ขึ้นเขาลงเขาใช้เกียร์อะไร ออโต้

เวลาขึ้น-ลงเขา ทำไมต้องใช้เกียร์ตํ่า?

คนขับรถทางไกลต้องอ่าน! ขับรถเกียร์ต่ำเวลาขึ้น-ลงเขา ดีกว่ายังไง?

ขึ้นเขาลงเขาใช้เกียร์อะไร ออโต้

เคยได้ยินว่า “เวลาขับรถขึ้นหรือลงเขาให้ใช้เกียร์ต่ำ” แต่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมถึงต้องใช้เกียร์ต่ำเวลาขึ้น-ลงเขา แล้วมันต่างจากการใช้เกียร์แบบปกติอย่างไร? วันนี้ EasyCompare มาตอบคำถามให้คุณแล้วครับ

ทำไมขับรถขึ้น-ลง เขาต้องใช้เกียร์ต่ำ?

เกียร์ต่ำ (หรือเกียร์ที่อยู่ในช่วงเกียร์ 1-2) เป็นเกียร์ที่ทำให้เครื่องยนต์มีความถี่สูง สามารถเร่งความเร็วของรถได้ดี ทำให้รถสามารถพุ่งตัวได้ดีในช่วงแรก ซึ่งจะเป็นการดีสำหรับผู้ที่ขับรถยนต์ในเส้นทางลาดหรือทางชัน เพราะ ต้องใช้ความเร่งเครื่องสูงแต่ว่าความเร็วของรถยนต์ต่ำ เพื่อให้สามารถควบคุมการทรงตัวของรถในทางลาดหรือทางชันได้ง่ายกว่าเกียร์ที่ความเร็วแบบปกติ หากจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ก็เหมือนกับการที่เราเดินขึ้นทางชัน ที่ต้องใช้กำลังขามากกว่าปกติ การใช้เกียร์ต่ำจึงเป็นเหมือนการที่เราใช้แรงจากขามากขึ้นเพื่อไต่ทางชัน หลังจากที่เราหลุดพ้นทางชันมาได้เราจึงสามารถวิ่งในความเร็วปกติได้

ข้อควรปฏิบัติในการขับรถ

สำหรับเกียร์ธรรมดา

การขึ้นเขา – ในทางที่มีความชันมาก ให้ขับที่เกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 หากรู้สึกว่าความเร็วของรถเริ่มตกขณะที่ขับในทางชันใน ลดเกียร์ลงมา 1 ระดับ เพื่อให้สามารถเร่งเครื่องยนต์และผ่านเส้นทางชันนั้นไปได้ แล้วจึงเปลี่ยนเข้าเกียร์ตามความเร็วแบบปกติ

การลงเขา – ควรใช้เกียร์ต่ำ เพราะในทางลาดรถยนต์อาจจะไม่ต้องการกำลังของเครื่องมากนัก แต่ต้องการแรงฉุดเพื่อชะลอความเร็ว เกียร์ต่ำจะทำให้รถมีแรงฉุดมากกว่าทำให้รถไม่ไหล ง่ายต่อการเลี้ยงเบรกและบังคับรถเข้าโค้งในทางลาดได้ดีกว่า

ข้อควรระวัง - ควรปรับเปลี่ยนเกียร์ตามความเหมาะสม อย่าลากเกียร์เป็นระยะเวลานาน ควรแตะเบรกเป็นระยะ ไม่ควรเหยียบเบรกค้าง เพราะอาจทำให้เบรกไหม้

สำหรับเกียร์ออโต้

การขึ้นเขา - ให้ใช้เกียร์ D2 หรือ เกียร์ L ในการขับขึ้นเขาลงเขา แทนเกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 ในเกียร์ธรรมดา เมื่อพ้นทางชัน ควรสลับมาขับที่ เกียร์D ไม่ควรลากเกียร์ต่ำเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจนเครื่องดับกลางทางได้

การลงเขา – หากเป็นทางที่มีความลาดชันมากให้เปลี่ยนจากเกียร์ D มาขับที่ เกียร์D2 หรือ เกียร์ L แทน แต่ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ขณะฝนตกทางลื่น เพราะอาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้

