Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • บรรจุภัณฑ์ อาจเหมือนกันจนแยกไม่ออก
  • ตัวเมม ก็อาจเหมือนกันจนแยกไม่ออกอีกนั่นแหละ
  • รู้จักกับรายละเอียดที่ระบุบนเมม
  • วิธีเช็คเมมว่าเป็นของแท้หรือปลอม
    • เช็คด้วยโทรศัพท์มือถือ
    • เช็คด้วยคอมพิวเตอร์
    • ทดลอง Copy ไฟล์ใส่ในเมม
  • สรุป

เมมโมรี่การ์ดนับว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่งที่ใครหลายคนมีความจำเป็นต้องหาซื้อมาใช้ ไม่ว่าจะเอามาใส่เพิ่มหน่วยความจำมือถือ กล้องถ่ายรูป กล้องวงจรปิด กล้องติดรถยนต์ เครื่องเล่นเกมพกพา ตลอดจนอุปกรณ์ไอทีอื่น ๆ เป็นต้น โดยที่นิยมใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมมชนิด SD และ microSD

ซึ่งแน่นอนว่าปัจจุบันเมมเหล่านี้ ก็มีสินค้าลอกเลียนแบบหรือของปลอมวางขายอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแบรนด์ดัง ๆ อย่าง SanDisk, Samsung หรือ Kingston ที่มักจะล่อตาล่อใจให้เราหลงซื้อเนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าปกติทั่วไป แถมบางอันยังทำออกมาได้เนียนจนแทบจะแยกไม่ออกเลยด้วย

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

และด้วยความอยากรู้ ทางทีมงาน mxphone จึงได้ลองหาซื้อเมมmicroSD ของปลอม เพื่อเอามาทดสอบและเทียบกับของแท้ให้ได้ดูว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร? ใช้งานได้จริงไหม? ทนแค่ไหน?

พร้อมกับคำแนะนำและวิธีเช็คให้ได้รู้กันไปเลยว่าเมมที่เราซื้อมานั้นจะโดนต้มให้เสียเงินฟรีหรือเปล่า งั้นตามมาดูกันเลยครับ (บทความนี้จะพูดถึงเมมชนิด microSD เท่านั้น แต่สำหรับวิธีเช็คเมมว่าเป็นของแท้หรือปลอม เมมชนิด SD ก็สามารถใช้วิธีเดียวกันได้ครับ)

บรรจุภัณฑ์ อาจเหมือนกันจนแยกไม่ออก

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

และนี่ก็คือเมม microSD ของปลอมจำนวน 2 อัน ที่เราลองสั่งซื้อมาจากร้านค้าในออนไลน์ชื่อดัง โดยทั้ง 2 อันนี้จะมีบรรจุภัณฑ์ไม่เหมือนกันคือเป็นแบบขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ซึ่งก็ลอกเลียนมาจากของแท้ทั้งหมดนั่นแหละ

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
(ซ้าย) แท้ / (กลาง) ปลอม / (ขวา) ปลอม

สำหรับบรรจุภัณฑ์อันที่เป็นขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับของแท้ หากมองผ่าน ๆ จะดูค่อนข้างคล้ายกันมาก มีรายละเอียดครบ ส่วนอะแดปเตอร์แปลงเป็น SD ที่แถมนั้นไม่เกี่ยวกันนะครับว่าเป็นของแท้หรือของปลอม เพราะอาจจะเป็นคนละล็อตการผลิตหรือคนละรุ่นกัน

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

ขณะที่บรรจุภัณฑ์อันที่เป็นขนาดเล็ก จะค่อนข้างดูออกชัดเจนเพราะว่าทำมาไม่ค่อยเนียน รายละเอียดไม่ครบ ไม่มีบอกแม้กระทั่งความจุของตัวเมม ที่ตลกก็คือเราสั่งความจุ 256GB ไป และทางร้านใจดีส่งความจุ 512GB มาให้ซะด้วย (เหมือนให้เราดีใจว่าสั่งของราคาถูก แต่ได้ของแพงกว่าเท่าตัวมาใช้เลยนะ ฮ่า ๆๆ)

