ประโยชน์ของการฝึกอบรมมีอะไรบ้าง

ประโยชน์ของการฝึกอบรมมีอะไรบ้าง

  • โซลูชั่นส์
    • การให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ และการบริหารการจัดการ
    • การวิจัย และกรองข้อมูลทางการตลาด
    • กลยุทธเพื่อองค์กร และการแข่งขัน
    • การสร้างโอกาสทางการตลาด และการขาย
    • การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และงานขาย
    • ประสบการณ์ และความพึงพอใจของลูกค้า
    • การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
    • การออกแบบสร้างสรรค์ และการพัฒนาแบรนด์
  • บริการ
    • การอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ และการควบรวมกิจการ
    • การวิจัยตลาด และการวิจัยลูกค้า
    • การวางแผนเชิงกลยุทธ์ และการจัดการ
    • การฝึกอบรมอย่างมืออาชีพ
    • การฝึกอบรม และเป็นที่ปรึกษาให้ผู้บริหาร
    • การออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์
    • การส่งและออกแบบจดหมายข่าว
    • การออกแบบกราฟฟิกและองค์กร
    • การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา
    • ระบบบริหารงานขาย และลูกค้าสัมพันธ์
    • การบริหารประสบการณ์ลูกค้า
    • การตลาดแบบเอาท์ซอร์ส
  • เครื่องมือฟรี
    • CXM Performance Assessment
    • Marketing Performance Assessment
    • Sales Performance Assessment
  • ทำไมต้องเรา
    • ความเชี่ยวชาญของเรา
    • เป้าหมายของเรา
    • จริยธรรมและจรรยาบรรณทางธุรกิจ
    • ลูกค้าของเรา
    • ความคิดเห็นของลูกค้า
  • เกี่ยวกับ
    • เราคือใคร
    • วิสัยทัศน์ของเรา
    • ค่านิยมของเรา
    • พันธกิจของเรา
    • ชื่อบริษัท และโลโก้
    • วิดีโอโลโก้
    • ตำแหน่งงานว่าง
    • สมาชิกขององค์กรต่าง ๆ
  • ติดต่อเรา

  • English
  • ภาษาไทย
  • Deutsch

ประโยชน์ของการฝึกอบรมผู้บริหาร

พร้อมติดต่อหาเราแล้วใช่มั้ย?


      ตอนที่เข้าทำงานใหม่ๆความสนใจในการเรียนรู้จะมีสูงมาก อาจจะเป็นเพราะงานใหม่น่าสนใจกว่า ต้องเรียนรู้ให้มากเดี๋ยวจะไม่ผ่านทดลองงาน หรือไม่ก็เพราะงานใหม่เป็นที่เราไม่เคยทำมาก่อนอยากเรียนรู้ บริษัทส่งไปเข้าอบรมอะไรไปหมดไม่เคยปฏิเสธ แต่พอวันเวลาผ่านไป ความรู้สึกของลูกจ้างต่อการฝึกอบรมเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มขี้เกียจเข้าอบรมบ้าง เบื่อการฝึกอบรมบ้าง เข้าไปนั่งหลับในห้องอบรมบ้าง อบรมครึ่งวัน แว๊บไปไหนๆอีกครึ่งวันบ้าง และมีลูกจ้างหลายคนที่บ่นว่าอบรมไปทำไม อบรมแล้วก็เหมือนเดิม ไม่เห็นบริษัทเปลี่ยนแปลงอะไรเลย อบรมแล้วแถมยังต้องกลับมาทำงานที่คั่งค้างระหว่างที่ไปอบรมอีกต่างหาก อบรมแต่เรื่องการทำงานให้เราทำงานดีขึ้น แต่รายได้ไม่เห็นเพิ่มขึ้นตามชั่วโมงที่อบรมเลย

