"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน" เผย ครม.เห็นชอบของขวัญปีใหม่ ช่วยผู้ประกันตนมาตรา 40 ลดเงินสมทบเหลือร้อยละ 60 ต่ออีก 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ ก.พ. จนถึง ก.ค. 2565 วันที่ 2 ก.พ. 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทนตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน ซึ่งเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 จากกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ เพื่อมอบให้กับผู้ใช้แรงงานนอกระบบ ซึ่งประกอบอาชีพอิสระ และสมัครใจเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบ ต่ออีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน ในงวดเดือนกุมภาพันธ์ – กรกฎาคม 2565 ให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ในอัตราใหม่ 3 ทางเลือก ดังนี้
ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้รับทั้ง 3 เลือก ยังคงเดิม ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน สำหรับขั้นตอนของกฎกระทรวงดังกล่าว กระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคมจะได้เร่งดำเนินการเพื่อให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ทันภายในกำหนดต่อไป ทางด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยว่า การปรับลดอัตราเงินสมทบต่อเป็นระยะเวลา 6 เดือนในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้รับประโยชน์กว่า 10.57 ล้านคน เกิดเงินหมุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 1,408.56 ล้านบาท ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตน และเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และเป็นการสร้างหลักประกันให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 จูงใจให้แรงงานภาคอิสระที่ยังไม่ได้รับความคุ้มครองจากสำนักงานประกันสังคมให้เข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น ทั้งนี้ จึงขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจในการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคม ที่พร้อมดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของผู้ประกันตนให้ตรงจุดและทันท่วงที เนื่องจากปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ปากท้องของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของประเทศโดยรวม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง.
ที่ประชุม ครม. มีมติ ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม ม.40 เหลือ 60% ต่ออีก 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ประกอบอาชีพอิสระ เริ่มตั้งแต่ 1 ก.พ. – 31 ก.ค. 2565 ย้ำกองทุนประกันสังคมยังมีเงินสมทบเพียงพอสำหรับจ่ายประโยชน์ทดแทน
1 กุมภาพันธ์ 2565 – น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการ ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม มาตรา 40 ที่ต้องจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 – 31 กรกฎาคม 2565 ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม ม.40 เหลือ 60% ตั้งแต่ ก.พ. – ก.ค. 2565โดยตามร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่เสนอปรับลดอัตราการส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน ม.40 ในระบบประกันสังคม ลงเหลือ 60% ต่ออีกเป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ซึ่งเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ค้าขาย และสนใจประกันตนภาคสมัครใจ มีทางเลือกส่งเงินสมทบได้ 3 ทางเลือก ดังนี้
หมายเหตุ: ทางเลือกที่ 1 จะได้รับประโยชน์ทดแทนน้อยที่สุด ในขณะที่ทางเลือกที่ 3 จะได้รับประโยชน์ทดแทนมากที่สุด ทั้งนี้ แม้การลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 40 เป็นเวลา 6 เดือน จะทำให้กองทุนประกันสังคมได้รับเงินสมทบลดลง แต่ยังคงมีเงินสมทบเพียงพอสำหรับรายจ่ายประโยชน์ทดแทนให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 และไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะกองทุนในระยะยาว อีกทั้งการปรับลดเงินสมทบดังกล่าว จะช่วยให้ผู้ประกันตนมีกำลังซื้อมากขึ้น อันจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ลดอัตราประกันสังคม ม.40 ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกันตนได้มากกว่า 10 ล้านคนนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่าการปรับลดอัตราเงินสมทบต่อเป็นระยะเวลา 6 เดือนในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้รับประโยชน์กว่า 10.57 ล้านคน เกิดเงินหมุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 1,408.56 ล้านบาท ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตน และเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และเป็นการสร้างหลักประกันให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 จูงใจให้แรงงานภาคอิสระที่ยังไม่ได้รับความคุ้มครองจากสำนักงานประกันสังคมให้เข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น จึงขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจในการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคม ที่พร้อมดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของผู้ประกันตนให้ตรงจุดและทันท่วงที เนื่องจากปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ปากท้องของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง |