Show สีสัน (Tone color) คือ คุณสมบัติเฉพาะของเครื่องดนตรี รวมทั้งเสียงร้องของมนุษย์ ซึ่งมีความแตกต่างกันโดยธรรมชาติของสิ่งนั้น ๆ เครื่องดนตรีแต่ละชนิดจะมีเสียงที่ให้อารมณ์แตกต่างกัน เช่น เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้อย่างฟลูท เมื่อเราได้ยินเสียงฟลุ้ทในบทเพลงทำให้เรานึกหรือจิตนาการถึงนกที่กำลังบิน บนท้องฟ้า แจ่มใสร่าเริง หรือถ้าได้ยินเสียงไวโอลินในบทเพลงเราก็นึกถึงสายลมที่กำลังพัดแผ่วเนื่อง จากไวโอลินเป็นเครื่องสายที่สามารถเล่นท่วงทำนองของเพลงได้ไพเราะ เสียงแหลมใสของไวโอลินถ่ายทอดความรู้สึกแทบทุกชนิดได้ สำหรับเสียงฮาร์พเป็นเสียงที่เบา นิ่มนวล พราวพริ้วเมื่อเราได้ยินทำให้นึกถึงเสียงน้ำตกที่มีละอองน้ำแตกกระจายฟัง แล้วทำให้เราชื่นฉ่ำได้ แต่ในทางตรงกันข้ามเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าทองเหลืองก็สามารถทำเสียง แสดงอำนาจเช่นเสียงแตรทรัมเป็ต ทรอมโบน ฯลฯ สีสันของเสียงเราพบว่านักร้องแต่ละคนก็มีเสียงไม่เหมือนกัน บางคนเสียงทุ้มใหญ่ต่ำกังวานมีอำนาจ บางคนเสียงเล็กแหลมใสไพเราะ บางคนเสียงสูง ในทำนองเดียวกันถ้าเราเปลี่ยนสีสันของเสียงดนตรีหรือเสียงร้องแล้วจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ตัดกัน เช่น เมื่อเราให้เครื่องดนตรีชนิดหนึ่งเล่นทำนอง ๆ หนึ่ง แล้วเปลี่ยนให้เครื่องดนตรีอีกชิ้นอื่นเล่นทำนองเดียวกัน ก็จะทำให้เกิดผลต่อความรู้สึก คุณลักษณะของเสียงดังกล่าวนี้เมื่อเราฟังบ่อย ๆ ครั้ง เราอาจสังเกตความแตกต่างได้สีสันหรือคุณลักษณะของเสียงเหล่านี้ ทำให้คีตกวีสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับอารมณ์ บรรยากาศ และโอกาสของบทบรรเลงได้ สื่อที่ทำให้เกิดเสียง (Performing Media: Voices and Instruments) 1) เสียงร้องของมนุษย์ (Voices) วิลเลียม เบิร์ด (William Byrd) คีตกวีชาวอังกฤษสมัยพระนางเอลิซาเบ็ธที่หนึ่ง ได้สดุดีเสียงขับร้องของมนุษย์ไว้ว่า “เสียงของเครื่องดนตรีชนิดใดที่จะอาจเอื้อมมาเทียบกับเสียงขับร้องของมนุษย์ได้นั้นไม่มี” นับย้อนจากอดีตจนถึงปัจจุบัน การร้องเพลงเป็นสิ่งที่ใช้กันอย่างกว้างขวางมาก ในการแสดงละครของกรีกโบราณได้มีการร้องเพลงประกอบ หรือชาวอิสราเอลก็ใช้วิธีการร้องเพลงเพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งศาสนาหลาย ๆ ศาสนาก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน เสียงของมนุษย์จัดเป็นเครื่องดนตรีที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดสามารถถ่ายทอด อารมณ์และสื่อความหมายได้ดีที่สุด การร้องเพลงเป็นสิ่งบันเทิงที่ใกล้ตัวที่สุด ประหยัดที่สุด เสียงของมนุษย์มีลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล การที่เสียงจะมีคุณภาพเช่นไร มีความดัง เบา กังวาลหรือแหบแห้งประการใด ล้วนต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเช่น 1. เชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ ความแตกต่างของโครงสร้างอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เช่นรูปทรง กะโหลกศีรษะ ใบหน้า โพรงจมูก เป็นปัจจัยสำคัญในการแยกแยะเสียงพูดโดยธรรมชาติของมนุษย์ 2. ภาษาดั้งเดิมของชนชาตินั้น ๆ มีส่วนสำคัญในการกำหนดลักษณะการเปล่งเสียง 3. อวัยวะที่ก่อให้เกิดเสียงโดยเฉพาะเส้นเสียง (Vocal chord) เป็นปัจจัยชี้ขาดในการกำหนดทั้งเสียงพูดและเสียงร้องเพลงของมนุษย์ จะสังเกตได้ว่า
