พ่อขุน ผาเมือง กับ พ่อขุน บางกลางหาว เป็น อะไร กัน

จนเมื่อผมเปิดหนังสือประวัติศาสตร์เบ็ดเตล็ด รวมบทนิพนธ์ “เสาหลักทางวิชาการ” ของศาสตราจารย์ประเสริฐ ณ นคร (สำนักพิมพ์ มติชน พ.ศ.2549) อ่านเรื่องพ่อขุนผาเมือง...ผมก็ต้องจูนความรู้ใหม่

พ่อขุนผาเมืองเป็นพระสหายพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ และเป็นโอรสพ่อขุนศรีนาวนำถุม

ราชวงศ์พ่อขุนศรีนาวนำถุมครองเชลียง (สวรรคโลกเก่า) อยู่ตั้งแต่ราว พ.ศ.1762 มีอาณาเขตครอบคลุมไปถึงเมืองฉอด ลำพูน เชียงแสน และพะเยา

พ่อขุนผาเมืองได้ไปครองเมืองราด ส่วนพระยาคำแหงพระราม พระอนุชา ได้ไปครองเมืองสองแคว (พิษณุโลก) และมีโอรสคือเจ้าศรีศรัทธาราชจุฬามุนี ซึ่งต่อมาได้ผนวชเป็นมหาเถร

พระมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนี ได้สร้างศิลาจารึกหลักที่ 2 (วัดศรีชุม สุโขทัย) เล่าเหตุการณ์สมัยนั้นไว้ว่า

ขอมสบาดโขลญลำพงครองเมืองสุโขทัยอยู่่ พ่อขุนผาเมืองและพ่อขุนบางกลางหาวได้ร่วมมือกันตีเมืองต่างๆรอบสุโขทัย พ่อขุนบางกลางหาวยึดได้เมืองศรีสัชนาลัย (สวรรคโลกเก่า) แล้วให้ประชุมพลร่วมกัน

พ่อขุนผาเมืองและพ่อขุนบางกลางหาว ขึ้นขี่ช้างตัวเดียวกันแห่ไปรอบๆเมือง เพื่อลวงให้ขอมสบาดฯเข้าใจว่า พ่อขุนทั้ง 2 มารวมกันอยู่ที่เมืองศรีสัชนาลัย แล้วพ่อขุนผาเมืองแอบยกพลไปด้านหลัง

พอขอมสบาดฯยกพลออกมาสู้กับพ่อขุนบางกลางหาว พ่อขุนผาเมืองรีบยกข้ามมายึดเมืองสุโขทัยไว้ได้

ขอมสบาดฯพ่ายแพ้ต่อพ่อขุนทั้ง 2 จึงได้หนีไป

พ่อขุนผาเมืองยกเมืองสุโขทัยให้แก่พ่อขุนบางกลางหาว (ราว พ.ศ.1781-1792) และอภิเษกพ่อขุนบางกลางหาวให้เป็นกษัตริย์พร้อมทั้งยกพระนามเดิม ศรีอินทรบดินทราทิตย์ ให้แก่พระสหาย

แต่พ่อขุนบางกลางหาวทรงใช้พระนามว่า ศรีอินทราทิตย์ แทนพระนามเดิมที่กษัตริย์เมืองศรีโสธรปุระ (นครธม) ประทานให้พ่อขุนผาเมือง พร้อมทั้งพระขรรค์ชัยศรี และพระธิดาชื่อพระนางสิงขรมหาเทวี

เรื่องพ่อขุนผาเมืองที่อาจารย์ประเสริฐท่านให้ความรู้ไว้มีแค่นี้ ผมมีประเด็นที่เป็นความรู้ใหม่ก็คือ ประเด็นแผนสองพ่อขุนทรงขี่ช้างรอบเมืองศรีสัชนาลัย ลวงให้ขอมสบาดฯตายใจ นึกว่าจะรบกับทัพสองขุนไทยด้านเดียว

เพราะฉะนั้น เรื่องที่รู้มาว่าพ่อขุนผาเมืองรบเก่งกว่า ยึดสุโขทัยแล้วยกให้พระสหาย จึงไม่ใช่ เพราะนี่คือแผนรบร่วมกัน

