3. อภิปรายวาทีไม่แบ่งฝ่ายสนับสนุน หรือฝ่ายค้าน อย่างชัดเจน ใครมีความเห็นอย่างไรก็แสดงความคิดเห็นสนับสนุนในมุมมองของตนเองได้เลย Show 4. อภิปรายวาทีไม่จำกัดจำนวนคนที่จะร่วมอภิปรายดังนั้นทุกคน ทั้งห้องจึงมีสิทธิและมีโอกาสที่จะแสดงความคิดเห็น จนกว่าจะหมดคาบสอนหรือเวลาที่ครูกำหนดทำกิจกรรม จึงทำให้ นักเรียนมีส่วนร่วมมากกว่าการโต้วาที 5. อภิปรายวาที ไม่จำกัดว่าฝ่ายไหนจะพูดก่อนพูดหลัง หรือจำกัดเวลาพูด สามารถพูดสนับสนุนคนพูดก่อนหน้าได้แบบรัว ๆ ไม่ขาดตอน หากมีคนอยากแย้งหรือพูดต่อก็ยกมือจองคิวไว้ (ถ้าใช้ในห้องเรียนปกติ ครูอาจจะทำป้ายไว้ขอสนับสนุน หรือ ขอคัดค้าน ไว้ในห้อง 2-3 ป้าย เพื่อให้นักเรียนที่ต้องการแสดงความคิดเห็นได้เข้าคิวในการอภิปราย) ครูที่เป็นคนกำกับเวทีอภิปรายจะเปิดโอกาสให้แย้งต่อได้ทันทีที่คนนั้นพูดจบ ตัวอย่างกิจกรรมอภิปรายวาที เรื่อง ผู้ใหญ่ในยุคดิจิทัล ตามไม่ทันกลลวงในโลกออนไลน์ ตัวอย่างกิจกรรมอภิปรายวาที เรื่อง อภิวัฒน์สยาม 2475 ประชาธิปไตยที่พร้อมเกิดขึ้นจริง หรือชิงสุกก่อนห่าม ตัวอย่างกิจกรรมอภิปรายวาที เรื่อง การใช้โซเชียลออนไลน์แฝงภัยร้าย มากกว่าให้ประโยชน์ ตัวอย่างกิจกรรมอภิปรายวาที เรื่อง รักในวัยเรียนทำให้พากเพียรหรือเรียนไม่รู้เรื่อง 1.ครูให้หัวข้อและแหล่งการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น คลิปสั้น บทความสั้น อินโฟกราฟิก Podcast เป็นต้น ให้นักเรียนได้ศึกษา เตรียมความพร้อมไว้ก่อน 2.ครูปเปิดประเด็นการอภิปรายวาทีในห้องเรียนตามหัวข้อ บอกกติกาว่าใครจะแสดงความคิดเห็นในเชิงเห็นด้วยกับประเด็น เพราะอะไร ไม่เห็นด้วย เพราะอะไร มีตัวอย่างเพื่อเสริมน้ำหนักความคิดเห็นของเราอย่างไร มีเวลาการแสดงความเห็นตามเวลาที่ครูกำหนด ไม่จำกัดว่านักเรียนจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ได้ ดูตัวอย่างบางส่วนของการทำกิจกรรมได้ที่ facebook.com/krunut.satit/posts/2086949941443233 ***ข้อควรระวัง 1. บางครั้ง นักเรียนแสดงความคิดเห็นยังน้อย ขาดตัวอย่างประกอบ หรือประเด็นนั้นไม่มีใครแย้งเลยหรือไม่มีใครต่อประเด็น ทำให้เกิดเดดแอร์หรือการเงียบระยะนาน ครูที่ดูแลการอภิปรายมีส่วนสำคัญจะกระตุ้น โดยตั้งประเด็นคำถามแย้งข้อมูล พูดในอีกมุมมอง เพื่อให้การอภิปรายหลากหลาย และต่อเนื่อง อาจจะเหมือนร่วมวงแย้งกับนักเรียนได้ ก็สนุกดีนะครับ 2. นักเรียน อาจจะยังไม่คุ้นเคยหรือยังอ่อนในทักษะการแสดงความคิดเห็น แก้โดยวางกรอบการพูดคร่าว ๆ ให้นักเรียนดังนี้ >>> นักเรียนเห็นด้วยกับญัตติหรือสิ่งที่เพื่อนพูดหรือไม่ เพราะอะไรจึงมีความเห็นแบบนั้น มีตัวอย่าง ยกมาประกอบเหตุผลนั้นอย่างไร ปาฐกถาคือการพูดที่บุคคลคนเดียวแสดงถึงความรู้ความคิดเห็นของตนเองให้ผู้ฟังจำนวนมาก เป็นการพูดแบบบรรยาย หรืออธิบายขยายความให้ผู้ฟังได้เข้าใจเรื่องที่พูดอย่างแจ่มแจ้ง ดังนั้นผู้พูดจึงเป็นบุคคลที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านต่าง ๆ อย่างเชี่ยวชาญการพูด ปาฐกถาอาจจะเป็นการพูด เกี่ยวกับวิชาการก็ได้ หรือเป็นความรู้ทั่ว ๆ ไปก็ได้เช่นเดียวกัน แต่จะต้องมีการกำหนดหัวข้อเรื่องที่จะพูดไว้ล้วงหน้า ผู้ฟังอาจเป็นผู้กำหนดหัวข้อหรือผู้พูดกำหนดเอง ลักษณะพูดปาฐกถาไม่ใช่พูดสอนหรือบรรยายในห้องเรียนแต่เป็นการพูด ให้ผู้ฟังรู้เรื่องต่าง ๆ ในลักษณะการให้ความคิดเห็น การเสนอแนะ และการบอกเล่าเรื่องสำคัญผู้พูด หรือปาฐกจะต้องเตรียมตัวมาอย่างดี พูดตรงกับ หัวข้อเรื่องที่กำหนดให้ พูดอย่างตรงไปตรงมา และมีหลักฐานอ้างอิงให้ถูกต้องตามความเป็นจริงและสมเหตุสมผลถึงแม้ว่าการพูด ปาฐกถาจะมุ่งให้ความรู้แก่ผู้ฟังก็ตาม ก็ไม่ควรเน้น เนื้อหาสาระที่ยากและทา ให้ผู้ฟังเครียดจนเกินไป ควรใช้คำพูด ที่ง่าย ๆ เข้าใจง่าย และสร้างบรรยากาศให้สนุกสนานน่าสนใจด้วยการแทรกเรื่องเบา ๆ สลับบ้าง หากมีการอ้างสถิติ ตัวเลข ทฤษฎี หรือหลักเกณฑ์ต่าง ๆ จะต้องจดจา ให้แม่นยา หรือเขียนมาเพื่อกันความผิดพลาด แต่ให้อ่านโดยผู้ฟังไม่รู้สึกว่า เป็นการตั้งใจอ่าน ให้รู้สึกว่า ผู้พูดได้พูดตามปกติ Share this:Like this:ถูกใจ กำลังโหลด... [RE: ธงชัย วินิจจะกูล: “ชาติ” แบบหน้าไหว้หลังหลอก] อ้างปกป้องสถาบัน โดยไม่ดูมูลเหตุก็เป็นขวาตกขอบนะ ผมกลับมองว่า ตอนนี้เรากำลังจะปลดล็อคต้นตอที่แท้จริง ของความไม่ปกติในประเทศเรารึป่าว โดยส่วนตัวใน 10 ข้อ ผมสรุปได้ว่าเราต้องการ แก้ไขล่าสุดโดย TAKAMURA เมื่อ Thu Aug 13, 2020 21:31, ทั้งหมด 2 ครั้ง หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน การพูดปาฐกถา เป็นการพูดประเภทใด๕.๑ ปาฐกถา คือ การพูดที่บุคคลคนเดียวแสดงถึงความรู้ความคิดเห็นของตนเองให้ผู้ฟังจ านวนมาก เป็นการ พูดแบบบรรยาย หรืออธิบายขยายความให้ผู้ฟังได้เข้าใจเรื่องที่พูดอย่างแจ่มแจ้ง มี๒ รูปแบบ คือ ๕.๑.๑ ปาฐกถาเดี่ยว : เป็นการบรรยายคนเดียว ๕.๑.๒ แบบเสวนา : เป็นการพูดคุย มีผู้ร่วมเสวนา จานวน ๒ - ๓ คน โดยมีพิธีกรเป็นผู้ดาเนินรายการ
การกล่าวปาฐกถาคืออะไรการแสดงปาฐกถา คือ การพูดถึงความรู้ ความคิด นโยบายแสดงเหตุผล และสิ่งที่น่าสนใจผู้ที่แสดงปาฐกถา ย่อมต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง ในเรื่องนั้น ๆ การแสดงปาฐกถาไม่ใช่การสอนวิชาการ แต่มีข้อเสนอแนะ หรือข้อคิดเห็นสอดแทรก และไม่ทำให้บรรยากาศเคร่งเครียด
การปาฐกถามีจุดมุ่งหมายอย่างไรการฟังปาฐกถา เป็นการฟังเพื่อให้ผู้ฟังได้รับความรู้และความคิดจากผู้พูด บางครั้งอาจสอดแทรกความบันเทิงด้วย วิธีการฟังปาฐกถา
ผู้พูดหรือผู้แสดงปาฐกถา เรียกว่าอะไรlecture. (เลค'เชอะ) { lectured, lecturing, lectures } n. คำบรรยาย, คำปราศรัย, คำปาฐกถา. vi. บรรยาย, ปราศรัย, แสดงปาฐกถา lecturer. (เลค'เชอะเรอะ) n. ผู้บรรยาย, ผู้ปราศรัย, ผู้แสดงปาฐกถา
|