การบรหิ ารการคลงั และงบประมาณ เสนอ จัดทำโดย ๑. นายธนนนั ท์ พันธ์ทอง รหสั นักศึกษา ๖๔๑๗๗๗๐๑๑ รายงานเลม่ น้ีเปน็ สว่ นหนึ่งในรายวิชา PHA๑๔๐๑ วิชา ความรเู้ บื้องตน้ ทางรัฐประศาสนศาสตร์ สำนักวิชารฐั ศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชยี งราย การบริหารการคลังและงบประมาณ เสนอ จัดทำโดย ๑. นายธนนนั ท์ พนั ธ์ทอง รหัสนกั ศึกษา ๖๔๑๗๗๗๐๑๑ รายงานเล่มน้ีเปน็ ส่วนหนึ่งในรายวิชา PHA๑๔๐๑ วชิ า ความรเู้ บ้ืองต้นทางรัฐประศาสนศาสตร์ สำนักวชิ ารัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเชยี งราย ก คำนำ
รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา ความรู้เบื้องต้นทางรัฐประศาสนศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะ
ทั้งนี้ เนื้อหาได้มีการศึกษารวบรวมจากหนังสือและบนอินเทอร์เน็ต ขอขอบพระคุณอาจารย์ที่ท่าน คณะผู้จดั ทำ สารบญั ข เรือ่ ง หนา้ บทท่ี ๔ วา่ ดว้ ยเร่อื งภาษีอากร ค บทที่ ๘ การบริหารคลงั และงบประมาณของรัฐบาลประยทุ ธ์ ง บทท่ี ๑ การคลัง การหารายได้หรือการกระทำกิจกรรมของรัฐบาลเพื่อนำมาใช้จ่ายประโยชน์แก่ส่วนรวมในรูป แนวคดิ เกย่ี วกบั การบริหารการคลังและงบประมาณ รัฐบาล (government expenditure) หนี้ของรัฐบาลหรือหนี้สาธารณะ (government debt or public การคลัง
ซึ่งตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Finance ถ้าใช้ในความหมายของการบริหารงานคลังของ การคลัง เป็นการกำหนดนโยบายและการดำเนินงานด้านการเงินของรัฐบาล ซึ่งในทางปฏิบัติจะ บุญชนะ อัตถากร1 (๒๕๑๖ : ๔๓๒) ให้ความหมายการคลังภาคสาธารณะว่า เป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ ๑.ปญั หาการจัดสรรทรัพยากร 1 บุญชนะ อตั ถากร. (2516). เศรษฐกิจและการบรหิ ารการคลัง. กรงุ เทพฯ: โอเดียนสโตร์. ๒ ๔.ปัญหาเสถยี รภาพของระดับราคาและการพฒั นาเศรษฐกจิ 2 อรญั ธรรมโน. (2548). ความรูท้ วั่ ไปทางการคลงั (ฉบบั ปรบั ปรงุ ). กรงุ เทพฯ: ไทยวจิ ัยและฝึกอบรม. ๓ ระบบการบริหารการคลัง พื้นฐานการบริหารการคลังที่มีประสิทธิภาพและสร้างประสิทธิผลต่องานทางด้านการคลัง หน่วยงาน ๑. การจัดการและการคัดเลือกผู้นำ เพื่อเป็นผู้กำหนดทิศทางการคลังในทุกภาคส่วนจะต้องมีการ ๒. การจัดการนโยบายและการวางแผน จะต้องใช้หลักการเชิงกลยุทธ์เข้ามาเป็นฟันเฟืองในการ ๓. การจัดการงานบุคคลการสั่งสมทุนมนุษย์ การสร้างวัฒนธรรมในองค์กร การมีแต่ความซื่อสัตย์และ ๔. ข้อมูลข่าวสาร การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาจัดการข้อมูล
มีการติดตามผลการวางแผน ตัวแบบท่ี ๑ ขอบข่ายการบรหิ ารการคลัง การจัดการและ นโยบายและการ การจดั การงาน ขอ้ มูลข่าวสาร ๔ สำนักงานบริหารงานทั่วไปของสหรัฐ (U.S. General Accountability Office: GAO) ได้นำเสนอ ประเดน็ สำคญั องค์ประกอบ ปจั จัยกำหนดความสำเรจ็ (Success การจัดการและความ วัตถุประสงค์และความ - ความเหมาะสมในงาน เป็นผู้นำ ต้องการ - การจดั การภายใต้วตั ถปุ ระสงคต์ ามกลยุทธ์ - กำหนดความรบั ผดิ ชอบและบทบาทท่ีชัดเจน ดา้ นผู้นำ - ผ้นู ำมคี วามเขม้ แข็งและความสามารถ - ผู้นำมคี วามซื่อสตั ย์และเป็นแบบอยา่ งทีด่ ี - ผนู้ ำมีความสามารถในการสอ่ื สาร นโยบายและขนั้ ตอน การวางแผนกลยุทธ์ - การประเมินความต้องการภายในและผลกระทบจาก การจัดการทีม่ ี - สรา้ งความร่วมมอื กบั องคก์ ารอ่ืน - การตรวจสอบและกำกับดแู ลสญั ญาท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพ - มีความรับผดิ ชอบทางการเงิน การจดั การบุคลากร การลงทนุ ในทนุ มนุษย์ - การคดั เลอื
กพนักงานท่ีเหมาะสมตามความต้องการของ สนับสนุนพฤติกรรมท่ี - กำหนดเปา้ หมายการอบรม ส่งเสริมจรยิ ธรรม - สนบั สนุนวฒั นธรรมองคก์ ารแห่งความซอื่ สัตยแ์ ละมี กระบวนการกำกับดูแล สารสนเทศ ข้อมูลและเทคโนโลยี - การตดิ ตามขอ้ มูลการจดั ซอ้ื จัดจ้าง เพื่อสนับสนุน - รปู แบบขอ้ มูลการเงนิ ทส่ี ะดวกต่อการใช้งาน - การวิเคราะห์รายจ่าย การป้องกันและการเก็บ - การควบคมุ ท่มี ปี ระสิทธภิ าพ รกั ษาความลบั - ระบบการจัดเก็บและการปอ้ งกนั ขอ้ มูล 7
U.S. Government Accountability Office (GAO). (2005). Assessing the acquisition function at federal agencies. Retrieved ๕ ประวัติการบรหิ ารงานคลงั ของประเทศไทย สมยั สุโขทยั ในสมัยสุโขทัยเปน็ ราชธานนี ัน้ รฐั ใชว้ ธิ ีการระดมทรพั ยากรโดยใช้ระบบส่วยอากร ๔ ชนดิ ได้แก่ ๑. จังกอบ คอื ภาษีชนิดหนึง่ เชน่ ภาษปี ากเรอื ๒. อากร คือ ค่าธรรมเนียมที่รัฐเก็บจากสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติหรือสิ่งที่สร้างขึ้น
เช่น อากรรังนก ๓. ส่วย คือ ของที่เรียกเกบ็ จากทอ้ งถ่ินพื้นเมืองเพ่อื เป็นคา่ ภาคหลวง เช่น เงนิ ชว่ ยเหลอื ราชการ ๔. ฤชา คือ เงินทดแทนการเกณฑ์แรงงานไพร่ที่ผู้ครอบครองทดแทนให้หลวง ในด้านรายจ่ายไม่ สมยั อยธุ ยา
ในสมัยอยุธยาตอนต้นมีการจัดระเบียบการปกครองส่วนกลางเป็นแบบ"จตุสดมภ์" ได้แก่ เวียง วัง คลงั สมยั รัตนโกสนิ ทร์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓
ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้เงินเพ่ือ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) ไทยถูกบังคับให้ยอมรบั สนธสิ
ัญญาเบาร่ิง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระพุทธเจ้าหลวงหรือรัชกาลที่ ๕) ได้ทรงโปรดให้ ๑. เจา้ ภาษนี ายอากรมีพฤติกรรมไมเ่ หมาะสม ๒. อำนาจในการจดั เก็บภาษีอากรอยู่ในอัตตวสิ ยั ของเจา้ นายบางคน ๓. ระบบบญั ชขี องกรมพระยาคลงั ไมเ่ ป็นระบบระเบียบ ๔. วิกฤตทางการเงินของแผน่ ดิน ๖ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) ได้มีการจัดทำ พ.ร.บ. วิธีการ ในปัจจบุ นั หน้าท่ีในทางเศรษฐกจิ ของรัฐตามหลักสากล มี ๔ ประการ ดังนี้ ๑. การจดั สรรทรัพยากรของสังคม (Allocation Function) ๒. การกระจายทุ รพั ยากรของสังคม (Distribution Function) ๓. การรักษาเสถยี รภาพทางเศรษฐกจิ (Stabilization Function) ๔. การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (Promotion of Economic Growth) บทบาทในทางเศรษฐกจิ การบริหารงานคลังของรัฐบาล ๑. เนื่องจากทรพั ยากรของชาติมีจำกัด แตค่ วามต้องการของคนมีไมส่ ้ินสุดเพราะฉะนัน้ จำเป็นท่ีรัฐบาล ๒. รฐั บาลจำเป็นตอ้ งเข้ามาแทรกแซงโดยใช้นโยบายการคลงั เพอ่ื ทำใหค้ นในประเทศมีความทัดเทยี ม ๓. รัฐบาลจำเป็นต้องเข้ามาใช้นโยบายการคลงั ให้มีผลกระทบตอ่ การลงทุนระดับการผลิต การจ้างงาน ๔.
รัฐบาลจำเป็นต้องใช้นโยบายการคลังเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจบรรลุเป้าหมาย มีเสถียรภาพของราคา ๕. มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางประเภทที่เอกชนทำไม่ได้หรือไม่อยากทำ แต่มีความจำเป็นต้องมีใน ๖.
มีสินค้าและบริการบางอย่างที่ผลิตขึ้นมาแล้วก่อให้เกิดผลกระทบภายนอก (Externality) กล่าวคือ ๗ ผลิตเหล้าขายย่อมจะเป็นผลเสียต่อสังคมส่วนรวมเช่นกัน ฉะนั้น รัฐบาลจึงต้องเข้ามาแทรกแซงหรือ ควบคุม ๗.
กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางอย่างต้องใช้จำนวนเงินทุนมหาศาลในการลงทุนผลิตเอกชนไม่สามารถ ๘. ในกรณีที่ระบบเศรษฐกิจมีผู้ผลิตรายเดียว หรือมีผู้ผลิตน้อยราย ตลาดสินค้าจะเป็นตลาดผูกขาด นโยบายการบรหิ ารงานคลงั
การบริหารงานคลังมีขอบเขตครอบคลุมนโยบายในหลาย ๆ ด้าน เช่น นโยบายการเงิน นโยบายการ ๑. นโยบายการเงิน เป็นนโยบายที่เกี่ยวกับการกำหนดและควบคุมปริมาณเงินให้พอเหมาะกับความ ๑)
การควบคุมเชิงปริมาณ คือ การควบคุมปริมาณเงิน เช่น การเปลี่ยนแปลงอัตราเงินสดสำรองของ ๒) การควบคมุ เชิงคุณภาพ เช่น การจำกัดสินเช่อื การเขม้ งวดในการปลอ่ ยสนิ เชอ่ื เป็นตน้ หน่วยงานหลักที่มีอำนาจหน้าที่และดูแลรับผิดชอบการบริหารงานคลังด้านนโยบายการเงิน ก็คือ ๒. นโยบายเศรษฐกิจ เป็นนโยบายที่รัฐบาลกำหนดขึ้นเพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ๓. นโยบายการคลงั แบ่งออกเป็น ๒ ภาค คอื ๑) ภาครายรับ จะเป็นเรื่องของภาษีอากร การค้ำประกัน การก่อหนี้สาธารณะการออกพันธบัตร ๒) ภาครายจ่าย จะเป็นเรื่องของงบประมาณแผ่นดิน หรือแผนการใช้เงินซึ่งเป็นแผนเบ็ดเสร็จที่แสดง ๘ หน่วยงานหลักที่มีอำนาจหน้าที่และดูแลรับผิดชอบการบริหารงานคลังภาครายจ่าย
คือ สำนัก ส่วนหน่วยงานหลักที่มีอำนาจหน้าที่และดูแลรับผิดชอบการบริหารงานคลังภาครายรับ ก็คือ ปัจจุบนั วิชาการบรหิ ารงานคลงั มีความสำคัญมากขน้ึ เนอ่ื งมาจากสาเหตุ ๑๐ ประการ คือ การบรหิ ารงานคลงั สาธารณะ ๑. การบรหิ
ารและการแบ่งส่วนราชการของกระทรวงการคลงั ๙ ๒. สำนกั งานปลดั กระทรวง (๑) จดั เกบ็ ภาษตี ามประมวลรัษฎากร 8 เกรกิ เกยี รติ พิพฒั นเ์ สรธี รรม, การคลังว่าดว้ ยการจัดสรรและการกระจาย, พมิ พ์ครงั้ ท่ี 8, (กรงุ เทพมหานคร : มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, ๑๐ ๒) รายได้จากรัฐวิสาหกิจ หมายถึงรายได้จากกิจการที่รัฐมิหุ้นอยู่ เช่น มีหุ้นอยู่ใน ๓) รายไดเ้ บด็ เตล็ดอ่นื ๆ เช่น ค่าปรับ ค่าแสตมป์ ๒. เงินกู้ของรัฐบาล หรือหนี้สาธารณะ (Public Debt) รัฐอาจกู้จากในประเทศ และต่างประเทศก็ได้ (๑) การขายพนั ธบตั รรัฐบาล (๒) การกู้จากธนาคารกลาง (ธนาคารแหง่ ประเทศไทย) (๓) การกู้จากธนาคารออมสินถ้ากู้จากต่างประเทศก็กู้ได้จากเอกชนหรือสถาบันการเงิน ๓. เงินคงคลงั (Treasury cash balances) ต้องดูทีเ่ งินคงคลังตอนต้นปี และปลายปโี ดยเอาเงนิ คงคลงั ๓. ภาษีอากร (Taxation) อรัญ ธรรมโน ได้อธิบายเกี่ยวกับภาษีอากรว่า ภาษีอากร คือสิ่งที่รัฐบาลบังคับเก็บจากข้าราชการ โดย โฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์9 อธิบายว่าภาษีอากรคือเครื่องมือทางการคลังที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลในการหา รังสรรค์ ธนะพรพันธ์10 ได้ให้ความหมายภาษีอากรไว้ว่า ภาษีอากรคือเงินที่เรียกเก็บจากบุคคล ภาษีอากร หมายถึง เงินท่ีรัฐบาลเรียกบังคับจัดเก็บจากประชาชนเพื่อนำไปใช้จ่ายในกิจการสาธารณะ ลักษณะสำคญั ของภาษีอากร คอื ๑. เปน็ การชำระสง่ิ อนั เป็นทรัพย์สิน เปน็ เงนิ สดหรืออาจจะเปน็ ทรัพยส์ ินในรูป ๒. เปน็ เคร่ืองมอื ทางการคลังท่ีสำคัญที่สุดในการหารายได้ของรฐั ๓. เป็นแหล่งรายได้หลกั ของรฐั ๔. รัฐมอี ำนาจบงั คบั จัดเกบ็ โดยกฎหมายแต่ฝา่ ยเดียว 9 โฆษติ ป้ันเปี่ยมรษั ฎ์, นโยบายภาษีอากรและการพฒั นาเศรษฐกจิ , (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพอ์ กั ษรสัมพันธ์, 2555), หนา้ 31. ๑๑ ๕. รฐั ไมต่ ้องตอบแทนในเชิงประโยชน์โดยตรงแกผ่ บู้ งั คบั ให้เสียภาษี ๖. ภาษอี ากรท่ไี ด้ รฐั จะนำไปใชเ้ พ่อื กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ ๗. บคุ คลเทา่ น้ันทมี่ หี นา้ ที่ในการเสยี ภาษีในฐานะท่เี ปน็ ราษฎรของประเทศ ความหมายตา่ งๆ ท่ีเกย่ี วกับการภาษีอากร ๑. หน้าที่ในการเสียภาษีอากร (Impact) คือ บุคคลที่มีหน้าที่ในการเสียภาษีอากรตามกฎหมาย ๒. การผลักภาระภาษี (Shifting) หมายถึง ผู้ที่รับภาระในการเสียภาษี แต่สามารถผลักหรือปัดความ ๓. ภาระของภาษีอากร (Incidence or Burden) คือ
บุคคลที่จะต้องรับภาระในการชำระภาษีอากรท่ี ๔. ผลทางเศรษฐกิจของการเก็บภาษีอากร (Economic Effect) หมายถึง การเก็บภาษีอากรแต่ละ ๕. ฐาน (Base) และอัตรา (Rate) ภาษีอากร ภาษีอากรแต่ละประเภทต้อองมีฐานและอัตราภาษีเพื่อ วตั ถปุ ระสงคข์ องการเกบ็ ภาษีอากร11 ๑. เพื่อหารายได้ ๒. เพื่อการควบคุมและส่งเสริม ๓. เพอ่ื การแบ่งกระจายทรัพยากร ๔. เพื่อรักษาเสถยี รภาพทางเศรษฐกิจ ประเภทของภาษีอากร การแบ่งประเภทของภาษีอากรอาจจะแบง่ ไดห้ ลายวธิ ี12 ดงั น้ี ๑. การแบ่งประเภทของภาษีอากรตามลักษณะของการผลักภาระภาษีอากร ซึ่งโดยวิธีนี้อาจแบ่งภาษี (๑) ภาษีทางตรง (Direct Tax) หมายถึง ภาษีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษี ไม่สามารถที่จะผลักภาระ 11 อรัญ ธรรมโน, ความร้ทู ่วั ไปทางการคลงั , (กรงุ เทพมหานคร : บรัษทั บพธิ จำกดั , 2548), หน้า 124-127. ๑๒ (๒) ภาษีทางอ้อม (Indirect Tax) หมายถึง ภาษีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายสามารถจะ ๒. การแบ่งประเภทของภาษีอากรตามลักษณะฐานของภาษอี ากร กล่าวคอื ภาษอี ากรแตล่ ะประเภทจะ ๓. การแบ่งประเภทของภาษอี ากรตามวธิ กี ารประเมนิ ภาษีท่ตี ้องเสยี แบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท คอื (๑) ภาษที ่เี ก็บตามราคาหรอื มลู คา่ เช่น ภาษรี ายได้ ภาษกี ารขาย ภาษีมรดก เป็นต้น (๒) ภาษีที่เก็บตามปริมาณ นำ้ หนัก หรือจำนวนสิง่ ท่ีต้องเสยี ภาษี เชน่ อากรแสตมป์ ข้อมูลเพิ่มเติม ภาษีเงินได้แบบติดลu (Negative Income Tax) เป็นระบบการจัดเก็บภาษีที่ช่วยเหลอื หลกั เกณฑ์สำคัญในการจดั เก็บภาษอี ากร มี ๒ ประการ คือ ๑. หลักประโยชน์ (Benefit Principle) เป็นหลักที่ถือว่าบุคคลแต่ละบุคคลควรจะรับภาระภาษีให้ได้ ๒.
หลักความสามารถ (Ability to Pay Principle) เป็นหลักเกณฑ์ที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นธรรม หลกั เกณฑส์ ำคญั ของภาษีอากร ของ Adam Smith มี ๔ ประการ คือ (๑) หลักความยตุ ธิ รรม (Equity) (๒) หลกั ความแนน่ อน (Certainty) (๓) หลกั ความสะดวก (Convenience) (๔) หลักประหยัด (Economy) ๔. หนส้ี าธารณะ (Public Debt) พูนศรี
สงวนชีพ (๒๕๕๒ : ๒๖๐) หนี้สาธารณะ หมายถึง ข้อผูกพันของรัฐบาลซึ่งเกิดจากการกู้ยืม ๑. แบ่งตามระยะเวลาชำระหนี้สาธารณะ แบง่ ออกเป็น ๔ ประเภทคือ ๑๓ (๑) หนีร้ ะยะสัน้ คือ หนท้ี ่ีมีระยะเวลาการไถ่ถอนคืนไมเ่ กนิ ๑ ปี 13 บญุ ชนะ อัตถากร, การคลงั , (กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพม์ หาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, 2548), หน้า 52. ๑๔ Otto Eckstein14 อธิบายว่า งบประมาณแผ่นดิน คือ รายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและรายได้ที่ ไพศาล ชัยมงคล15 อธิบายว่า งบประมาณแผ่นดิน คือ แผนเบ็ดเสร็จซึ่งแสดงออกในรูปของตัวเงิน ประเทศแรกที่ริเริ่มจัดทำงบประมาณแผ่นดินขึ้นมาคือ
ประเทศอังกฤษ ส่วนประเทศไทยได้เริ่มจัดทำ เพราะฉะนัน้ จึงอาจสรปุ ได้วา่ การงบประมาณแผ่นดนิ ประกอบด้วยส่วนสำคญั ๒ สว่ นด้วยกัน คอื 16 ๑. แผนการหารายรับ ประกอบดว้ ย การหารายไดแ้ ละการก้เู งิน ๒. แผนการใชจ้ ่าย ไดแ้ ก่ การจัดทำแผนการใช้จ่ายโดยละเอยี ดตามโครงการต่าง ๆ ทีร่ ฐั บาลคาดวา่ จะ งบประมาณรายรบั และรายจ่ายของรัฐบาล ตามปกติจะมชี ่วงระยะเวลาเรียกว่า ปีงบประมาณ (Fiscal การดำเนนิ งานเกยี่ วกับการงบประมาณแผ่นดิน ประกอบดว้ ยขั้นตอนตา่ งๆ ดงั น้ี ๑. การจดั เตรียมงบประมาณ (Budget Preparation) ๒. การอนมุ ัติงบประมาณ (Budget Resolution) ๓. การบรหิ ารงบประมาณ (Budget Execution) ไพศาล ชยั มงคล นโยบายงบประมาณแผน่ ดนิ มี ๓ ชนิด คือ ๑. นโยบายงบประมาณสมดลุ (Balanced Budget Policy) ได้แก่ งบประมาณ ซึ่งรายได้และรายจ่าย ๒. นโยบายงบประมาณเกินตุล (Surplus Budget Policy) ไดแ้ ก่ งบประมาณ ซ่งึ รายไดม้ ีจำนวนสูง ๓. นโยบายงบประมาณขาดดลุ (Deficit Budget Policy) ไดแ้ ก่ งบประมาณ ซึ่งรายจ่ายมีจำนวนสงู 14 Otto Eckstein, Public
Finance: Foundations of Modern Economics Series. Englewood Cliffs, (N.J. : Prentice-Hall Inc, ๑๕ ประเภทของงบประมาณ แบง่ ออกเป็น ๓ ประเภท คือ 17 ปว๋ ย องึ้ ภากรณ์, เศรษฐกิจแหง่ ประเทศไทย, (กรุงเทพมหานคร : บริษทั ประมวลมิตร จำกดั , 2543), หนา้ 206-214. ๑๖ ๓. การใช้จ่ายไปในด้านที่จะทำให้รายได้ประชาชาติ
และรายได้จากภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นโดยทางอ้อม ๔. การใช้จา่ ยท่ไี มก่ อ่ ใหเ้ กดิ ผลผลติ ข้นึ มา เช่น การใช้จ่ายไปในดา้ นการปอ้ งกันประเทศ ๕. การใช้จ่ายไปในด้านการให้ความช่วยเหลือแก่คนบางกลุ่มของสังคม เพื่อเป็นสวัสดิการของสังคม ๗. นโยบายการคลงั (Fiscal Policy) อรัญ ธรรมโน19 ได้อธิบายความหมายของนโยบายการคลังว่า
หมายถึงนโยบายในด้านการรับและ นโยบายการคลัง หมายถึง นโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการหารายได้และใช้จ่ายเงินเพื่อท่ีจะชว่ ยรักษา ๑. ภาวะเงินฝืด (Deflation) หมายถึง
ภาวะท่ีอุปสงค์ด้านสินค้าและบริการ (ปริมาณเงินที่อยู่ในมือ การแก้ปัญหาเงนิ ฝืดจะต้องใชน้ โยบายดงั ต่อไปนี้ ๑) การใช้นโยบายการคลัง ได้แก่ การเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล การใช้งบประมาณขาดดุล และการ ๒) การใชน้ โยบายการเงนิ ได้แก่ กรลดอตั ราดอกเบย้ี เงนิ กู้และเงนิ ฝาก การลดอัตราเงินสดสำรอง
การ ๒. ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) หมายถึง ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ การแกป้ ัญหาเงินเฟอ้ จะตอ้ งใชน้ โยบายดังต่อไปน้ี ๑) กรณเี งินเฟอ้ ทีเ่ กดิ จากอปุ สงค์ดา้ นสนิ ค้าและบริการมากกวา่ สินค้าและบริการ (๑) การใช้นโยบายการคลัง ได้แก่ การลดการใช้จ่ายของรัฐบาล การใช้งบประมาณเกินดุล (๒) การใช้นโยบายการเงิน ได้แก่ การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากการเพิ่มอัตราเงิน 19 อรญั ธรรมโน, ความรทู้ ัว่ ไปทางการคลัง, (กรุงเทพมหานคร : บริษทั บพิธ จำกดั , 2548), หนา้ 26. ๑๗ ๒) กรณเี งินเฟ้อท่ีเกดิ จากตน้ ทุนทีใ่ ช้ในการผลติ สินคา้ และบริการสงู ขน้ึ (๑) การใช้นโยบายการคลัง ได้แก่ การลดอัตราภาษีอากรสำหรับวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ใช้ใน (๒) การใช้นโยบายการเงิน ได้แก่ การจัดหาแหล่งเงินกู้ให้เอกชนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ การ ๓. การว่างงาน (Unemployment) หมายถึง
ภาวการณ์ที่บุคคลในวัยแรงงานซึ่งพร้อมที่จะทำงานแต่ การแกป้ ัญหาการว่างงานจะตอ้ งใชน้ โยบายดังตอ่ ไปนี้ ๑) การใช้นโยบายคลัง ได้แก่ การเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล การจ่ายเงินประกันการว่างงาน การ ๒) นโยบายการเงิน รัฐบาลควรใช้มาตรการทางการเงินเพื่อเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ สรปุ การบริหารการคลังสาธารณะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินหรือการบริหารงานของ ๑. นโยบายการเงิน เป็นนโยบายที่เกี่ยวกับการกำหนดและควบคุมปริมาณเงินให้พอเหมาะกับความ แนวทางในการดำเนินนโยบายทางการเงิน มีแนวทางหลักๆ อยู่ ๒ แนวทาง คอื ๑) การควบคุมเชิงปริมาณ คือ การควบคุมปริมาณเงิน เช่น การเปลี่ยนแปลงอัตราเงินสดสำรองของ ๒) การควบคุมเชงิ คณุ ภาพ เช่น การจำกัดสินเชือ่ การเข้มงวดในการปลอ่ ยสินเช่อื เปน็ ต้น ๑๘ หน่วยงานหลักที่มีอำนาจหน้าที่และดูแลรับผิดชอบการบริหารงานคลังด้าน นโยบายการเงินก็คือ บทที่ ๒ การบริหารงานงบประมาณ การจัดทำงบประมาณได้เริ่มขึ้นครั้งแรกในประเทศอังกฤษในราวคริสต์ศตวรรษที่ ๑๗-๑๘ ซึ่งเป็นสมยั ความหมายของงบประมาณ คำวา่ "งบประมาณ" ซงึ่ ในภาษาอังกฤษใช้คำวา่ "budget" มาจากภาษาฝรัง่ เศสโบราณว่า "bougette" อินสอน บวั เขยี ว20 กลา่ ววา่ งบประมาณ หมายถึง แผนการดำเนนิ งานของกิจการใดกจิ การหนึ่งที่ 20 อนิ สอน บวั เขียว, สาระสำคญั การบรหิ ารชมชน, (กรงุ เทพมหานคร : พริ าบสำนกั พมิ พ์, 2337), หนา้ 164-167. ๒๐ เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษรสำหรับระยะใดเวลาหนึ่งในอนาคตงบประมาณเป็นการวางแผน การจัดหา และ นงลักษณ์ สุทธิวัฒนพันธ์21 ได้นิยามคำว่า งบประมาณ หมายถึง การวางแผนการบริหารของรัฐบาล อารีลักษณ์ พงษ์โสภา22 กล่าวว่า งบประมาณ หมายถึง แผนที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือที่แสดงถึง ทิพวรรณ หล่อสุวรรณรัตน์23 กล่าวถึง งบประมาณว่า รวมถึงรายได้และรายจ่ายทั้งหมดของรัฐบาล อรัญ ธรรมโน24 ได้ให้ความหมายงบประมาณว่า หมายถึง แผนการด้านรายจ่ายการหารายได้โดย พรชัย ลิขิตธรรมโรจน์25 กล่าวว่างบประมาณหมายถึง แผนการเงินของรัฐบาลที่จัดทำขึ้นเพื่อแสดง การบริหารงบประมาณ หมายถึง การจัดทำงบประมาณ การดำเนินงานด้านแผนพัฒนาการศึกษาและ 21
นงสักษณ์ สุทธิวฒั นพนั ธ,์ การบรหิ ารงานงบประมาณ หลักทฤษฎี และวเิ คราะหเ์ ชิงปฏบิ ัติ, พมิ พ์คร้ังที่ 5, (กรุงเทพมหานคร : หจก.เอมเทรดดง้ิ , ๒๑ ระเยียบทันเวลา อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลได้ทั้งผลผลิตและผลลัพธ์ ตลอดจนติดตามรายงาน ระบบงบประมาณมีการเปลี่ยนแนวทางการบริหารไปสู่การบริหารที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์มีการกำหนด ชยั สิทธ์ิ เฉลิมมปี ระเสรฐิ 28 ได้กล่าวถงึ ระบบงบประมาณแบบมงุ่ เน้นผลงาน (performance - based ๑.
พัฒนาระบบงบประมาณที่มุ่งเน้นผลงานและผลลัพธ์สำหรับหน่วยงานนำร่องจัดทำแผนการ ๒. พัฒนาระบบการรายงานผลทัง้ ด้านการเงินและผลการดำเนินงานทีโ่ ปร่งใสสำหรับหน่วยงานนำรอ่ ง 26 กันตทชั บตุ รคำ,
"สภาพและปัญหาการบริหารงบประมาณตามระบบงบประมาณแบบมุ่งเนน้ ผลงานตามยุทธศาสตร์ในสถานศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน ๒๒ ๓. พัฒนาระบบกระจายอำนาจการจัดการงบประมาณสำหรับหน่วยงานนำร่องโดยจะครอบคลุมถึง ๔. เพิ่มขอบเขตความครอบคลุมของงบประมาณ เป็นการดำเนินการจัดระบบรายงานค่าใช้จ่ายการ ๕. พัฒนาระบบบัญชีการเงินภาครัฐที่เทียบเทามาตรฐานนานาชาติที่กำหนดให้ International ๖. พฒั นาระบบการจดั ทำงบประมาณการงบประมาณรายจา่ ยลว่ งหน้าสำหรบั
หน่วยงานนำร่องซึ่งเป็น ๗. กระจายอำนาจงบประมาณและการบรหิ ารงบประมาณสอู่ งค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซงึ่ จะเปน็
การ ๘. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการจัดการทางการเงินในระดับมหาภาคตลอดจนพัฒนา ๙. ทบทวน ปรับปรุง แกไข เพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับระบบงบประมาณรายงานทางการเงินและ ๑๐. ปรับปรุงระบบการบริหารงานพัสดุ โดยพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านพัสดุและเน้นให้ ๑๑. ขยายผลการปรับเปลี่ยนระบบงบประมาณ
การเงินและการพัสดุต่อจากจากโครงการนำร่องให้ ๒๓ เริ่มจากการดำเนินโครงการนำร่อง (pilot project) ในส่วนราชการที่มีความพรอมโดยคัดเลือกจากความสมัคร สรุปได้ว่า งบประมาณ หมายถึง การกำหนดแผนการใช้จ่ายเงินหรือประมาณการรายรับ-รายจ่าย ความสำคัญของงานงบประมาณ จากความหมายของงบประมาณ จะเห็นได้ว่างานงบประมาณเป็นเรื่องที่สำคัญที่ผู้บริหารต้องเอาใจใส่ อนิ สอน บวั เขียว29 ไดก้ ล่าวถึงประโยชนข์ องงบประมาณไวด้ ังนี้ 29 อนิ สอน บัวเขยี ว, สาระสำคญั การบริหารชมชน, (กรุงเทพมหานคร : พริ าบสำนกั พมิ พ์, ๒๕๓๗), หนา้ ๑๖๗-๑๖๙. ๒๔ ๑) งบประมาณเป็นเครื่องมือที่ผู้บริหารองค์การ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่สร้างขึ้นมาโดยการมองเห็น ๒) เพื่อควบคุมการปฏิบัติงานของตนเอง หรือของหน่วยงานให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ซึ่งทุกคนมี ๓) ในแง่ ของการบริหารงาน
จะเห็นว่าประสิทธิภาพของการบริหารงานนั้นจะต้องใช้ความรู้ ความ ๔) เพื่อให้หน่วยงานมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าใจลักษณะงานและ ณรงค์ สัจพันโรจน์30 กล่าวสอดคล้องกันว่างบประมาณมีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อ ๑. ใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารประเทศ ให้มีการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกันตามแผนงานที่วางไว้ ๒.
ใช้เป็นเครื่องมือส่งเสริมเร่งรัดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยรัฐบาลจะต้องพยายามใช้จ่าย ๓. ใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมือในการจัดสรรทรพั ยากรที่มอี ยอู่ ย่างจำกดั ให้มปี ระสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สงู สุด ๔. ใช้เป็นเครื่องมอื ในการกระจายรายไดป้ ระชาชาติทเี่ ปน็ ธรรม ๕. ใชเ้ ปน็ เครือ่ งมอื ในการรักษาเสถยี รภาพทางเศรษฐกจิ และการเงินการคลงั ของประเทศ ๖. ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อประชาสัมพันธ์งาน และผลงานที่รัฐบาลดำเนินการให้แก่ผู้ใช้บริการเข้าใจถึง รุ่ง แก้วแดง31 ได้กล่าวถึงการบริหารงบประมาณและการเงินแบบใหม่ว่า โรงเรียนจะต้องให้ 30 ณรงค์ สจั พันโรจน์, การจดั ทำอนมุ ตั ิการบริหารงบประมาณแผ่นดิน : ทฤษฎีและปฏบิ ตั ิ, (กรงุ เทพมหานคร : บพติ รการพมิ พ์, ๒๕๔๓), หน้า 31 รงุ่ แกว้ แดง, โรงเรยี นนิตบิ ุคคล, (กรงุ เทพมหานคร : สำนักพิมพว์ ัฒนาพานชิ จำกดั , ๒๕๔๖), หน้า ๑๒๑-๑๒๒. ๒๕ เสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์32 กล่าวถึงความสำคัญของงบประมาณไว้ว่า เป็นเครื่องมือในการบริหารงาน สรุปได้ว่างบประมาณมีประโยชน์โดยตรงต่อฝ่ายบริหาร ไม่ว่าจะเป็นในรูปองค์การทั้งขนาดเล็กและ หลักการบรหิ ารงบประมาณ การบริหารงบประมาณ ได้มีการปรับปรุงระบบงบประมาณมาอย่างต่อเนื่องสำหรับประเทศไทยใน ๑) หลักการกระจายอำนาจไปยังเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา เพื่อให้ผู้บริหารมีอิสระและ 32
เสรมิ ศักติ วิศาลาภรณ์, "ปญั หาและแนวโนม้ เกี่ยวกับการมสี วนรวมของประชาชนในการบรหิ ารการศกึ ษา." ประมวลชุดวิชาสมั มนาปัญหา ๒๖ ๒) หลักความโปร่งใสและความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ การที่ผู้บริหารมีอิสระและความคล่องตัวใน ๓) หลักประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ภายใต้การบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ผู้บริหาร กิตตมิ า ปรีดีดลิ ก34 กล่าวถึงหลกั งบประมาณทด่ี ไี ว้ ๒ ประเดน็ คือ ๑) เปน็ แหล่งท่ีแสดงรายรบั รายจา่ ยของรัฐบาลทกุ รายการใหไ้ ด้มากท่สี ุดเทา่ ท่ีจะทำได้เพราะจะช่วยให้ ๒) งบประมาณจะต้องทำให้เกิดความเจรญิ แก่ ประเทศ ชาติจากหลักการบริหารงบประมาณจะเห็นวา่ รปู แบบของงบประมาณ รูปแบบของงบประมาณมีหลายรูปแบบที่สำคัญได้แก่ งบประมาณคงที่และงบประมาณยืดหยุ่น ๑. งบประมาณคงที่ และงบประมาณยดื หย่นุ งบประมาณคงท่ี (Fixed budget) คอื งบประมาณท่ีวาง 33 ธงชัย สันติวงษ์, องคก์ าร ทฤษฎี และการออกแบบ, (กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานชิ , ๒๕๕๐), หน้า ๔๓. ๒๗ สอดคล้องกันเนื่องจากการวางแผนระยะ ยาวเป็นการคาดหวังกำไรและการเติบโตในอนาคตโดยจะประสบ ๒. งบประมาณฐานศูนย์ งบประมาณฐานศูนย์ คือ งบประมาณที่จัดทำขึ้นโดย มีได้คำนึงถึงประมาณ ๓. งบประมาณส่วนเพิ่ม งบประมาณส่วนเพิ่ม คือ งบประมาณที่ช่วยในการตัดสินใจในกรณีที่มี ๔. งบประมาณตามงดระยะเวลาและงบประมาณต่อเนื่อง งบประมาณตามงวดระยะเวลา คือ ๕.
งบประมาณตามกิจกรรม งบประมาณตามกิจกรรม คือ งบประมาณที่เน้นกิจกรรมที่เกิดขึ้นใน ๖. งบประมาณตามช่วงระยะเวลาการจัดทำงบประมาณเพื่อการวางแผนและควบคุม ๕ ต่อเนื่องใน ๒๘ แรกเป็นงบประมาณของปีก่อน จัดทำงบประมาณ ๑๒ เดือนของปีปัจจุบัน และ ๓ เดือนหลังเป็น
งบประมาณ ลกั ษณะของงบประมาณทีด่ ี งบประมาณทด่ี ีและเปน็ ประโยชนตอ่ หนว่ ยงาน ควรจะตอ้ งมลี กั ษณะ ดงั น3้ี 6 ๑. เป็นศูนย์รวมของเงินงบประมาณท้ังหมดปกติการใช้จ่ายเงินงบประมาณควรจะใช้จา่
ยและพิจารณา ๒. มีลักษณะของการพัฒนาเป็นหลักงบประมาณที่ดีควรจะดำเนินการจัดสรรโดยยึดหลักการพัฒนา 36 ณรงค สัจพันโรจน, การจดั ทำอนมุ ตั ิและบริหารงบประมาณแผนดินทฤษฎแี ละปฏิบัติ, (กรุงเทพมหานคร : บพธิ การพิมพ์, ๒๕๓๘), หนา้ ๓๒. ๒๙ ๓. การกำหนดเงินต้องสอดคลองกับปัจจัยในการทำงานการจัดงบประมาณในแผนงานต้องมีความ ๔. มีลักษณะที่สามารถตรวจสอบได้ หรือเป็นเครื่องมือที่จะใช้ตรวจสอบการบริหารงานของหน่วยงาน ๕.
มีระยะการดำเนินงานที่เหมาะสม ตามปกติงบประมาณที่ดีควรมีระยะเวลาเหมาะสมตามสถาน ๖. มีลกั ษณะชว่ ยใหเ้ กิดการประหยัดในการทำงบประมาณ ควรพยายามให้การใชจ้ า่ ยเงินตามโครงการ ๗. มีลักษณะชดั เจน งบประมาณที่ดีควรมีความชัดเจนเข้าใจง่ายเนน้ ถึงความสำคัญแตล่ ะโครงการได้ดี ๘. มีความถูกต้องและเชื่อถือได้ งบประมาณที่ดีจะต้องเป็นงบประมาณที่มีความถูกต้องทั้งใน ๙. จะต้องเปิดเผยได้ งบประมาณที่ดีจะต้องมีลักษณะที่สามารถจะเปิดเผยแก่สาธารณะ หรือ ๑๐. มีความยืดหยุ่นงบประมาณที่ดีควรจะยืดหยุ่นได้ตามความจำเป็น หากจัดวางงบประมาณไว้อย่าง ๑๑. มีความเชื่อถือได้ในแง่ความบริสุทธิ์ งบประมาณที่ดีต้องสามารถตรวจสอบได้เพื่อป้องกันการ ขอ้ ดีของงบประมาณ
งบประมาณขององค์การมีส่วนช่วยให้การดำเนินการสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ๓๐ ๑. ทำให้ผู้บริหารรู้จักนำเอาการวางแผนมาเป็นเครื่องมือกำหนดงานแต่ละชนิด เพื่อให้สอดคล้องกับ ๒. งบประมาณจะกำหนดเป้าหมายท่ีแน่นอน และเปน็ ไปได้ ข้อจำกัดของงบประมาณ ต่างๆ และมีความสำคัญอย่างมากก็จริง แต่งบประมาณก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ในตัวของงบประมาณ ซึ่งข้อจำกัด อินสอน บัวเขียว37 กล่าวถงึ ข้อจำกัดงบประมาณ ดงั นี้ 37 อินสอน บัวเขียว, สาระสำคัญการบรหิ ารชมชน, (กรุงเทพมหานคร : พริ าบสำนกั พิมพ์, ๒๕๓๗), หน้า ๑๗๓-๑๗๔. ๓๑ ๓. การได้รับงบประมาณไม่เท่ากันอาจเป็นสาเหตุที่ทำหัวหน้าหน่วยงานมีข้อคิดเห็นไม่เป็นไปในรูป ๔. งบประมาณบางครั้งนำมาวัดค่าของการทำงานของผู้ปฏิบัติ เพื่อพิจารณาความดีความชอบ ซึ่งอาจ ๕.