      ใครที่กำลังเบื่อการฝึกอบรมอยู่ในขณะนี้ ผมอยากจะแนะนำให้ลองไปพูดคุยหรือสอบถามคนทำงานรุ่นพี่ เช่น คนที่ทำงานมานาน คนที่กำลังจะเกษียณอายุ หรือคนที่ออกจากงานไปแล้ว(อาจจะเกษียณหรือออกไปทำงานส่วนตัว) ให้ลองถามว่าตอนที่เขาเป็นลูกจ้างในช่วงอายุเดียวกันเรานั้น ถ้าสามารถย้อนเวลาหาอดีตได้ เขาคิดว่าเขารู้สึกเสียดายอะไรบ้างกับชีวิตการเป็นลูกจ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการพัฒนาฝึกอบรม คำตอบที่ได้อาจจะมีมากมาย เช่น “เสียดายตอนนั้นถ้าผมตั้งใจเรียนรู้งานที่ทำอยู่ให้มากขึ้น ป่านนี้ผมคงจะเป็นผู้บริหารระดับสูงไปแล้ว” “สมัยผมทำงานใหม่ๆไม่มีหรอกการฝึกอบรงอบรมอะไรนี่ทำงานอย่างเดียว เรียนรู้งานเอาเอง พวกคุณโชคดีกว่าผมเยอะเลยมีการฝึกอบรมตั้งแต่วันแรกเข้ามาและมีหลักสูตรอบรม แต่ละปีเยอะมาก สมัยก่อนใครถูกส่งไปอบรมข้างนอก โชคดียิ่งกว่าถูกหวยเสียอีก” หรือ “ดิฉันเสียดายไม่คิดว่าเรื่องที่เราอบรมในตอนที่เป็นลูกจ้างหลายเรื่องจะมี ประโยชน์ต่อการออกมาทำธุรกิจส่วนตัวมากขนาดนี้”

      นอกจากนี้ ลองไปสอบถามคนที่กำลังเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรดูว่าทำไมเขาจึงประสบ ความสำเร็จในหน้าที่การเงินเร็วกว่าหรือดีกว่าคนอื่นๆในรุ่นเดียวกัน เราอาจจะได้คำตอบที่ใกล้เคียงกัน เช่น “ผมทำมันหมดทุกอย่างไม่ว่างานอะไร อะไรใหม่ๆผมทำและเรียนรู้มันหมด” หรือ “ดิฉันชอบเข้ารับการอบรมและลองนำเอาความรู้จากการฝึกอบรมมาใช้กับงานจริงทุก ครั้ง” หรือ “ยิ่งเราสามารถเรียนรู้งานมากและเร็วกว่าคนอื่นมากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะก้าวหน้ามากกว่าคนอื่นก็มีมากขึ้นเท่านั้น”

ประโยชน์ของการฝึกอบรมมีอะไรบ้าง

      เพื่อให้คนที่กำลังเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่รู้สึกเสียดายโอกาสในการเรียนรู้ เหมือนคนรุ่นก่อนๆอีก และเพื่อให้เราเป็นมนุษย์เงินเดือนมืออาชีพอย่างแท้จริง ผมจึงขอเสนอแนวทางในการพัฒนาตนเองดังนี้

ไม่มีอาชีพไหนที่ได้อบรมฟรี และมีเงินเดือน

      ถ้าลองคิดดูดีๆแล้ว จะพบว่าอาชีพลูกจ้างเป็นอาชีพที่มีโอกาสในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่ ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับคนที่ประกอบอาชีพอิสระ ไม่เคยมีโอกาสแม้กระทั่งอบรม หรือถ้าจะเข้าอบรมก็ต้องเสียเงินเอง ในขณะที่ลูกจ้างมีโอกาสเรียนรู้ ฝึกอบรมฟรี แถมยังได้รับเงินเดือนอีกต่างหาก บางครั้งวิทยากรที่บริษัทเชิญมาเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถสูง โอกาสที่คนทั่วๆไปจะได้ฟังนั้นแทบจะไม่มีเลย บางบริษัทลงทุนเป็นแสนเป็นล้านในการพัฒนาฝึกอบรมบุคลากร ดังนั้น เราในฐานะผู้ได้รับโอกาสจงใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์กับตัวเองให้มากที่สุด

จงอย่าเลือกก่อนที่จะเรียน แต่เรียนแล้วค่อยเลือก
      หลายคนเลือกที่จะเรียนในสิ่งที่ตัวเองอยาก ไม่ต้องการเรียนในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ สุดท้ายก็ได้แต่สิ่งที่ชอบเพียงเรื่องหรือสองเรื่อง ผมอยากจะแนะนำว่าถ้าเรามีโอกาสในการเรียนรู้จงเรียนรู้ไว้ก่อน ถ้าเราเรียนรู้มากโอกาสเลือกในชีวิตของเราก็มีมาก ไม่มีใครรู้ได้ล่วงหน้าว่าอีกสิบปียี่สิบปีข้างหน้าเราต้องการจะใช้ความรู้ อะไรบ้าง ดังนั้น การเก็บเกี่ยวความรู้จากการทำงานและการฝึกอบรมจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก วันหนึ่งข้างหน้าภารกิจและเป้าหมายชีวิตของเราเปลี่ยนไป เราจะได้มีทางเลือกในการนำเอาความรู้ที่เก็บสะสมออกมาใช้ได้

คิดว่ายิ่งเรียนมาก เราได้มากกว่าบริษัทฯ
      การเข้ารับการอบรมไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรอะไร คนแรกที่ได้ประโยชน์คือตัวเราเอง หน่วยงานหรือบริษัทยังไม่ได้อะไรเลย ถ้าเราไม่นำเอาความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมไปใช้งาน ดังนั้น อยากจะให้มนุษย์เงินเดือนทุกคนจงคิดเสมอว่าทุกครั้งที่บริษัทส่งเราไปอบรม เราได้มากกว่าบริษัทเสมอ ให้เปลี่ยนโจทย์ในชีวิตเสียใหม่ว่าการที่บริษัทส่งเราเข้าอบรมคือการได้รับ รางวัลเพิ่มเติมนอกเหนือจากเงินเดือนและได้หยุดงานไปเท่ากับจำนวนวันที่เข้า อบรม

ลองนำเอาความรู้จากการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ทั้งชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน
      ทุกครั้งที่มีโอกาสเข้ารับการฝึกอบรม ให้ลองนำเอาความรู้ที่ได้อย่างน้อยสักข้อก็ยังดีมาประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วน ตัวเราเองก่อน เช่น ไปอบรม 5 ส ก็ให้ลองนำหลักการไปใช้ที่บ้านก่อน ถ้าไปอบรมเรื่อง KPI (Key Performance Indicator) ก็ลองนำมาจัดทำเป็น KPI ชีวิตตัวเองก่อน ผมเชื่อว่าความรู้เกือบทุกเรื่องที่เราได้มีโอกาสได้เรียนรู้หรือรับการฝึก อบรม สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาและบริหารชีวิตตัวเองได้

ความรู้คือทรัพย์สินชิ้นสำคัญที่เราไม่ต้องคืนให้บริษัทตอนวันที่ลาออก
      เมื่อเราเป็นลูกจ้างเราอาจจะไม่รู้ว่าเราได้หรือเราเสียอะไร บ้าง แต่เมื่อวันหนึ่งเราต้องเดินออกจากองค์กรนั้นๆไป ลองคิดดูซิครับว่าอะไรบ้างที่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต ตำแหน่ง เงินเดือน โบนัส ลูกน้อง รถประจำตำแหน่ง บัตรประจำตัวพนักงาน ห้องทำงาน สิ่งเหล่านี้ติดไปเป็นเพียงประวัติของชีวิตเรา แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่จำเป็นต้องคืนให้บริษัทตามระเบียบของบริษัทฯก็คือ “ ความรู้และประสบการณ์ ” ที่อยู่ในหัวของเรา ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนองค์กรเปลี่ยนงานไปกี่ที่สิ่งนี้ก็ยังคงอยู่กับเราตลอด เวลา และยิ่งเรานำออกมาใช้บ่อยเท่าไหร่ความแหลมคมของความรู้ในเรื่องนั้นๆก็ยิ่ง มีมากขึ้นๆเรื่อยๆ และใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด และสิ่งนี้แหละที่จะเป็นตัวกำหนดอัตราเงินเดือนเมื่อเราไปสมัครงานที่อื่น สิ่งนี้แหละเป็นสิ่งที่จะบ่งบอกว่าเราเป็นลูกจ้างมืออาชีพที่คุ้มค่าหรือไม่ ตอนที่เราออกไปทำงานส่วนตัวหรือออกไปดำรงชีพอยู่ในสังคม

