แม้จะมีหนังเกี่ยวกับภัยธรรมชาติออกมาเป็นจำนวนมาก ทว่าจะมีสักกี่เรื่องที่ยังคงเป็นที่นึกถึงและพูดถึงเมื่อเอ่ยคำว่า “หนังภัยพิบัติ” ขึ้นมา และนี่คือ 6 หนังภัยพิบัติที่เป็นที่ฮือฮาด้วย “ภาพวิชวล” ที่สวยตระการตาและสมจริง พร้อมด้วยเรื่องราวที่ดูสนุกและถ่ายทอดภาพของมหันตภัยทำลายล้างโลกได้อย่างน่าสนใจ จะมีหนังเรื่องอะไรบ้างนั้น ไปชมกันเลย! The Day After Tomorrow (2004)กำกับโดย Roland Emmerich เมื่อโลกกำลังประสบภาวะโลกร้อนส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นและสภาพอากาศค่อยๆเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคน้ำแข็งใหม่อีกครั้ง บรรดาเมืองต่างๆทั่วโลกต่างเผชิญกับพายุและคลื่นยักษ์ที่ไม่สามารถต้านทานได้ถล่มจนราบคาบ และซีกโลกทางเหนือกำลังก้าวเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว แจ็ค ฮอลล์ (เดนนิส เควด) นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศ ต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากมหันตภัยยักษ์ครั้งใหญ้ในห้าประวัติศาสตร์ พร้อมกับมุ่งหน้าสู่มหานครนิวยอร์ค เพื่อช่วยชีวิตลูกชายของเขาและเหล่าผู้ที่เหลือรอดอยู่ให้จงได้ The Day After Tomorrow เป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพทางด้านวิชวล การันตีโดยรางวัลชนะเลิศสาขา Best Visual Effects จาก BAFTA โดยสามารถถ่ายทอดภาพแสนช็อคและน่าสลดใจของภัยพิบัติอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับโลก พร้อมกับสภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ที่ต้องเอาตัวรอด ไม่ว่าจะมีฐานะอย่างไร ทุกคนมีสิทธิ์ตายเท่ากัน แม้ความสมเหตุสมผลทางด้านวิทยาศาสตร์จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ทว่าThe Day After Tomorrow เป็นหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่ง โดดเด่นทางด้านภาพและโฟกัสไปที่แนวคิดในการ “เอาชีวิตรอด” ของมนุษย์โดยมี “สายสัมพันธ์ของครอบครัว” เป็นตัวเชื่อมเรื่องราวเข้าไว้ด้วยกัน 2012 (2009)กำกับโดย Roland Emmerich ตามคำทำนายของชาวมายัน เมื่อโลกก้าวเข้าสู่วันที่ 21 ธันวาคม 2012 บัดนั้นโลกจะถึงกาลดับสูญ! และเมื่อเวลานั้นมาถึง ภัยพิบัติทางธรรมชาตินานับประการไม่ว่าจะเป็น คลื่นยักษ์สึนามิถลาเข้าท่วมเทือกเขาหิมาลัยในทิเบต การปะทุอย่างรุนแรงของภูเขาไฟที่อุทยานแห่งชาติ Yellowstone การเคลื่อนตัวของรอยเลื่อน San Andreas ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง หรือเมืองทั้งเมืองจมหายไปภายใต้มหาสมุทร! ท่ามกลางภัยพิบัติเหล่านั้น มนุษย์ต่างมุ่งเอาชีวิตรอด ทว่าอาจมีเพียงผู้มีฐานะเท่านั้นที่จะสามารถก้าวเข้าสู่โลกใหม่ดังเช่นที่โนอาเคยเผชิญแล้วก็เป็นได้... เมื่อปี 2012 เข้าใกล้เรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดกระแสโลกแตกตามคำทำนายของชาวมายัน ทำให้ 2012 กลายเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่สร้างกระแสฮือฮาและเป็นที่จดจำถึงความน่ากลัวของเหตุร้าย มหันตภัยแห่งธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นเมื่อวันที่คาดไว้มาถึง ด้วยภาพที่สร้างความสะพรึงกลัว ถ่ายทอดความใหญ่ยักษ์และระดับความอันตรายของภัยธรรมชาติจนทำเอาขนลุกขนพองถึงอนาคตที่ยังไม่มาถึงเลยทีเดียว Aftershock (2010)กำกับโดย Xiaogang Feng เมื่อเดือนกรกฏาคมปี 1976 ณ มณฑลเหอเป่ยของจีน ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทอนถึง 7.8 ริกเตอร์และความรุนแรงระดับ 