งาน แต่ง ต้อง ใช้ อะไร บ้าง

ก้าวต่อไปที่คุณต้องเจอ หากฝ่ายหญิง Say yes! หรือถ้าเราเป็นฝ่ายที่ตอบตกลงในการขอแต่งงาน คือ ขั้นตอนที่หลายคนมองว่าวุ่นวายและน่าปวดหัวที่สุด นั่นคือการเตรียมงานแต่งนั่นเอง แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่า งานแต่งงาน เป็นพิธีสำคัญที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่งหนึ่งสำหรับเจ้าบ่าวและเจ้าสาว แบบนี้ต่อให้วุ่นวายแค่ไหน ก็ต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อเตรียมงานแต่งให้ออกมาตรงกับที่เราฝันเอาไว้

วันนี้ ShopBack จึงได้จัดลิสต์ How to แบบขั้นตอนการเตรียมงานแต่งงาน อัพเดทล่าสุดให้เหมาะสมกับคู่รักที่มีแพลนจัดงานแต่งในปี 2019 โดยเน้นการจัดงานแต่งที่ทั้งคูลและประหยัดได้อีก โดยเริ่มนับถอยหลังการเตรียมพร้อมตั้งแต่ 6 เดือนก่อนถึงฤกษ์แต่งงาน ใครที่กลัวว่าการวางแผนต่างๆ จะเครียด จะวุ่นวาย หรือทำให้คุณและคนรักปวดหัวล่ะก็ ต้องบุ๊กมาร์ค How to ของเราฉบับนี้เอาไว้แล้วค่ะ!

คลิกสมัครใช้ ShopBack         รับข่าวสารเงินคืน         แชร์โปร เก็บดีล 

ShopBack Tips : ก่อนเริ่มขั้นตอนเตรียมงานแต่งแบบประหยัด ฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต้องมาคุยกันก่อนว่าจะจัดงานแบบไหน พิธีหมั้นและงานเลี้ยงจัดในวันเดียวกันเลยหรือเปล่า ค่าใช้จ่ายต่างๆ จะช่วยกันออกอย่างไร เรื่องเหล่านี้ควรปรึกษากันให้ชัดเจนก่อนเริ่มขึ้นตอนเตรียมงานทั้งหมด จากนั้นเมื่อตกลงกันได้แล้ว ลองมาดูเลยว่าในแต่ละช่วงเราจะเตรียมตัวกันยังไงบ้าง ที่สำคัญอย่าลืมตรวจเช็คสุขภาพร่างกายให้พร้อมลุยงานหนักตลอดเวลา 6 เดือนก่อนแต่งด้วยแอพสุขภาพเอาไว้ด้วยนะคะ

เตรียมงานแต่ง ทำอะไรบ้าง? นับถอยหลัง 6 เดือน จัดงานแต่งงาน

• 6 เดือนก่อนวันแต่งงาน

กำหนดงบประมาณสำหรับการเตรียมงานแต่ง เพื่อให้สามารถกำหนดขอบเขตของการจัดงานและภาพรวมต่างๆ ได้ จากนั้นทำการหาฤกษ์วันมงคลที่เหมาะสมเตรียมไว้อย่างน้อย 2 วัน หากใครไม่ถือเรื่องฤกษ์มงคลก็อาจเลือกจาก ‘ฤกษ์สะดวก’ หรือก็คือวันที่คุณและคนรักสะดวกที่สุดก็ได้

เมื่อกำหนดงบประมาณและรู้วันจัดงานที่แน่นอนแล้ว จึงเริ่มหาข้อมูล ดูรีวิวสถานที่จัดงาน มองหารีวิวออแกไนเซอร์ที่รับจัดงานแต่ง หรือถ้าอยากจัดงานเองก็ลองดูรีวิวจากคู่อื่นเยอะๆ เพื่อหาแรงบันดาลใจ

เลือกธีมงานที่ชอบ จากนั้นทำการลิสต์รายชื่อแขกสำคัญที่ต้องไม่พลาดเชิญมาร่วมงาน เช่น พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ หรือเจ้านายที่เราเคารพ เป็นต้น

• 5 เดือนก่อนวันแต่งงาน

เริ่มเดินสายดูสถานที่เตรียมงานแต่ง เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียและเลือกสถานที่ที่เราถูกใจที่สุดพร้อมจองล่วงหน้าและจ่ายมัดจำให้เรียบร้อย ซึ่ง ShopBack มีงบประมาณคร่าวๆ ของธีมแต่งงานยอดนิยมอย่างการจัดงานแต่งเล็กๆ ริมทะเล กับงานแต่งในโรงแรมมาฝากเป็นไกด์ให้ค่ะ

อยากแต่งงานริมทะเล

แน่นอนว่าจัดงานแต่งริมทะเลก็ต้องเลือกสถานที่เป็นชายหาด แต่จะเลือกหาดไหนก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณของคุณค่ะ สำหรับตัวอย่างงบประมาณคร่าวๆ ที่เรานำมาฝาก จะอ้างอิงจากงานแต่งขนาดเล็กงบประหยัดแต่อบอุ่น มีแขกไม่เกิน 100 คน โดยหาดแต่ละที่จะมีงบที่ต้องใช้ ดังนี้

• ชายหาดพัทยา-บางแสน ใช้งบประมาณจัดงานแต่งประมาณ 150,000-40,000 บาท
• ชายหาดหัวหิน-ปราณบุรี ใช้งบประมาณจัดงานแต่งประมาณ 70,000-300,000 บาท
• ชายหาดระยอง-ตราด และเกาะต่างๆ ใช้งบประมาณจัดงานแต่งประมาณ 200,000-300,000 บาท
• ชายหาดกระบี่-ภูเก็ต ใช้งบประมาณจัดงานแต่งประมาณ 40,000-70,000 บาท

อยากแต่งงานที่โรงแรม

• งานแต่งขนาดเล็ก งานแต่งขนาดเล็กที่มีแขกไม่เยอะ จัดโต๊ะอาหารประมาณ 50 โต๊ะ งบประมาณมาตรฐานจะอยู่ที่ 30,000 บาท ซึ่งรวมการตกแต่งสถานที่ Back drop โต๊ะรับรองแขก อาหารทั้งคาวหวานและเค้กเรียบร้อยแล้ว แต่เมนูอาจมีให้เลือกไม่เยอะและไม่มีบริการเสริมอื่นๆ
• งานแต่งขนาดกลาง สำหรับงานที่แขกมีจำนวนมากขึ้น แพ็คเกจก็มีราคาสูงขึ้นเช่นกัน แต่ก็ยังรวมถึงอาหารและเค้ก การตกแต่งสถานที่ มุมถ่ายรูป Back drop โต๊ะรับรอง การประดับตกแต่งที่สวยงามและดูพรีเมี่ยมขึ้น ส่วนงบประมาณก็อยู่ที่ 50,000-200,000 บาท อาจมีบริการอื่นๆ อย่างวงดนตรีหรือบริการให้เช่าชุดร่วมด้วยแล้วแต่ขนาดของห้อง เมนูอาหาร และสไตล์การตกแต่งที่คุณเลือก
• งานแต่งขนาดใหญ่ งานแต่งขนาดใหญ่หรืองานระดับหรูที่จัดตามโรงแรม 5 ดาวจะมีราคาสูงกว่าที่เรากล่าวมา นั่นคืองานในระดับนี้จะต้องใช้งบตั้งแต่ 200,000 บาทไปจนถึง 500,000 บาท บาท แต่การตกแต่งสถานที่และอาหารก็จะหรูหราสมราคาตามไปด้วยค่ะ

หลังจากเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานของเราได้แล้ว ให้เริ่มมองหาร้านเช่าชุดและทำการจองเอาไว้ให้เรียบร้อยเลยนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นในวันงานของคุณอาจต้องเสียใจเพราะชุดที่เล็งไว้โดนเช่าไปก่อน

เมื่อจัดการเรื่องสถานที่และชุดเรียบร้อย จึงเป็นส่วนของงานจิปาถะ เช่น จองช่างแต่งหน้า ช่างทำผม และวงดนตรี ถ้าเราไม่ได้ใช้บริการออแกไนเซอร์หรือซื้อแพ็คเกจของโรงแรมไว้ต้องรีบจองตั้งแต่เนิ่นๆ ขอย้ำว่าห้ามชะล่าใจเด็ดขาด!

