Show สำหรับนักกีฬาซึ่งจะต้องมีการฝึกซ้อมเป็นประจำ เพื่อให้เกิดความชำนาญ เชี่ยวชาญ เพิ่มทักษะในการกีฬา จึงจำเป็นต้องมีโภชนาการที่สมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกาย และจิตใจ มีพละกำลังเพียงพอต่อการแข่งขันในระยะเวลาตามกำหนดของกีฬาแต่ละชนิด เพื่อที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้โดยที่ไม่หมดแรงไปเสียก่อนจบการแข่งขัน Carbohydrate load หรือ Glycogen loading เป็นวิธีจัดตารางการฝึกซ้อม และรายการอาหารเพื่อให้ร่างกายสะสมไกลโคเจน (Glycogen) ให้มากที่สุด เพราะปริมาณไกลโคเจนมีผลต่อประสิทธิภาพทางด้านความทนทาน และความฉับไว นิยมใช้ในกีฬาประเภทออกแรงมาก และใช้เวลาในการแข่งขันต่อเนื่องเป็นเวลานานมากกว่า 90 นาที เช่น นักว่ายน้ำ เทนนิส ฟุตบอล นักวิ่งระยะไกล ซึ่งจะเริ่มวิธีการนี้ก่อนแข่งขัน 7 วัน หรือ 1 สัปดาห์ โดยให้นักกีฬาฝึกหนักเพื่อให้ร่างกายใช้ไกลโคเจนที่สะสมในร่างกายให้เหลือน้อยที่สุด ร่วมกับการทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำเป็นเวลา 3 วัน หลังจากนั้น ช่วง 3-4 วัน ก่อนการแข่งขัน จะรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงเพื่อให้ร่างกายสะสมไกลโคเจนให้มากที่สุด โดยเก็บไว้ใช้เป็นพลังงานสำรองระหว่างการแข่งขัน นอกจากนี้ คาร์โบไฮเดรตยังมีความสำคัญหลังจากการใช้พลังงานอย่างหนัก หรือหลังจากการแข่งขันอีกด้วย การปวดกล้ามเนื้อและการอ่อนเพลียอาจเกิดเนื่องจากร่างกายดึง Glycogen มาใช้เป็นจำนวนมาก นักกีฬาจึงตกอยู่ในสภาพหมดแรง สิ่งที่ดีที่สุดหลังการแข่งขัน คือการให้ร่างกายบริโภคคาร์โบไฮเดรต เพื่อเป็นการชดเชยการใช้พลังงานที่สูญเสียไป ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับอาหารของนักกีฬาQ: อาหารของนักกีฬาต้องมีเนื้อสัตว์มากกว่าคนทั่วไป หรือไม่?A: ความต้องการโปรตีนของคนปกติ และนักกีฬาไม่มีความแตกต่างกัน นอกจากนักกีฬาบางประเภทที่ต้องใช้แรงปะทะในการต่อสู้ หรือต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ร่างกายจะนำโปรตีนไปใช้ในปริมาณจำกัด การรับประทานเนื้อสัตว์มากเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาต่อตับ และไตได้ แต่ที่เราคิดว่านักกีฬาต้องกินเนื้อสัตว์มากกว่าคนทั่วไปนั้น เนื่องจากนักกีฬากินอาหารปริมาณมากเพื่อให้ได้พลังงานสูงตามที่ร่างกายต้องการ ปริมาณของเนื้อสัตว์จึงดูมากตามไปด้วย แต่ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นก็จะไม่แตกต่างจากคนปกติ Q: นักกีฬาจำเป็นต้องเสริมวิตามิน และเกลือแร่ หรือไม่ A: ถ้ากินอาหารในปริมาณที่เหมาะสมแล้วไม่จำเป็นต้องเสริมอะไรอีก การได้รับวิตามิน และเกลือแร่มากเกินไปก็จะเกิดโทษต่อร่างกายได้เช่นกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ศูนย์เบาหวานและเฉพาะโรค อาคาร 4 ชั้น 3 โทร. 0-2271-7000 ต่อ 40335 หรือ 40341 นักกีฬาก็เหมือนคนทั่วไป ต้องรับประทานอาหารซึ่งให้โปรตีน คาร์โบไฮเดรท ไขมัน วิตะมิน เกลือแร่ และน้ำอย่างเพียงพอ แต่นักกีฬาเป็นผู้ที่ออกกำลังมาก และในการออกกำลังก็ต้องใช้พลังงานมาก ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาของร่างกายทุกส่วน เซลล์และเนื้อหนังบางส่วนมีการสึกหรอ จึงต้องมีการสร้างเสริมและซ่อมแซมให้ดีเป็นปรกติ แต่การจะเป็นดังนี้ได้ก็ต้องได้รับอาหารที่ดี มีคุณค่าครบตามหลักโภชนาการ คือแต่ละวันต้องได้รับอาหารหลัก 5 หมู่ครบ เพื่อนักกีฬาได้รับอาหารทุกอย่างครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย แต่เนื่องจากนักกีฬาต้องออกกำลัง