ข้อควรระวัง – การเลือกใช้เกียร์ผู้ขับควรดูสภาพของถนนและเส้นทางที่ใช้เป็นหลัก เพราะ รถยนต์แต่ละรุ่น มีระบบเกียร์อัตโนมัติแตกต่างกัน ดังนั้นควรประเมินสภาพของเส้นทางและรถยนต์ก่อนขับขี่ถนนด้วย รวมถึงผู้ขับขี่ควรมีความชำนาญกับเส้นทางและตัวรถยนต์เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

ไม่ว่าจะโร้ดทริปไปไหน ความปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการขับขี่ อย่าลืมเพิ่มความคุ้มครองด้วยประกันภัยรถยนต์นะครับ จะประกันชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 3+ หรือ ชั้น 3 ก็ช่วยคุ้มครองให้คุณอุ่นใจ

ในช่วงใกล้ๆ เทศกาลปีใหม่แบบนี้ หลายๆ คนก็คงจะเริ่มวางแผนเพื่อเดินทางไกลไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ  ประกอบกับสภาพอากาศที่เริ่มจะเย็นขึ้นแบบนี้ เชื่อได้เลยครับว่าเป้าหมายอันดับต้นๆ ของใครๆ ก็คงหนี้ไม่พ้นไปภาคเหนือนั่นเอง ซึ่งในการเดินทางไปภาคเหนือนั้นก็ต้องมีการ ขับรถขึ้นเขา กันอย่างแน่นอนครับ และรถยนต์สมัยนี้ เชื่อได้เลยครับว่าแทบทุกคนต้องเลือกใช้รถยนต์ด้วยระบบเกียร์ออโต้กันทั้งนั้น ด้วยความสะดวกสบายในการขับขี่ แต่หลายๆ คนที่ใช้เกียร์ออโต้นั้นต่างก็ใช้เพียงแค่เกียร์ D ในการขับทั้งนั้นแต่การขึ้นเขาลงเขานั้นจำเป็นต้องมีการเลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยนะครับ เพราะฉะนั้นวันนี้ MoneyGuru.co.th จึงมาแนะนำวิธีการใช้เกียร์ออโต้ในการขับขึ้นเขาลงเขาเพื่อความปลอดภัยกันครับ

ขับรถขึ้นเขา ลงเขา ต้องใช้เกียร์ต่ำเท่านั้น

เชื่อว่าทุกๆ คนก็คงรู้กันอยู่แล้วใช่ไหมครับว่า การขับรถขึ้นเขาลงเขาที่ดี และปลอดภัยนั้นจะต้องขับด้วยเกียร์ต่ำเท่านั้น  และในตลอดเส้นทางที่มีการขึ้นเขา และลงเข้านั้นก็จะมีป้ายจราจรที่คอยเตือนผู้ที่ขับขี่ให้ใช้เกียร์ต่ำในการขึ้นเขา และลงเขาในตลอดทุกๆ เส้นทาง  และนอกจากการใช้เกียร์ต่ำแล้วนั้น ผู้ขับขี่ก็จะต้องใช้สมาธิสูงมาก และต้องอาศัยฝีมือในการขับมากเป็นพิเศษ ถึงจะประคองรถให้อยู่ และปลอดภัยได้ครับ

แต่หลายๆ คนที่ขับรถยนต์ที่เป็นเกียร์ออโต้ต่างก็ใช้เพียงแค่เกียร์ D เท่านั้น โดยที่บางคนไม่เคยรู้ หรือสัมผัสมาก่อนเลยว่านอกจากเกียร์ D ที่ใช้กันอยู่ในทุกๆ วันแล้วนั้น เกียร์อื่นๆ นั้นสามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง หากใครยังไม่รู้ก็มาหาคำตอบร่วมกันเลยดีกว่าครับ

เกียร์ไหนที่ใช้ขึ้นเขาลงเขาได้บ้าง?

โดยปกติแล้วทุกๆ คนก็คงใช้แค่เกียร์ D กันใช่ไหมละครับ ซึ่งรถยนต์ที่ใช้เกียร์ออโต้นั้น จะต้องมีเกียร์นี้ทุกคันอย่างแน่นอน แต่เกียร์อื่นๆ นั้นก็จะมีต่างๆ กันไปตามแต่ยี่ห้อรถนั่นเองครับ เช่น เกียร์ S,L,B,D3,D2 ซึ่งในแต่ละคันก็จะมีต่างกันไปครับ แต่เกียร์เหล่านี้ก็สามารถใช้ และมีคุณสมบัติที่ไม่ได้ต่างกันเลยครับ เพียงแต่แค่ค่ายรถต่างๆ นั้นมีชื่อเรียกที่ต่างกันนั่นเองครับ แล้วการขับขึ้นเขา และลงเขานั้นควรใช้เกียร์อะไรดี ไปดูกันเลยครับ

ขึ้นเขาลงเขาใช้เกียร์อะไร ออโต้

วิธีขับรถขึ้นเขาที่ดี

โดยปกติแล้วการขับรถขึ้นเขานั้นง่ายกว่าลงเขาเยอะมากเลยนะครับ โดยคุณสามารถใช้ D เพื่อใช้ในการขับขึ้นเขาได้โดยปกติเลยครับ แต่หากขับไปแล้วเส้นทางมีการลาดชันเกิดขึ้นจนทำให้เครื่องยนต์เริ่มตกลงมา ทำให้ขับต่อไปไม่ค่อยไหว คุณสามารถใช้เกียร์ D3  หรือ เกียร์ S แทนได้นะครับ เพราะการใช้เกียร์เหล่านี้นั้นเป็นเกียร์ต่ำจึงทำให้อัตราการเร่ง และรถยนต์มีกำลังมากขึ้น และสามารถผ่านขึ้นเข้าได้อย่างต่อเนื่อง และผ่านไปได้ด้วยความปลอดภัยครับ  และหลังจากที่ผ่านช่วงที่เส้นทางสูงชันแล้วก็สามารถสลับมาใช้เกียร์ Dได้ดังเดิมครับ

วิธีขับรถลงเข้าที่ดี

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วนะครับว่า การขับรถลงเขานั้นยากกว่าขับรถขึ้นเขาเป็นอย่างมาก และมีความเสี่ยงอันตรายมากกว่าการขับรถขึ้นเขามากกว่าเยอะเลยนะครับ โดยคุณจะใช้เบรคเพื่อชะลอความเร็วเพียงอย่างเดียวไม่ได้นะครับ เพราะจะทำให้เบรคไหม้ได้ และห้ามเบรคบ่อยเกินไปอีกด้วย ดังนั้นคุณจึงควรใช้เกียร์ต่ำเข้าช่วย เพื่อให้เครื่องยนต์นั้นช่วงดึงกำลัง และเป็นการใช้เอนจิ้นเบรค (Engine Brake) นั่นเองครับ โดยคุณสามารถใช้เกียร์ D ได้ในกรณีที่ทางลงเขาไม่ได้ชันมากนัก แต่ถ้าเกิดเริ่มรู้สึกว่าทางลงนั่นชันมากขึ้นก็สามารถเปลี่ยนมาใช้เกียร์ D2 เกียร์ L  หรือเกียร์ B นั่นเองครับ  และการใช้เกียร์ต่ำนั้นจะทำให้เครื่องยนต์ช่วยฉุดกำลังรถให้เคลื่อนที่ช้าลง เป็นการเบาแรงเบรกไปได้มากเลยนะครับ

หากได้กลิ่นไหม้ให้รีบจอดทันที

หากคุณขับรถขึ้นเขา หรือลงเขาแล้วเกิดได้กลิ่นเหม็นไหม้ขึ้นมา แนะนำให้คุณรีบนำรถยนต์ของคุณเข้าไปจอดในที่ที่ปลอดภัยทันทีครับ เพราะกลิ่นเหม้นไหม้นั้นอาจจะเกิดขึ้นมาจากเครื่องร้อนมากเกินไป หรือเกิดเบรคไหม้เกิดขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสาเหตุไหนก็เป็นอันตรายอย่างยิ่งครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับกับวิธีการขับรถขึ้นเขาที่ถูกต้อง และปลอดภัย  และตอนนี้ทุกๆ คนก็คงจะรู้แล้วนะครับว่า การใช้เกียร์ต่างๆ นั้นสามารถช่วยให้คุณขับรถยนต์ขึ้นเขา และลงเข้าได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นด้วยนะครับ แต่หากคุณคิดว่าแค่นั้นปลอดภัยแล้ว คุณคิดผิดแล้วครับเพราะหากต้องการความปลอดภัยจริงๆ  คุณก็ควรที่จะทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ด้วยนะครับ ซึ่งการทำประกันภัยรถยนต์นั้นจะช่วยคุ้มครองในทุกๆ การเดินทางของคุณ และคอยช่วยเหลือคุณในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุนั่นเองครับ  และหากใครยังไม่มีประกันภัยรถยนต์ที่ถูกใจ ก็สามารถเข้ามาเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ต่างๆ ได้เลย แค่คลิกที่  เทียบประกันรถยนต์ กับ MoneyGuru.co.th แล้วคุณจะได้รับการเปรียบเทียบราคาอย่างละเอียดของประกันภัยรถยนต์จากหลายเจ้า ภายใน 1 นาที สะดวก ง่าย รวดเร็ว พร้อมรับใบเสนอราคาได้ฟรีทันที นอกจากนี้ คุณยังสามารถสอบถามเพิ่มเติมผ่านช่องทางใหม่ เพียงแอดไลน์ (LINE) @MoneyGuruThailand รับรองว่าคุณจะได้คำแนะนำ ราคาเบี้ยประกัน  และข้อเสนอที่ดีที่สุดจากผู้เชี่ยวชาญของเราทันที

ขึ้นเขาลงเขาใช้เกียร์อะไร ออโต้

ฮอนด้าซิตี้ขึ้นเขาใช้เกียร์อะไร

เร่งแซง ใช้เกียร์ S คือตอนเร่งเครื่องแซง หรือขับขึ้นเนินเขาที่มีความสูงชัน เมื่อเปลี่ยนเกียร์ D เป็นเกียร์ S เครื่องยนต์จะสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ มีทั้งแรงม้าและแรงบิดที่อยู่ในสถานะ “รอ” พร้อมใช้งาน เพียงแค่ตบคันเร่งเบาๆ ก็ขับรถต่อได้

ลงเขาใช้เกียร์อะไร กระปุก

ขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้ เช่นเดียวกับวิธีขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์กระปุกเลยครับคือ ห้ามใส่เกียร์ว่าง หรือ N เพราะจะทำให้รถไหลแล้วเสียการควบคุม ทางที่ดีควรเปลี่ยนเป็นเกียร์ D1-D2 เพื่อรักษาความเร็วของรถให้เสถียร รถจะวิ่งหน่วงๆ และช้าลง ทำให้คุณขับรถลงเขาอย่างปลอดภัย แล้วที่สำคัญไม่เหยียบคันเร่ง และไม่เหยียบเบรคยาวๆ

รถวีออสขึ้นเขาใช้เกียร์อะไร

D3 หมาย ถึง เกียร์ออโต้ 3 ปีด ใช้สำหรับขับรถขึ้นหรือลงเนิน เพื่อป้องกันมิให้เกียร์เปลี่ยนกลับไป กลับมาบ่อยๆ ระหว่างเกียร์ 3 และเกียร์ 4 นอกจากนี้ยังใช้สำหรับกรณีที่ต้องการ ให้เครื่องยนต์ช่วยเพิ่มกำลัง เบรคมากขึ้น

ยาริสขึ้นเขาใช้เกียร์อะไร

พละกำลังขึ้นเขาพอเพียงหรือไม่ ทริปนี้น่าจะเป็นคำตอบสำหรับการเดินทางสองคน ขึ้น-ลงอ่างขางทางถนนหมายเลข 1178 แม้ขับขี่ไม่ยากนัก แต่ต้องมีสติเพราะขึ้น-ลงเขาตลอด การใช้เกียร์จึงจำเป็น โดยตำแหน่งเกียร์ B ช่วยได้มากในการลงทางชัน