ทั้งนี้ การดูที่ตัวบรรจุภัณฑ์อาจจะทำให้ใครหลายคนไม่สามารถแยกออกได้ว่าเป็นของแท้หรือปลอมเพราะอาจจะมีอันที่ลอกเลียนแบบมาได้เนียนระดับเหมือนแท้ทุกจุด

ตัวเมม ก็อาจเหมือนกันจนแยกไม่ออกอีกนั่นแหละ

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
(ซ้าย) แท้ / (กลาง) ปลอม / (ขวา) ปลอม

ลองมาดูที่ตัวเมมกันบ้าง เท่าที่เราลองสังเกตดูบอกได้เลยว่าของปลอมเดี๋ยวนี้ทำมาได้ค่อนข้างเนียนมาก ๆ ครับ เก็บรายละเอียดครบ พิมพ์ลายชัด แต่ถ้าสังเกตดี ๆ ดูเหมือนว่าของปลอมจะมีสีที่เข้มกว่าอยู่นิด ๆ ครับ

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
(คู่บน) แท้ / (คู่ล่าง) ปลอม

โดยเราลองเอาของแท้ความจุ 128GB ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ เทียบกับของแท้ความจุ 64GB ที่ซื้อมาเมื่อปีที่แล้ว ก็ยังเห็นว่าของแท้ทั้ง 2 อัน (คู่บน) มีสีเดียวกันเป๊ะ ๆ ส่วนของปลอมทั้ง 2 อัน (คู่ล่าง) นอกจากสีจะไม่เหมือนกับของแท้แล้ว ของปลอมด้วยกันเองยังแตกต่างกันเลยครับ (สงสัยคนละโรงงาน)

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
(3 อันบน) แท้ / (2 อันล่าง) ปลอม

ลองไปค้นเมมของแท้อันเก่า ๆ ที่เคยมีอยู่ และเป็นของแบรนด์เดียวกัน (3 อันด้านบน) ที่น่าสังเกตคือด้านหลังเมมมีการพิมพ์โค้ดสินค้าที่คล้ายกัน ต่างจากเมมของปลอม (2 อันด้านล่าง) ที่ไปแบบคนละทิศคนละทาง (สงสัยคนละโรงงานจริง ๆ นั่นแหละ)

  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    แท้ 128GB
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    ปลอม 128GB
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    ปลอม 512GB
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    แท้ 128GB
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    ปลอม 128GB
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    ปลอม 512GB

ลองตรวจสอบตัวเลขความจุจริงของตัวเมม ทั้งการตรวจสอบในคอมพิวเตอร์และมือถือ ซึ่งตัวเลขความจุที่ได้คือ

  • 128GB (ของแท้) ได้ 119GB (127,831,900,160 ไบต์)
  • 128GB (ของปลอม) ได้ 124GB (134,212,485,120 ไบต์)
  • 512GB (ของปลอม) ได้ 499GB (536,853,086,208 ไบต์)

ถึงตรงนี้หลายคนก็อาจมองว่าตัวเลขความจุก็ได้เต็มนี่นา คงใช้งานได้ไม่มีปัญหาอะไร ใช่ครับ มันอาจจะใช้งานได้ แต่จะใช้ได้นานหรือทนไหมอันนี้ยังไม่รู้ และหน้าตาของตัวเมมหากดูแบบผิวเผินหลายคนก็อาจจะไม่สามารถแยกออกได้ว่าเป็นของแท้หรือปลอมอีกเช่นกัน แล้วทีนี้เราจะเช็คยังไงดีล่ะว่าเป็นของแท้หรือปลอมกันแน่

รู้จักกับรายละเอียดที่ระบุบนเมม

ก่อนที่เราจะไปเช็คว่าเมมที่เราซื้อมานั้นเป็นของแท้หรือปลอม อยากขออธิบายรายละเอียดที่ระบุอยู่บน microSD สักเล็กน้อย เพื่อที่จะได้เข้าใจกันมากขึ้น แต่ข้อมูลตรงนี้จะค่อนข้างเป็นเรื่องเชิงเทคนิค หากใครไม่อยากอ่านก็กดข้ามไปดู วิธีเช็คเมมว่าเป็นของแท้หรือปลอม กันได้เลย

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

โดยเมม microSD ที่เราเห็นกันทุกวันนี้ แม้จะมีรูปร่างและขนาดเท่ากัน แต่ก็ใช่ว่าจะนำไปใช้ได้กับทุกอุปกรณ์นะครับ อย่าง microSD รุ่นใหม่ ๆ เราอาจจะไม่สามารถเอาไปใส่ในอุปกรณ์ที่รองรับเฉพาะเมมรูปแบบเก่า ซึ่งชนิดของ microSD ในปัจจุบัน ประกอบด้วย

  • microSD: ความจุ 128MB – 2GB และใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์
  • microSDHC: ความจุ 2GB – 32GB และใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่รองรับ microSDHC และ microSDXC
  • microSDXC: ความจุ 32GB – 2TB และใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่รองรับ microSDXC เท่านั้น (กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน)
  • microSDUC: ความจุ 2TB – 128TB และใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่รองรับเท่านั้น (ปัจจุบันยังไม่เป็นที่แพร่หลาย)
Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

แล้วรายละเอียดที่ระบุบน microSD บอกอะไรเราบ้าง มาดูกัน

คลาสความเร็ว (Speed Class)

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

คือความเร็วในการเขียนขั้นต่ำของ microSD ในหน่วยเมกะไบต์ต่อวินาที (MB/s) โดยปัจจุบันมี 4 คลาส ประกอบด้วย

  • 2: อย่างน้อย 2MB/s
  • 4: อย่างน้อย 4MB/s
  • 6: อย่างน้อย 6MB/s
  • 10: อย่างน้อย 10MB/s

คลาสความเร็ว UHS (UHS Speed Class)

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

คือความเร็วในการเขียนขั้นต่ำของ microSD ที่รองรับความเร็วบัสสูงพิเศษ โดยมี 3 เวอร์ชัน คือ UHS-I (ความเร็วสูงสุด 104MB/s), UHS-II (ความเร็วสูงสุด 312MB/s) และ UHS-III (ความเร็วสูงสุด 624MB/s) โดยปัจจุบันมี 2 คลาส ประกอบด้วย

  • U1: อย่างน้อย 10MB/s
  • U3: อย่างน้อย 30MB/s

คลาสประสิทธิภาพแอปพลิเคชัน (Application Performance Class)

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

คือความเร็วในการเขียนต่อเนื่องขั้นต่ำที่ 10MB/s พร้อมกับความเร็วในการอ่านและเขียนแบบสุ่มขั้นต่ำที่วัดในการดำเนินการอินพุตและเอาต์พุตต่อวินาที (IOPS) สิ่งนี้รับประกันประสิทธิภาพในระดับที่ยอมรับได้เมื่อจัดเก็บและเรียกใช้แอปฯ Android บน microSD โดยปัจจุบันมี 2 คลาส ประกอบด้วย

  • A1: ความเร็วในการอ่านแบบสุ่มขั้นต่ำ 1500 IOPS / ความเร็วในการเขียนแบบสุ่มขั้นต่ำ 500 IOPS
  • A2: ความเร็วในการอ่านแบบสุ่มขั้นต่ำ 4000 IOPS / ความเร็วในการเขียนแบบสุ่มขั้นต่ำ 2000 IOPS
Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

คลาสความเร็ววิดีโอ (Video Speed Class)

คือความเร็วในการเขียนตามลำดับขั้นต่ำ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งเมื่อถ่ายวิดีโอ ยิ่งความละเอียดของวิดีโอสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องการความเร็วมากขึ้นเท่านั้น โดยปัจจุบันมี 5 คลาส ประกอบด้วย

  • V6: ความเร็วในการเขียนขั้นต่ำ 6MB/s
  • V10: ความเร็วในการเขียนขั้นต่ำ 10MB/s
  • V30: ความเร็วในการเขียนขั้นต่ำ 30MB/s
  • V60: ความเร็วในการเขียนขั้นต่ำ 60MB/s
  • V90: ความเร็วในการเขียนขั้นต่ำ 90MB/s
Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

วิธีเช็คเมมว่าเป็นของแท้หรือปลอม

สำหรับวิธีเช็คเมมว่าเป็นของแท้หรือปลอม ส่วนใหญ่ก็จะใช้ตัวช่วยที่เป็นโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันในการทดสอบความเร็วการอ่านและเขียนของเมมนั้น ๆ เพราะถ้าผลที่ได้ออกมาดูต่ำกว่ามาตรฐานก็มีโอกาสสูงที่เมมนั้นจะเป็นของปลอมนั่นเอง โดยวิธีเช็คก็ไม่ยากครับ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง

เช็คด้วยโทรศัพท์มือถือ (Android)

แอปพลิเคชันสำหรับทดสอบบนมือถือเฉพาะของ Android เท่าที่ลองหาดูก็มีเยอะอยู่เหมือนกันครับ แต่บางอันอาจจะค่อนข้างใช้งานยากหรือมีข้อมูลทางเทคนิคมากเกินไป เราเลยเลือกแอปฯ ที่ใช้งานง่าย ๆ ฟีเจอร์ไม่ซับซ้อนมาแนะนำให้ครับ ซึ่งประกอบด้วย

  • A1 SD Bench

แอปฯ นี้ใช้งานง่าย สแกนเร็ว เมนูไม่ซับซ้อน

  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    แท้ 128GB
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    ปลอม 128GB
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    ปลอม 512GB

เห็นความเร็วไหมครับ ว่าของแท้กับของปลอมต่างกันแค่ไหน

  • SD Card Test

แอปฯ นี้ทางทีมงานชอบมากที่สุด (แถมกดซื้อเวอร์ชัน Pro มาลองเลยด้วย) เพราะฟีเจอร์เยอะและครอบคลุมดีครับ เมนูซับซ้อนปานกลาง แต่ก็ใช้ไม่ยากครับ ที่สำคัญผลทดสอบยังบอกคลาสที่แท้จริงของเมมนั้น ๆ ด้วย

แท้ 128GB

  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

ปลอม 128GB

  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

สรุปของปลอม 128GB อันนี้แท้ที่จริงเป็นแค่คลาส 4 เท่านั้น ความเร็วในการอ่านและเขียนก็ช้ามาก ๆ เมื่อเทียบกับของแท้ แหม…หลอกกันได้

ปลอม 512GB

  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

ของปลอม 512GB อันนี้ แอปฯ บอกว่าเป็นคลาส 10 แต่ความเร็วทั้งการอ่านและเขียน ก็ยังค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐาน น่าจะเป็นของปลอมเกรดดีกว่าอัน 128GB ครับ

  • SD Card Tester

แอปฯ นี้ก็ใช้งานง่าย สแกนเร็ว เมนูไม่ซับซ้อนคล้าย ๆ อันแรกครับ แต่ผลปรากฏว่าทดสอบเมมปลอม 128GB ไม่สำเร็จ (สงสัยเมมไม่ดีจริง ๆ)

  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    แท้ 128GB
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    ปลอม 512GB

