กระบวนการต่าง ๆ ภายใต้การวิจัยนับได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก สมมติฐานการวิจัยก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากเป็นการคาดการณ์ความสัมพันธ์หรือความแตกต่างของตัวแปรอย่างมีหลักการ ร่วมกับทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง และประสบการณ์ที่จะช่วยให้ผู้ทำการวิจัยสามารถตอบคำถามในหัวข้อวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ Show สมมติฐานการวิจัยเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยที่ถูกตั้งขึ้นชั่วคราว สำหรับเป็นแนวทางในการค้นคว้าเท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ทำการวิจัยสามารถกำหนดขอบเขตการวิจัย เช่น วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการออกแบบสอบถาม เพื่อทดสอบสมมุติฐานการวิจัยได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น ประเภทของสมมติฐานสมมติฐานการวิจัย คือ สมมติฐานที่อยู่ในลักษณะข้อความเฉพาะตัวที่สอดคล้องกับหัวข้อการวิจัย สมมติฐานการวิจัยเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญของการวิจัยตลาด เนื่องจากจะเป็นตัวกำหนดส่วนต่างๆ ภายในงานวิจัย ไม่ว่าจะเป็น การสุ่มตัวอย่าง ประเภทของแบบสอบถาม หรือทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น สมมติฐานการวิจัยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ คือ
สมมติฐานทางสถิติ (Statistical Hypothesis)สมมติฐานทางสถิติ คือ สมมติฐานที่มีรูปแบบของโครงสร้างทางคณิตศาสตร์ มักจะเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้แทนพารามิเตอร์และระเบียบวิธีทางสถิติ เนื่องจากเป็นรูปแบบที่นำมาทดสอบโดยใช้วิธีการทางสถิติ ที่จะช่วยทราบได้ว่าค่าสถิติที่นำมาวิเคราะห์นั้น ให้ผลยอมรับหรือปฏิเสธสมมติฐานที่ได้ทำการกำหนดไว้ สมมติฐานทางสถิติสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ คือ
วิธีการตั้งสมมติฐานการวิจัยการตั้งสมมติฐานงานวิจัยจะต้องมีความสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับจุดมุ่งหมาย ซึ่งการตั้งสมมติฐานจะเป็นแบบมีทิศทางหรือไม่มีทิศทางก็ได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ศึกษา เมื่อตั้งสมมติฐานทางการวิจัยเรียบร้อยแล้ว ผู้ทำการวิจัยจะต้องตั้งสมมติฐานทางสถิติ 2 รูปแบบ ทั้งแบบเป็นกลางและทางเลือกควบคู่กัน สมมติฐานแบบทางเลือกจะมีลักษณะสอดคล้องกับสมมติฐานทางการวิจัยที่ตั้งไว้เสมอ แหล่งที่มาของสมมติฐานการวิจัย
หลักการตั้งสมมติฐานการวิจัยที่ดีสำหรับหลักการตั้งสมมติฐานการวิจัยที่ดี สามารถแบ่งคุณสมบัติออกได้เป็น 5 ข้อหลัก ๆ ได้แก่เป็นสมมติฐานการวิจัยที่รัดกุมเฉพาะเจาะจง มีขอบเขตที่ไม่กว้างหรือแคบเกินไป
การตั้งสมมุติฐานการวิจัยมีความจำเป็นอย่างไรสำหรับผู้ที่มีความสงสัยว่าการตั้งสมมุติฐานการวิจัยมีความจำเป็นอย่างไร สมมติฐานนับได้ว่าเป็นตัวกลางที่จะช่วยเชื่อมโยงระหว่างหัวข้อการวิจัยและข้อเท็จจริงต่าง ๆ ซึ่งความสำคัญของสมมติฐานการวิจัย สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ข้อที่สำคัญ ได้แก่
ประโยชน์ในการตั้งสมมติฐานการวิจัยการตั้งสมมติฐานการวิจัยมีประโยชน์ที่ครอบคลุมการทำวิจัยหลากหลายด้าน ดังนี้
ตัวอย่างสมมติฐานการวิจัยตัวอย่างที่ 1ปัญหาวิจัยปัญหาอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโยเกิร์ตแบบถ้วย ที่มีแนวโน้มการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค เฉพาะกลุ่มในวัยรุ่นเพศหญิงธุรกิจต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องทำการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อหาตัวอย่างกลุ่มเป้าหมายอาหารที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้มากขึ้น หัวข้อวิจัยพฤติกรรมการบริโภคโยเกิร์ตแบบถ้วย กรณีศึกษาผู้บริโภคหญิงวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร
ตัวอย่างที่ 2ปัญหาวิจัยปัญหาที่ธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยต้องเผชิญความท้าทายในเรื่องภาวะการจับจ่ายใช้สอยและการรับประทานอาหารนอกบ้านของคนไทยที่ลดลง ส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมถึงต้นทุนการจัดการร้านอาหารที่สูงขึ้นต่อเนื่อง และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หัวข้อวิจัยประเภทของร้านอาหาร คุณภาพของอาหาร คุณภาพการบริการ และสื่อสังคมออนไลน์ที่ส่งผลต่อการเลือกใช้บริการร้านอาหารสำหรับมื้อค่ำของประชากรในกรุงเทพมหานคร
ตัวอย่างที่ 3ปัญหาวิจัยปัญหาการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทานอาหารในยุคปัจจุบันต้องการความรวดเร็ว และมีรูปแบบที่ง่ายต่อการใช้ชีวิตมากขึ้น รวมถึงการบริโภคอาหารนอกบ้านมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารต่าง ๆ ต้องมีการจัดการร้านอาหารที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป หัวข้อวิจัยการตัดสินใจใช้บริการร้านอาหารยกยอริมคลองจังหวัดสมุทรสาคร
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที |