พระอาการประชวร[แก้]
วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557 สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 4 ว่าพระอาการทั่วไปดีขึ้น อุณหภูมิพระวรกายลดลงจนเกือบเป็นปรกติ การเต้นของพระหทัยเป็นปรกติ พระอาการเจ็บแผลผ่าตัดบรรเทาลง เริ่มเสวยพระกายาหารได้ คณะแพทย์ฯ ได้ลดพระโอสถระงับการเจ็บลง และงดถวายน้ำเกลือทางหลอดพระโลหิต แต่ยังคงถวายสารอาหารและพระโอสถปฏิชีวนะทางหลอดพระโลหิต กับเฝ้าดูและพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป[2] ต่อมาในวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2557 สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 5 ว่าพระอาการทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ พระชีพจรและความดันพระโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปรกติ อุณหภูมิพระวรกายลดลงอีกจนเกือบเป็นปรกติ พระอาการเจ็บแผลผ่าตัดลดลงมาก เคลื่อนไหวพระวรกายได้ดีขึ้น หายพระหทัยปรกติ เสวยพระกระยาหารได้บ้าง[3] วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 สำนักพระราชวังแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินกลับไปประทับ ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวลอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 14.00 น. เพื่อเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ และเพื่อฟื้นฟูพระวรกายในพื้นที่อากาศบริสุทธิ์[4] วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 สำนักพระราชวังแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ตามคำกราบบังคมทูลเชิญเพื่อมาตรวจพระวรกายของคณะแพทย์ ผลการตรวจพบว่าพระโลหิต อุณหภูมิพระวรกาย ความดันพระโลหิตพระหทัย และระบบการหายพระทัยเป็นปกติ[5] พระอาการประชวรในช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559[แก้]ในวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559 มีความดันพระโลหิตลดต่ำลง คณะแพทย์จึงทำการรักษาด้วยพระโอสถปฏิชีวนะ และใช้สายสวนเข้าหลอดพระโลหิตดำเพื่อฟอกพระโลหิตระยะยาว แต่มีพระความดันพระโลหิตต่ำจึงใช้เครื่องช่วยหายพระทัย และมีการฟอกไต พระอาการไม่คงที่ ตามที่สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 37 ว่า[7]
หลังจากนั้น พระอาการเริ่มทรุดลงเรื่อยๆ ทรงมีภาวะการติดเชื้อและการทำงานของพระยกนะ (ตับ) และมีแถลงการณ์สำนักพระราชวัง รายงานพระอาการประชวรฉบับสุดท้าย คือ ฉบับที่ 38 ความว่า [8]
สวรรคต[แก้]
เคลื่อนพระบรมศพสู่พระบรมมหาราชวัง[แก้]ขบวนเคลื่อนพระบรมศพฯ จากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระบรมมหาราชวัง ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี[แก้]
ประชาชนถวายน้ำสรงพระบรมศพ[แก้]ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 14.00 น. สำนักพระราชวังให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง มีพสกนิกรเดินทางมาร่วมถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายเป็นจำนวนมาก [15] ประชาชนถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์[แก้]สำนักพระราชวังให้ประชาชนเข้าถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ [16] และได้จัดสมุดลงนามถวายความอาลัย ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ประชาชนถวายสักการะพระบรมศพ[แก้]สำนักพระราชวังได้รับพระราชานุญาต ให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เวลา 08.00 น.-21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป[ต้องการอ้างอิง] การแสดงความอาลัย[แก้]ภายในประเทศ[แก้]เว็บไซต์ในประเทศไทยเปลี่ยนสีเป็นขาว-ดำ เพื่อถวายความอาลัย รัฐบาลประกาศให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสา มีกำหนด 30 วัน และให้ข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจไว้ทุกข์มีกำหนด 1 ปี เริ่มนับแต่วันที่ 14 ตุลาคม เป็นต้นไป [18] รวมทั้งยังมีประกาศขอความร่วมมือให้งดจัดงานรื่นเริงต่างๆเป็นเวลา 30 วัน ส่งผลให้การแสดงรื่นรมย์ต่างๆเช่น คอนเสิร์ต งานมหกรรม กิจกรรมกีฬา การแสดงต่างๆ ต่างยกเลิกหรือเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด รวมทั้งสถานบันเทิงต่างๆหลายแห่งปิดการให้บริการชั่วคราว [19] และยังมีการประกาศให้วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เป็นวันหยุดราชการอีกด้วย [20] ด้าน ผู้บัญชาการทหารบก พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ได้ออกคำสั่งในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยทุกกองทัพภาคทั่วประเทศ เพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และเพื่อสร้างความเชื่อมั่น อบอุ่นใจ ให้ประชาชนว่า ทางกองทัพและคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงเวลาสำคัญของคนไทยทั้งประเทศ โดยจะคงมาตรการรักษาความปลอดภัยนี้ไว้แค่ช่วงเวลาระยะหนึ่ง จนกว่าจะเห็นว่าสถานการณ์จะบรรเทาความโศกเศร้าลง[21] ในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559 รัฐบาลจัดตั้งศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ โดยให้ พลเอก วิลาศ อรุณศรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ และให้สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็นเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ ในสื่อโชเซี่ยลมีเดีย มีการถวายความอาลัยเป็นจำนวนมากเช่นในเฟซบุ๊ก มีผู้ใช้งานจำนวนมากเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ถวายความอาลัย เพจดังต่างๆลงภาพถวายความอาลัยและงดโพสเนื้อหาบันเทิงเป็นการชั่วคราว [22] รวมทั้งทางเฟซบุ๊ก ยังได้มีการประกาศงดโฆษณาในเว็บไซต์ภาคภาษาไทยอย่างไม่มีกำหนดเพื่อถวายความอาลัย [23], กูเกิลประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนดูเดิลเป็นสีดำเพื่อถวายความอาลัย [24], ยูทูบได้มีการงดโฆษณาเป็นเวลา 7 วันเช่นกัน, ดาราและนักแสดงต่างร่วมกันถวายความอาลัยผ่านทางอินสตาแกรม และ ทวิตเตอร์ [25] ,นอกจากนี้เว็บไซต์ต่างๆทั่วประเทศได้เปลี่ยนสีเว็บเป็นขาวดำเพื่อถวายความอาลัย [26] หลังจากสำนักพระราชวังประกาศการสวรรคต สถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยทุกช่องได้ออกอากาศรายการพิเศษจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เป็นการฉายสารคดีพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชตลอดรัชสมัย สลับกับการแถลงการณ์ต่างๆที่เกียวข้องกับการสวรรคต วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ได้มีการถ่ายทอดสดการเชิญพระบรมศพจากโรงพยาบาลศิริราชไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยา ในพระบรมมหาราชวัง และพระราชพิธีสรงน้ำพระบรมศพ กระทั่งเวลา 00.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559 จึงเริ่มการออกอากาศรายการต่างๆตามปกติ (อย่างไรก็ตามพลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิดแถลงว่า รัฐบาลได้ขอความร่วมให้งดรายการตามปกติและรับสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เป็นเวลา 30 วัน ก่อนจะถูกยกเลิกไป [27]) กสทชได้ขอความร่วมมือให้งดรายการรื่นเริงต่างๆเป็นเวลา 30 วัน [28] ต่อมาในวันที่ 27 ตุลาคม 2559 กสทช ได้ออกแนวปฏิบัติในการนำเสนอรายการทางโทรทัศน์ โดยในช่วง 15-30 วัน หลังการสวรรคต ให้สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ระมัดระวังและตรวจสอบการนำเสนอเนื้อหา การวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งแสดงถึงหรือกล่าวถึงความขัดแย้งในด้านต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่ความแตกแยกในสังคม และขอความร่วมมือในการลดโทนสีรายการต่างๆ ไม่ให้ฉูดฉาดจนเกินไป ในช่วง 31-37 วันถัดมา สามารถนำรายการเด็ก รายการทั่วไป และรายการแนะนำเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ออกอากาศได้ โดยมีการควบคุมเนื้อหา และตั้งแต่วันที่ 38-100 หลังการสวรรคต สามารถนำรายการแนะนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ออกอากาศได้ แต่ไม่ควรมีเรื่องของความรุนแรง เรื่องทางเพศ และถ้อยคำหยาบคาย [29] ประโยชน์ของการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ด้วยตนเองมีอะไรบ้าง? * ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างช่างติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์. เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยได้ฝึกทักษะการปฏิบัติงานช่างและได้ผลิตภัณฑ์ ... . สร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ทำ. เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง เพราะได้ใช้ความรู้และทักษะงานช่างที่มี มาติดตั้งและประกอบ ... . ฝึกความละเอียด รอบครอบ และอดทนในการทำงานให้สำเร็จ. นักเรียนจะนำความรู้เรื่องการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ไปใช้ประโยชน์อย่างไรประโยชน์ของการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง – สามารถทำให้เราใช้เวลาว่างได้อย่างเกิดประโยชน์ – ทำให้เราสามารถฝึกด้วยตนเองได้ – ทำให้เราเกิดความภาคภูมิใจ และสามารถเป็นแนวคิดที่จะนำไปประกอบอาชีพได้
เพราะเหตุใดจึงควรติดตั้งและประกอบของใช้ในบ้านตัวเองการติดตั้งและประกอบของใช้ในบ้าน เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รู้จักนำวัสดุที่เหลือใช้มาประกอบเป็นของใช้ภายในบ้านได้อย่างมีคุณภาพ เกิดความภาคภูมิใจ และเกิดทักษะการสร้างชิ้นงาน เพื่อเป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพในอนาคตได้
องค์ประกอบสำคัญในการติดตั้งผลิตภัณฑ์ให้ผลงานมีคุณภาพขึ้นอยู่กับองค์ประกอบใดบ้าง *องค์ประกอบสำคัญในการติดตั้้งผลิตภัณฑ์ให้ผลงานมีคุณภาพขึ้นอยู่กับองค์ประกอบใดบ้าง ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้เรื่องคุณสมบัติของวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือช่าง ผู้ปฏิบัติงานต้องมีทักษะและความชำนาญในการใช้อุปกรณ์และเเครื่องมือติดตั้ง ผุ้ปฏิบัติงานต้องมีทักษะในการอ่านแบบจากคุ่มือหรือภาพที่แนบมากับผลิตภัณฑ์
|