และต้องการความสมบูรณ์มากกว่าคนปรกติ จึงต้องได้รับสารอาหารมากกว่าคนปรกติในรายที่ขนาดและน้ำหนักเท่ากัน ทั้งนี้เนื่องจากร่างกายได้รับความกระเทือนและสูญเสียอาหารไปได้มาก ขณะออกกำลังกาย เช่น มีการฟกช้ำ บวม ก็ต้องการโปรตีนมากเป็น 2 เท่าของคนปรกติ เพื่อให้ร่างกายกลับเข้าสู่สภาพเดิมโดยเร็ว สำหรับนักกีฬาไทย ควรรับประทานข้าวแต่พอควร แล้วรับประทานโปรตีน โดยเฉพาะ เนื้อ นม ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งให้มากขึ้น นอกจากนี้นักกีฬาควรรับประทานผักสดและผลไม้ทุกวัน เพราะนอกจากจะได้วิตะมิน และเกลือแร่แล้ว ในอาหารที่มีอยู่ในผักและผลไม้ ยังช่วยทำให้การขับถ่ายอุจจาระเป็นไปตามปรกติด้วย อาหารก่อนการแข่งขัน หลักที่ควรยึดถือปฏิบัติ คือ 3. ดื่มน้ำให้พอ โดยมีเป้าหมายให้ร่างกายไม่ขาดน้ำในระหว่างการแข่งขัน 4. ไม่รับประทานอาหารที่ระคายเคืองกระเพาะอาหารและลำไส้ เช่น อาหารเผ็ดจัด 5. ไม่รับประทานอาหารที่จะให้เกิดแก๊สมากในลำไส้ เช่น พวกถั่วต่างๆ หัวหอม 6. รับประทานอาหารที่รับประทานอยู่แล้วเป็นประจำ ไม่ควรเปลี่ยนเป็นอาหารที่ตนเองไม่เคยกินมาก่อน อาหารระหว่างการแข่งขัน ในการเกิดบาดแผลทำให้เสียเลือดก็จำเป็นต้องรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กให้มาก โดยเฉพาะน้ำ ในการแข่งขันนักกีฬาต้องการมาก ยิ่งเป็นนักกีฬาในแถบร้อนอย่างประเทศไทยด้วยแล้วยิ่งต้องการมาก ปรกตินักกีฬาต้องดื่มน้ำให้มากเพราะนอกจากเพื่อทดแทนการขับออกจากร่างกาย โดยมีเหงื่อออกมาแล้ว ยังช่วยหล่อลื่น ย่อยและดูดซึมอาหารด้วย การดื่มน้ำควรดื่มเมื่อเสร็จการฝึกซ้อมหรือแข่งขัน และตัวเย็นเป็นปรกติแล้วเท่านั้น ในขณะฝึกซ้อมหรือแข่งขันควรเพียงแต่บ้วนปาก และกลั้วคอเท่านั้น ในการฝึกซ้อมหรือแข่งขันไม่ควรให้ท้องว่าง ควรให้มีอาหารเหลืออยู่ลำไส้ส่วนปลายบ้าง ดังนั้นก่อนฝึกซ้อมหรือแข่งขัน 2 ชั่วโมง จึงควรรับประทานอาหารเสียก่อน แต่มิใช่รับประทานเสร็จแล้วลงฝึกซ้อมหรือแข่งขันทันที นักเรียนที่เป็นนักกีฬาควรรับประทานอาหารหมู่ใดเพิ่มเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายตอบสนองต่อสารอาหารที่เข้าสู่ร่างกายได้ดีที่สุด ควรรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน เพื่อชดเชยที่ใช้ไปขณะออกกำลังกายและช่วยฟื้นฟูร่างกาย อาหารที่ควรรับประทาน ได้แก่ นมขาดมันเนย, แซนวิชทูน่า/อกไก่, ขนมปังหมูหยอง, ซาลาเปาหมูแดง หรือ เครื่องดื่มเสริมพลังงาน
นักกีฬายกน้ำหนักจะต้องรับประทานอาหารประเภทใด เพื่อสร้างเสริมกล้ามเนื้อและจากนี้ไปคือ 6 อาหารที่ดีที่สุดสำหรับนักกีฬา ที่ต้องการรักษาความแข็งแรง , กล้ามเนื้อและระดับความฟิต. 1. ไข่ ... . 2. สมูทตี้ยามเช้า ... . 3. ผักขม ... . 4. ข้าวกล้อง ... . 5. อกไก่ย่าง ... . 6. แซลม่อน/เนื้อปลา. ไขมันใดที่เหมาะสมกับนักกีฬากรดไขมัน Omega-3 (Omega 3 Fatty acids) : พบได้แหล่งอาหารที่มีไขมันชนิด PUFA และมีความสำคัญกับนักกีฬา Omega-3 คือไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งหมายความว่าเราจะต้องบริโภคไขมันชนิดนี้ในแต่ละวัน เพราะ Omega-3 จะช่วยลดอาการอักเสบและเจ็บปวดของกล้ามเนื้อที่เกิดจากการฝึกซ้อม โดยแหล่งอาหารที่มี Omega-3 ซึ่งผมนิยมรับประทาน ...
นักกีฬากินน้ำอะไรดื่มน้ำทดแทน น้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้หวานน้อย (น้ำเปล่าดีที่สุด) กินคาร์โบไฮเดรตภายใน 15 นาที เพื่อไปสร้าง glycogen ทดแทน กินอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรตสูงจะช่วยฟื้นสภาพร่างกาย กินโปรตีนปกติ แต่กินไขมันให้พอดี
|