...............��ǹ��Сͺ��ѡ�ͧ Photoshop �����������ö���㹡�÷ӧҹ�ͧ����� Adobe Photoshop ���ͷ������ � ���ѡ���¡ ����ͻ 'Photoshop' �� � �����¹������Ǵ�����ҡ��觢�� �ѧ��� ��������¹�����ǹ��Сͺ��ѡ � �ͧ ����ͻ ���ա��� ��������ú�ҧ ���������ǹ��˹�ҷ�����ҧ��... ����Ѻ��ǹ��Сͺ����йӹ���� ����� ����ͻ ������� 6.0 ���ᵡ��ҧ�ҡ�������㹻Ѩ�غѹ����� Photoshop CS ��ҧ (����Ѻ�����ҹ ������� 4 ���� 5 ��������з����������ʹ���� ������� 7 ������ö�֡����������´���蹡ѹ ��ᵡ��ҧ�ѹ��ҧ����§��硹�����ҹ��)
��ǹ��Сͺ Adobe PhotoShop CS3
...............���㨢ͧ Photoshop ��͡�÷ӧҹ�� Layer Layer ��� ��鹢ͧ�ٻ�Ҿ �ѵ�� ���������Ǣ�ͧ�ѹ
ภาพบนคอมพิวเตอร์ หรือกราฟิคคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทคือ ภาพแบบบิตแมป (bitmap) และภาพแบบเวกเตอร์(vector) ความเข้าใจความแตกต่างของกราฟิค ทั้งสองประเภทจะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ และตรงตาม จุดประสงค์สูงสุดในการใช้งาน
Vector Graphic
ภาพแบบเวกเตอร์จะต่างจากภาพแบบบิตแมป ซึ่งคุณจะได้พบกับภาพแบบนี้บนโปรแกรม สำหรับวาดภาพเช่น Adobe Illustrator,Macromedia Freehand ภาพแบบเวกเตอร์จะประกอบด้วย เส้นสาย ลวดลายต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ของลักษณะทางเรขาคณิตเพื่อ สร้างรูปทรงต่าง ๆ ที่คุณเห็น ซึ่งเรียกว่าเวกเตอร์ (vectors)
Pixel
พิกเซล (Pixel) เป็นการผสมผสานของคำว่า “Picture” และ “element” คือหน่วย พื้นฐานของภาพ ภาพบิตแมปทุก ๆ ภาพประกอบขึ้นด้วยพิกเซล แต่ละพิกเซลจะมีลักษณะ เป็นรูปสี่เหลี่ยมที่เก็บข้อมูลของสีโดยถูกกำหนตำแหน่งไว้บนเส้นกริดของแนวแกน x และ y ในลักษณะคล้ายแผนที่ (map) นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่าบิตแมป (bitmap) เช่น พิกเซลของ ภาพ 8 บิต จะเก็บข้อมูลของสี 8 บิต ที่จอภาพจะใช้ในการแสดงผล ดังนั้นภาพภาพหนึ่งจึงประกอบด้วยพิกเซลเล็ก ๆ จำนวนมาก ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้เมื่อ ขยายภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จำนวนของพิกเซล
อ้างอิง://www.edu-mine.com/photoshop/lesson1_RasterVector.html
Advertisement
Share this:
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...
โปรแกรม Adobe Photoshop เป็นโปรแกรมตกแต่งสร้างสรรค์ภาพที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโปรแกรมประเภทเดียวกัน เนื่องจากมีการพัฒนาความสามารถอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประสิทธิภาพของโปรแกรมรองรับการใช้งานได้อย่างครอบคลุมไม่ว่าสำหรับผู้ใช้มือใหม่หรือนักออกแบบมืออาชีพ Adobe Photoshop เป็นโปรแกรมที่ใช้เพื่อสร้างสรรค์และตกแต่งภาพให้เกิดความสวยงาม ซึ่งมักมีส่วนร่วมกับงานทุกชนิดที่ต้องการ ความสวยงาม เช่น การแก้ไขสีภาพ การแก้ไขข้อบกพร่องในภาพ การซ่อมแซมรูปที่เสียหายรวมถึงการตัดต่อหรือดัดแปลงภาพให้เกินจริง เพื่อใช้ในงานออกแบบ
หน้าจอของ Photoshop
เมื่อ เปิดโปรแกรม Photoshop ขึ้นมา เราก็จะเห็นเครื่องมือในการทำงานจำนวนมาก ได้แก่ไตเติลบาร์(Title Bar), เมนูบาร์(Menu Bar), ออปชั่นบาร์(Option Bar), กล่องเครื่องมือ(Toolbox), พาเล็ต(Palette)ต่าง ๆ และ แถบสถานะ(Status Bar)
แถบคำสั่ง (Menu Bar) คือ แถบที่รวมคำสั่งหลักทุกคำสั่งในการใช้งานโปรแกรม
- File กลุ่มคำสั่งต่างๆ เกี่ยวกับการจัดการไฟล์ เช่น การเปิด-ปิดไฟล์ การบันทึกและการพิมพ์
- Edit กลุ่มคำสั่งต่างๆเกี่ยวกับการปรับแต่ง เช่น การตัด การคัดลอก
- Image กลุ่มคำสั่งเกี่ยวกับการปรับแต่งและการตกแต่งภาพ
- Layer กลุ่มคำสั่งๆที่ใช้ในการจัดการเลเยอร์
- Select กลุ่มคำสั่งต่างเกี่ยวกับการจัดการและการปรับรูปแบบขอวเขตของการเลือก (Selection)
- Fiter กลุ่มคำสั่งต่างเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนภาพอัตโนมัติต่างๆ เช่น Fiter และ Plug-in
- View กลุ่มคำสั่งต่างๆเกี่ยวกับการกำหนดมุมมองภาพ เช่น การย่อขยาย
รวมทั้งการกำหนดตำแหน่งของการวัด เช่น เส้นกริด ไกด์และไม้บรรทัด - Window กลุ่มคำสั่งต่างๆเกี่ยวกับการจัดการพาเล็ต ให้ปรากฏหรือไม่ปรากฏบนหน้าจอ
- Help รวบรวมคำแนะนำต่างๆ ในการใช้งานโปรแกรม
กล่องเครื่องมือ (Toolbox)คือ กล่องที่ใช้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการทำงาน กล่องที่ใช้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการทำงาน เช่น เครื่องมือเกี่ยวกับการวาดภาพ การเทสี เครื่องมือการสร้าง(Selection)รวมถึง
การพิมพ์ตัวอักษรต่างๆ ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มได้ดังนี้เครื่องมือต่าง ๆ ของ Photoshop
โฟโต้ช้อป มีเครื่องมือต่าง ๆ ให้เลือกใช้มากมาย โดยมีการจัดเป็นหมวดหมู่ เครื่องมือต่าง ๆ จะอยู่ใน Toolbox คุณสามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่อยู่ใน Toolbox ได้โดยการใช้เม้าส์คลิกเลือกเครื่องมือที่ต้องการ หรือกดตัวอักษรที่แป้นคีย์บอร์ด เช่น T หมายถึง Text Tool - Marquee (M) เครื่องมือในการสร้างกรอบ Selection มีหลายรูปแบบให้เลือก
