คํา สั่ง Personalization ใน เมนู Setting ใช้ ปรับ แต่ง ค่า ใด

Windows 11 ให้ระบบการทํางานแบบไดนามิกโดยคุณสามารถกําหนดค่าเดสก์ท็อปตามความต้องการของคุณได้ ใช้ข้อมูลในเอกสารชุดนี้เพื่อเรียนรู้และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติการทำงานของ Windows 11

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Windows 11 โปรดดู HP PC - บริการสนับสนุนสําหรับ Windows 11

เมนู Start (เริ่ม) และแถบงาน

เมนู Start (เริ่ม) ของ Windows 11 จะมีเค้าโครงใหม่ แถบงานจะถูกจัดตำแหน่งตรงกลางที่ด้านล่างของหน้าจอ

แถบค้นหาด้านบนของเมนู Start (เริ่ม) ช่วยให้คุณสามารถค้นหาแอปหรือเอกสารได้อย่างรวดเร็ว พื้นที่แอปที่ปักหมุดที่ปรับแต่งได้จะอยู่ใต้แถบค้นหา คุณสามารถปักหมุดแอปได้ไม่จํากัดจํานวนแอป แต่จะแสดงได้สูงสุด 18 รายการ รายการ All apps (แอปทั้งหมด) จะแสดงแอปที่ติดตั้งทั้งหมด ปักหมุดไว้ หรือไม่ได้ปักหมุดไว้

ในการปักหมุดแอป ให้คลิกขวาที่แอป จากนั้นเลือก Pin to Start (ปักหมุดที่หน้าจอเริ่ม) สำหรับการยกเลิกการปักหมุดแอป ให้คลิกขวาที่แอป จากนั้นเลือก Unpin from Start (ถอนหมุดจากหน้าจอเริ่ม) คลิกและลากเพื่อจัดเรียงแอป หรือคลิกขวาที่แอป แล้วเลือก Move to top (ย้ายไปด้านบน) เพื่อปักหมุดแอปเป็นรายการแรกในรายการ

ด้านล่างแอปที่ปักหมุดเป็นพื้นที่ Recommended (ที่แนะนำ) ใหม่สําหรับแสดงเอกสาร Office และแอปที่ติดตั้งล่าสุดของคุณ พื้นที่นี้ช่วยให้สะดวกในการข้ามกลับไปยังเอกสารที่ใช้งานล่าสุด หรือปักหมุดแอปที่ติดตั้งใหม่ไปที่ด้านบนของเมนู Start (เริ่ม) พื้นที่ Recommended (ที่แนะนำ) ใหม่จะแทนที่คุณสมบัติ Windows Timeline พื้นที่ Recommended (ที่แนะนํา) สามารถแสดงได้สูงสุดหกรายการ ปุ่ม More (เพิ่มเติม) ที่จะนําคุณไปยังรายการล่าสุดเพิ่มเติม

ด้านล่างของเมนู Start (เริ่ม) จะแสดงรูปภาพโพรไฟล์ ชื่อและส่วนควบคุมพลังงานของคุณ คุณสามารถปรับแต่งพื้นที่ด้านล่างนี้โดยใช้ปุ่มลัดของโฟลเดอร์ File Explorer ต่างๆ เช่น ข้อมูลดาวน์โหลด รูปภาพ วิดีโอ เป็นต้น

ในการกําหนดค่าเมนู Start (เริ่ม) ให้เลือก Settings (การตั้งค่า) จากนั้นเลือก Personalization (การปรับแต่ง) แล้วเลือก Start menu (เมนูเริ่ม)

สำหรับการกําหนดค่าแถบงาน ให้เลือก Settings (การตั้งค่า) เลือก Personalization (การปรับแต่ง) จากนั้นเลือก Taskbar (แถบงาน)

หากต้องการย้ายแถบงานไปทางด้านซ้ายของหน้าจอ ให้เลือก Taskbar behaviors (ลักษณะการทำงานของแถบงาน) Taskbar alignment (การจัดแนวแถบงาน) จากนั้นเลือก Left (ด้านซ้าย)

หากต้องการเพิ่มปุ่มลัดเพิ่มเติมไปยังแถบงาน ให้ใช้ส่วนมุมของแถบงานที่ยื่นเกินมา

ไอคอนมุมแถบงาน

Windows 11 มีไอคอนมุมแถบงานใหม่ทางด้านขวาของแถบงาน

หากต้องการแสดงหรือซ่อนไอคอน ให้ไปที่เมนู Settings (การตั้งค่า) เลือก Personalization (การปรับแต่ง) จากนั้นสลับไอคอนที่มีอยู่

ไอคอนที่ใช้ได้จะประกอบไปด้วย:

  • เมนูปากกา (พื้นที่ทํางานของหมึก)

    คุณสามารถปักหมุดแอปได้สี่ตัวไปยังแถบเครื่องมือ Ink Workspace (พื้นที่ทํางานของหมึก)

    เลือกไอคอนปากกา

    คํา สั่ง Personalization ใน เมนู Setting ใช้ ปรับ แต่ง ค่า ใด
    เพื่อเปิดเมนูปากกา

    ในการเพิ่มแอปไปยังเมนูปากกา ให้เลือก Settings (การตั้งค่า) จากนั้นเลือกเมนู Edit pen menu (แก้ไขเมนูปากกา)

    สำหรับการกําหนดค่าปากกาและค่าของ Windows Ink ให้ไปที่เมนู Settings (การตั้งค่า) จากนั้นเลือก Bluetooth & Devices (Bluetooth และอุปกรณ์) จากนั้นเลือก Pen & Windows Ink (ปากกาและ Windows Ink)

  • แป้นพิมพ์แบบสัมผัส

    เลือกไอคอนแป้นพิมพ์เพื่อเปิดแป้นพิมพ์แบบสัมผัส มีธีมการใช้งานใหม่ 13 แบบสําหรับแป้นพิมพ์แบบสัมผัส เครื่องมือธีมอนุญาตให้คุณสร้างธีมที่ปรับแต่งได้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งรูปภาพพื้นหลัง นอกจากนี้ยังสามารถปรับขนาดแป้นพิมพ์แบบสัมผัสได้อีกด้วย

  • ทัชแพดเสมือนจริง

    รูปแบบสั่งการระบบสัมผัสบนหน้าจอจะคล้ายกับรูปแบบสั่งการของทัชแพด อนุญาตให้คุณสามารถสลับระหว่างแอปและเดสก์ท็อปได้ตามต้องการ

    รูปแบบสั่งการแบบสามนิ้วประกอบไปด้วย:

    • กวาดนิ้วไปทางซ้าย/ขวา: สลับไปที่หน้าต่างแอปที่ใช้ล่าสุด

    • กวาดลง: ย้อนกลับไปที่เดสก์ท็อป ตามด้วยการกวาดขึ้นเพื่อกู้คืนหน้าต่างแอป

    • กวาดขึ้น: เปิดมุมมองงานเพื่อเรียกดูหน้าต่างแอปและเดสก์ท็อปทั้งหมด

    รูปแบบสั่งการแบบสี่นิ้วประกอบไปด้วย:

    • กวาดนิ้วไปทางซ้าย/ขวา: สลับไปที่เดสก์ท็อปก่อนหน้า/ถัดไป

    • กวาดลง: ย้อนกลับไปที่เดสก์ท็อป ตามด้วยการกวาดขึ้นเพื่อกู้คืนหน้าต่างแอป

    • กวาดขึ้น: เปิดมุมมองงานเพื่อเรียกดูหน้าต่างแอปและเดสก์ท็อปทั้งหมด

การแจ้งเตือนและการตั้งค่าด่วน

การแจ้งเตือนจะอยู่เหนือปฏิทิน เมนู Quick Settings (การตั้งค่าด่วน) ระบุการดําเนินการด่วนของ Action Center (ศูนย์ปฏิบัติการ) ทั้งหมด

หากต้องการเข้าถึงการแจ้งเตือนและปฏิทิน ให้คลิกที่วันที่และเวลาจากแถบงาน คุณสามารถดําเนินการ ล้าง และจัดการการแจ้งเตือนได้ คุณไม่สามารถปรับแต่งการแจ้งเตือนได้

