Show สำนักจุฬาราชมนตรี ออกประกาศ "วันฮารีรายอ" หรือ "วันอีฎิ้ลฟิตริ" (อีดิลฟิตรี) วันออกบวชตรงกับวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 .เมื่อวันที่ 11 พ.ค.64 สำนักจุฬาราชมนตรี ได้เผยแพร่ประกาศผลการดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนเซาวาล (วันอีฏิ้ลฟิตริ) ฮ.ศ.1442
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อีดิลอัฎฮา (อาหรับ: عيد الأضحى, อักษรโรมัน: ʿīd al-ʾaḍḥā, แปลตรงตัว'เทศกาลเชือดพลี', สัทอักษรสากล: [ʕiːd alˈʔadˤħaː]) หรือ อีด กุรบ่าน (เปอร์เซีย: عيد قربان) ภาษามลายูปัตตานีเรียก ฮารีรายอฮัจยี และไทยมุสลิมภาคกลางเรียก วันอีดใหญ่ เป็นวันหยุดอิสลามอันที่สองที่ฉลองทั่วโลก (อีกอันคืออีดิลฟิฏร์) เพื่อยกย่องอิบรอฮีมที่จะเชือดพลีลูกชายของท่าน เพื่อทำตามคำสั่งของอัลลอฮ์ แต่ก่อนที่อิบรอฮีมเชือดพลีลูกชายของตนเอง พระองค์ให้ท่านเชือดแกะแทน โดยจะถูกแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนหนึ่งให้คนจนและคนที่ต้องการ อีกส่วนให้เก็บที่บ้าน และส่วนที่สามเอาไปแจกให้กับญาติ ตามปฏิทินอิสลาม อีดิลอัฎฮา อยู่ในวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮ์ และมีระยะเวลาสามวัน ชื่ออื่น[แก้]นี่คือตัวอย่างรายชื่อของอีดิลอัฎฮาในแต่ละภาษา:
ศัพทมูลวิทยา[แก้]คำว่า عيد (อีด) หมายถึง 'เทศกาล', 'การฉลอง', 'วันฉลอง' หรือ 'วันหยุด' โดยเป็นรากสามอักษรว่า عيد ซึ่งหมายถึง "เพื่อกลับไป, ยกเลิก, สะสม, คุ้นเคย, นิสัย, ทำซ้ำ, ได้รับประสบการณ์; มอบมายเวลาหรือสถานที่, ครบรอบ, วันฉลอง"[6][7] อาเทอร์ เจฟเฟอรีโต้แย้งศัพทมูลวิทยานี้ และเชื่อว่าคำนี้ยืมมาจากภาษาซีรีแอก หรือภาษาตาร์คุม[8] คำว่า أضحى (อัฎฮา) กับ قربان (กุรบาน) มีความหมายเดียวกันคือ 'เชือดพลี' (เชือดพลีสัตว์), 'เครื่องบูชา' หรือ 'เครื่องเซ่น' คำแรกมาจากรากสามอักษรว่า ضحى (เฎาะฮ์ฮา) ซึ่งหมายถึง "สังเวย ; ถวาย ; บูชายัญ ; ทำให้เป็นเหยื่อ"[9] ไม่มีการปรากฏของรากนี้ที่ใกล้เคียงกับการบูชายัญในอัลกุรอาน[6] แต่พบได้ในฮะดีษ อาเทอร์ เจฟเฟอรีพบว่าคำนี้มีที่มาจากรากศัพท์ภาษาฮีบรูเหมือนกัน แต่เชื่อว่าคำนี้อาจนำเข้ามาจากภาษาแอราเมอิก[8] ซึ่งเทียบกับภาษาฮีบรูว่า โกรบาน קָרבן (qorbān). ต้นกำเนิด[แก้]เจ้าของล้างวัวก่อนนำไปที่ตลาดโค ภาพที่ Boshila, ธากา, ประเทศบังกลาเทศ หนึ่งในบททดสอบของอิบรอฮีมเพื่อทำตามคำสั่งของอัลลอฮ์คือเชือดพลีลูกชายที่รักของตนเอง[10] ในศาสนาอิสลาม อิบรอฮีมเก็บความฝันของตนเองที่เชือดอิสมาอีล อิบรอฮีมรู้ว่าเป็นคำสั่งจากอัลลอฮ์ และพูดเรื่องนี้กับลูกชายของท่าน ตามที่กุรอานกล่าวไว้ว่า "โอ้ลูกเอ๋ย ! แท้จริงพ่อได้เห็นในขณะฝันว่า พ่อได้เชือดเจ้า" อิสมาอีลกล่าวว่า " โอ้พ่อจ๋า! พ่อจงปฏิบัติตามที่พ่อได้ถูกบัญชามาเถิด" อิบรอฮีมจึงเตรียมของเพื่อเชือดลูกชายของตนเองด้วยความศรัทธาและเชื่อฟังของอัลลอฮ์[11] ในระหว่างที่เตรียมตัวนั้น ชัยฏอนพยายามล่อลวงอิบรอฮีมและครอบครัวของท่านโดยการขัดขวางเขาจากคำสั่งของอัลลอฮ์ และอิบรอฮีมขว้างก้อนกรวดใส่มัน เพื่อระลึกถึงการปฏิเสธชัยฏอน จึงมีการขว้างหินที่เสาหินในช่วงพิธีฮัจญ์[12] เมื่อรู้ว่าอิบรอฮีมจะเชือดพลีในสิ่งที่ตนรักแล้ว