เสียงของมนุษย์แยกได้ 2 ชนิด คือ เสียงพูดและเสียงร้องเพลง
เสียงพูดนั้นโดยทั่วไปแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ลมหายใจมาก แต่เสียงร้องเพลงจำเป็นต้องใช้ลมหายใจให้เพียงพอและถูกต้องจึงจะเปล่งเสียงที่มีคุณภาพได้ ช่วงเสียงขับร้องตั้งแต่เสียงต่ำสุดของผู้ชายแต่ละคนประมาณ 12 เสียง ช่วงเสียงจากต่ำสุดถึงสูงสุดของผู้หญิงแต่ละคนก็มีประมาณ 12 เสียงเช่นเดียวกัน สำหรับช่วงเสียงขับร้องตั้งแต่เสียงต่ำสุดของผู้ชายขึ้นไปจนถึงเสียงสูงสุดของผู้หญิง มีระยะประมาณ 4 คู่แปด (Octave)
นอกจากนี้แล้วยังมีการแบ่งเสียงของมนุษย์ออกเป็น 6 ประเภท คือ ฝ่ายหญิง 3 ประเภท เรียงจากเสียงสูงไปหาต่ำ เช่น โซปราโน (Soprano) เมซโซโซปราโน (Mezzo-soprano) และอัลโต (Alto) สำหรับฝ่ายชาย 3 ประเภทเรียงจากเสียงสูงไปหาต่ำ เช่น เทเนอร์ (Tenor) บาริโทน (Baritone) และเบส (Bass) เหตุที่ต้องแบ่งเสียงออกเป็น 6 ประเภท ก็เพื่อประโยชน์ในการขับร้องออราทอริโอและการแสดงอุปรากรมากว่าอย่างอื่น โดยปกติแล้วในวงขับร้องประสานเสียง (Chorus) จะแบ่งนักขับร้องออกเป็น 4 กลุ่มหรือ 4 นอกจากวงขับร้องประสานเสียงผสมชายหญิงแล้ว ก็ยังมีวงขับร้องประสานเสียงประเภทผู้ชายล้วน มักจะแบ่งระดับเสียงออกเป็น 4 แนว คือ แนวเทเนอร์ 2 แนว และแนวเบส 2 แนว สำหรับวงขับร้องประสานเสียงประเภทผู้หญิงล้วน มักจะแบ่งระดับเสียงออกเป็น 3 แนว คือ โซปราโน 2 แนว และอัลโต 1 แนว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของวงขับร้องประสานเสียงนั้น ๆ 2) เครื่องดนตรี (Musical Instruments)
บทเพลงปลุกใจ ส่วนใหญ่ใช้จังหวะอะไรทางด้านดนตรียังมีข้อจำกัดเรื่องความรู้ด้านดนตรีสากลอยู่ เพลงส่วนใหญ่ใช้จังหวะเร็ว และจังหวะเดินแถว ให้รู้สึกฮึกเหิม มีกำลังใจ ทำนองคล้ายเพลงไทยเดิมบางส่วน แต่บทเพลงก็มีการพัฒนาให้เป็นสากลขึ้นโดยคนสำคัญเช่น หลวงวิจิตรวาทการ และวงดนตรีสุนทราภรณ์ ซึ่งทำให้สมัยของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ผลิตเพลงปลุกใจออกมามากถึงกว่า 70 เพลง ...
เสียงร้องที่จัดว่าอยู่ในแนวเสียงสูงที่สุด คือแนวใด1. แนวโซปราโน (SOPRANO) เป็นเสียงสูงสุด ได้แก่ เสียงของผู้ที่มีเสียงสูงและเด็กที่เสียงยังไม่แตกมีขอบเขตเสียงจาก โด-ซอล 2. แนวอาลโต (ALTO) เป็นเสียงที่ต่ำรองลงมาจากโซปราโน ได้แก่ เสียงของผู้หญิงที่มีเสียงต่ำกว่าโซปราโน มีขอบเขตเสียงจาก ซอล-โด
ข้อใด คือ ท่าทางในการยืนร้องเพลงที่ถูกต้อง *1. ท่าทาง การปฏิบัติที่ถูกต้องควรจะให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ คือยืนตรง เท้าวางห่างกันประมาณ 1 ฟุต เท้าขวาอยู่หน้าเล็กน้อย ให้รู้สึกว่ากระดูกสันหลังรับน้ำหนักทั้งหมด ฝึกหัดยกหัว เชิดหน้า ไหล่ตรง แขม่วท้อง หดสะโพก หลังตรง ไม่เกร็งตัว วางตัวตามสบายแต่ให้อยู่ในลักษณะที่ถูกต้อง ควรยืนห่างจากไมโครโฟนประมาณ 12 - 15 นิ้ว ออกเสียง ...
การร้องเพลงให้มีเสียงก้องกังวานระดับสูงควรใช้อวัยวะส่วนใดอวัยวะที่ช่วยในการสร้างความกังวานให้กับเสียงร้องของมนุษย์ ได้แก่ ทรวงอก ช่องคอ โพรงจมูก โพรงปาก และโพรงศีรษะ นอกเหนือจากนี้ ยังมีอวัยวะภายใน โพรงต่าง ๆ ของร่างกายข้างต้นที่อาศัยการท างานสอดประสานร่วมกันอีกมากมายซึ่งเป็น ส่วนส าคัญที่ท าให้เกิดเสียงที่ก้องกังวาน ไพเราะ สดใส อย่างที่นักร้องต้องการ เช่น
|