หากต้องการปรับแต่ง Quick Actions (การดำเนินการด่วน) ของ Action Center (ศูนย์ปฏิบัติการ) ให้คลิกที่ไอคอนแก้ไขการตั้งค่าด่วน คุณสามารถกําหนดการดําเนินการได้สูงสุด 12 รายการในเมนู Quick Actions (การดําเนินการด่วน)

Widgets (วิดเจ็ต)

วิดเจ็ตเป็นฟีดที่จะแสดงข้อมูลที่ปรับเป็นส่วนตัว เช่น ข่าวสาร สภาพอากาศ หรือการแจ้งเตือน

คุณสามารถเข้าถึงแผง Widgets (วิดเจ็ต) ได้โดยใช้ไอคอนวิดเจ็ตที่กำหนดไว้ในแถบงาน กวาดนิ้วไปทางซ้ายจากขอบหน้าจอ หรือกดปุ่ม Windows + w แผงคําสั่งจะเปิดขึ้นทางด้านซ้ายของหน้าจอ และไม่สามารถจัดเรียงใหม่หรือปรับขนาดได้ ด้านบนของแผงคําสั่งคือเวลาปัจจุบันและเมนูสําหรับปรับการแต่งหัวข้อและความสนใจต่างๆ ที่แสดงด้านในแผงคําสั่ง

หากต้องการแสดงหรือซ่อนวิดเจ็ต ให้ไปที่เมนู Settings (การตั้งค่า) จากนั้นเลือก Personalization (การปรับแต่ง) จากนั้นเปิดตัวเลือก Widgets (วิดเจ็ต)

ปรับแต่งวิดเจ็ตโดยคลิกที่ Add Widgets (เพิ่มวิดเจ็ต) ในแผงวิดเจ็ต

ส่วนควบคุมหลายจอภาพ

เมื่อต่อจอแสดงผลชุดที่สองเป็นค่าเริ่มต้น Windows 11 จะสร้างภาพสะท้อนจอแสดงผลชุดหลัก คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่านี้เพื่อใช้จอแสดงผลชุดที่สองเพื่อวัตถุประสงค์อื่น

Windows 11 มีตัวเลือกสี่ตัวเลือกเมื่อคุณเชื่อมต่อจอแสดงผลหลายจอกับคอมพิวเตอร์ กดปุ่ม Windows + p เพื่อแสดงการตั้งค่าจอแสดงผล

  • PC screen (หน้าจอ PC): ดูรูปภาพหน้าจอเฉพาะในคอมพิวเตอร์เท่านั้น

  • Duplicate ((ทำสำเนา)): ดูรูปภาพหน้าจอพร้อมกันทั้งที่คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง

  • Extend (ขยาย): ดูรูปภาพหน้าจอที่ขยายครอบคลุมทั้งคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง

  • Second screen only (เฉพาะหน้าจอที่สอง): ดูรูปภาพหน้าจอจากอุปกรณ์ต่อพ่วงเท่านั้น

หากต้องการแสดงแถบงานบนจอแสดงผลหลายจอ ให้ไปที่เมนู Settings (การตั้งค่า) เลือก Personalization (การปรับแต่ง) เลือก Taskbar (แถบงาน) จากนั้นเลือก Show my taskbar on all displays (แสดงแถบงานของฉันบนทุกจอแสดงผล)

หากต้องการใช้จอแสดงผลชุดที่สอง ให้กดปุ่ม Windows + p

หากต้องการเปลี่ยนค่าความละเอียดสําหรับจอแสดงผลชุดที่สอง ให้ไปที่เมนู Settings (การตั้งค่า) เลือก System (ระบบ) จากนั้นเลือก Display (การแสดงผล) จากนั้นแก้ไขค่าจาก Display resolution (ความละเอียดของการแสดงผล)

มุมมองงานและเดสก์ท็อปเสมือนจริง

เดสก์ท็อปเสมือนจริงของ Windows 11 เป็นเดสก์ท็อปแยกเฉพาะที่สามารถสร้างโดยผู้ใช้เพื่อจัดเรียงประเภทของแอปพลิเคชัน

ในการสร้างเดสก์ท็อปเสมือนจริงใหม่ ให้เลื่อนเคอร์เซอร์ไปเหนือ ในแถบงาน จากนั้นเลือก New Desktop (เดสก์ท็อปใหม่) เดสก์ท็อปที่ใช้งานในปัจจุบันจะแสดงเป็น Desktop 1 (เดสก์ท็อป 1) เลื่อนเคอร์เซอร์ไปเหนือไอคอน Task View (มุมมองงาน) เพื่อแสดงเดสก์ท็อปเสมือนจริงทั้งหมดที่ใช้งานได้ กดปุ่ม Windows + ctrl + ลูกศรขวา เพื่อสลับไปยังเดสก์ท็อปเสมือนจริงทางด้านขวา กดปุ่ม Windows + ctrl + ลูกศรซ้าย เพื่อสลับไปยังเดสก์ท็อปเสมือนจริงทางด้านซ้าย

หรือเลือกไอคอน Task View (มุมมองงาน) หรือกดปุ่ม Windows + tab เพื่อแสดงหน้าต่างที่ใช้งานได้ทั้งหมดด้านบน และเดสก์ท็อปเสมือนจริงที่ด้านล่างของรายการ

หากต้องการเปลี่ยนชื่อเดสก์ท็อปเสมือนจริง ให้คลิกขวาที่รูปขนาดย่อในเมนูมุมมองงาน จากนั้นเลือก Rename (เปลี่ยนชื่อ)

หากต้องการเปลี่ยนแปลงพื้นหลังสําหรับเดสก์ท็อปเสมือนจริง ให้คลิกขวาที่รูปขนาดย่อในเมนูมุมมองงาน จากนั้นเลือก Choose background (เลือกพื้นหลัง)

การตั้งค่าการแสดงผล

Windows 11 มีการตั้งค่าการแสดงผล High Dynamic Range (HDR) และ Dynamic Refresh Rate (DRR) อัตโนมัติ

Windows 11 รองรับ HDR อัตโนมัติ จาก Settings (การตั้งค่า) ให้เปิดใช้ Auto HDR (HDR อัตโนมัติ) เพื่อให้แน่ใจว่าเกมที่รองรับจะถูกปรับขนาดโดยอัตโนมัติและเกมที่ไม่รองรับความละเอียดสูงจะใช้ SDR เปิดใช้ Use HDR (ใช้ HDR) เพื่อให้แน่ใจว่า HDR เปิดทํางานเมื่อคุณเรียกใช้เกม

Windows 11 รองรับ Dynamic Refresh Rate (DRR) ซึ่งอนุญาตให้คอมพิวเตอร์สามารถเร่งอัตรารีเฟรชอัตโนมัติเมื่อคุณกําลังเขียนหรือไล่รายการเพื่อให้มีการใช้งานที่ราบรื่นขึ้น และลดอัตรารีเฟรชเมื่อไม่ต้องการใช้งานเพื่อการประหยัดพลังงานของคอมพิวเตอร์ได้

อัตรารีเฟรชแบบไดนามิก (DRR) ที่ใช้ได้อาจแตกต่างกันไป โน้ตบุ๊กบางรุ่นจะมีจอแสดงผลที่รองรับอัตรารีเฟรชแบบแปรผัน (VRR) และอัตราการรีเฟรชอย่างน้อย 120 Hz DRR ยังต้องใช้ไดรเวอร์กราฟิก WDDM 3.0 ซึ่งพร้อมให้ดาวน์โหลดผ่าน Windows Update ได้

คุณสามารถเลือกอัตรารีเฟรชภายใต้

Snap (จัดชิด)

การจัดแอปชิดกันแบบใหม่ให้คุณสามารถเรียกใช้แอปแบบเรียงต่อกันในจอภาพหลักหรือจอภาพรองของคุณได้ คุณสามารถเรียกใช้แอปได้สูงสุดสี่แอปต่อจอแสดงผล

Windows สามารถปรับขนาดหน้าต่างได้โดยอัตโนมัติเมื่อคุณลากหน้าต่างไปยังพื้นที่ต่างๆ ของหน้าจอ

ใน Windows 11 คุณสามารถเลื่อนเคอร์เซอร์ไปเหนือไอคอนขยายใหญ่ของหน้าต่างแอปเพื่อเข้าเข้าถึงคุณสมบัติ Snap (จัดชิด)

Snap (จัดชิด) มีหกเค้าโครง (ขึ้นอยู่กับความละเอียดของหน้าจอ)

นอกจากนี้ Microsoft ยังได้ปรับปรุงหน่วยความจําของแอปที่จัดชิดกันให้ดีขึ้นด้วย หากคุณมีเค้าโครงที่จัดตําแหน่งชิดกันไว้ในโหมดแนวนอนและหมุนจอแสดงผล Windows จะหมุนหน้าต่างแอปเหล่านี้และเก็บไว้ในตําแหน่งที่จัดชิดไว้ นอกจากนี้ Windows ยังจดจําตําแหน่งหน้าต่างที่จัดตำแหน่งชิดไว้ขณะต่อพ่วงและปลดออกจากจอแสดงผลต่อพ่วง

Search (การค้นหา)

คุณสมบัติการค้นหามีอยู่ใน Windows 11 แต่ไม่มีแถบค้นหาบนแถบงานอีกต่อไป

คลิก Start (เริ่ม) แล้วเริ่มการพิมพ์ จากนั้น Windows จะสลับคุณไปยังส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น

Microsoft Store

Microsoft Store ใหม่ช่วยคุณในการค้นหาและติดตั้งแอป เกม ภาพยนตร์ และข้อเสนอพิเศษ

คุณสามารถใช้ร้านค้าแบบป็อปอัพใหม่เพื่อติดตั้งแอปจากเบราว์เซอร์ได้ เมื่อคุณคลิกที่ป้ายการดาวน์โหลดของ Microsoft Store บนหน้าเว็บ Microsoft Store จะเปิดหน้าต่างขึ้นมาเพื่อจัดการการติดตั้งโดยไม่ต้องปิดหน้าเว็บของคุณ

ภายในร้านค้าแอปที่ออกแบบใหม่คุณสามารถเข้าถึงแค็ตตาล็อกแอปของ Android ซึ่งขับเคลื่อนโดย Appstore ของ Amazon Amazon ได้ยืนยันแล้วว่า Appstore รองรับ Android App Bundles (AAB) ซึ่งเป็นมาตรฐานแอป Android รุ่นใหม่ซึ่งจะมาแทนที่รูปแบบ APK ในปัจจุบัน

เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เรียกใช้แอป Android ที่ต้องการใน Windows 11, Microsoft จะใช้ Windows Subsystem สําหรับ Android (WSA) ซึ่งจะคล้ายกับ Linux Subsystem สำหรับ Linux (WSL)

นอกจากนี้ Windows 11 ยังประกอบด้วยเทคโนโลยีเครื่องเสมือนจริงใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาการรองรับการทํางานกับ Android Open Source Project (AOSP) ซึ่งเป็นแสตกซอฟต์แวร์แบบโอเพนซอร์ส

ด้วย Android Open Source Project (AOSP), Windows 11 ไม่จําเป็นต้องรองรับบริการจาก Google Play และแอปส่วนใหญ่จะทํางานบนระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปได้

นอกจากนี้คุณยังสามารถทำไซด์โหลดแอปใน Windows 11 ได้ การทำไซด์โหลดเป็นกระบวนการติดตั้งแอป Android ในอุปกรณ์ของคุณที่ไม่ได้ผ่านการรับรองของ Microsoft Store หรือ Amazon Appstore คุณสามารถดาวน์โหลด APK จากเว็บไซต์อย่าง APKMirror จากนั้นดับเบิลคลิกเลือกไฟล์เพื่อติดตั้งแอปบนอุปกรณ์ Windows

การเปิดใช้งาน Cortana และเสียง

Cortana มีจัดมาให้พร้อมอุปกรณ์แล้ว แต่ไม่ได้เปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น

ในการเปิดใช้งาน Cortana ให้ค้นหาและเปิด Cortana ขึ้นมา หรือคุณสามารถเลือก

หลังจากลงชื่อเข้าใช้ Cortana จะปรากฏขึ้นในหน้าต่างป็อปอัพขนาดเล็กเหนือกลางแถบงานของ Windows นอกจากนี้ยังอาจเปิดแอปอื่นๆ เช่น เว็บเบราว์เซอร์ Microsoft Edge หรือแอป Microsoft Office ตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ Cortana จะไม่ถูกรวมกับระบบการค้นหาของ Windows อีกต่อไป แม้ว่าคุณจะลงชื่อเข้าใช้ในแอป Cortana แล้วก็ตาม Cortana จะไม่ตอบสนองต่อสิ่งที่คุณพิมพ์ลงในส่วนการค้นหาของ Windows คุณจะต้องเปิดใช้แอป Cortana จากนั้นพิมพ์คำถามของคุณลงในหน้าต่างการสนทนาของแอป