• 4 เดือนก่อนวันแต่งงาน

ตรวจสอบความเรียบร้อยของเช็คลิสต์สัญญาที่เราทำการจองเอาไว้ทั้งหมดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม เช่าชุด ช่างแต่งหน้าทำผม วงดนตรี ช่างภาพ หรือสัญญาที่สำคัญอื่นๆ

จากนั้นเป็นขั้นตอนการเลือกร้านอาหาร อย่าลืมเลือกแบบเค้กพร้อมสั่งจองวันเวลาทำเค้กเอาไว้ด้วยเลยนะคะ ในส่วนนี้ใครจัดงานที่โรงแรมก็สามารถเลือกรายการอาหาร เลือกแบบเค้กที่มีมาพร้อมแพ็คเกจและนัดวันชิมอาหารกับทางโรงแรมได้เลย

• 3 เดือนก่อนวันแต่งงาน

เริ่มเตรียมของชำร่วยและการ์ด โดยเริ่มจากมองหาแบบการ์ดที่ชอบ สามารถจ้างกราฟิกดีไซเนอร์ออกแบบก็ได้ แต่ใครอยากเตรียมงานแต่งแบบประหยัด เดี๋ยวนี้เราสามารถหากราฟิกน่ารักๆ หลากหลายสไตล์ แถมยังแจกให้เรานำมาใช้แบบฟรีไม่ติดลิขสิทธิ์ได้ตามเว็บไซต์ Stockphoto ทำให้เราออกแบบการ์ดลายสวยถูกใจได้เองโดยไม่ต้องง้อการจ้างกราฟิกเลยล่ะ

สำหรับของชำร่วย มองหาร้านน่ารักราคาถูกใจแล้วจึงเลือกแบบของชำร่วยที่ชอบ สั่งทำล่วงหน้าให้เกินจำนวนแขกเล็กน้อย

เมื่อพิมพ์การ์ดเรียบร้อยแล้วให้ทำการส่งการ์ดไปให้แขกที่อยู่ไกลก่อน ส่วนใครที่คุณสามารถเดินทางไปเชิญด้วยตัวเองได้ ก็ให้ทำการไปเชิญด้วยตัวเองค่ะ

ShopBack Tips : ปัจจุบันของชำร่วยมีหลายแบบหลายสไตล์มากขึ้น คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้ของชำร่วยที่มีความหมายดีๆ มากกว่าเลือกจากความหรูหรา หากเราต้องการเตรียมงานแต่งแบบประหยัด ก็ลองหันมาออกแบบหรือเลือกของชำร่วยที่ราคาไม่แพงแต่มีความหมายและสามารถนำไปใช้ได้จริง เช่น ต้นไม้ขนาดเล็กอย่างแคคตัส ขวดใส่น้ำผึ้งหอมหวาน หรือแม้แต่กระปุกออมสินขนาดเล็ก สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้แขกประทับใจแถมยังไม่เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุอีกด้วย ใครที่อยากมองหาของชำร่วยน่ารัก ความหมายดี แถมยังประหยัดเมื่อสั่งซื้อจำนวนมาก ลองเลือกช้อปจาก Aliexpress ผ่าน ShopBack กันได้เลยค่ะ

• 2 เดือนก่อนวันแต่งงาน

ใกล้เข้ามาอีกเดือน ช่วงนี้หลายคนจะทั้งเครียดและตื่นเต้น ขอบอกว่าให้ทำใจสบายๆ ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจให้มากที่สุด จากนั้นจึงทำการตรวจสอบความเรียบร้อยทั้งหมดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นวัน เวลา สถานที่ สัญญาจองที่เราทำไว้ทั้งหมด ของชำร่วย การ์ด อาหารและเค้ก

ส่วนใครที่อยากถ่ายรูปพรีเวดดิ้งสวยๆ เอาไว้ตั้งโชว์ในงานแต่งหรือนำไปทำ presentation ช่วงนี้ก็เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายค่ะ เพราะเป็นเวลาที่เราว่างจากการตระเวนหาสถานที่เตรียมงานแต่งหรือเดินทางไปทำสัญญาทั้งหลาย คุณและคุณแฟนจึงมีเวลาให้กับการถ่ายพรีเวดดิ้งอย่างเต็มที่ แถมยังเผื่อให้ช่างภาพคู่ใจได้แต่งรูป อัดรูป และทำอัลบั้มสำหรับวางโชว์ในวันแต่งได้แบบไม่รีบเกินไปอีกด้วย

ShopBack Tips : ความเครียดเป็นตัวการร้ายที่จะเข้ามาทำลายความรู้สึกดีๆ ระหว่างคุณและคนรัก โดยเฉพาะในช่วงเตรียมงานแต่งซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญ อาจต้องเจอกับความวุ่นวายและน่าปวดหัวหลายอย่างเพราะเราต้องดีลงานร่วมกับคนอื่นด้วย เพราะฉะนั้นถึงไม่ได้เรียนแพทย์แผนไทยมาคุณก็สามารถเลือกผ่อนคลายความเครียดได้ด้วยตัวเอง อาจลองเข้าสปา เข้าคอร์สเจ้าสาว-เจ้าบ่าว หรือหาวันว่างไปนวดไทยเพื่อผ่อนคลาย อย่าปล่อยให้ความเครียดมาทำลายช่วงเวลาดีๆ ของคุณทั้งสองคนจะดีที่สุด จากนั้นเมื่อดูแลความเครียดภายในจิตใจกันไปแล้ว อย่าลืมดูแลร่างกายภายนอกให้ดูดี ไม่โทรมด้วยสกินแคร์จาก Konvy ผ่าน ShopBack ที่มีให้เลือกทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิง เพื่อให้คุณทั้งคู่ดูดีที่สุดก่อนถึงวันแต่ง

• 1 เดือนก่อนวันแต่งงาน

ตรวจสอบรายชื่อแขกทั้งหมด ปรับแผนการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด คอนเฟิร์มสัญญากับสถานที่ ออแกไนเซอร์ หรือบรรดาร้านเช่าชุด แต่งหน้า ทำผมอีกครั้ง

หากใครเลือกเตรียมงานแต่งโดยจัดพิธีสงฆ์ที่บ้านก็ให้ซื้อของสำหรับงานพิธีเอาไว้ให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสังฆทานหรือเครื่องพระอื่นๆ ปัจจุบันเราสามารถสั่งซื้อผ่าน Lazada ผ่าน ShopBack ได้ง่าย สะดวก รวดเร็วแถมได้เงินคืน หรือจะเดินทางไปที่ร้านสังคภัณฑ์และแจ้งความต้องการกับทางรานเพื่อให้ร้านจัดเตรียมของแบบครบชุดให้ก็ได้ หลังจากนั้นก็คือการเตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อมสำหรับวันแต่งงานของคุณค่ะ

การเตรียมงานแต่งโดยนับถอยหลังช่วง 6 เดือนเป็นเวลาที่กำลังดี ไม่สั้นหรือยาวเกินไป แถมยังเป็นระยะเวลาที่มากพอสำหรับการเตรียมงานแต่งและการจองสิ่งต่างๆ ล่วงหน้า ไม่ต้องเข้าคอร์สออนไลน์ก็สามารถจัดงานแต่งแบบประหยัด อบอุ่น น่ารักอย่างที่คุณต้องการได้เองด้วย How to การเตรียมพร้อมสำหรับงานแต่งงานที่เรานำมาฝากในวันนี้ค่ะ รู้แบบนี้แล้วใครที่มีแพลนแต่งงานปี 2019-2020 ก็อย่าลืมเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือนและนำเอาคู่มือฉบับนี้ไปปรับใช้กันดูได้เหมือนกันนะคะ

ต้องเตรียมอะไรบ้างในงานแต่ง

งานแต่งต้องมีพิธีอะไรบ้าง

งานแต่ง ฝ่ายชายต้องเตรียมอะไรบ้าง

งานแต่งงานฝ่ายหญิงต้องเตรียมอะไรบ้าง