วิกฤตโควิด-19 ทำให้ ‘การบินไทย’ อยู่ในภาวะระส่ำระสายจากการขาดรายได้ กลายเป็นที่มาที่ทำให้ต้องหารายได้ใหม่เพื่อเข้ามาพยุงธุรกิจ Show
ไม่ว่าจะเป็น การขายปาท่องโก๋, เปิดร้านอาหาร Royal Orchid Dining Experience ซึ่งเป็นการนำเมนูที่ปกติแล้วจะให้บริการใน Business Class และ First Class มาเสิร์ฟ, กระเป๋า Re-Life Collection ที่ดัดแปลงมาจาก Life Vest (เสื้อชูชีพ) และ Slide Raft (แพยาง) บนเครื่องบินที่หมดอายุการใช้งานแล้ว หุ้นสายการบินนกแอร์, หุ้นบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), เครื่องยนต์ของเครื่องบิน Boeing 737-400 ที่ไม่ได้ใช้งาน (จำนวน 5 เครื่องยนต์) และอาคารศูนย์ฝึกอบรมหลักสี่ ซึ่งถูกระบุว่าไม่ได้เป็นทรัพย์สินหลักที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจการบิน และล่าสุดการบินไทยได้วางขาย ‘DIY ครัวซองต์’ ขนมยอดฮิตที่กำลังเป็นกระแสในหมู่ผู้บริโภค ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า TAGS:
ABOUT THE AUTHORถนัดกิจ จันกิเสนContent Creator ประจำกองบรรณาธิการ THE STANDARD WEALTH จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สำนักงานการบินไทย สาขาท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไทยมีมติให้ บริษัท เดินอากาศไทย จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจสายการบินภายในประเทศอยู่ในขณะนั้น กับสายการบินสแกนดิเนเวียน (SAS) สายการบินร่วมของประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ทำสัญญาร่วมทุนระหว่างกันเพื่อดำเนินธุรกิจการบริการสายการบินระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2502 จากนั้นในวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2503 ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท การบินไทย จำกัด ด้วยทุนประเดิม 2 ล้านบาท โดยเที่ยวบินแรกคือจากกรุงเทพฯ ไปยังฮ่องกง เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ปีเดียวกัน ต่อมาในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2520 SAS คืนหุ้นให้เดินอากาศไทย หลังจากครบระยะเวลาตามสัญญาร่วมทุน แล้วโอนให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ตามมติคณะรัฐมนตรี และเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2531 เดินอากาศไทยได้ควบรวมกิจการเข้ากับการบินไทย เพื่อให้เป็นสายการบินแห่งชาติตามมติคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ จากนั้นในวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 การบินไทยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามมติคณะรัฐมนตรี และแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเมื่อปี พ.ศ. 2537[1] รายชื่อผู้บริหาร[แก้]กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี)[แก้]
ประวัติ[แก้]พ.ศ. 2503-2512[แก้]
พ.ศ. 2513-2522[แก้]B747-200 ประจำการลำแรก 2 พฤศจิกายน ปี 2522
ต่อมาในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2520 เอสเอเอสคืนหุ้นให้เดินอากาศไทย หลังจากครบระยะเวลาตามสัญญาร่วมทุน แล้วโอนให้แก่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ตามมติคณะรัฐมนตรี พนักงานคนแรกได้แก่ กัปตัน พร้อม ณ ถลาง อีกทั้งยังเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของการบินไทยในปี พ.ศ. 2522 - 2523 อีกด้วย
พ.ศ. 2523-2532[แก้]B747-300 HS-TGD ประจำ 16 ธันวาคม 2530 บีเออี 146-300 ของการบินไทยประจำการลำแรก 23 มิถุนายน 2532 ในรูปเป็นลำที่สอง HS-TBM
รับเครื่องบินแบบโบอิง 747-300 จำนวน 2 ลำ[9]ทะเบียน HS-TGD รับวันที่ 16 ธันวาคม HS-TGE รับวันที่ 3 ธันวาคม เป็นเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดของการบินไทย
วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2531 เดินอากาศไทยซึ่งดำเนินธุรกิจสายการบินภายในประเทศ ก็รวมกิจการเข้ากับการบินไทย เพื่อให้สายการบินแห่งชาติเป็นหนึ่งเดียว ตามมติคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ จากนั้นในวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 การบินไทยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี และจดทะเบียนแปลงสภาพเป็นบริษัทจำกัดมหาชน เมื่อปี พ.ศ. 2537[12]