จาก Privacy and settings (ความเป็นส่วนตัวและการตั้งค่า) คุณสามารถปรับค่าการเปิดใช้งานเสียงสําหรับ Cortana

ตัวเปิดใช้การพิมพ์ด้วยเสียงใหม่เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการเริ่มพิมพ์ด้วยเสียงในฟิลด์ข้อความที่เลือก ตัวเปิดใช้งานจะปิดทํางานเป็นค่าเริ่มต้น แต่สามารถเปิดใช้งานได้โดยกดปุ่ม Windows + h จากนั้นวางหน้าต่างพิมพ์คำสั่งเสียงในจุดที่ต้องการบนหน้าจอของคุณ

Teams Chat (การแชทผ่าน Teams)

ด้วย Windows 11 การแชทจาก Microsoft Teams จะอยู่ในแถบงาน

คุณสามารถเชื่อมต่อกันผ่านข้อความ การแชท เสียง หรือวิดีโอกับผู้ติดต่อส่วนบุคคลของคุณทั้งหมดได้จากทุกที่และจากทุกอุปกรณ์ระบบ Windows, Android หรือ iOS หากบุคคลที่คุณเชื่อมต่อในปลายอีกด้านยังไม่ได้ดาวน์โหลดแอป Teams คุณยังคงสามารถเชื่อมต่อกับพวกเขาผ่าน SMS แบบสองทางได้

Teams Chat (การแชทผ่าน Teams) ไม่ใช่ไคลเอ็นต์ Microsoft Teams แบบสมบูรณ์ โดยคุณสามารถจัดการการแชทและการสนทนาทางวิดีโอได้เท่านั้น (ที่เรียกว่า "Meet" (ประชุม)) ในการเปิด Teams Chat ใน Windows 11 ให้คลิกที่ ที่แถบงาน หรือกดปุ่ม Windows + c

Teams 2.0 ประกอบด้วยคุณสมบัติการทำงานต่อไปนี้:

  • ไอคอนแถบงาน Chat (การแชท) ใหม่

  • ปุ่มลัด Windows + c เพื่อเรียกใช้ Chat (การแชท)

  • การแจ้งเตือนที่มีการตอบกลับแบบอินไลน์

  • เพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อผ่านที่อยู่อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์

  • ส่งอีเมลหรือ SMS ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อที่ไม่มี Teams จากแอป Teams

  • การสนับสนุนของ SMS อนุญาตให้ผู้ใช้อุปกรณ์พกพา/โทรศัพท์มือถือสามารถเข้าร่วมและโต้ตอบกับการแชทผ่าน SMS ได้ (เฉพาะในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก บราซิล โคลัมเบีย อินเดีย และอังกฤษเท่านั้น)

  • ซิงค์ผู้ใช้งาน Skype ก่อนหน้าหรือผู้ติดต่อส่วนบุคคลใน Outlook.com ไปยัง Teams (ทางเลือก)

  • ไอคอนแถบงานรองรับทั้งโหมด/ธีมของ Windows ทั้งแบบสีอ่อนและสีเข้ม

File Explorer

มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างกับ File Explorer ใน Windows 11 ที่รวมถึงแถบเครื่องมือใหม่และไอคอนใหม่สําหรับไฟล์และแอปต่างๆ

แถบเครื่องมือถูกปรับให้ใช้ง่ายขึ้น ไอคอนพื้นฐานช่วยให้คุณสามารถทํางานขั้นพื้นฐาน เช่น จัดทําโฟลเดอร์ใหม่ คัดลอก วาง เปลี่ยนชื่อ ลบ จัดเรียงไอคอนหรือเปลี่ยนมุมมองได้

เปิดเมนู More (เพิ่มเติม) เพื่อเข้าถึงรายการเพิ่มเติม เช่น การแมปไดรฟ์เครือข่าย การเลือกรายการทั้งหมดในหน้าต่าง และการเปิดตัวเลือกต่างๆ

