»»» 3.2.1 แป้นพิมพ์ หน่วยรับข้อมูล (input unit) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่รับข้อมูลจากผู้ใช้เข้าสู่คอมพิวเตอร์ เช่น ตัวอักษร ตัวเลข สัญลักษณ์ เป็นต้น โดยจะแปลงข้อมูลให้ไปอยู่ในรูปของสัญญาณไฟฟ้าที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ โดยนำมาจัดเก็บที่หน่วยความจำหลัก และใช้ประมวลผลได้ อุปกรณ์หน่วยรับข้อมูลที่นิยมใช้ในปัจจุบัน มีดังนี้
แป้นพิมพ์ (keyboard) ทำหน้าที่รับข้อมูลโดยการกดแป้นพิมพ์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายแป้นพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ดีด ประกอบด้วยปุ่มสำหรับพิมพ์อักขระ ตัวเลข เรียกใช้ฟังก์ชันของซอฟต์แวร์และควบคุมการทำงานร่วมกับปุ่มอื่นๆ รูปที่ 3.7 แป้นพิมพ์มาตรฐาน ที่มา : https://www.profesionalreview.com/wp-content/uploads/2015/12/Genius-KB-110X.jpg 1. แป้นพิมพ์ที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ (ergonomic keyboard) รูปที่ 3.8 แป้นพิมพ์ที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ ที่มา : https://i.pinimg.com/600x315/e9/83/98/e983984b1988f7992920a024cc7e3a4e.jpg 2. แป้นพิมพ์ไร้สาย (cordless keyboard) เป็นแป้นพิมพ์ที่สามารถส่งผ่านข้อมูลโดยเทคโนโลยีไร้สายและทำงานโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่ ทำให้เกิดความสะดวกในการเคลื่อนย้ายไปวางยังตำแหน่งต่างๆ ที่อยู่ในรัศมีของสัญญาณนอกเหนือจากโต๊ะทำงานได้ รูปที่ 3.9 แป้นพิมพ์ไร้สาย ที่มา : http://www.techpill.lt/wp-content/uploads/2010/08/logitech_k800.jpg 3. แป้นพิมพ์พกพา (portable keyboard) เป็นแป้นพิมพ์ที่ออกแบบสำหรับใช้ร่วมกับเครื่องพีดีเอ เนื่องจากการพิมพ์ข้อมูลลงบนแป้นพิมพ์ของเครื่องพีดีเอนั้นไม่สะดวก เพราะมีแป้นพิมพ์ที่มีขนาดเล็ก จึงมีการสร้างแป้นพิมพ์ที่เหมาะสมกับเครื่องพีดีเอ ซึ่งสามารถพกพาไปยังที่ต่างๆได้ง่ายขึ้น รูปที่ 3.10 แป้นพิมพ์พกพา ที่มา : https://sites.google.com/site/kroonom/_/rsrc/1337264123474/hnwy-rab-khxmul/pda%E0%B8%9E%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B2.jpg?height=256&width=320 4. แป้นพิมพ์เสมือน (virtual keyboard) เป็นแป้นพิมพ์ที่ออกแบบสำหรับใช้ร่วมกับเครื่องพีดีเอเชนเดียวกันกับแป้นพิมพ์พกพา แต่ต่างกันตรงที่มีการจำลองภาพให้เสมือนแป้นพิมพ์จริงโดยอาศัยการทำงานของแสงเลเซอร์ยิงลงไปบนโต๊ะหรืออุปกรณ์รองรับสัญญาณที่เป็นพื้นผิวเรียบ ซึ่งเมื่อต้องการใช้งานสามารถที่จะพิมพ์หรือป้อนข้อมูลที่เห็นเป็นภาพเสมือนแผงแป้นพิมพ์นั้นเข้าไปได้เลย ตัวรับแสงในอุปกรณ์จะตรวจจับได้เองว่าผู้ใช้วางนิ้วไปกดตรงตัวอักษรใด ซึ่งทำให้ป้อนข้อมูลตัวอักษรลงในเครื่องได้ รูปที่ 3.11 แป้นพิมพ์เสมือน อาศัยหลักการทำงานของเลเซอร์ ที่มา : https://neabcomputer.files.wordpress.com/2013/07/infraredprojectorkeyboard.jpg การเลือกซื้อแป้นพิมพ์
1. ควรเลือกแป้นพิมพ์ที่เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน ดังนี้
2. ควรเลือกแป้นพิมพ์ที่มีปุ่มกดไม่แข็งเกินไป 3. ควรเลือกแป้นพิมพ์ที่มีการรับประกัน การดูแลรักษาแป้นพิมพ์ 1. ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกต่างๆ โดยใช้สำลีพันก้านชุบ แอลกอฮอล์ นำมาเช็ดคราบสกปรกบนแป้นพิมพ์ 2. อย่าทำน้ำหยดใส่แป้นพิมพ์ เนื่องจากแป้นพิมพ์มีแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์อยู่ภายใน อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรเสียหายได้ เมาส์ (mouse) เป็นอุปกรณ์รับเข้าที่ใช้เลื่อนตัวชี้ตำแหน่ง ผู้ใช้สามารถบังคับเมาส์เพื่อควบคุมตัวชี้ตำแหน่งไปมาบนจอภาพได้ ปกติตัวชี้ตำแหน่งของเมาส์จะเป็นลูกศร ซึ่งจะเกิดการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้รวดเร็วกว่าแป้นพิมพ์ เมาส์โดยทั่วไปมี 3 ประเภท ดังนี้ 1. เมาส์แบบทั่วไป (mechanical mouse) เป็นเมาส์ที่ออกแบบโดยใช้ลูกบอลเป็นตัวจับทิศทางที่เมาส์เลื่อนไป ลูกบอลของเมาส์ มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ ที่ทำมาจากยางกลิ้งอยู่ด้านล่าง ซึ่งลากผ่านแผ่นรองเมาส์ (mouse pad) ในการเลื่อนตำแหน่งต่างๆบนจอภาพ สำหรับส่วนบนจะมีปุ่มให้เลือกกดประมาณ 2-3 ปุ่ม ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตบางแบบอาจมีปุ่มล้อที่หมุน (scroll) และกดได้ เพื่อควบคุมการทำงานขึ้นลงของแถบเลื่อนหน้าจอ (scroll bar) ในหน้าต่างโปรแกรมบางประเภท รูปที่ 3.12 เมาส์แบบทั่วไป ที่มา : https://sites.google.com/site/kroonom/_/rsrc/1337264455379/hnwy-rab-khxmul/scrollmouse.jpg?height=320&width=320 2. เมาส์แบบแสงหรือออปติคัลเมาส์ (optical mouse) เมาส์แบบนี้ทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ล้อหมุนแต่ใช้แสงส่องไปกระทบพื้นผิวด้านล่าง เนื่องจากการใช้เมาส์แบบทั่วไปที่ใช้ลูกบอลมีข้อเสีย คือ เมื่อใช้ไปนานๆ ลูกบอลจะกลิ้งผ่านและเก็บเอาฝุ่นละอองเข้าไปด้วยฝุ่นละอองเหล่านี้จะจับตัวกันหนาขึ้น ส่งผลให้กลไกในการทำงานผิดเพี้ยนไปโดยวงจรภายในเมาส์แบบแสง จะวิเคราะห์แสงสะท้อนที่เปลี่ยนไปเมื่อเลื่อนเมาส์และแปลงทิศทางเป็นการชี้ตำแหน่ง ข้อจำกัดของเมาส์แบบแสงหรือออปติคอลเมาส์ คือ ทำงานได้กับพื้นผิวที่ไม่เกิดการสะท้อนของแสง หากเป็นพื้นกระจกสะท้อนแสงหรือกระจกแบบที่แสงทะลุผ่านได้ เมาส์จะไม่สามารถใช้งานได้ รูปที่ 3.13 เมาส์แบบแสง ที่มา : http://www.wbac-pruksa.ac.th/file/Projects/Pictures/Optical_Mouse.jpg 