จริยธรรมในการทำธุรกิจ (Business Ethics) ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดเล็ก หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ขายธุรกิจออนไลน์หรือแบบออฟไลน์ก็ตาม หากไม่มีจริยธรรมในการทำธุรกิจก็คงไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมหรืออุดหนุนสินค้าหรือบริการของเราอย่างแน่นอน
จริยธรรมในการทำธุรกิจนั้น มันคือคุณค่าของการทำธุรกิจ (Business Values) ที่สำคัญที่สุด ที่จำเป็นต้องมีการถ่ายทอดให้ออกมาเป็นมาตรฐานหรือระเบียบในการทำงาน เพื่อสร้างให้พนักงานเกิดพฤติกรรมในการทำงานแบบมีจริยธรรมที่ดี ผมได้รวบรวมตัวอย่างของจริยธรรมในการทำธุรกิจจาก josephsononbusinessethics.com มาให้ดูกันครับว่า มันมีอะไรกันบ้าง
- ความจริงใจ
องค์กรหรือผู้บริหารที่มีจริยธรรมนั้นต้องมีความจริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือนหรือหลอกลวง ให้เกิดความเข้าใจผิดใดๆกับคู่ค้าทางธุรกิจ
- ความซื่อสัตย์
ความมีคุณธรรม มีเกียรติและซื่อตรงทั้งต่อตัวเอง พนักงานและคู่ค้าทางธุรกิจ ไม่หาช่องทางในการหลบหลีกหรือหาช่องในการทำทุจริตใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่องค์กร
- รักษาคำมั่นสัญญา และมีความน่าเชื่อถือ
ในการทำธุรกิจนั้นการรักษาคำมั่นสัญญาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือของทั้งตัวคุณเองและองค์กรของคุณ หากคุณสัญญาว่าจะส่งของภายใน 48 ชั่วโมง คุณก็ต้องทำตามสัญญานั้นให้ได้ ไม่อย่างนั้นลูกค้าก็จะสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวคุณ
- ความไว้วางใจ
การให้ความไว้วางใจทั้งในรูปแบบระหว่างบุคคล ระหว่างหน่วยงาน จนถึงระดับองค์กร ในการสนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ที่ต้องไม่เปิดเผยข้อมูลความลับที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร อย่าให้องค์กรถูกทำลายด้วยมิตรภาพดีๆที่เกินกว่าความถูกต้องในการทำงาน
- ความยุติธรรม
ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกับทุกๆคนในองค์กร รวมถึงคู่ค้าทางธุรกิจ อย่าใช้อำนาจในการบริหารงานหรือก้าวล้ำอำนาจในการบริหารงานของหน่วยงานต่างๆอย่างไม่มีเหตุผล ไม่ฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคนอื่นๆ และควรเปิดใจให้กว้างกับทุกๆเรื่อง
- ห่วงใยผู้อื่น
แสดงความเห็นอกเห็นใจและพยายามช่วยเหลือ เวลาที่พนักงานหรือคู่ค้าทางธุรกิจประสบกับปัญหาในด้านต่างๆ เพราะมันจะช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นมีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต โดยความช่วยเหลืออาจจะเป็นทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือทั้งสองอย่างก็ได้
- เคารพผู้อื่น
เคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ความเป็นอิสระ และสิทธิส่วนบุคคล ปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียม และไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา เพศ การศึกษา และชาติกำเนิด
- ปฏิบัติตามกฎหมาย
จริยธรรมในการทำธุรกิจ คือ การปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดในทุกๆกิจกรรมที่องค์กรดำเนินการ
- แสดงความเป็นผู้นำ