11 แผ่นดินไหวในครั้งนั้นคร่าชีวิตชาวถังซันไปมากกว่า 200,000 คน บาดเจ็บกว่า 160,000 คน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ชีวิตของฟางเติ้งเด็กหญิงวัย 7 ขวบต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อพ่อของเธอจากไปจากเหตุในครั้งนั้น พร้อมกับที่เธอ แม่ และน้องชายติดอยู่ใต้ซากอาคาร ซึ่งแม่ของเธอสามารถเลือกช่วยชีวิตลูกเอาไว้ได้เพียงแค่คนเดียว! Aftershock นำเอาแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจริงในหน้าประวัติศาสตร์โลกที่ถือว่าร้ายแรงกว่าระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่าถึง 400 เท่ามาเป็นฉากหลังในการถ่ายทอดชีวิตของเด็กคนหนึ่งที่ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลนับจากวันที่ผู้เป็นแม่ตัดสินใจเลือกชีวิตผู้ที่สมควรรอด ซึ่งสร้างบาดแผลลึกให้กับตัวละครเป็นอย่างมาก และกว่า 30 ปีที่ “ครอบครัว” ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งท่ามกลางเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ปลุกเร้าความทรงจำกลับคืนมา ด้วยเนื้อหาที่สุดประทับใจและกินใจผู้ชมทุกคน กับฉากหลังที่เปี่ยมด้วยความโหดร้ายจากภัยธรรมชาติ ทำให้ Aftershock สามารถครองใจคนดูและเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกนั่นเอง The Impossible (2012)กำกับโดย J.A. Bayona สร้างจากเรื่องจริงของครอบครัวอเมริกันรายหนึ่งที่มาเที่ยวฉลองวันคริสต์มาสที่ชายหาดภูเก็ต ประเทศไทยเมื่อปี 2004 โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่นาที พวกเขาจะต้องพลัดพรากจากกันด้วยมหันตภัยร้ายทางธรรมชาติอย่างคลื่นยักษ์สึนามิที่กลืนกินทุกสิ่งที่ขวางหน้า! โศกนาฏกรรมในครั้งนั้น ทำให้พวกเขาต่างตามหาสมาชิกครอบครัวผู้เป็นที่รัก โดยมีเพียง “พลังใจ” เท่านั้นที่เป็นเครื่องนำทางหวังให้ทุกคนได้กลับมาเจอกัน The Impossible ถ่ายทอดเรื่องราวความรักอันทรงพลังของครอบครัวที่เปี่ยมด้วย “ความหวัง” ในการกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ภัยพิบัติระดับชาติที่ถล่มชายฝั่งทางภาคใต้ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2004 ความโหดร้ายของคลื่นสึนามิในครั้งนั้นถูกถ่ายทอดด้วยสเปเชียล เอฟเฟกต์ที่ตระการตาและสมจริง พร้อมกับถ่ายทอดความน่ากลัวของพลังมหาศาลที่พัดพาเอาทุกสิ่งให้หายไปในพริบตา! The Impossible จึงเป็นหนังภัยพิบัติอีกเรื่องที่ยังคงตราตรึงในความทรงจำของผู้ชมด้วยเรื่องราวที่เสียดแทงหัวใจและ “พลังใจ” อันน่าชื่นชมของตัวละครท่ามกลางวิกฤตทางธรรมชาติที่ยังสะเทือนใจจนถึงปัจจุบัน “THE WAVE มหาวิบัติสึนามิถล่มโลก” (2016)นอร์เวย์มีภูเขาที่ยังคงเคลื่อนตัวอยู่กว่า 300 แห่ง จนส่งผลให้มีดินถล่มลงไปในฟอร์ดอ่าวแคบๆที่อยู่ระหว่างหน้าผาชัน และเคยเกิดสึนามิที่สร้างความเสียหายร้ายแรงมาแล้วหลายครั้งในอดีตที่ผ่านมา และมันกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้ “Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก” (2022)โรแลนด์ เอ็มเมอริค เจ้าพ่อหนังหายนะภัยพิบัติผู้สร้าง Independence Day , The Day After Tomorrow, 2012 กับการกลับมาใน Moonfall เป็นหนังภัยพิบัติที่เกิดจากดวงจันทร์ที่วงโครของมันกำลังจะพุ่งเข้าหาโลก โดยมีนักบินอวกาศและนักทฤษฎีวิทยาศาสตร์ช่วยกันหาวิธีหยุดยั้งการพุ่งชนในครั้งนี้ ซึ่งพวกเขามีเวลาไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นเพื่อไม่ให้มันทำลายล้างโลก |