3. เมาส์แบบไร้สาย (cordless หรือ wireless mouse) เมาส์ที่ใช้คลื่นวิทยุหรือแสงอินฟราเรดในการติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้มีการเคลื่อนไหวที่สะดวก ข้อจำกัดของเมาส์แบบไร้สาย คือ ใช้แบตเตอรี่ในการทำงาน และจะใช้ได้ในระยะที่ไม่ไกลจากตัวรับสัญญาณ รูปที่ 3.14 เมาส์แบบไร้สาย ที่มา: https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2010/09/WirelessMouseM310.png นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ที่มีการทำงานคล้ายเมาส์ ดังนี้ 1. ลูกกลมควบคุม (track ball) เป็นอุปกรณ์ที่มีลูกบอลขนาดเล็กวางอยู่ด้านบน ผู้ใช้สามารถบังคับลูกบอลให้หมุนไปมาเพื่อควบคุมตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพนิยมสร้างไว้กับเครื่องโน้ตบุ๊ก เพราะสะดวกต่อการใช้งาน และใช้พื้นที่น้อย ที่มา : http://images.highspeedbackbone.net/skuimages/large/L23-6146.jpg 2.แท่งชี้ควบคุม (track point) เป็นแท่งพลาสติกเล็กๆอยู่ตรงกลางแป้นพิมพ์ ผู้ใช้บังคับแท่งชี้ควบคุมโดยใช้นิ้วหัวแม่มือกดและเลื่อน เพื่อเลื่อนตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพได้ รูปที่ 3.16 แท่งชี้ควบคุม ที่มา : http://pic.shop.lenovo.com.cn/g1/M00/00/83/CmBZEFZeqSyAYlpTAAFuci7LKyc458.jpg
3. แผ่นรองสัมผัส (touch pad) เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมที่วางอยู่หน้าแป้นพิมพ์ของเครื่องโน้ตบุ๊ก ผู้ใช้สามารถใช้นิ้ววาดเพื่อเลื่อนตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพได้ รูปที่ 3.17 แผ่นรองสัมผัส ที่มา : http://isource.com/wp-content/uploads/2014/01/apple-macbook-pro-touchpad.jpg 4. จอยสติ๊ก (joystick) จะเป็นก้านสำหรับใช้โยกขึ้นลง/ซ้ายขวา เพื่อย้ายตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพ และมีแป้นกดสำหรับสั่งงานพิเศษ นิยมใช้กับการเล่นเกมคอมพิวเตอร์หรือควบคุมหุ่นยนต์ รูปที่ 3.18 จอยสติ๊ก ที่มา : https://f.ptcdn.info/600/030/000/1429699196-jjjjj-o.jpg 5. จอภาพสัมผัส (touch screen) ผู้ใช้เพียงสัมผัสนิ้วลงบนจอภาพในตำแหน่งที่กำหนดไว้ เพื่อเลือกการทำงาน หลักการนี้นิยมใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เพื่อช่วยให้ผู้ที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่คล่องสามารถเลือกใช้โปรแกรมที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว รูปที่ 3.19 จอภาพสัมผัส ที่มา : https://images-na.ssl-images-amazon.com/images/I/71ijb-mR21L._SL1500_.jpg 6. ปากกาแสง (light pen) เป็นอุปกรณ์ที่มีความสามารถไวต่อแสง โดยปากกาจะเป็นตัวกำหนดตำแหน่งบนจอภาพ รวมทั้งสามารถใช้วาดลักษณะหรือรูปแบบของข้อมูลให้ปรากฏบนจอภาพโดยการแตะปากกาไปบนจอภาพ รูปที่ 3.20 ปากกาแสง ที่มา : http://www.ipesp.ac.th/learning/071001/chapter3/pic/ligth.JPG การเลือกซื้อเมาส์ 1. การเลือกซื้อเมาส์ที่มีการออกแบบให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน ดังนี้