อัลลอฮ์ทรงยกย่องทั้งอิบรอฮีมและอิสมาอีล ญิบรีลเรียกอิบรอฮีมว่า "โอ้ อิบรอฮีมเอ๋ย! “แน่นอน เจ้าได้ปฏิบัติถูกต้องตามฝันแล้ว" และส่งแกะตัวผู้จากสวรรค์มาเชือดแทนอิสมาอีล มุสลิมทั่วโลกฉลองอีดิลอัฎฮาเพื่อรำลึกถึงความจงรักภักดีของอิบรอฮีมและการรอดพ้นของอิสมาอีล[13][14][15] เรื่องราวนี้เป็นที่รู้จักในศาสนายูดายว่าการมัดอิสอัคซึ่งพบในคัมภีร์โทราห์[16]หนังสือเล่มแรกของโมเสส (ปฐมกาล, ตอน 22) ในอัลกุรอานได้กล่าวถึงการมัดอิสมาอีลไว้ว่า:[17]
คำว่า "อีด" พบในซูเราะฮ์อัลมาอิดะฮ์ ซึ่งหมายถึง "วันรื่นเริง"[19] จุดประสงค์[แก้]จุดประสงค์ของกุรบ่านหรือเชือดพลีไม่ได้เป็นการทำให้เลือดไหลเพื่อให้อัลลอฮ์พอใจ แต่เป็นการเชือดพลีสิ่งที่ผู้มีใจศรัทธารักมากที่สุด เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่ออัลลอฮ์[20] เป็นข้อบังคับที่จะต้องแบ่งเนื้อที่ผ่านการเชือดพลีไปเป็นสามส่วน - สำหรับครอบครัว, สำหรับญาติกับผองเพื่อน และสำหรับคนยากจน ละหมาดอีด[แก้]ดูบทความหลักที่: ละหมาดอีด การละหมาดอีดจะเริ่มขึ้นตอนดวงอาทิตย์พ้นขอบฟ้าในวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮ์ ถ้ามี เหตุสุดวิสัย (เช่นภัยพิบัติธรรมชาติ) การละหมาดอาจจะเลี่อนไปเป็นวันที่ 11 และ 12 ซุลฮิจญะฮ์[21] ในช่วงเวลาละหมาด จะมี 2 เราะกะอัต และ 7 ตักบีร ในเราะกะอัตแรกกับ 5 ตักบีรในเราะกะอัตที่สอง สำหรับชีอะฮ์แล้ว การละหมาดอีดจะไม่มีการ อะซาน หรือ อิกอมะฮ์[22][23] หลัง ละหมาด เสร็จแล้ว ก็ตามมาด้วยคุตบะฮ์โดยอิหม่าม หลังละหมาดหรือเทศนาเสร็จแล้ว มุสลิมจะโอบกอดและกล่าวทักทายซึ่งกันและกัน (อีดมุบาร็อก) ให้ของขวัญ และเยี่ยมญาติ มุสลิมหลายคนใช้โอกาสนี้ในการเชิญชวนเพื่อน, เพื่อนบ้าน, เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนร่วมห้องในเทศกาลอีด เพื่อให้พวกเขารู้จักอิสลามและวัฒนธรรมมุสลิมได้ดีกว่าเดิม[24] ธรรมเนียม[แก้]ในช่วงอีดิลอัฎฮา จะมีการกล่าว ตักบีร อย่างเสียงดังก่อนละหมาดอีด และหลังละหมาดอีกสามวัน โดยถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากในเทศกาลอิสลาม[25] และจะกล่าว ตักบีร แบบนี้:[26]
หนึ่งในธรรมเนียมที่สำคัญของอีดิลอัฎฮาคือการเชือดพลีสัตว์ ชายหญิง และเด็ก ๆ จะใส่เสื้อที่ดูดีเพื่อไปละหมาดอีดกลุ่มในลานกว้างหรือมัสยิด มุสลิมที่มีฐานะมั่งคั่งพอที่จะซื้อสัตว์ที่ฮะลาลมาเชือดพลี (ส่วนใหญ่เป็นวัว และก็มีสัตว์ตัวอื่นขึ้นอยู่กับประเทศ เช่นอูฐ, แพะ หรือแกะ) เป็นสัญลักษณ์ของความเต็มใจของอิบรอฮีมในการเชือดลูกชายคนเดียวของตนเอง[27] การเชือดพลีสัตว์ เรียกว่า อัฎฮียะฮ์ (อาหรับ: أضحية) ที่มาจากคำภาษาอาหรับ-เปอร์เซียว่า กุรบานี ตัวสัตว์จะต้องมีอายุและคุณภาพตามมาตรฐาน ไม่เช่นนั้น การเชือดพลีจะไม่เป็นผล[28] ที่ประเทศปากีสถาน มีสัตว์ถูกเชือดเกือบ 10 ล้านตัวในวันอีด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวมกว่า 2.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[29] เนื้อจากการเชือดพลีจะถูกแบ่งเป็นสามส่วน โดยส่วนหนึ่งถูกแบ่งให้ครอบครัว อีกส่วนแบ่งให้ญาติ, เพื่อน และเพื่อนบ้าน และส่วนที่เหลือแบ่งให้กับคนจนและคนที่ต้องการ[27] หมายเหตุ[แก้]
อ้างอิง[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
|