แสงที่มนุษย์ทุกคนสามารถมองเห็นได้ในช่วงแสงสีขาว ซึ่งแสงขาวแบ่งได้ 7 สี (สีแดง ม่วง ส้ม เหลือง น้ำเงิน/ฟ้า คราม และเขียว) ถูกพบได้ทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด หลอดไฟ แต่ที่ส่งผลกระทบถึงคนส่วนใหญ่มากที่สุด คือ แสงสีฟ้า โดยแสงสีฟ้าผสมอยู่ในช่วงสีน้ำเงินกับคราม และยังเป็นแสงที่มีพลังงานสูงใกล้เคียงรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) อีกด้วย ทำให้เป็นหนึ่งในแสงที่สามารถเข้าไปสู่จอประสาทตาได้อย่างง่าย Show เวลาที่เราใช้พวกหน้าจอโทรทัศน์ โดยผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ตที่เรานิยมใช้กันตลอดเวลา เราจำเป็นต้องเพ่งสายตาจ้องหน้าจอที่มีแสงจ้าเหล่านั้น หากจ้องนานเกินไป ก็อาจเกิดผลเสียต่อดวงตาได้หลายทาง เช่น อาการสายตาล้า ปวดตา ตาแห้ง ตามัว สำหรับเด็กเล็กอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสายตาสั้นได้ และอาจจะทำให้เซลล์ในดวงตาตายได้ ซึ่งหนักถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นเลยทีเดียว ถ้าเราไม่ดูแลรักษาและป้องกันดวงตาของเราให้ดี โดยอันตรายจากการมองแสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือนั้น อาจเริ่มส่งสัญญาณบางอย่างมาเตือน อย่างอาการเจ็บตา ระคายเคือง ตาแห้ง บางครั้งสายตาพร่ามัว ปวดกระบอกตาอยู่บ่อยๆ และอาจมีอาการโรคไมเกรนพ่วงมาด้วย อาจทำให้เกิดโรคทางสายตา เช่น เกิดอาการภาวะตาล้า (Digital Eye Strain) Computer Vision Syndrome โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก โรควุ้นสายตาเสื่อม หรือโรคสายตาสั้นเทียม สังคมก้มหน้า หรือพฤติกรรมติดโทรศัพท์มือถือที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัย นอกจากจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างคนรอบข้างแล้ว การเสพติดการใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไปยังส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจได้ด้วย แต่จะมีอะไรบ้าง และมีวิธีป้องกันอย่างไร ศึกษาได้จากบทความนี้ สังคมก้มหน้า ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายอย่างไร ?
สังคมก้มหน้า ส่งผลต่อสุขภาพจิตอย่างไร ? พฤติกรรมติดโทรศัพท์ก็ส่งผลต่อสุขภาพจิตได้เช่นกัน โดยมีการศึกษาพบว่าการใช้โทรศัพท์มากเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตอย่างโรคย้ำคิดย้ำทำ หรือทำให้เกิดความรู้สึกบกพร่องในการติดต่อกับผู้อื่น รวมทั้งทำให้เสี่ยงต่อโรควิตกกังวลและโรคซึมเศร้าสูงขึ้นด้วย สังคมก้มหน้า กับผลกระทบด้านอื่น ๆ นอกจากปัญหาสุขภาพแล้ว การติดโทรศัพท์มือถือแม้กระทั่งในเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ เนื่องจากอาจทำให้ผู้ใช้ละเลยสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจนเกิดอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม กระดูกหัก หรือได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ เป็นต้น โดยมีรายงานว่าการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ถึง 3-4 เท่า แม้จะใช้อุปกรณ์เสริมอย่างหูฟังแล้วก็ตาม ซึ่งอาจร้ายแรงจนถึงขั้นทำให้ตนเองหรือผู้อื่นเสียชีวิตได้ วิธีป้องกันปัญหาสุขภาพจากการใช้โทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่เป็นผลพวงจากการใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินพอดี ตลอดจนการเกิดอุบัติเหตุจากความไม่ระมัดระวังในการใช้โทรศัพท์ ผู้ใช้ควรปรับพฤติกรรมการใช้ให้เหมาะสมตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ ปัญหาการใช้โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันมีอะไรบ้าง10 ผลเสียต่อสุขภาพ จากการเล่นสมาร์ทโฟนนานเกินไป. 1. รบกวนการนอนหลับ ... . 2. เกิดความเครียด ... . 3. ทำลายจอประสาทตา ... . 4. ปวดคอ ... . 5. พฤติกรรมก้าวร้าว ... . 6. เสียสมาธิ ... . 7. Cellphone Elbow. ... . 8. นิ้วล็อก. ผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์ มีอะไรบ้างส่งผลเสียในด้านสายตา เช่น ตาแห้ง กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก หรือจอรับตาที่ผิดปกติ ส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เช่น ปวดคอ บ่าไหล่ แขน นิ้วล็อค สมองตอบสนองกับการเล่นสมาร์ทโฟน กระตุ้นให้สมองเกิดความสุข ทำให้เกิดโรคติดสุข อยากเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ สมาธิสั้นลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน
การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างไรทำให้เกิดอันตรายมากที่สุดการใช้โทรศัพท์มือถือแนบหูครั้งละนานๆ จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยในระยะสั้นจะมีอาการปวดหู ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว มึนงง ขาดสมาธิ และเกิดความเครียดนอนไม่หลับ ส่วนผลในระยะยาว อาจทำให้เกิดโรคความจำเสื่อม โรคมะเร็งสมอง มะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น
ผู้ที่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือเป็นประจำอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้อย่างไรพฤติกรรมติดโทรศัพท์ก็ส่งผลต่อสุขภาพจิตได้เช่นกัน โดยมีการศึกษาพบว่าการใช้โทรศัพท์มากเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตอย่างโรคย้ำคิดย้ำทำ หรือทำให้เกิดความรู้สึกบกพร่องในการติดต่อกับผู้อื่น รวมทั้งทำให้เสี่ยงต่อโรควิตกกังวลและโรคซึมเศร้าสูงขึ้นด้วย สังคมก้มหน้า กับผลกระทบด้านอื่น ๆ
|