2. ควรเลือกเมาส์ที่มีขนาดเหมาะสมกับสรีระของมือผู้ใช้ 3. ควรทดลองใช้เมาส์ก่อนซื้อ เพื่อตรวจสอบลูกบอลและปุ่มกดบนเมาส์ว่าสะดวกต่อการใช้งานหรือไม่ การดูแลรักษาเมาส์ 1.ควรวางเมาส์บนแผ่นรองเมาส์ทุกครั้งที่ใช้งานและทำความสะอาดแผ่นรองเมาส์ โดยเช็ดด้วยผ้าแห้งอย่างสม่ำเสมอ 2. ควรทำความสะอาดบริเวณลูกบอลและก้านพลาสติกในตัวเมาส์อย่างสม่ำเสมอ โดยนำลูกบอลมาเช็ดด้วยผ้าแห้ง และใช้สำลีพันก้านชุบแอลกอฮอล์หมาดๆ เช็ดที่ก้านพลาสติก สแกนเนอร์ (scanner) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้หลักการของการส่องแสงไปยังข้อความ สัญลักษณ์หรือภาพ ที่ต้องการทำสำเนาภาพ จากนั้นข้อมูลที่ถูกอ่านจะถูกแปลงเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าและเก็บเป็นไฟล์ภาพ สแกนเนอร์ มี 3 ประเภท ดังนี้ 1. สแกนเนอร์มือถือ (handheld scanner) เป็นสแกนเนอร์ที่มีขนาดเล็ก สามารถถือและพกพาติดตัวได้สะดวกการใช้สแกนเนอร์มือถือนี้ ผู้ใช้ต้องถือตัวสแกนเนอร์เลื่อนผ่านบนภาพหรือเอกสารต้นฉบับที่ต้องการ รูปที่ 3.21 สแกนเนอร์มือถือ ที่มา : http://www.quinl.com/productImages/UploadImages/Prowill-RH900_854772.jpg 2. สแกนเนอร์แบบสอดกระดาษ (sheetfed scanner) เป็นสแกนเนอร์ที่ผู้ใช้ต้องสอดภาพหรือเอกสารเข้าไปยังช่องสำหรับอ่านข้อมูล (scan head) เครื่องชนิดนี้จะเหมาะสำหรับการอ่านเอกสารที่เป็นแผ่นๆ แต่ไม่สามารถอ่านเอกสารที่เย็บเป็นเล่มได้ รูปที่ 3.22 สแกนเนอร์แบบสอดกระดาษ ที่มา : http://product-images.www8-hp.com/digmedialib/prodimg/lowres/c03818775.png 3. สแกนเนอร์แบบแท่น (flatbed scanner) เป็นสแกนเนอร์ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน โดยการวางกระดาษเอกสารต้นฉบับที่ต้องการลงบนเครื่องสแกนเนอร์ทำให้ใช้งานง่าย รูปที่ 3.23 สแกนเนอร์แบบแท่น ที่มา : http://animationreporter.com/wp-content/uploads/2014/08/Flatbed-Scanner.jpg การเลือกซื้อสแกนเนอร์ 1. ควรเลือกที่มีความละเอียดในการสแกนที่เหมาะกับการนำไปใช้งาน 2. ควรเลือกซื้อยี่ห้อที่มีศูนย์บริการและมีการรับประกัน 1. ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยนำผ้าสะอาดไม่มีขนชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดกระจกของเครื่องสแกนเนอร์ 2. ปิดเครื่องทุกครั้งหลังการใช้งาน 3. หากกระดาษติดอย่ากระชาก ให้ค่อยๆ ดึงออก 4. ควรใช้สแกนเนอร์เป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการทำงานของเครื่อง อุปกรณ์จับภาพ (image capturing devices) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บภาพต้นฉบับในรูปดิจิทัล อุปกรณ์จับภาพมี 2 ชนิด ดังนี้ 1. กล้องถ่ายภาพดิจิทัล (digital camera) มีรูปร่างและการทำงานคล้ายกล้องถ่ายภาพ แต่ภาพนิ่งที่ได้จากกล้องดิจิทัลจะเป็นไฟล์ในหน่วยความจำของกล้องแทนฟิล์มซึ่งผู้ใช้สามารถดูภาพจากกล้องได้ทันที รูป 3.24 กล้องถ่ายภาพดิจิทัล ที่มา: http://www.100ydesign.com/graphic-design/images/slr-like.jpg 2. กล้องถ่ายวิดีโอดิจิทัล (digital video camera) มีรูปร่างและการทำงานคล้ายกล้องวิดีโอ แต่ภาพเคลื่อนไหวที่ได้จากกล้องถ่ายวิดีโอดิจิทัลจะเป็นไฟล์ในหน่วยความจำของกล้องแทนฟิล์ม นอกจากนี้กล้องถ่ายวิดีโอดิจิทัลยังสามารถจับภาพนิ่งได้ด้วย รูปที่ 3.25 กล้องถ่ายวิดีโอดิจิทัล ที่มา : https://th-live-03.slatic.net/p/2/15-tft-16-8-x-dv-1466078183-4143296-ff728068c6a1da4aeef0950885b45291.jpg การเลือกซื้ออุปกรณ์จับภาพ 1. ควรเลือกที่มีความละเอียดของภาพที่เหมาะกับการนำไปใช้งาน 2. ควรเลือกซื้อยี่ห้อที่มีศูนย์บริการและมีการรับประกัน การดูแลรักษาอุปกรณ์จับภาพ 1. ควรทำความสะอาดเลนส์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้มีฝุ่นบริเวณเลนส์ของกล้องโดยใช้ลูกยางเป่าฝุ่นละอองออกจากหน้าเลนส์ ห้ามใช้ปากเป่าที่หน้าเลนส์โดยตรง และเช็ดเลนส์ด้วยกระดาษสำหรับเช็ดเลนส์โดยเฉพาะ หรือใช้ผ้าที่มีเนื้อนุ่ม สะอาดและแห้งแทนก็ได้ 2. ควรเก็บกล้องไว้ในที่แห้งและเย็น ปราศจากฝุ่นละออง 3. ควรนำกล้องมาถ่ายภาพเดือนละประมาณ 1-2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการทำงาน และยืดอายุการใช้งานของกล้อง อุปกรณ์รับเสียง (audio-input devices) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับข้อมูลเสียงทั้งเสียงพูด เสียงเพลง และเสียงอื่นๆ จากนั้นอุปกรณ์จะแปลงสัญญาณเสียงที่มนุษย์เข้าใจให้อยู่ในรูปสัญญาณไฟฟ้าที่คอมพิวเตอร์นำไปประมวลผลได้ อุปกรณ์รับเสียงที่นิยมใช้ ได้แก่ ไมโครโฟน รูปที่ 3.24 ไมโครโฟน เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลในรูปแบบของเสียง ที่มา : https://img.tarad.com/shop/s/sumonhitech/img-lib/spd_20130219144603_b.jpg การเลือกซื้ออุปกรณ์รับเสียง 1. ควรเลือกซื้อให้เหมาะกับการใช้งาน
2. ควรเลือกซื้อยี่ห้อที่มีศูนย์บริการและการรับประกัน การดูแลรักษาอุปกรณ์รับเสียง 1. ควรใช้ไมโครโฟนตรงตามลักษณะของการใช้งาน 2. ควรวางไมโครโฟนเบาๆ และไม่ควรกระแทกไมโครโฟนกับพื้น 3. ควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้งาน โดยนำผ้าแห้งเช็ดให้สะอาดเพื่อป้องกันฝุ่นละออง และเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อสัปดาห์ละครั้ง |