บางหน่วยงานการใช้จ่ายมีวงเงินจำกัด แต่เมื่อเห็นว่างบประมาณยังเหลืออยู่ก็พยายามใช้ให้มาก ณรงค์ สจั พันโรจน3์ 8 กลา่ วถงึ ข้อกำหนดและขอ้ จำกดั ของงบประมาณโดยแบ่งได้ ดงั น้ี ๑. ดา้ นการบริหาร ๑) ผู้บริหาร บทบาทของผู้บริหาร
ต้องตระหนักและเห็นความสำคัญของงบประมาณว่าเป็นเครื่องมือ ๒) ด้านองคก์ ร ต้องมบี ทบาทในการจัดระบบงานและองคก์ รให้มีสายบังคบั บัญชาในองคก์ รใหแ้ น่ นอน ๓) เจ้าหนา้ ท่ี ตอ้ งปฏิบตั ดิ ังน้ี คือ ตอ้ งรู้ จักและเขา้ ใจบทบาทอำนาจหน้าท่ีของตนเองเปน็ อย่างดี
และ ๒. ด้านนิติบัญญัติ กระบวนการงบประมาณ ต้องผ่านความเห็นชอบของฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว จึง 38 ณรงค์ สัจพนั โรจน์, การจดั ทำอนมุ ตั ิการบริหารงบประมาณแผน่ ดนิ : ทฤษฎแี ละปฏบิ ตั ิ, (กรุงเทพมหานคร : บพิตรการพิมพ์, ๒๕๔๓), หนา้ ๓๒ ๓. ด้านเศรษฐกิจ
งบประมาณย่อมถูกกำหนดและจำกัดโดยสภาพเศรษฐกิจของประเทศในขณะนั้น ๔. ด้านสังคม ลักษณะของสังคมจะเป็นตัวกำหนดและจำกัดงบประมาณอีกเช่นกัน อาทิ อัตราการ ๕. ด้านอื่นๆ เช่น ข้อกำหนดและข้อจำกัดทางการศาสนาการต่างประเทศการเมือง กฎหมายและ สรุปได้ว่า งบประมาณเป็นแผนงานแสดงถึงความต้องการใช้จ่ายเงินและทรัพยากรในการดำเนิน สรุป ความหมายของงบประมาณจะแตกต่างกันออกไปตามกาลเวลาและลักษณะการให้ความหมายของ บทท่ี ๓ นโยบายงบประมาณ
คือการจัดการใส่สวนของรายได้ (ภาษี) และค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในประเทศหรือ การแบ่งประเภทตามนโยบายงบประมาณ (budget policy) และแบ่งตามบทบาทของงบประมาณ (budget roles) งบประมาณแต่ละประเภทมี ๑. การแบง่
ประเภทตามนโยบายงบประมาณ (budget policy) แบง่ ไดเ้ ป็น ๓ ประเภท คือ 39 ชัยสทิ ธิ์ เฉลิมมีประเสริฐ, มาตรฐานการจดั การทางการเงนิ ๗ Hurdles กับการจดั ทำงบประมาณระบบใหม่,
(กรงุ เทพมหานคร : ธรี ะเฟลม แอน ๓๔ ๒. การแบง่ ตามบทบาทของงบประมาณ (budget roles) เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณพ.ศ.๒๕๐๒ ขึ้น ซึ่งมี จากข้อบกพรองของระบบงบประมาณดังกล่าวในปีงบประมาณ ๒๕๒๕ สำนักงบประมาณได้ปรับปรุง
อย่างไรก็ตามแม้ว่าระบบงบประมาณแบบแผนงานจะเป็นระบบที่ส่งเสริมการพัฒนาประเทศที่มีแผน จากวิกฤตเศรษฐกิจท่เี กดิ ข้ึนเม่ือปพี .ศ. ๒๕๔๐ รฐั บาลจำเป็นต้องมีการปฏิรปู ระบบราชการในลักษณะ ๓๕ ทำงาน เพอื่ ใหส้ อดคลองกับสถานการณทเี่ ปลี่ยนแปลงไปและเนน้ ความรบั ผดิ ชอบของผบู้ รหิ ารแทนการควบคมุ สรุปว่าระบบงบประมาณมีการปรับเปลี่ยนวิธีการจากระบบงบประมาณที่
เน้นการควบคุมการใช้ การแบง่ ตามประเภทของงบประมาณ ณรงค สัจพันโรจน กล่าวว่างบประมาณที่ประเทศต่างๆ ใช้กันอยู่ในขณะนี้มีหลายประเภท แต่ที่ ๑. งบประมาณแบบแสดงรายการ (line - item budgeting) ระบบงบประมาณนี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะ ในช่วงก่อนปีพ.ศ.๒๕๒๕ ระบบงบประมาณของไทย เป็นระบบงบประมาณแบบแสดงรายการ ซึ่งการ ๒. งบประมาณแบบแสดงผลงาน (performance budgeting) เป็นระบบงบประมาณทีใ่ ช้เครื่องมือใน 40 ณรงค สจั พันโรจน, การจัดทำอนมุ ตั ิและบรหิ ารงบประมาณแผน่ ดินทฤษฎแี ละปฏิบัติ, (กรงุ เทพฯ : บพธิ การพิมพ, ๒๕๔๑), ๓๖. ๓๖ ๓. งบประมาณแบบแผนงาน (planning programming budgeting) เพื่อแก้ไข ข้อบกพรองของ ลักษณะของงบประมาณนี้ คือ ๑) เลิกการควบคุมรายละเอียด ๒) ให้กระทรวงทบวง กรม กำหนด กระบวนการในการดำเนินการ ดังนี้ ๑) ให้มีการจัดแผนงาน งานหรือโครงการเป็นระบบขึ้นมา โดย ในทางปฏิบัตขิ องระบบงบประมาณแบบแผนงาน มีข้อจำกัดซึง่ เปน็ อุปสรรคอยูห่ ลายประการ ไม่ว่าจะ ดังนั้น
จึงมีแรงผลักดันให้มีการปฏิรูประบบงบประมาณของประเทศอย่างจริงจังเพื่อให้งบประมาณ ๓๗
๔. งบประมาณแบบฐานศูนย์ (zero - based budgeting system) เป็นระบบงบประมาณที่จะ ๕. ระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน ( performance – based budgeting system)ให้ ๖. ระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ (strategic performance - based ระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน มีองค์ประกอบที่สำคัญ ดังนี้ ๑) มุ่งเน้นผลสำเร็จตามเป้าหมาย ๓๘ ตรวจสอบความคลองตัวในการจัดทำและบริหารงบประมาณให้กับผู้ปฏิบัติ (Devolution) ในขณะเดียวกัน กล่าวโดยสรุป งบประมาณเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและการเมือง ดังนั้นเพื่อให้การ สรุป นโยบาย ขอบขา่ ย การจดั ทำและเสนองบประมาณ เปน็ นโยบายงบประมาณ
คอื การจัดการใส่สวนของ บทท่ี ๔ วา่ ดว้ ยเรื่องภาษอี ากร ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีทางอ้อมประเภทหนึ่งที่รัฐนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการหารายได้เข้าสู่คลัง โดย ความหมายของภาษอี ากร รัฐบาลมีภารกิจที่จะต้องดำเนินการตามนโยบายที่ถูกกำหนดไว้ภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งถือเป็นนโยบาย รายรบั ของรัฐบาลมที ่มี าจากแหลง่