พ.ศ. 2533-2542[แก้]B747-400 HS-TGA ประจำการ 2พฤศจิกายน ปี 2533 McDonnell Douglas MD-11 HS-TMD ประจำการ 27 มิถุนายน ปี 2534
พ.ศ. 2543–2552[แก้]A340-541 ประจำการลำแรก 6 เมษายน ปี 2548 ในรูปคือ HS-TLB เป็นลำที่สอง A340-642 HS-TNA ประจำการ 29 มิถุนายน ปี 2548 A330-343X HS-TEN ประจำการ 1 เมษายน พ.ศ. 2552
เปิดเส้นทางบินใหม่ไปยัง มุมไบ ประเทศอินเดีย ในวันที่ 30 ตุลาคม
ในวันที่ 29 ตุลาคม ปี พ.ศ. 2545 การบินไทยเปิดเส้นทางบินใหม่กรุงเทพ แวะกรุงเอเธนส์ ไปกรุงเจนีวา
[21]
พ.ศ. 2553–2562[แก้]A380-841 HS-TUA ประจำการลำแรก 26 กันยายน พ.ศ. 2555
B777-300ER HS-TKU ประจำการลำแรก 21 มกราคม พ.ศ. 2557 Boeing 787-8 Dreamliner เช่ามาประจำการลำแรก 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ในรูปเป็นลำที่หก HS-TQF A350-900 XWB ประจำการลำแรก 1 กันยายน 2559 ในรูปเป็น HS-THB
พ.ศ. 2563 : โควิด-19 และการฟื้นฟูกิจการ[แก้]ก่อนยื่นฟื้นฟูกิจการ[แก้]
ยื่นฟื้นฟูกิจการ[แก้]
กรณีซื้อและเช่าเครื่องบินซึ่งผลดำเนินการขาดทุน[แก้]การบินไทยซื้อเครื่องบินแอร์บัส 340 โดยกรรมการใหญ่ผู้จัดการใหญ่ในขณะนั้น นายกนก อภิรดี ซื้อมาโดยวางแผนบินเส้นทางกรุงเทพไปนิวยอร์ก กรุงเทพไปลอสแอนเจลิส ผลของการซื้อเครื่องบินแบบดังกล่าวคือการขาดทุนมหาศาลทั้งผลการดำเนินงานที่ขาดทุนทุกเที่ยวบินที่บินไปนิวยอร์ก[46] และต่อมาก็ขาดทุนทางบัญชี ค่าเสียโอกาส เนื่องจากการบินไทยเลือกที่จะนำเครื่องบินรุ่นดังกล่าวไปจอดไว้ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองผลจากเรื่องนี้นำมาสู่การยึดอำนาจนายกนก อภิรดี[47] การบินไทยนับจากการซื้อเครื่องบินเมื่อปี พ.ศ. 2548 จนถึงปี พ.ศ. 2559 ไม่สามารถขายเครื่องบินได้เนื่องจากหากขายเครื่องบินรุ่นดังกล่าวจะต้องขายเครื่องบินแบบขาดทุนอย่างมาก จนไม่มีกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใดกล้าขายเพราะต้องเผชิญเสียงวิจารณ์ในทางลบอย่างมากจากภายในบริษัทและภายนอกบริษัท อีกทั้งเสี่ยงต่อการถูกสอบสวน ในข้อหาทำให้บริษัท การบินไทย เสียหายนับว่าเป็นวิกฤตจนถึงปัจจุบันที่เครื่องบินไม่สามารถขายได้และมีค่าเสื่อมราคาลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นแล้วในเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ได้สั่งโยกย้าย นายพฤทธิ์ บุปผาคำ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เนื่องจากผลดำเนินการขาดทุนของการบินไทยคาร์โก้ โดยให้เหตุผลว่า นายพฤทธิ์ กระทำการเกินอำนาจหน้าที่ตนเอง โดยการเซ็นสัญญาเช่าเครื่องบินเพื่อขนส่งสินค้า 2 ลำกับ Southern Air ต้องเป็นหน้าที่ของบอร์ดที่จะต้องมีการพิจารณาและอนุมัติก่อน นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุมาจากการกระทำที่ผิดนโยบาย คือ เดิมการบินไทยมีเป้าหมายจะให้เช่าพื้นที่คาร์โก้ แต่กลับไปเช่าเครื่องบิน[48] ท้ายที่สุดแล้วการบินไทยเช่าพื้นที่คาร์โก้ของเครื่องบินทั้งสองลำ และผลดำเนินการขาดทุนกว่า 100 ล้านบาทจนต้องรีบคืนเครื่องบิน 1 ลำ ก่อนครบสัญญาเช่า ประวัติการบินไทยคาร์โก้[แก้]การบินไทยมีเครื่องบินขนส่งสินค้าทั้งหมด10ลำ เป็นของการบินไทยเองเพียง2ลำนอกนั้นเช่่จากสายการบินอื่นหรือให้สายการบินอื่นทำการบินให้ พ.ศ. 2520–2522[แก้]พ.ศ. 2520 การบินไทยมีเครื่องบินคาร์โก้ 2 ลำเป็นเครื่องบินแบบ DC8-61CF ทะเบียน HS-TGG และ HS-TGF[49] พ.ศ. 2522–2542[แก้]Douglas DC-8-62F ทะเบียน OY-KTE Douglas DC-8-62F เครื่องบินทะเบียน HS-TGZ ภายหลังขายให้กองทัพอากาศ Douglas DC-8-62AF ทะเบียน HS-TGS B747-200SF ทะเบียน N522MC
พ.ศ. 2543–2554[แก้]
พ.ศ. 2555–ปัจจุบัน[แก้]B747-400BCF ทะเบียน HS-TGJ
การบินไทยเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพไปนะริตะ TG862 นะริตะไปเทเปกลับกรุงเทพ TG863 กรุงเทพแวะเดลีสิ้นสุดที่แฟรงเฟิร์ต TG890 กรุงเทพแวะไฮเดอราบัดสิ้นสุดที่แฟรงเฟิร์ต TG894 กรุงเทพไปซิดนีย์ TG865[65]
ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
|