ผู้นำองค์กรรวมถึงตัวธุรกิจเองต้องมีความรับผิดชอบในทุกๆสิ่ง เป็นผู้นำที่ทำให้เกิดแต่สิ่งดีๆกับองค์กร ทั้งการผลิตสินค้าและบริการที่ดีมีมาตรฐาน การวางแนวทางบริหารงานและนโยบายต่างๆ การบริหารความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า รวมไปถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ในการทำงาน
- รักษาชื่อเสียงและสร้างกำลังใจ
ปกป้องชื่อเสียงขององค์กรและสร้างชื่อเสียงในเชิงบวก รวมถึงขวัญและกำลังใจของพนักงานเมื่อเจอปัญหาร้ายๆในมุมต่างๆ และช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่เข้าไปอยู่ในกิจกรรมใดๆที่มีโอกาสส่งผลเสียขึ้นกับองค์กร
- ความรับผิดชอบ
นอกเหนือจากความรับผิดชอบในธุรกิจแล้ว ยังต้องรับผิดชอบและตัดสินใจในเรื่องที่ส่งผลต่อพนักงาน คู่ค้าทางธุรกิจ ชุมชน และสังคม ทั้งผลดีและผลเสียในทุกๆมิติ
Photos by freepik – www.freepik.com
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ได้แก่ คุกกี้ที่ทำให้เว็บไซต์สามารถทำหน้าที่ขั้นพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่ทำให้ผู้ใช้บริการ ผู้เข้าชม และ/หรือผู้ใช้เว็บไซต์ สามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของเราได้อย่างปลอดภัย
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/เพื่อประสิทธิภาพ
คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราสามารถจดจำและนับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ตลอดจนช่วยให้บริษัทฯ ทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ อีกทั้งยังรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับวิธีการเข้าและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์
ยืนยันตัวเลือก จริยธรรมทางธุรกิจคือการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม พยายามสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ดำเนินงานอยู่ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด เพื่อให้ธุรกิจมีความก้าวหน้าและเติบโตไปได้อย่างมั่นคง
“จริยธรรม” มาจากคำ 2 คำคือ จริย + ธรรม ซึ่งแปลตามศัพท์ คือ จริยะ แปลว่า ความประพฤติกิริยาที่ควรประพฤติ คำว่า ธรรม แปลว่า คุณความดี คำสั่งสอนในศาสนา หลักปฏิบัติในทางศาสนา ความจริง ความยุติธรรม ความถูกต้อง กฎเกณฑ์ เมื่อเอาคำ จริยะ มาต่อกับคำว่า ธรรม เป็นจริยธรรม แปลเอาความหมายว่า กฎเกณฑ์แห่งความประพฤติ หรือหลักความจริงที่เป็นแนวทางแห่งความประพฤติปฏิบัติ
อลิสโตเติล กล่าวว่า พฤติกรรมที่เหมาะสม คือควรปฏิบัติตามกฎการเดินสายกลาง golden mean of moderation คือการไม่ทำอะไร สุดโต่ง เช่น ร่ำรวยเกินไป ยากจนเกินไป
ความหมายของจริยธรรมธุรกิจ
จรรยาบรรณ หมายถึง มาตรฐานคุณค่าแห่งความดีงามของการกระทำหนึ่ง ๆ และหรือพฤติกรรมโดยรวม ธุรกิจ หมายถึง บุคคล นิติบุคคลหรือองค์กรใด ๆ ที่ดำเนินการผลิตสินค้าบริการเพื่อผลตอบแทนในการลงทุน (กำไร) จรรยาบรรณทางธุรกิจ หมายถึง มาตรฐานการผลิตสินค้าและการให้บริการเพื่อผลตอบแทนตามคุณค่าของการลงทุนโดยเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายเจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ผู้ร่วมงาน ผู้บริโภค ผู้รับบริการรัฐบาล สังคม ซึ่งมีความสัมพันธ์เชิงเศรษฐกิจร่วมกัน
องค์ประกอบสำคัญของจริยธรรม
- ความเฉลียวฉลาด (wisdom)
- ความกล้าหาญ (courage)