ตา่ งๆ ประกอบไปดว้ ยรายรบั จากการขายทรัพยส์ ินหรือการ คำว่า "ภาษีอากร" มีผ้ใู หค้ วามหมายไวม้ ากมายแตกตา่ งกนั ดังตอ่ ไปนี้ M.MEHL ไดใ้ ห้ความเหน็ ไวว้ ่า ภาษเี ป็นเงนิ ตราทีร่ ัฐบาลเรยี กเกบ็ จากบคุ คลธรรมดาหรอื นติ บิ ุคคลตาม Seligman ไดใ้ หค้ วามเหน็ ไวว้ ่า ภาษอี ากร คอื เงินท่รี ัฐ บาลบงั คบั เกบ็ จากบคุ คลเพื่อนำไปใชจ้ ่ายใน 42 เกริกเกยี รติ พิพัฒนเ์ สรธี รรม, การคลงั วา่ ด้วยการจัดสรรและการกระจายรายได้, พมิ พค์ รั้งที่ ๙). (กรุงเทพมหานคร :
มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, ๔๐ ภาษีอากร คือ เงินหรือสิ่งของที่รัฐบาลบังคับเรียกเก็บจากประชาชนเพื่อนำไปใช้ในกิจการของ ภาษอี ากร คือ เงินทร่ี ัฐเรียกเก็บจากบคุ คล ทรัพยส์ ิน หรอื ธุรกจิ เพอ่ื ลดการใชจ้ า่ ยของเอกชน46 จากความหมายของภาษีอากรดังกล่าว แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ก็มีประเด็นสำคัญที่สอดคล้องกัน ๑. เป็นการบังคับจัดเก็บ กล่าวคือ รัฐบาลมีอำนาจบังคับจัดเก็บจากประชาชนภายในขอบเขตท่ี เนือ่ งจากรฐั บาลมีความจำเปน็ ตอ้ งใช้จ่ายตามนโยบายสาธารณะ กย็ ่อมมีความจำเป็นต้องมีรายรับจาก แต่อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่า หากพิจารณาตามลักษณะนี้แล้ว ทำให้เข้าใจได้ว่าการที่ประชาชน ๒. มิได้มีผลประโยชน์ตอบแทนโดยตรง กล่าวคือ รัฐบาลไม่มีพนั ธะกรณี ที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทน อย่างไรก็ตาม
แม้คำว่าภาษีอากรจะไม่สามารถหาคำนิยามที่ชัดเจนได้ แต่รัฐบาลก็ยังมีความจำเป็นที่ วัตถปุ ระสงคข์ องการจัดเกบ็ ภาษีอากร การจัดเก็บภาษีอากร มีวัตถุประสงค์ในการหารายได้เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการ 45 ขจร สาธพุ นั ธุ์, คำอธบิ ายวิชาภาษอี ากร, (กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย, ๒๕๕๓), หน้า ๑. ๔๑ ส่งเสริมความเจริญเติบโตทางด้านธุรกิจและการค้า รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจช่วยควบคุมการบริโภคของ อย่างไรก็ตาม ภาษีอากรอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการด้านต่าง
ๆเพื่อให้ประชาชนมีความ ๑. เนื่องจากรัฐบาลมีรายจ่ายในการให้บริการสาธารณะด้านต่าง ๆ อาทิการป้องกันประเทศ การ ๒. โดยปกติกลกตลาดสามารถทำหน้าที่ในการจัดสรรทรัพยากรทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการจัดสรรสินค้าที่ไม่เป็นคุณประโยชน์ต่อสังคม ( De-Merit Goods) เช่น เครื่องดื่ม ๓.
กลไกของตลาดเสรีไม่สามารถทำให้การกระจายรายได้ของประชากรเป็นไปอย่างเท่าเทียมกัน ๔. หน้าที่ของรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ คือ
ต้องดำรงไว้ซึ่งระดับการจ้างงานให้อยู่ 50 กล่มุ นักวชิ าการภาษอี ากร, ภาษีอากรตามประมวลรษั ฎากร ๒๕๕๗, (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพเ์ รอื นแกว้ การพิมพ์, ๒๕๕๗), หน้า ๑. ๔๒ จัดเก็บย่อมน้อยลงไปตามจำนวนของรายได้หรือผลกำไรจากการประกอบธุรกิจ
ดังนั้น เมื่อภาษีอากรที่รัฐบาล ประเภทของภาษีอากร ภาษีอากรแต่ละประเภทที่จัดเก็บนั้น ย่อมมีผลกระทบต่อฐานะทางเศรษฐกิจของประชาชนและการ ๑. จำแนกตามฐานภาษี สามารถแบ่งการจัดเก็บออกเป็น ๓ ฐานภาษี คือ ฐานเงินได้ฐานการบริโภค ๑) ภาษที ีจ่ ัดเก็บจากฐานเงนิ ได้ (Income Tax Base) เปน็ ภาษเี งินไดแ้ บบฐานกว้าง(Comprehensive ๒) ภาษีที่จัดเก็บจากฐานการบริโภค (Consumption Tax Base) เป็นภาษีการบริโภคฐานกว้าง ๓) ภาษีที่จัดเก็บจากฐานทรัพย์สินหรือความมั่งคั่ง (Property or Wealth Tax Base)เป็นภาษีความ ๒. จำแนกตามการผลักภาระภาษี โดย จอห์น สจ๊วต มิลล์ (John Stuart Mill) นักเศรษฐศาสตร์ท่าน 51 สรายทุ ธ์ วุฒยาภรณ์, "ความร้ทู วั่ ไปเกยี่ วกบั กฎหมายภาษอี ากร." ในหนงั สอื รวมบทความทางวชิ
าการเนือ่ งในโอกาสครบรอบ ๑๙ ปี ศาล ๔๓ ๑) ภาษีทางตรง (Direct Tax) คือ ภาษีที่เก็บจากบุคคลซึง่ รับภาระภาษีโดยตรง โดยผู้เสียภาษไี ม่อาจ ๒) ภาษที างออ้ ม (Indirect Tax) คอื ภาษที ีเ่ กบ็ จากบคุ คลซึ่งสามารถผลกั
ภาระภาษีตอ่ ไปยงั บุคคลอืน่ ๓.จำแนกตามภาระภาษี เมื่อรัฐบาลจัดเก็บภาษีอากรแล้ว บุคคลใดเป็นผู้แบกรับภาระภาษีที่แท้จริง ๑) ภาระภาษีทางเศรษฐกิจหรือภาระภาษีที่แท้จริง (Effective Incidence)
หมายถึง ภาระภาษีที่ตก ๒) ภาระภาษีอย่างเป็นทางการ (Statutory
Incidence) หรือภาระภาษีตามกฎหมาย (Formal ฐานภาษี ฐานภาษี (Tax Base) หมายถึง ส่ิงซง่ึ เปน็ มูลเหตุข้ันตน้ ท่ีทำใหบ้ คุ คลตอ้ งเสียภาษอี ากร เปน็ แหล่งทม่ี า ไซม่อน เจมส์ และครสิ โตเฟอร์ โนเบส (Simon James and Christopher Nobes) ไดใ้ ห้ความหมาย แนนซี่ วอลล์ (Nancy Wall) ได้ให้ความหมายของคำว่า "ฐานภาษี" หมายถึงแหล่งที่มาทั้งหมดของ |