ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีอะไรบ้าง

บทความชื่อ The Future of Jobs ในนิตยสาร ดิอีโคโนมิสต์ ฉบับวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา ได้ตั้งประเด็นที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจและเกี่ยวข้องกับการมองเรื่องการลงทุนด้วย 

บทความนี้ได้พูดถึงแนวคิดของ John Maynard Keynes นานมาแล้วเรื่อง ความไม่สมดุลย์ของเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี โดย Keynes ได้ให้ทัศนะว่า เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าจะทำให้ความต้องการแรงงานในระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนไปตลอดเวลา ซึ่งในบางยุคบางสมัยอาจนำไปสู่ภาวะการว่างงานของคนจำนวนมากๆ ได้

ที่ผ่านมา โลกไม่เจอปัญหานี้มากเท่าไร เพราะเวลาที่มีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้น เช่น เครื่องจักรใหม่ ที่ทำงานแทนคนได้ อัตราการว่างงานก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นเสมอไป เพราะตำแหน่งงานที่หายไปเพราะเครื่องจักรตัวหนึ่ง จะถูกชดเชยด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้เราต้องการแรงงานในรูปแบบใหม่ๆ ที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นอีก และเครื่องจักรก็ช่วยปลดปล่อยแรงงานจากงานที่ค่อนข้าง labor ไปสู่งานที่ใช้สมองหรือฉลาดมากขึ้น ทั้งคุณภาพชีวิตของคนและการจ้างงานจึงสามารถเพิ่มขึ้นไปพร้อมๆ กันได้

เราอยู่ในยุคดิจิตอล ที่เทคโนโลยีสารสนเทศกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาก ในช่วงแรกๆ คอมพิวเตอร์ช่วยปลดเปลื้องคนจากงานประเภทเสมียนเสียมาก เพราะการเกิดขึ้นของโปรแกรมจำพวกสเปรดชีต แม้ว่าตำแหน่งงานเสมียนจะน้อยลงเพราะเราเอา Microsoft Excel มาบวกเลขแทนเสมียน แต่ตำแหน่งงานด้านไอที อย่างเช่น โปรแกรมเมอร์ ผู้ดูแลระบบ IT Helpdesk ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากมายเพื่อมาควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ ดังนั้น แม้ว่าตำแหน่งงานอย่างหนึ่งจะลดลง แต่ตำแหน่งงานใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นแทนที่ ทำให้การจ้างงานยังเพิ่มขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการว่างงานจะไม่เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราต้องสามารถพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้กับแรงงาน เพื่อให้เขาสามารถเปลี่ยนจากอาชีพหนึ่งไปสู่อาชีพใหม่ที่เป็นที่ต้องการได้ด้วย (เช่น ให้ประชากรเรียนเสมียนน้อยลง เรียนไอทีมากขึ้น) แต่ในบางกรณี ถ้าโลกไม่สามารถปรับตัวได้ดีพอ ปัญหาการว่างงานเป็นจุดๆ (structural unemployment) ก็จะเกิดขึ้น อย่างเช่นในปัจจุบันที่ประชากรในประเทศที่พัฒนาแล้วว่างงานสูงมากทั่วโลก แต่ตำแหน่งงานที่ใช้ทักษะหรือความสามารถสูงๆ กลับขาดแคลนอย่างหนัก เพราะเราไม่สามารถพัฒนาประชากรส่วนใหญ่ให้ไปทำงานอย่างใหม่ที่ต้องใช้ทักษะที่สูงขึ้นได้มากพอ