(กดปุ่มค้างไว้ โปรแกรมจะแสดงให้ดูทางเลือกอื่น ๆ) - Move (V) เครื่องมือในการเคลื่อนย้าย Selection, Guide และ Layers
- Lasso (L) เครื่องมือในการสร้าง Selection แบบอิสระ
- Magic wandเครื่องมือในการสร้าง Selection ในบริเวณที่มีโทนสีเดียวกัน
- brush (A) เครื่องมือในการวาดเส้นหรือระบายสีแบบนุ่ม เนียน
- Clone stamp (S) เครื่องมือในการสร้างหรือ copy ภาพบางส่วนหรือทั้งหมด (เดิมชื่อ Rubber stamp)
- Crop (K) เครื่องมือในการเลือกภาพหรือตัดบางส่วน
- Eraser (E) เครื่องมือในการลบภาพ หรือระบายสีฉากหลัง
- Line (U) เครื่องมือในการลากเส้น
- Blur (R) เครื่องมือในการทำภาพให้เบลอในบริเวณที่ต้องการ
- Dodge (O) เครื่องมือในการทำให้ภาพสว่างขึ้นในบริการที่ต้องการ
- Pen (P) เครื่องมือในการสร้าง Path เพื่อเพิ่มจุด path
- Text (T) เครื่องมือในการสร้างตัวอักษร
- Gradient (G) เครื่องมือในการระบายสีแบบไล่โทน
- Hand (H) เครื่องมือในการจับภาพ เพื่อเคลื่อนย้าย
- Zoom (Z) เครื่องมือในการย่อหรือขยายภาพ เพื่อการดูเท่านั้น
- Eyedropper (l) เครื่องมือในการเลือกสี จากสีที่มีอยู่ในภาพ
ทิปและเทคนิค
เครื่องมือใด ๆ ที่มีสัญลักษณ์สามเหลี่ยมที่มุมล่างขวา หมายถึง มีคำสั่งอื่นๆ ในหมวดเดียวกับซ่อนอยู่
การเลือกใช้ ให้คลิกที่ปุ่มนั้นค้างไว้ จากนั้นใช้เมาส์เลื่อนมาคลิกในเครื่องมือที่ต้องการ ดังภาพประกอบดังนี้
แถบ กำหนดรูปแบบของเครื่องมือ (Option Bar) หรือ (Tool Option Bar) คือ แถบตัวเลือกขอเครื่องมือ จะปรากฏเมื่อเลือกใช้เครื่องมือในกล่องเครื่องมือ (Tool box) เพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น
จะปรากฏเมื่อเราใช้เครื่องมือในกล่องเครื่องมือ เช่น เมื่อเรากด
จะสังเกตได้ว่าแถบของออปชั่นบาร์นี้จะมีตัวกำหนดรูปแบบของเครื่องมือ แสดงอยู่และในเครื่องมือแต่ละอย่างจะมี ตัวกำหนดรูปแบบของเครื่องมือที่แตกต่างกันไปซึ่งเราสามารถใช้งานได้อย่าง สะดวกสบาย
พาเลต (Palette) คือ หน้าต่างที่รวบรวมคุณสมบัติการทำงาน ของเครื่องมือช่วย สามารถกด Tab
เพื่อเก็บพาเล็ตและกล่องเครื่องมือได้หรือ สามารถกด F6-F9 เพื่อปิดพาเลตเหล่านี้ปรับแต่งภาพ
แถบสถานะ (Status Bar) คือ ใช้แสดงข้อความในขั้นตอนการทำงาน เช่น การเซฟ ,ขนาดไฟล์
เป็นแถบที่บ่งบอกถึงวีธีการทำงาน เช่น การเซฟ การเปิดไฟล์ ฯลฯ
การสร้างงานใหม่
ไปที่ File < New
การบันทึกงาน
File > Save as
แล้วเปลี่ยนชื่อลงในช่อง File name
เลือก Format รูปภาพตามลักษณะการใช้งาน แล้วกด Save
ชนิดของไฟล์ที่ใช้บ่อย
- PSD
เป็นไฟล์ของโปรแกรม Photoshop สามารถเก็บคุณสมบัติต่างๆของการใช้งานทื่ตกแต่งไว้ได้
มีข้อดี โดยสามารถกลับมาแก้ไขไฟล์งานชนิดนี้ได้ตามต้องการ สามารถใช้คำสั่ง save as เพื่อเปลี่ยนเป็น
ไฟล์อื่นๆได้ทั้งหมดเมื่อต้องการ
- JPG หรือ JPEG (Joint Photographics Expert Group)
เป็นไฟล์ที่รู้จักกันในการใช้บนอินเทอร์เน็ต เพราะไฟล์มีขนาดเล็ก การบันทึกภาพยังรักษาคุณภาพให้อยู่
ในเกณฑ์ที่รับได้
- TIFF
นิยมใช้ในงานออกแบบสิ่งพิมพ์ที่ต้องการงานคุณภาพสูง ไฟล์มีขนาดใหญ่ ทำให้สิ้นเปลืองพื้นที่ในการเก็บมาก
4. EPS
เป็นไฟล์คุณภาพสูงแสดงผลได้ดีในระบบงานพิมพ์ ใช้การประมวลผลแบบ Vector
5. GIF (.gif) Graphic Interchange Format
เป็นไฟล์ที่ใช้กันมากบน Internet เพราะเป็นไฟล์ที่มีขนาดเล็กสะดวกในการส่ง-ถ่ายข้อมูล
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้งาน Photoshop
1. ความละเอียดของภาพ (Resolution)
ค่าความละเอียดของภาพ มีหน่วยเป็น Pixels ต่อตารางนิ้ว ซึ่งหากค่าความละเอียดมาก จำนวนพิกเซลก็จะมากตามไปด้วย และทำให้ภาพมีคุณภาพมากขึ้น สามารถตรวจสอบได้ โดยคลิกที่เมนู Image –> Image Size
2. เลเยอร์ (Layers)
การตกแต่งภาพตั้งแต่สองภาพขึ้นไปบนหน้าผลงานเดียวกันใน Photoshop จะอาศัยการซ้อนภาพเป็นชั้นๆ เรียกว่า เลเยอร์ (Layers)
3. โหมดสีที่สำคัญ (ไปที่เมนู Image < Mode)
โหมดสีมีหลายชนิดและมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท แต่ถ้าจะกล่าวถึงโหมดที่นิยม และมีผู้ใช้กว้างขวางที่สุดก็จะมีอยู่ ดังนี้
Grayscale
เป็นโหมดสีขาว/ดำ ที่ให้เฉดสี 256 สี มีการไล่โทนน้ำหนักแสงเงา เหมาะกับงานออกแบบสีเดียว สามารถนำไปเปลี่ยนเป็นสีอื่นแทนสีดำได้เมื่อเข้าสู่ระบบการพิมพ์ ไฟล์ภาพมีขนาดเล็กกว่าไฟล์ขาว/ดำชนิดอื่นๆ
Duotone
เป็นภาพที่มีสีมากกว่าแบบขาว/ดำ สามารถใช้สีได้สองโทนสีมาผสมกัน เหมาะกับงานที่ต้องการสีสัน แต่ใช้ต้นทุนการพิมพ์ไม่มาก
RGB Color
เป็นโหมดสีที่นิยมใช้กันมาก สามารถพบได้จากภาพถ่ายดิจิทัล งานออกแบบที่แสดงผลทางจอมอนิเตอร์ สีกลุ่มนี้เกิดจากการผสมของแม่สีแสง ได้แก่ สีแดง (Red) สีเขียว (Green) และสีน้ำเงิน (Blue)
CMYK Color
เป็นโหมดสีที่ใช้ในระบบงานพิมพ์ ประกอบด้วยสีสี่สี คือ สีฟ้า (Cyan) สีชมพูบานเย็นหรือชมพูม่วง (Magenta) สีเหลือง (Yellow) และสีดำ (Black) ในระบบงานพิมพ์มักจะเรียกว่า พิมพ์สี่สี ซึ่งก็คือการใช้แม่สีสี่สีนี้มาซ้อนกันจนเกิดเป็นสีใหม่มากมาย ที่ทำให้ได้ภาพสีสันสมจริงขึ้นมา