ใน Windows 11 หน้าต่าง File Explorer ทั้งหมดจะมีมุมแบบกลม

System settings (การตั้งค่าระบบ)

เมนู System settings (การตั้งค่าระบบ) ประกอบไปด้วยตัวเลือกการเปลี่ยนแปลงระบบเสียง พลังงานและแบตเตอรี่ การจัดเก็บข้อมูล และคลิปบอร์ด

ถึงตอนนี้คุณสามารถเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้เพื่อกำหนดวิธีการเรียกใช้แอปที่ติดตั้งมาสําเร็จในพื้นหลัง: Always (เสมอ), Power optimized (ปรับประสิทธิภาพพลังงานแล้ว), Never (ไม่เสมอ)

Windows 11 มีเสียงใหม่เกือบ 100 เสียง

คุณสามารถเพิ่มหรือจับคู่อุปกรณ์จ่ายสัญญาณหรืออุปกรณ์อินพุทใหม่ เช่น อุปกรณ์เสียง Bluetooth โดยเลือก จากนั้นเลือก Add device (เพิ่มอุปกรณ์)

สำหรับการกําหนดค่าหรือเปลี่ยนชื่ออุปกรณ์เสียง ให้เลือกอุปกรณ์ใน

ในการอัปเดตไดรเวอร์สําหรับอุปกรณ์เสียง ใหเลือกค่าเสียงโดยเลือก Check for driver updates (ตรวจหาข้อมูลอัปเดตไดรเวอร์)

ถึงตอนนี้หน้าต่างตัวปรับแต่งระดับเสียงจะพร้อมใช้งานในการตั้งค่าเสียง

Windows 11 อนุญาตให้คุณควบคุมเสียงแบบแอปต่อแอปได้

หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ ให้เลือก แล้วเลือกตัวเลือกต่อไปนี้จาก Power mode (โหมดพลังงาน): Best power efficiency (ประสิทธิภาพพลังงานที่ดีที่สุด), Balanced (ได้สมดุล), Best performance (ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด)

หากต้องการสํารองข้อมูลไฟล์ไปยังอุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกหรือทำการสํารองข้อมูลทั้งระบบ ให้ไปที่ นอกจากนี้ตัวเลือกการสํารองข้อมูลยังอยู่ที่แผงควบคุมอีกด้วย

ฟังก์ชัน Clipboard History (ประวัติคลิปบอร์ด) สามารถจดจํารูปภาพ ข้อความ สคริปต์ ลิงค์ เอกสารและวิดีโอที่มีขนาดไม่เกิน 4 MB ได้ หลังจากถึงขีดจํากัดดังกล่าว รายการที่คัดลอกล่าสุดจะถูกลบออกจากคลิปบอร์ดเมื่อคุณคัดลอกรายการใหม่ รายการประวัติคลิปบอร์ดจะรีเซ็ตทุกครั้งที่คุณรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ ยกเว้นในกรณีที่คุณได้ปักหมุดรายการไว้บนคลิปบอร์ด

ฟังก์ชัน Clipboard History (ประวัติคลิปบอร์ด) จะถูกปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น

Network and Internet (เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต)

Wi-Fi 6E พร้อมใช้งานใน Windows 11 นอกจากนี้ Windows 11 ยังอนุญาตให้คุณสามารถเปิดหรือปิดอะแดปเตอร์ Wi-Fi หรืออีเทอร์เน็ตด้วยการคลิกปุ่ม และเข้าดูภาพรวมเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของอะแดปเตอร์แต่ละตัวได้

Wi-Fi 6E ช่วยให้มีความเร็วสูงขึ้น ความจุสูงขึ้น เวลาการตอบสนองที่ลดลง และมีความปลอดภัยมากขึ้น

หมายเหตุ:

Wi-Fi 6E ใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งอุปกรณ์ Wi-Fi 6E และไดรเวอร์ที่รองรับ

Apps (แอพ)

การตั้งค่าแอปใน Windows 11 อนุญาตให้คุณสามารถเลือกหรือแก้ไขการจับคู่ประเภทไฟล์ที่แอปสามารถเปิดได้