ส่วนประเด็นพ่อขุนผาเมืองยกสุโขทัยให้พระสหาย...ก็มีเค้าให้คิด พ่อขุนผาเมืองมีเมืองที่ใหญ่กว่า คือศรีโสธรปุระ (นครธม) เป็นที่หมาย การได้พระนางสิงขรมหาเทวี พระธิดากษัตริย์ขอมเป็นชายาทั้งยังได้พระขรรค์ไชยศรี

ก็ชี้ว่าได้ดาบอาญาสิทธิ์ที่จะนั่งบัลลังก์ใหญ่...การยกสุโขทัยให้พ่อขุนบางกลางหาวจึงเป็นไปตามเหตุผล

แผนลับลวงพราง สองพ่อขุนขี่ช้างตัวเดียวลวงขอม...พ่อขุนหนึ่งรบซึ่งหน้า อีกพ่อขุนรบด้านหลัง ขุนหนึ่งรบสว่าง อีกขุนรบที่มืด ...การเมืองไม่ว่าเมืองไหนๆ กระทั่งการเมืองไทยก็ยังใช้กันอยู่

ชาวบ้านเขายังพูดกัน นักรบในกติกาแบบคุณชวน ถ้าไม่มี นักรบใต้กติกาอย่างเสธ.หนั่น นักรบแบบคุณอภิสิทธิ์ ถ้าไม่มีคุณสุเทพรบอยู่ข้างหลังคงไม่ได้เป็นนายกฯ

หรือพลเอกประยุทธ์รบบนโต๊ะ ก็คงไม่ชนะ ถ้าไม่มีพลเอกประวิตรช่วยรบใต้โต๊ะ

แผนรบชิงเมืองแบบนี้ ถ้าถูกที่ถูกเวลาก็ใช้ได้ผล แต่ถ้าวันใด กลับด้าน เอานักรบใต้โต๊ะขึ้นบน เอานักรบบนโต๊ะไว้ล่าง...ผู้รู้ท่านว่า ที่เคยชนะมาก็จะแพ้ เหตุเพราะโลกการเมืองวันนี้ ไม่ชอบนักรบในที่มืดๆ.

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์พระร่วงกรุงสุโขทัย เสวยราชสมบัติตั้งแต่ พ.ศ. ๑๗๙๒ ถึงปีใดไม่ปรากฏ พระนามเดิมคือพ่อขุนบางกลางหาว มีมเหสีคือนางเสือง มีพระราชโอรส ๓ พระองค์ พระราชธิดา ๒ พระองค์ พระราชโอรสองค์ใหญ่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ส่วนพระราชโอรสองค์ที่ ๒ และ ๓ คือพ่อขุนบานเมืองและพ่อขุนรามคำแหงทรงครองราชย์ต่อมาตามลำดับ เดิมพ่อขุนบางกลางหาวทรงเป็นเจ้าเมืองอยู่ที่ใดไม่ปรากฏ แต่ข้อความในศิลาจารึกหลักที่ ๒ ทำให้ทราบว่าอยู่ใต้เมืองบางยางลงไป มีผู้เสนอความเห็นว่าพ่อขุนบางกลางหาวน่าจะอยู่แถวกำแพงเพชร

ก่อนราชวงศ์พระร่วงอาณาจักรสุโขทัยมีราชวงศ์พ่อขุนศรีนาวนำถุมครองอยู่ ในรัชสมัยของพ่อขุนศรีนาวนำถุมซึ่งเริ่มประมาณ พ.ศ. ๑๗๖๒ อาณาจักรสุโขทัยครอบคลุมถึงเมืองฉอด (ใกล้แม่น้ำเมย) ลำพูน น่าน พิษณุโลก ต่อมาอาณาจักรสุโขทัยตกอยู่ใต้อำนาจขอมสบาดโขลญลำพง จนกระทั่งพ่อขุนผาเมืองโอรสของพ่อขุนศรีนาวนำถุมทรงร่วมมือกับพ่อขุนบางกลางหาวขับไล่ขอมสบาดโขลญลำพงไป พ่อขุนบางกลางหาวทรงยึดเมืองศรีสัชนาลัยได้และทรงเวนเมืองให้พ่อขุนผาเมือง พ่อขุนผาเมืองจึงอภิเษกพ่อขุนบางกลางหาวเป็นกษัตริย์สุโขทัย พ่อขุนผาเมืองซึ่งเป็นพระชามาดา (ลูกเขย)ของกษัตริย์ขอมทรงยกพระนามศรีอินบดินทราทิตย์ซึ่งพระองค์ได้รับมาจากกษัตริย์ขอมมอบให้แก่พ่อขุนบางกลางหาว แต่พ่อขุนบางกลางหาวทรงใช้พระนามว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ บางทีอาจจะทรงเห็นว่าพระนามเดิมมาจากคำ อินทรปัต + อินทร + อาทิตย์ แสดงว่าอยู่ใต้อินทรปัตซึ่งเป็นเมืองหลวงของขอม (ดังปรากฏในจารึกหลักที่ ๒) ก็เป็นได้

การที่พ่อขุนผาเมืองทรงยกสุโขทัยและอภิเษกพ่อขุนบางกลางหาวเป็นกษัตริย์ อาจจะทรงเห็นว่าสุโขทัยในขณะนั้นเป็นเมืองเล็กกว่าศรีสัชนาลัย หรืออาจจะเป็นเพราะว่านางเสือง พระมเหสีของพ่อขุนบางกลางหาวเป็นพระภคินี (พี่สาว) ของพ่อขุนผาเมือง พ่อขุนบางกลางหาวจึงทรงมีสิทธิที่จะได้ครองเมืองก่อนพ่อขุนผาเมืองก็เป็นได้

พ่อขุนผาเมืองเป็นเจ้าเมืองราด มีพระอนุชาคือพระยาคำแหงพระรามครองเมืองสระหลวงสองแคว (พิษณุโลก) โอรสของพระยาคำแหงพระราม คือ มหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนี เมื่อเป็นฆราวาสมีฝีมือในการสู้รบ ได้ชนช้าชนะหลายครั้ง รู้ศิลปศาสตร์หลายประการ ขณะอายุ ๓๐ ปีมีบุตรแต่เสียชีวิต มหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนีจึงออกบวช ได้ไปปลูกต้นโพธิ์ สร้างพิหาร อาวาส และซ่อมแซมพระศรีรัตนมหาธาตุทั้งในและนอกประเทศ เช่น พม่า อินเดีย และลังกา

อนึ่ง เมืองราดตั้งอยู่ที่ใดมีผู้สันนิษฐานไว้ต่างๆ กันสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าเมืองราดน่าจะอยู่ที่เพชรบูรณ์และเมืองลุมคือเมืองหล่มเก่าแต่ผู้เขียน(ประเสริฐ ณ นคร) วางตำแหน่งเมืองราดเมืองสะค้าและเมืองลุมบาจายไว้ที่ลุ่มแม่น้ำน่านด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
จากจารึกหลักที่ ๒ ทำให้ทราบว่าเมืองราดเมืองสะค้าและเมืองลุมบาจายเป็นกลุ่มเมืองที่อยู่ใกล้กันพ่อขุนผาเมืองอยู่เมืองราดและกษัตริย์น่านมีพระนามผานองผากองและผาสุมแต่กษัตริย์เมืองอื่นไม่ใช้"ผา"นำหน้าพระนามเลยพ่อขุนผาเมืองจึงน่าจะเป็นกษัตริย์น่าน(คือเมืองราดนั่นเอง)นอกจากนี้ยังมีพระราชโอรสของกษัตริย์น่านมีพระนามว่าบาจายอาจจะแสดงว่าน่านมีอำนาจเหนือบาจายแบบพระนามกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์แสดงว่ากรุงเทพฯมีอำนาจเหนือราชบุรีนั่นเอง

อีกประการหนึ่ง จารึกหลักที่ ๘ กล่าวถึงไพร่พลของพระเจ้าลิไทยว่ามีทั้งชาวสระหลวงสองแควพระบางฯลฯเริ่มตั้งแต่เมืองทางทิศตะวันออกของสุโขทัยแล้วกวาดไปทางใต้ทางทิศตะวันตกทางทิศเหนือจนกลับมาจบที่ทิตะวันออกตามเดิมจารึกหลักอื่นเช่นหลักที่ ๓๘ และจารึกวัด อโสการาม (หลักที่๙๓) ก็ใช้ระบบเดียวกันโดยถือตามพระพุทธศาสนาว่าตะวันออกเป็นทิศหน้าแล้ววนตามเข็มนาฬิกาเริ่มจากสระหลวงสองแควคือพิษณุโลกไปปากยม(พิจิตร)พระบางไปชากังราวสุพรรณภาวกำแพงเพชรรวม ๓ เมืองที่กำแพงเพชรบางพาน(อำเภอพานกระต่ายกำแพงเพชร)ต่อไปจะถึงราดสะค้า ลุมบาจายซึ่งจะอยู่ระหว่างทิศเหนือกวาดมาทางทิศตะวันออกของสุโขทัยและย่อมจะอยู่เหนือสระหลวงสองแควขึ้นไป จารึกหลักที่ ๑ วางลุมบาจายและสะค้าไว้ระหว่างพิษณุโลกกับเวียงจันทน์

อีกประการหนึ่ง ตอนพ่อขุนผาเมืองยกมาช่วยพ่อขุนบางกลางหาวรบกับขอมสบาดโขลญลำพงที่สุโขทัยถ้าหากพ่อขุนผาเมืองอยู่แถวเพชรบูรณ์คงจะมาช่วยไม่ทันสินชัยกระบวนแสงจากคณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยศิลปากรพบใบลานที่วัดช้างค้ำเมืองน่านกล่าวถึงเหตุการณ์สมัยรัชกาลที่ ๒ ว่า เจ้าผู้ครองน่านขึ้นตามแม่น้ำน่านไปถึงอำเภอท่าปลา (ปัจจุบันคือจังหวัดอุตรดิตถ์) ใกล้ห้วยแม่จริม"เมืองราดเก่าหั้น"แสดงว่าสมัยต้นรัตนโกสินทร์ยังทราบกันดีว่าเมืองราดอยู่บนแม่น้ำน่านใกล้อำเภอท่าปลา

พ่อขุนผาเมืองเป็นอะไรกับพ่อขุนบางกลางหาว

พ่อขุนผาเมือง หรือ พญาผาเมือง เป็นเจ้าเมืองราด ผู้ร่วมกับพ่อขุนบางกลางหาวขับไล่ขอมที่ก่อการจลาจลวุ่นวายให้ออกไปจากเมืองสุโขทัย แต่พระองค์ไม่ทรงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์สุโขทัยต่อจากพระราชบิดา หากแต่ทรงมอบราชสมบัติ พระนาม พระแสงขรรค์ไชยศรีเครื่องแสดงสิทธิอำนาจให้แก่พ่อขุนบางกลางหาวแทน เหตุเพราะทรงมีความใกล้ชิดกับทางราช ...

พ่อขุนผาเมืองเปลี่ยนชื่อเป็นอะไร

พ่อขุนผาเมืองนั้น พระเจ้ากรุงกัมพูชาพระราชทานนามว่า กมรเตงอัญศรีอินทรปตินทราทิตย์ และได้พระราชทานพระราชธิดาองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระนางสิงขรมหาเทวี พ่อขุนผาเมืองเป็นเจ้าเมืองราด ส่วนพ่อขุนบางกลางหาวนั้นเป็นเจ้าเมืองบางยาง (แต่เดิมนั้น เรียกชื่อพ่อขุนบางกลางหาวว่า บางกลางทาว หรือ บางกลางท่าว ต่อมา ดร. ประเสริฐ ณ นคร ...

ใครเป็นพระสหายกับพ่อขุนผาเมือง

พ่อขุนผาเมืองเป็นพระสหายพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ และเป็นโอรสพ่อขุนศรีนาวนำถุม ราชวงศ์พ่อขุนศรีนาวนำถุมครองเชลียง (สวรรคโลกเก่า) อยู่ตั้งแต่ราว พ.ศ.1762 มีอาณาเขตครอบคลุมไปถึงเมืองฉอด ลำพูน เชียงแสน และพะเยา

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์อภิเษกกับใคร

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์พระร่วงกรุงสุโขทัย เสวยราชสมบัติตั้งแต่ พ.ศ. ๑๗๙๒ ถึงปีใดไม่ปรากฏ พระนามเดิมคือพ่อขุนบางกลางหาว มีมเหสีคือนางเสือง มีพระราชโอรส ๓ พระองค์ พระราชธิดา ๒ พระองค์ พระราชโอรสองค์ใหญ่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ส่วนพระราชโอรสองค์ที่ ๒ และ ๓ คือพ่อขุนบานเมือง ...