    นอกจากการฝึกอบรมพัฒนาตัวเองแล้วการพัฒนาภาวะผู้นำ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้างเหมือนกันนะครับ

สุดท้ายนี้ อยากจะฝากให้คนทำงานทุกคนว่าจงป้องกันความว่า “ เสียดาย ” ในชีวิตของคนรุ่นก่อนๆโดยการทำวันนี้ให้ดีที่สุด เรียนรู้ทุกเรื่องที่มีโอกาส สั่งสมความรู้ให้มากกที่สุดในระหว่างที่ยังเป็นมนุษย์เงินเดือน สร้างสินทรัพย์ทางปัญญาให้มากกว่าการแสวงหาทรัพย์สินภายนอกที่ไม่ติดตัว เมื่อออกไปจากองค์กร ดังนั้น แทนที่จะแย่งตำแหน่งกัน แย่งกันปรับเงินเดือน ทะเลาะกันเรื่องโบนัส ฯลฯ ควรจะแย่งกันเรียนรู้เพื่อสร้างสินทรัพย์ในตัวน่าจะดีกว่า เพราะถ้าเรามีสินทรัพย์ในตัวในหัวเต็มไปด้วยความรู้และประสบการณ์แล้ว ทรัพย์สินภายนอกไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ตำแหน่งหน้าที่ จะหาเมื่อไหร่ก็ได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามนุษย์เงินเดือนมืออาชีพทุกท่านที่เห็นความสำคัญใน เรื่องนี้จงประสบความสำเร็จทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว  สวัสดี ครับ

ที่มา : http://www.hrcenter.co.th/

ความสำคัญและวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมประกอบอะไรบ้าง

วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับพนักงาน ทั้งองค์ความรู้พื้นฐานไปจนถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพบุคคล ปรับระบบการทำงานขององค์กรให้มีทิศทางเดียวกัน เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรให้สามารถแข่งขันกับคนอื่นๆ หรือบริษัทคู่แข่งได้ เพิ่มศักยภาพขององค์กรให้สูงขึ้น

การฝึกอบรมมีความสําคัญอย่างไร

การฝึกอบรมนอกจากเป็นสิ่งที่จำเป็นในการแก้ปัญหาภายในขององค์การแล้ว ยังก่อให้เกิด ประโยชน์แก่ส่วนต่าง ๆ ขององค์การอย่างเห็นได้ชัด ดังนี้ (1) เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต (2) ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพสูงขึ้น (3) พนักงานมีขวัญและกำลังใจดีขึ้น (4) ทำให้พนักงานมีความรู้ความชำนาญในวิทยาการใหม่ ๆ (5) ทำให้ระบบข่าวสารภายในองค์การดีขึ้น

การฝึกอบรมมีวัตถุประสงค์สำคัญ 3 ประการ ได้แก่อะไรบ้าง

6.1 ความหมายของการฝึกอบรม 6.2 วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม 6.3 ประโยชน์ของการฝึกอบรม 6. 4 บทบาทที่สำคัญของผู้รับผิดชอบจัดการฝึกอบรม.
เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น (ขัดข้อง).
เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (ป้องกัน).
เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพสูงขึ้น (พัฒนา).

ความจำเป็นในการฝึกอบรมมีความหมายตรงกับข้อใด

ความจำเป็นในการฝึกอบรม(Training Needs) หมายถึง สถานการณ์ที่เป็นปัญหาต่อผลสำเร็จของงานซึ่งอาจแก้ไขได้ด้วยการฝึกอบรม นั่นคือ สาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการขาดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และทัศนคติที่เหมาะสม ทีมา : การหาความจำเป็นในการฝึกอบรม งานพัฒนาบุคลากร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์