ในการเปิดแอป Settings (การตั้งค่า) ของ Windows ให้กดปุ่ม Windows + i หรือคลิกขวาที่ปุ่ม Start (เริ่ม) แล้วเลือก Settings (การตั้งค่า)

หากต้องการเปลี่ยนแปลงแอปเริ่มต้น ให้ค้นหาตามประเภทไฟล์ เลือก จากนั้นเลือก Set a default for a file type or link type (ตั้งเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับประเภทไฟล์หรือประเภทลิงก์) จากนั้นพิมพ์ชื่อนามสกุลไฟล์เพื่อเชื่อมโยงกับแอป ตัวอย่างเช่น พิมพ์ txt สําหรับไฟล์ข้อความหรือ jpg สําหรับรูปภาพ jpeg

หากพิมพ์นามสกุลไฟล์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้ ให้เลือก Choose a Default (เลือกค่าเริ่มต้น) เพื่อตั้งค่าแอปเริ่มต้นสําหรับนามสกุลดังกล่าว

Accounts (บัญชีผู้ใช้)

เวอร์ชันของ Windows 11 จะกำหนดเงื่อนไขในการติดตั้งไว้ Windows 11 Home ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและบัญชี Microsoft สําหรับการติดตั้ง Windows 11 Home อนุญาตให้คุณสามารถใช้บัญชีภายในเครื่องหลังจากการติดตั้งได้ คุณสามารถติดตั้ง Windows 11 รุ่นอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือบัญชี Microsoft

คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้ใน Windows โดยใช้ Windows Hello, คีย์ความปลอดภัย หรือรหัสผ่าน

Windows Hello อนุญาตให้คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้โดยใช้ใบหน้า ลายนิ้วมือหรือ PIN ของคุณ คุณสามารถใช้ Windows Hello เพื่อลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ของคุณจากหน้าจอล็อกและลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณทางเว็บ

คีย์ความปลอดภัยเป็นอุปกรณ์ทางกายภาพ เช่น คีย์ USB, สมาร์ทโฟน หรือการ์ดเชื่อมต่อสัญญาณ ที่คุณสามารถใช้แทนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อลงชื่อเข้าใช้ คุณสามารถใช้คีย์ความปลอดภัยเพิ่มเติมจากลายนิ้วมือหรือ PIN ได้

Gaming (การเล่นเกม)

แอปการตั้งค่าของ Windows 11 มีแท็บ Gaming (การเล่นเกม) โดยเฉพาะ ซึ่งคุณสามารถเปิดใช้งาน Game Mode (โหมดเกม) ได้ แท็บนี้ยังมีปุ่มลัดสําหรับการกําหนดค่า GPU สําหรับแอปแต่ละรายการบนอุปกรณ์ด้วย

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม หากคอมพิวเตอร์ของคุณมีการ์ดกราฟิกแบบแยกโดยเฉพาะ คุณสามารถตั้งค่าเพื่อใช้การ์ดในขณะเล่นเกม

วิธีการกําหนดค่าคอมพิวเตอร์สําหรับเล่นเกม:

  1. เลือก

  2. ค้นหาเกมที่คุณต้องการกําหนดค่า

  3. เลือก Options (ตัวเลือก), จากนั้นเลือ High Performance (ประสิทธิภาพสูง)

การช่วยสำหรับการเข้าถึง

Windows 11 มีเทคโนโลยีช่วยเหลือ เช่น โปรแกรมผู้บรรยาย, แว่นขยาย, คำอธิบายภาพทดแทนการได้ยิน, การรู้จำเสียงของ Windows, ตัวอ่านหน้าจอ, โปรแกรมขยายขนาด, บริการ CART, คําสั่งเสียง และระบบอื่นๆ

Windows Update

Windows Update ใน Windows 11 จะระบุเวลาโดยประมาณที่จะมีการอัปเดตระบบ ข้อมูลนี้จะแสดงอยู่ในหน้า Windows Update และในถาดระบบเมื่อมีการอัปเดตรอดําเนินการ

การเปิดใช้งาน

คุณจะต้องเปิดใช้งาน Windows เพื่อปรับแต่งและใช้งานคุณสมบัติการทํางานทั้งหมด