ผลทดสอบที่ออกมา ตัวเลขความเร็วในการอ่านเขียนค่อนข้างตรงกันทุกแอปฯ ครับ

  • Fake SDCard Checker

แอปฯ นี้ก็ใช้งานง่าย เมนูไม่ซับซ้อน ดูตัวเลขความจุจริงของตัวเมมระดับไบต์ได้ แต่ข้อเสียคือสแกนช้ามากกกก แม้จะเลือกทดสอบเฉพาะการเขียนอย่างเดียวแล้วก็ตาม

  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    แท้ 128GB
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    ปลอม 128GB
  • Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
    ปลอม 512GB

เช็คด้วยคอมพิวเตอร์

โปรแกรมสำหรับทดสอบบนเครื่องคอมพิวเตอร์ เท่าที่ลองทดสอบดู สแกนค่อนข้างช้าทุกอันครับ ใช้แอปฯ บนมือถือเร็วกว่าเยอะ แต่ถ้าใครอยากลอง โปรแกรมที่นิยมใช้กันส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2-3 โปรแกรม ซึ่งประกอบด้วย

  • H2testw
Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • FakeFlashTest by RMPrepUSB
Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
  • Flash Drive/Card Tester
Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

ทดลอง Copy ไฟล์ใส่ในเมม

เราทำการทดสอบโดยการ Copy ไฟล์วิดีโอ MP4 ขนาดประมาณ 4.25GB ใส่ในเมมทั้ง 3 อัน ลองมาดูกันว่าแต่ละอันจะใช้เวลานานแค่ไหน

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

แท้ 128GB

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

ถ่ายโอนไฟล์ได้รวดเร็ว ไม่มีปัญหา ใช้เวลาประมาณ 2 นาทีเท่านั้น

ปลอม 128GB

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

อันนี้อาการค่อนข้างหนัก ถ่ายโอนไฟล์ได้ช้ามาก ๆ ความเร็วในการเขียนต่ำสุด ๆ เดินไปต้มมาม่ากลับมาแถมกินจนอิ่ม ก็ยัง Copy ไฟล์แค่ 4.25GB ไม่เสร็จ

ปลอม 512GB

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

อันนี้ อย่างที่บอกว่าน่าจะเป็นของปลอมเกรดดีกว่าอัน 128GB มีความเร็วในกาารถ่ายโอนไฟล์ได้ดีกว่าของปลอม 128GB แต่ก็ช้ากว่าของแท้เป็นเท่าตัว

สรุป

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

สุดท้ายแล้ว ยังไงสินค้าลอกเลียนแบบหรือของปลอมก็ไม่มีทางสู้ของแท้ได้อยู่ดีครับ บางคนอาจจะเห็นว่ามันถูกดีและอาจจะใช้งานได้จริง แต่เชื่อเถอะครับว่าใช้ได้ไม่นานหรอกเดี๋ยวมันก็เสีย แล้วเราก็ต้องไปหาซื้อใหม่เสียเงินวนไป ยิ่งถ้าเอามาเก็บรูปถ่ายหรือไฟล์อะไรที่สำคัญ ๆ ระวังจะเสียใจภายหลังนะครับ

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

ซึ่งเราขอแนะนำว่าควรหาซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย หรือร้านค้า Official ต่าง ๆ เพราะการันตีได้ว่าสินค้าเป็นของแท้แน่นอน รวมทั้งยังสบายใจกว่าเพราะมีการรับประกันสินค้าให้ โดยพวกเมมเหล่านี้ปกติแล้วจะมีการรับประกันตั้งแต่ 5 ปี, 7 ปี, 10 ปี หรือตลอดอายุการใช้งาน แล้วแต่รุ่นหรือแบรนด์ครับ

นอกจากนี้ การดูรีวิวจากหลาย ๆ คนที่ซื้อไปแล้วก่อนหน้า ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยสำหรับการตัดสินใจที่ดีด้วยเช่นกันครับ

รีวิวจากร้านค้า Official

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร

รีวิวจากร้านขายของปลอม

Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร
Sandisk ultra กับ extreme ต่าง กัน อย่างไร