดดูเรื่องอะไร เกี่ยวกับอะไร ไหนลองเล่าให้ฟังซิ นี่ก็….แอบอึ้งไปเล็กน้อย ค่อยๆ ตั้งสติ แล้วก็เล่าให้แกฟัง ไม่รู้วันนั้นพี่ดัดแปลงเนื้อเรื่อง The Phantom of the Opera เวอร์ชั่นหนังไปบ้างรึเปล่า ณ จุดนั้น แล้วก็ลองฝึกบรรยายรูปภาพ อย่างเช่นมีภาพในสนามบินภาพนึง แล้วลองอธิบายให้คนที่ไม่เห็นภาพนั้นเค้าลองจินตนาการได้มั้ยว่ามีอะไรอยู่ในภาพนั้นบ้าง สำเนียงภาษาอังกฤษของน้องๆ ไม่จำเป็นต้องเฟี้ยวฟ้าว เป๊ะเฟร่อ เหมือนเจ้าของภาษาทุกกระเบียดนิ้วนะคะ แต่สิ่งที่จำเป็นและอยากเน้น ก็คือการออกเสียงให้ชัดเจน ตัวสะกดและอักขระให้ถูกต้อง นั่นคือสิ่งที่จะทำให้คนฟังต่างชาติเข้าใจเราได้ ไม่ต้องพูดเร็วหรือรีบพูดจนเกินไป พูดให้คนฟังจับใจความที่เราพูดทัน เรียบเรียงประโยคให้ถูกต้อง (ประโยคง่ายๆ ไม่ต้องยาวหรือซับซ้อน) สติและการเตรียมฝึกซ้อมที่ดีจึงสำคัญมากๆ ค่ะ ถ้าน้องๆ ผ่านด่านที่ 2 และ 3 นี้ไปได้ เราก็จะก้าวเข้าสู่ด่านต่อไปแล้วค่ะ 4. การตรวจร่างกายและจิตวิทยาการบิน บริษัทจะจัดตารางให้น้องๆ เข้ารับการตรวจร่างกายและทำข้อสอบจิตวิทยาการบินกับคุณหมอ ⚕️⚕️และพี่ๆ นักจิตวิทยาที่สถาบันเวชศาสตร์การบินของกองทัพอากาศค่ะ ซึ่งในขั้นตอนนี้น้องๆ ต้องดูแลค่าใช้จ่ายในการตรวจเองนะค้า เก็บสะสมสตางค์หยอดกระปุกไว้ล่วงหน้าได้ค่ะ สำหรับผู้กล้าที่ผ่านด่านอรหันต์ทั้งหมดมาได้ ก็จะไปถึงเวทีสุดท้ายแล้วนั่นก็คือ …. 5. สอบสัมภาษณ์ภาษาไทย ในขั้นตอนนี้จะเป็นการสัมภาษณ์โดยกรรมการและผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ของบริษัทค่ะ พูดจาตอบคำถามให้ชัดเจนฉาดฉาน มั่นใจ (ในระกับที่พอเหมาะพอดี) และเป็นตัวของตัวเองนั้นดีที่สุดค่ะ -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*- การสอบดูเหมือนจะยุ่งยากซับซ้อน แต่พี่เชื่อว่าทุกคนมีโอกาสก้าวข้ามความยากนี้ได้ด้วยการเตรียมตัวที่ดีค่ะ ถ้าเรารู้และมีจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่แล้วก็เตรียมตัวได้ตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ ไม่มีคำว่าเร็วไปหรือสายไปแน่นอน ถ้าเราเตรียมพร้อมมาอย่างดี ก็เท่ากับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้เรามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วนะคะ หลังจากการสอบสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายนี้จบลง ก็รอผลไม่นานค่ะ น้องๆ ที่มงลง เอ๊ยไม่ใช่.. ที่ผ่านการคัดเลือกของบริษัทก็จะได้ก้าวเข้าสู่โลกของการบินอย่างเต็มตัวและจริงจังซักที คอน เกร้ท ตุ เล้ ช่านนนนนนน + -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*- เมื่อเข้ามาเป็นพนักงานของวิทยุการบินแล้ว น้องจะอยู่ในตำแหน่ง “นักเรียนฝึกหัดควบคุมจราจรทางอากาศ” เข้ามาเป็นเด็กน้อยให้พี่ๆ ช่วยจับปั้นก่อน น้องๆ จะต้องเรียนคอร์สเร่งรัดที่สอนโดยบริษัทเป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นบริษัทจะส่งต่อให้สถาบันการบินพลเรือนปั้นน้องๆ ต่อไปอีกประมาณ 9 เดือน ก่อนจะปล่อยให้นกน้อยได้บินออกจากรังไปเผชิญโลกกว้าง ระหว่างนี้บริษัทก็ดูแลเราอย่างดีนะคะ มีเงินค่าขนมให้ด้วยเดือนละ 19,250 บาท (อ้างอิงจากประกาศรับสมัคร มี.ค.60) สำหรับน้องๆ หนูๆ ที่จบปริญญาตรีจากสถาบันการบินพลเรือนมาโดยตรงในสาขาจัดการจราจรทางอากาศมาตั้งแต่แรกแล้ว หลังจากเรียนที่บริษัท 3 เดือน น้องๆ ก็จะได้ไปทำงานตามที่ปฏิบัติงานจริงเลยค่ะ ล่วงหน้าเพื่อนๆ คนอื่นที่เข้ามาพร้อมกันไป 9 เดือนโดยประมาณ สำหรับสถานที่ทำงานหลังจากน้องเรียนจบหลักสูตรที่บริษัทกำหนดแล้ว ก็จะขึ้นอยู่กับนโยบายบริษัทและอัตรากำลังที่ต้องการในช่วงนั้นๆ ค่ะ ว่าจะส่งน้องๆ ไปประจำที่หน่วยไหน สำหรับในส่วนกลางก็จะมีที่สำนักงานใหญ่ ทุ่งมหาเมฆ / สุวรรณภูมิ / ดอนเมือง ในส่วนภูมิภาคเราจะมีศูนย์ควบคุมการบินหลักๆ อยู่ที่ เชียงใหม่ / พิษณุโลก / อุบลราชธานี / อุดรธานี / หัวหิน / ภูเก็ต / สุราษฎร์ธานี / หาดใหญ่ ตรงนี้ก็อาจจะมีลุ้นกันนิดนึง หลังจากน้องเริ่มทำงานที่สถานที่ควบคุมจราจรทางอากาศจริง เรียน ฝึก และสอบผ่านตามเกณฑ์ที่สำนักงานการบินพลเรือนได้กำหนดไว้ บริษัทจะปรับสตางค์ค่าขนมเพิ่มครั้งใหญ่ให้เรา (นอกเหนือไปจากการปรับขึ้นประจำปีละสองครั้งตามการประเมินผลน้องๆ หนูๆ) พร้อมแถมค่าใบอนุญาตและค่าวิชาชีพเพิ่มเข้าไปอีกในแต่ละเดือนด้วย อิ่มหนำอ้วนพีกันไปเลย ดูจากพี่เป็นตัวอย่างได้ บริษัทดูแลพี่จนสมบูรณ์ดีมากๆ จริงๆ ค่ะ รักวิทยุการบินฯ นะค้า เขียนมาซะยืดยาว ขอบคุณทุกคนที่ทนอ่านจนมาถึงบรรทัดนี้ ในใจได้แต่หวังว่า จะยังมีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ยังนึกถึงพวกเราชาว ATC บ้างเวลาที่พูดถึงเรื่องการบินนะคะ โอมมมมเพี้ยง! ขอมีคนสนใจงานของเราบ้าง ซักคนก็ยังดี นะๆๆๆๆๆๆๆๆ นะคะ สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถฝากคำถามไว้ได้ที่นี่หรือที่กัปตันพี่เหมเลยนะคะ สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณกัปตันพี่เหมด้วย ที่ได้ให้โอกาสใช้พื้นที่ให้อาชีพนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นค่า กราบงามๆ ตามแบบฉบับ ATC ไทยรุ่นอนุรักษ์ค่ะ ———————————————————— Cr: เพจ Thai Aviation Careers ข่าวสารงานการบิน |