- ความรู้จักเพียงพอ (temperance)
- ความยุติธรรม (justice)
- ความมีสติ (conscience)
ประโยชน์ของจริยธรรมธุรกิจ
- จริยธรรมก่อให้เกิดความมุ่งมั่นของพนักงานในองค์กร
- จริยธรรมก่อให้เกิดภาพพจน์ที่ดีต่อองค์กร
- จริยธรรมก่อให้เกิดความมั่นใจของนักลงทุน
- จริยธรรมก่อให้เกิดความสงบสุขของสังคม
- จริยธรรมก่อให้เกิดความเจริญของประเทศชาติ
ความจำเป็นที่ต้องมีจริยธรรมธุรกิจ
- เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขัน
- เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
- เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค
- เพื่อรักษาสมดุลของสภาพแวดล้อม
ความแตกต่างระหว่างจริยธรรมกับกฎหมาย
- การบังคับใช้
- เหตุแห่งการเกิด
- บทลงโทษ
- การยกย่องสรรเสริญ
- เกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสิน
โดยสามารถอธิบายได้ดังต่อไปนี้
- การบังคับใช้
- กฎหมายเป็นสิ่งที่ผู้นำตั้งขึ้นตามความเหมาะสม จะปฎิเสธว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้
- จริยธรรมขึ้นอยู่กับบุคคล อยู่ที่จิตใต้สำนึก ไม่บังคับใช้อยู่ที่ความสมัครใจ - เหตุแห่งการเกิด
- กฎหมายเกิดอย่างเป็นกระบวนการเป็นทางการสามารถเปลี่ยนตามสภาวะสังคม
- จริยธรรมเกิดจากพื้นฐานทางสังคมที่แท้จริงโดยอาศัยระยะเวลาในการยอมรับ - บทลงโทษ
- กฎหมายมีการกำหนดบทลงโทษไว้เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน
- จริยธรรมมีการกำหนดบทลงโทษแตกต่างกันไม่มีกำหนด - การยกย่องสรรเสริญ
- บุคคลที่สามารถปฏิบัติอยู่ภายใต้กฎหมายได้ถือเป็นพลเมืองดี
- จริยธรรมต้องสั่งสมและต้องสร้างจากภายในออกสู่ภายนอก - เกณฑ์การใช้ในการตัดสิน
- หลักกฎหมายมีระบุชัดเจน เกณฑ์ที่ใช้การตัดสินมีผิด,ไม่ผิด
- จริยธรรมมีความยืดหยุ่นมาก เกณฑ์ที่ใช้การตัดสินมีควรหรือไม่ควร
สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือ สิ่งที่เป็นจริยธรรม (ethics) นั้นจะมีความแตกต่างจาก กฎหมาย (law) อยู่หลายประการ คือ
- สิ่งที่เป็นจริยธรรม ก่อเกิดจากภายในตัวของผู้กระทำเอง เป็นสิ่งที่ควบคุมพฤติกรรมมนุษย์ในระดับสูง การลงโทษก็เป็นการควบคุม
- ส่วนกฎหมายนั้น เป็นเรื่องของการบังคับให้ปฏิบัติ มิได้ก่อเกิดจากรากฐานภายในจิตใจ และกฎหมายอาจเป็นดั่งบรรทัดฐาน (norms) แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทั้งจริยธรรมและกฎหมาย ก็เป็นสิ่งที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในการทำให้สังคมนั้นดีจากสังคม (social sanction)
ความหมายของคำว่าจริยธรรมและจริยธรรมทางธุรกิจ
จริยธรรม (ethics) หมายถึง หลักแห่งความประพฤติหรือแนวทางของความประพฤติ
จริยธรรมทางธุรกิจ (business ethics) หมายถึง การแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม
จริยธรรมของผู้ประกอบธุรกิจ
มูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย (IMET) ได้เสนอหลักจริยธรรมของผู้ประกอบธุรกิจหรือนักธุรกิจไว้เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการประพฤติปฏิบัติได้แก่
- จริยธรรมของนักธุรกิจต่อลูกค้า
- ขายสินค้าและบริการในราคาที่ยุติธรรม
- สินค้าและบริการต้องมีคุณภาพ
- ดูแลให้บริการแก่ลูกค้าทุกคนเท่าเทียมกัน
- ละเว้นการกระทำใด ๆ ที่ทำให้ราคาสูงขึ้นโดยไม่มีเหตุผล
- ปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างมีน้ำใจ - จริยธรรมของนักธุรกิจต่อคู่แข่งขัน
- ละเว้นจากการกลั่นแกล้ง ให้ร้ายป้ายสี ข่มขู่หรือกีดกัน ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม
- ควรให้ความร่วมมือในการแข่งขัน เช่น การให้ข้อมูลความรู้ในด้านต่าง ๆ - จริยธรรมของนักธุรกิจต่อหน่วยงานราชการ
- การทำธุรกิจควรตรงไปตรงมา
- ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายในการทำธุรกิจ
- ละเว้นจากการติดสินบนเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการ
- ไม่สนับสนุนข้าราชการทำทุจริต
- ละเว้นการให้ของขวัญหรือของกำนัลแก่ข้าราชการ
- มีทัศนคติที่ดีและมีความเชื่อถือต่อหน่วยงานราชการ
- ให้ความร่วมมือเป็นพลเมืองที่ดี - จริยธรรมของนักธุรกิจต่อพนักงาน
- ให้ค่าจ้างเหมาะสม
- เอาใจใส่ต่อสวัสดิการและความปลอดภัยในการทำงาน
- พัฒนาให้ความรู้เพิ่มความชำนาญ
- ให้ความเป็นธรรม และโอกาสที่เท่าเทียมกัน
- ศึกษานิสัยใจคอและความถนัดของพนักงาน
- เคารพสิทธิส่วนบุคคลของพนักงาน
- ให้ความเชื่อถือและไว้เนื้อเชื่อใจ
- ให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษา
- สนับสนุนให้พนักงานเป็นคนดี - จริยธรรมของนักธุรกิจต่อสังคม
- ละเว้นการประกอบธุรกิจที่ทำให้สังคมเสื่อมลง
- ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- เคารพสิทธิทางปัญญาของบุคคลอื่น
- ให้ความร่วมมือกับชุมชนเพื่อสร้างสรรค์สังคม
- ให้ความสนใจเรื่องการสร้างงานแก่คนในสังคม - จริยธรรมของนักธุรกิจต่อนักธุรกิจ
- มีความซื่อสัตย์สุจริตในการปฏิบัติงาน
- รักษาและรับผิดชอบทรัพย์สินของนายจ้างให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่
- ระมัดระวังเรื่องการวางตัวในสังคม
- หลีกเลี่ยงการขัดผลประโยชน์ของนายจ้าง
- ละเว้นการทำงานให้ผู้อื่น - คุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจ
- มีความรับผิดชอบในการทำงานไม่ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน
- กล้าเสี่ยงพอสมควร
- มีความมั่นใจในตนเอง
- มั่นใจในการประเมินผลงานกิจการของตนเอง
- กระตือรือร้นในการทำงาน
- มองการณ์ไกล
- มีความสามารถในการคัดคนเข้าทำงาน
- คำนึงถึงความสำเร็จของงานมากกว่าคน
- มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจ
- มนุษยสัมพันธ์และบุคลิกภาพดี
- มีความสามารถในการติดต่อสื่อสาร
- มีความชำนาญในงานที่ทำ
- มีความสามารถในการจัดการและการวางแผน
- มีจริยธรรมหรือจรรยาบรรณต่อวิชาชีพของตนเอง
จริยธรรมทางธุรกิจคือการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม พยายามสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ดำเนินงานอยู่ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด เพื่อให้ธุรกิจมีความก้าวหน้าและเติบโตไปได้อย่างมั่นคง
ผู้บริหารกับจรรยาบรรณทางธุรกิจ
จรรยาบรรณทางธุรกิจ (business ethics) เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจและกล่าวถึงอยู่เสมอในแวดวงของการบริหารงานยุคใหม่ โดยถือว่าเป็นสิ่งที่ฝ่ายบริหารหรือฝ่ายจัดการ จะต้องตระหนักและเสริมสร้างให้เกิดขึ้นกับพนักงานและองค์การของตน
จรรยาบรรณทางธุรกิจ มีความหมายครอบคลุมถึงหลักการ กฎเกณฑ์ที่บ่งบอกว่าพฤติกรรมหรือการกระทำใดที่จัดว่าเป็นพฤติกรรมที่ดี เลว ผิด ถูก ซึ่งจะช่วยให้พนักงานในองค์การ สามารถแยกแยะปฏิบัติได้ว่าการกระทำใดเป็นสิ่งที่ควรกระทำ การกระใดเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ละเว้นหรือไม่ควรปฏิบัติ การสร้างหลักเกณฑ์นั้นอาจไม่ยากเท่ากับการโน้มน้าวให้พนักงานนำไปปฏิบัติจริง ลักษณะของการประพฤติบางอย่างต้องวินิจฉัยว่าผิดหรือถูกจรรยาบรรณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากพอควรที่จะปฏิบัติ แต่อย่างไรก็ตาม การประพฤติผิดจรรยาบรรณจะสามารถบรรเทาลงได้หากผู้บริหารให้ความสนใจจริงจังที่จะแก้ไข และกระทำการอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะให้สังคมและองค์การของตนดีขึ้นในอนาคต
แนวทางที่ธุรกิจสามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดการกระทำที่มีจรรยาบรรณได้นั้นมีอยู่หลายหนทาง อาทิ
- จัดทำสิ่งพิมพ์ ที่ระบุว่าสิ่งใดเป็นข้อความปฏิบัติหรือจรรยาบรรณที่พึงประสงค์ สิ่งใดที่องค์การไม่ยอมรับ หรือถือว่าผิดจรรยาบรรณ การระบุเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมกับการจำแนกตัวอย่างให้เห็นอย่างเด่นชัด เป็นวิธีแรกที่ธุรกิจสามารถกระทำได้
- จัดให้มีการอบรมและสัมมนา เกี่ยวกับจรรยาบรรณทางธุรกิจให้แก่ระดับผู้บริหารหรือระดับหัวหน้า และมอบหมายให้แต่ละคน แต่ละฝ่าย นำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดพร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองทราบและยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป
- จัดให้มีโครงการยุติธรรมภายในองค์การธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการกระทำที่ถูกต้องและขจัดการกระทำที่ไม่ถูกต้องให้หมดไปจากองค์การ อาทิ การจัดให้มีการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้ที่ได้รับการกระทำที่ไม่เป็นธรรมจากผู้บริหารหรือจากผู้ร่วมงานต่าง ๆ และเมื่อพิจารณาผลการร้องทุกข์ดังกล่าวแล้ว ก็จะมีการประกาศผลให้ทราบโดยทั่วกัน ให้พนักงานตระหนักว่าบริษัทให้ความสำคัญกับนโยบายเรื่องนี้ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้เป็นตัวอย่างและบรรทัดฐานแก่ผู้อื่นที่จะไม่ทำให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีก
- จัดให้มีคณะกรรมการติดตามสอดส่องการปฏิบัติงาน ให้ถูกต้องตามจรรยาบรรณที่ควรจะเป็นหากมีการกระทำที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น ก็ให้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการชุดนี้เพื่อวินิจฉัยหาหนทางปรับปรุงแก้ไขและดำเนินการตามแต่กรณีไป
5. จัดให้มีระบบการตอบแทนหรือการให้รางวัล แก่ผู้ที่มีความประพฤติดี เหมาะสมแก่องค์การ ในทางกลับกันกำหนดให้มีบทลงโทษผู้ที่ประพฤติปฏิบัติผิดกฎเกณฑ์ โดยทุกอย่างต้องกระทำอย่างชัดเจนโปร่งใสให้พนักงานได้ทราบโดยทั่วกัน
บทสรุป
จริยธรรมเข้าไปเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานทุกด้านขององค์การ การทำงานภายใต้ระบบทุนนิยมและกระแสเศรษฐกิจใหม่ ถ้าไม่คำนึงถึงเรื่องจริยธรรม จะสร้างผลกระทบในทางลบได้อย่างรุนแรงและกว้างขวางมากกว่ายุคใด ๆ
แนวทางในการเสริมสร้างปลูกฝังจริยธรรมนั้น มีผู้เสนอแนวความคิดโดยอาศัยทฤษฎีการเรียนรู้และทำการพัฒนา ต่อมาให้เป็นทฤษฎีในการปลูกฝังและเสริมสร้างจริยธรรม ซึ่งมีอยู่ 4 รูปแบบ (ชัยพร วิชชาวุธ 2530) คือ