การออกกำลังกายแบบแอโรบิคคืออะไร Show การออกกำลังกายแบบแอโรบิค หรือ Aerobic Exercise หมายถึง การออกกำลังกายแบบที่ต้องใช้อากาศหรือออกซิเจน หรือก็คือต้องหายใจในขณะที่กำลังออกกำลังกายเพื่อนำเอาออกซิเจนไปเป็นตัวช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน การออกกำลังกายแบบแอโรบิคร่างกายจะปรับตัวอย่างไร การออกกำลังกายแบบแอโรบิคทำให้ร่างกายต้องการออกซิเจนอย่างมากที่สุดเพื่อที่จะให้ร่างกายแปลงพลังงานที่สะสมอยู่มาใช้งานได้
ดังนั้นร่างกายก็จะมีการปรับตัว
การทำงานของระบบหายใจและระบบไหลเวียนเลือดขณะออกกำลังกายแอโรบิค
หากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอขณะออกกำลังกายจะเป็นอย่างไร การออกกำลังกายแบบแอโรบิคร่างกายต้องการออกซิเจนเพื่อไปช่วยในการเผาผลาญพลังานในร่างกายมาใช้งาน แต่หากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอก็จะทำให้การเผาผลาญพลังงานน้อยลงจนอาจจะมไ่เพียงพอต่อการใช้งาน ร่างกายก็จะสับเปลี่ยนไปเผาผลาญไกลโคเจนที่อยู่ในกล้ามเนื้อแทน ซึ่งเป็นการเผาผลาญพลังงานแบบที่ไม่ต้องใช้ออกซิเจนเข้าช่วย แต่ข้อเสียคือทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง และยังให้พลังงานน้อยกว่าด้วย ออกกำลังกายแบบแอโรบิคเท่าไหนจึงจะพอ การออกกำลังกายแบบแอโรบิคต้องการความต่อเนื่อง และระยะเวลาการออกกำลังกายที่นานพอจึงจะมีประโยชน์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องออกอย่างหนักแต่ต้องออกให้พอเหนื่อยและใช้ระยะเวลาการออกไม่น้อยกว่า 20 นาที การออกกำลังกายแบบแอโรบิคมีอะไรบ้าง การออกกำลังกายแบบแอโรบิคได้แก่ การวิ่งระยะไกล ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน การเดินเร็ว ปีนเขา การเต้น การกระโดดเชือก และอื่นๆ ที่ต้องใช้ระยะเวลานานในการออกกำลังกายและทำให้ต้องหายใจเข้าเยอะล้วนเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ข้อดีของการออกกำลังกายแบบแอโรบิคมีอะไรบ้าง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ชั้น 3 โซน C การออกกำลังกายแบบแอโรบิคคืออะไร การออกกำลังกายแบบแอโรบิค หรือ Aerobic Exercise หมายถึง การออกกำลังกายแบบที่ต้องใช้อากาศหรือออกซิเจน หรือก็คือต้องหายใจในขณะที่กำลังออกกำลังกายเพื่อนำเอาออกซิเจนไปเป็นตัวช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน การออกกำลังกายแบบแอโรบิคร่างกายจะปรับตัวอย่างไร การออกกำลังกายแบบแอโรบิคทำให้ร่างกายต้องการออกซิเจนอย่างมากที่สุดเพื่อที่จะให้ร่างกายแปลงพลังงานที่สะสมอยู่มาใช้งานได้ ดังนั้นร่างกายก็จะมีการปรับตัวดังนี้ 1. ระบบการหายใจของร่างกายจะทำงานเร็วและแรงมากขึ้น ทำให้ต้องหายใจทางปากเพื่อดูดอากาศหรือออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายให้ได้มากที่สุด 2. หัวใจจะเต้นเร็วขึ้นเพื่อเร่งการส่งเลือดจากปอดที่เต็มไปด้วยออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายให้ 3. หลอดเลือดขยายตัวมากขึ้นเพื่อให้การลำเลียงเลือดในร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำงานของระบบหายใจและระบบไหลเวียนเลือดขณะออกกำลังกายแอโรบิค 1. เมื่อเริ่มออกกำลังกายแบบแอโรบิคหลังจากที่หายใจเอาอากาศเข้าไปสู่ร่างกายแล้ว อากาศจะเดินทางไปยังปอดและเดินทางผ่านท่อเล็กๆ มากมายภายในปอดไปยังถุงลม ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นจุดที่ออกซิเจนสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ 2. หลังจากนั้นกระแสเลือดจะไหลไปยังหัวใจโดยตรง เมื่อหัวใจรับออกวิเจนมากพอแล้วก็จะทำการส่งเลือดไปเลี้ยงยังส่วนต่างๆ ของร่างกายต่อไป 3. หลังจากส่วนต่างๆ ของร่างกายได้รับออกซิเจนแล้วก็จะไหลกลับเข้ามาที่หัวใจและส่งไปยังปอดต่อไปเพื่อรับออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกครั้ง หากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอขณะออกกำลังกายจะเป็นอย่างไร การออกกำลังกายแบบแอโรบิคร่างกายต้องการออกซิเจนเพื่อไปช่วยในการเผาผลาญพลังานในร่างกายมาใช้งาน แต่หากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอก็จะทำให้การเผาผลาญพลังงานน้อยลงจนอาจจะมไ่เพียงพอต่อการใช้งาน ร่างกายก็จะสับเปลี่ยนไปเผาผลาญไกลโคเจนที่อยู่ในกล้ามเนื้อแทน ซึ่งเป็นการเผาผลาญพลังงานแบบที่ไม่ต้องใช้ออกซิเจนเข้าช่วย แต่ข้อเสียคือทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง และยังให้พลังงานน้อยกว่าด้วย ออกกำลังกายแบบแอโรบิคเท่าไหนจึงจะพอ การออกกำลังกายแบบแอโรบิคต้องการความต่อเนื่อง และระยะเวลาการออกกำลังกายที่นานพอจึงจะมีประโยชน์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องออกอย่างหนักแต่ต้องออกให้พอเหนื่อยและใช้ระยะเวลาการออกไม่น้อยกว่า 20 นาที การออกกำลังกายแบบแอโรบิคมีอะไรบ้าง การออกกำลังกายแบบแอโรบิคได้แก่ การวิ่งระยะไกล ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน การเดินเร็ว ปีนเขา การเต้น การกระโดดเชือก และอื่นๆ ที่ต้องใช้ระยะเวลานานในการออกกำลังกายและทำให้ต้องหายใจเข้าเยอะล้วนเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ข้อดีของการออกกำลังกายแบบแอโรบิคมีอะไรบ้าง 1. ทำให้หัวใจและระบบไหลเวียนเลือดแข็งแรงเพราะหัวใจได้ฝึกบีบและคลายตัวอยู่บ่อยๆ หลังจากนั้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงก็จะไม่ต้องบีบและคลายตัวบ่อยทำให้ไม่เหนื่อยง่ายตอนออกกำลังกายแบบแอโรบิค 2. ทำให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายทำงานได้ดีมากขึ้น การออกกำลังกายแบบแอโรบิคจะทำให้เซลล์ที่มีหน้าที่เผาผลาญพลังงานเพิ่มจำนวนมากขึ้นจึงเป็นสาเหตุให้คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำไม่ค่อยอ้วนเพราะมีระบบเผาผลาญที่ดี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ชั้น 3 โซน C ข้อใดเป็นหลักการออกกำลังกายที่ถูกต้องสรุป ข้อควรปฏิบัติในการ ออกกำลังกาย •ออกกำลังกาย เป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันครั้งละ 30 นาที •ออกกำลังกายแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่าหักโหม •ควรอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกายและผ่อนคลายก่อนเลิกออกกำลังกาย
ข้อปฏิบัติ 12 ประการสำหรับผู้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพมีอะไรบ้างออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอครั้งละไม้น้อยกว่า 25 นาที สัปดาห์ละอย่างน้อย 3 ครั้ง เลือกชนิดที่เป็นแอโรบิคผสมผสานกับการออกกำลังกายแบบตะวันออก เช่น ชี่กง ไท้เก็ก โยคะ และฤษีดัดตน และควรพักผ่อนให้เพียงพอ รู้จักคลายเครียด ฝึกสมาธิ ขัดเกลา ความคิดและจิตวิญญาณ ให้รู้จักพอ มีเมตตากรุณาต่อผู้อื่น และรู้เห็นสรรพสิ่งตามความเป็นจริง
หลักการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพโดยยึดหลัก “FITT” ได้แก่อะไร>>หลักในการออกกำลังกาย ยึดตามหลัก “ F I T T” ของ ACSM (American College of Sports and Medicine) F = Frequency ความถี่ของการออกกำลังกาย I = Intensity ความหนักของการออกกำลังกาย T = Time เวลาของการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง
ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพข้อใดถูกต้องที่สุดHIGHLIGHTS: เวลาที่เหมาะสมของการออกกำลังกาย ควรห่างจากมื้ออาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ถ้าเป็นมื้อหนัก ควรเว้นระยะห่าง 2-3 ชั่วโมง เพื่อรอให้ร่างกายและเอนไซม์ต่างๆ ปรับเข้าสู่ภาวะปกติเสียก่อน เพื่อสุขภาพที่ดีควรออกกำลังกาย 15-30 นาที ต่อวัน หรือ 150 นาที ต่อสัปดาห์
|