ยุคนี้เทคโนโลยีสารสนเทศกำลังเข้ามาทำงานแทนมนุษย์มากขึ้นทุกวัน ทำให้อาชีพบางอย่างที่คนไม่เคยต้องแข่งขันกับเครื่องคอมพิวเตอร์ จะค่อยๆ ถูกคอมพิวเตอร์เข้ามาทำงานแทนที่มากขึ้น เมื่อก่อนนี้คอมพิวเตอร์เข้ามาทำงานแทนคนในเรื่องการคิดเลขเป็นหลัก แต่ทุกวันนี้ แม้แต่งานขายหรืองานบริการบางอย่างก็สามารถใช้คอมพิวเตอร์ทำแทนได้แล้ว คนในยุคต่อไปจึงต้องพยายามสร้างทักษะให้กับตัวเองในส่วนที่คอมพิวเตอร์ยังทำไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะทำให้ตัวเองสามารถหนีการแข่งขันจากคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง

ไอทีในยุคแรกๆ กระทบกับงานเอกสารและงานเสมียนก่อน โดยในช่วงแรกๆ มันจะทำให้ตำแหน่งงานพวกนี้เพิ่มขึ้น เพราะธุรกิจแสวงหาวิธีใหม่ๆ ที่จะใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์เพื่อทำงานเหล่านี้มากขึ้น แต่หลังจากนั้น มันก็จะเริ่มลดลงเมื่อคอมพิวเตอร์สามารถ automate งานแบบนี้ได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น แต่ปัจจุบันนี้ ไอทีเริ่มเปลี่ยนมากระทบงานด้านสื่อ ในช่วงนี้ งานทำนองนี้อาจมีเพิ่มขึ้น เพราะเรากำลังหาวิธีการใหม่ๆ ที่จะใช้เทคโนโลยีปรับปรุงวงการสื่อให้ก้าวหน้าขึ้น แต่อีกไม่นานนัก มันจะเริ่มกระทบวงการสื่อในแง่ลบ เพราะชาวบ้านที่ไหนก็เริ่มทำตัวเป็นสื่อได้ มูลค่าเพิ่มของคนในวงการสื่อจึงลดลง

เป็นไปได้ว่า ในอนาคต งานที่ยังต้องการมนุษย์ทำอยู่ น่าจะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึกเป็นหลัก เช่น นักจิตบำบัด ครูสอนโยคะ ครีเอทีฟ พระ ผู้ฝึกสอนกีฬา หมอฟัน ฯลฯ งานเหล่านี้อาจจะยังไม่เป็นงานที่จ่ายดีในโลกปัจจุบันมากนัก แต่ในอนาคต มันจะเป็นงานที่มีความต้องการของตลาดมาก เพราะเป็นงานที่คอมพิวเตอร์ยังตามมนุษย์ไม่ทัน

ดิอีโคโนมิสต์ ยังได้ให้ไอเดียไว้ด้วยว่า ทุกวันนี้ สินค้าที่เป็นสิ่งของ มักมีราคาต่ำลงอย่างรวดเร็ว เพราะความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการผลิต ทำให้คนที่อยู่อุตสาหกรรมผลิตสินค้า น่าจะมีค่าจ้างขึ้นช้า เพราะมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นได้ยากเนื่องจากของถูกลงแม้ว่าจะผลิตได้มากขึ้นทุกปีก็ตาม ตรงกันข้ามกับอุตสาหกรรมที่ยังต้องใช้คนเป็นหลักอยู่ เครื่องจักรทุ่นแรงได้น้อย น่าจะมีค่าแรงที่เพิ่มขึ้นได้เร็วกว่าภาคส่วนอื่นๆ ตัวอย่างเช่น งานแม่บ้าน งานทำอาหารที่มีรสนิยม วิชาชีพด้านการรักษาพยาบาล หรือธุรกิจสถาบันการศึกษาเป็นต้น

โดยส่วนตัวก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับบทความนี้นะครับ ไอทีกำลังเข้าสู่ยุคที่จะเริ่มแทนที่งานระดับ White Collar มากขึ้น จากเดิมที่เข้ามาแทนงานที่ใช้แรงงานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเพิ่มผลิตภาพให้กับธุรกิจทุกชนิดมากขึ้น แต่กำไรอาจจะไม่เพิ่มขึ้นก็ได้ เพราะทำให้ธุรกิจเหล่านั้นกลายเป็นคอมโมดิตี้มากขึ้น แข่งขันราคาสูงขึ้น อุตสาหกรรมที่ดีกลับเป็นอุตสาหกรรมที่ไอทียังเข้ามาแทนที่ได้ยากอยู่ ส่วนใหญ่เป็นพวกธุรกิจบริการที่ซับซ้อน หรือเกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึก ค่าแรงและผลกำไรในธุรกิจเหล่านี้น่าจะเพิ่มขึ้น และเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้มากกว่าธุรกิจทั่วไป

เทคโนโลยีที่นิยมใช้ในปัจจุบันเช่นสื่อดิจิตอลที่ใช้ในสังคมปัจจุบันหรือ เครือข่ายการใช่ีอินเทอร์เน็ตที่ครอบคุมทั่วโลกที่เรียกว่าสื่อสังคมออนไลน์

3.ความก้าวหน้าทางด้านการศึกษา

เช่นการใช้สื่อดิจิตอลในพื้นที่ห่างไกลความเจริญหรือการใช้ในสื่อความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ต่างๆในด้านการพัฒนาด้านการศึกษาต่อไป

4.ความก้าวหน้าด้านการแพทย์

การนำเข้าเทคโนโลยีมีต้นทุนสูงแต่การพัฒนาด้านทางการแพทย์ยังขาดแคลนเป็น อย่างมากเพราะการนำเข้าเทคโนโลยีต้องจำเป็นสำหรับการใช่งานอย่างเพียงพออีก ด้วยเมื่อขาดแคลนงบประมาณด้านการแพทย์จึงพัฒนาอย่างช้าๆตามเวลา

5.ความก้าวหน้าทางด้านธุรกิจ

ทั้งนี้ความก้าหน้าของเทคโนโลยียังสามารถใช้ความต้องการทางด้านของการนำ เข้าขนส่งธุรกิจแบบหลากหลายตามความสามารถเฉพาะของเทคโนโลยีนั้นๆซึ่งการใช้ เทคโนโลยีมีต้นทุนที่เพียงพอต่อการกำหนดต้นทุนได้อย่างถูกต้องและตามการใช้ งานของผู้ประกอบการ

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีความสำคัญอย่างไรในชีวิตประจำวัน

ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทำให้ระบบการ ...

เทคโนโลยีก้าวกระโดด มีอะไรบ้าง

Technology แห่งโลกอนาคต ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกของเราให้ดีขึ้น.
1. เครือข่ายมือถือ 5G/6G (Mobile Network 5G/6G) ... .
2. การคำนวณและวิศวกรรมควอนตัม (Quantum Computing & Engineering).
3. เอไอแห่งอนาคต (Future AI) ... .
4. การเดินทางแบบไร้รอยต่อ (Mobility-as-a-Service, Maas) ... .
5. เซลล์แสงอาทิตย์เพอรอฟสไกต์ (Perovskite Solar Cell).

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีส่งผลอย่างไรกับมนุษย์

ผลกระทบด้านบวกจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อมนุษย์ • อัตราการเกิดและตายมีแนวโน้มลดลง ทาให้ขนาดประชากรมนุษย์ไม่เพิ่มมากอย่างรวดเร็วทําให้การบริหารประชากรมีประสิทธิภาพ • ครอบครัวมีขนาดเล็กลงทําให้ประชากรรุ่นต่อๆไปมีคุณภาพ • ประชากรมีการศึกษามากขึ้นโดยกําหนดการศึกษาขั้นต่า ของประชากรอยู่ในระดับ 12 ปี ย่อมทํา ...

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีมีอะไรบ้าง

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลายด้าน เช่น ปัญหา ความต้องการ ความก้าวหน้าของศาสตร์ ต่าง ๆ เศรษฐกิจ สังคม โดยอาจเป็นการปรับปรุงกระบวนการผลิต ลักษณะทางกายภาพ วัสดุ หน้าที่ใช้สอย ระบบกลไก การทำางาน การใช้งาน รวมถึงประสิทธิภาพของวิธีการ สิ่งของเครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์