4.4 การแสดงพื้นเมืองภาคใต้ เป็นศิลปะการรำและการละเล่นของชาวพื้นบ้านภาคใต้อาจแบ่งตามกลุ่มวัฒนธรรมได้ 2 กลุ่มคือ วัฒนธรรมไทยพุทธ ได้แก่ การแสดงโนรา หนังตะลุง เพลงบอก เพลงนา และวัฒนธรรมไทยมุสลิม ได้แก่ รองเง็ง ซำแปง มะโย่ง (การแสดงละคร) ลิเกฮูลู (คล้ายลิเกภาคกลาง) และซิละ มีเครื่องดนตรีประกอบที่สำคัญ เช่น กลองโนรา กลองโพน กลองปืด โทน ทับ กรับพวง โหม่ง ปี่กาหลอ ปี่ไหน รำมะนา ไวโอลิน อัคคอร์เดียน ภายหลังได้มีระบำที่ปรับปรุงจากกิจกรรมในวิถีชีวิต ศิลปาต่างๆ เข่น ระบำร่อนแต่ การีดยาง ปาเตต๊ะ เป็นต้น Show ประเภทของนาฏศิลป์ไทย โขนตอนพระรามตามกวาง เป็นตอนหนึ่งของการแสดงโขนชุดรามเกียรติ์ กล่าวถึง กวางทอง คือ มารีจพระยายักษ์เป็นลูกของนางกากนาสูร ซึ่งรับพระราชบัญชาของทศกัณฐ์ แปลงกายเป็นกวางทอง มาล่อหลอกให้นางสีดาเกิดความรักใคร่อยากได้ พระรามจึงเสด็จตามกวางทองไปในป่า จุดเด่นของการแสดงชุดนี้อยู่ที่ ท่ารำของพระรามและกวางทอง ที่หนีและไล่ในท่วงทีลีลานาฏศิลป์โขน ตามทำนองและจังหวะเพลง โดยเฉพาะในเพลงหน้าพาทย์เชิดฉาน ซึ่งมีท่วงทำนองที่ระทึกใจ ตื่นเต้น เมื่อกวางทอง วิถีชีวิตคนไทยในยุคนี้เปลี่ยนไปจากเดิมเพราะได้รับวัฒนธรรมจากตะวันตก ศิลปะการแสดงได้มีการพัฒนาไปอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงฟื้นฟูนาฏศิลป์ และการละครโดยโปรดเกล้าฯ ให้ครูละครหลวงสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยและพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า เจ้าอยู่หัว ร่วมกันแสดงเรื่อง สังข์ทอง เพื่อให้เยาวชนได้เห็นแบบแผนฝีมือครูและโปรดเกล้าฯ ให้ครูละครหลวงในรัชกาลที่ ๔ แสดงละครเรื่องอิเหนา ทรงสนับสนุนให้เจ้านายและเอกชนจัดตั้งคณะละครขึ้นมากมาย เช่น ๑. คณะละครของพระองค์ เจ้าสิงหนาทราชดุรงฤทธิ์ เป็นคณะละครที่มีฝีมือดีในการรำ และได้แสดงในงานหลวงมากกว่าละครคณะอื่นๆ แสดงละครนอก ในสมัยต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้ทรงร่วมกับเจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ ทรงคิดและปรับปรุงขึ้นเป็นละครรูปแบบใหม่เรียกว่า “ละครดึกดำบรรพ์” ๒. ละครของเจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง (เพ็ญ เพ็ญสกุล) เกิดตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ ๔ แสดงเรื่อง ดาหลัง ต่อมาแสดงทั้งละครใน และละครนอกมีผู้นิยมเป็นอย่างมาก จากสาเหตุนี้ทำให้มีการแต่งบทละครใหม่ขึ้นเป็นจำนวนมากและมีการเก็บเงินเข้าชมเป็นครั้งแรกในโรงละคร ที่มีชื่อว่า “ปรินซ์เธียเตอร์” ๓. ละครของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ แสดงทั้งละครนอกและละครในแต่เดิมชื่อว่า “ละครหลวงนฤมิตร” ต่อมาเปลี่ยนเป็นแสดงละครร้อง ตั้งโรงละครขึ้นในพระบรมมหาราชวังที่แพร่งนรา เรียกว่า “ละครปรีดาลัย” วิวัฒนาการของนาฏศิลป์และละครไทยมีกี่สมัย *นาฏศิลป์ไทยมีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา สมัยธนบุรี เรื่อยมาจนสมัย รัตนโกสินทร์ถึงปัจจุบัน ซึ่งมีการพัฒนาไปตามแต่ละยุคสมัย คงความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเป็น มรดกของชาติที่ทรงคุณค่า ควรได้รับการอนุรักษ์และสืบทอดให้คงอยู่ต่อไป
นาฏศิลป์ไทยมีวิวัฒนาการมาจากอะไรเป็นการแสดงประเภทระบำ รำ ฟ้อน มีวิวัฒนาการมาจากการละเล่นของชาวบ้าน เป็นการพักผ่อนหย่อนใจหลังจากเสร็จงาน หรือแสดงในงานบุญ งานรื่นเริงประจำปี ปรากฏในหนังสือไตรภูมิพระร่วงฉบับพระมหาราชาลิไทว่า “บ้างเต้น บ้างรำ บ้างฟ้อน ระบำบันลือ” แสดงให้เห็นรูปแบบของนาฏศิลป์ที่ปรากฏในสมัยนี้ คือ เต้น รำ ฟ้อน และระบำ
ละครไทยที่เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยามีอะไรบ้างสมัยอยุธยามีละคร 3 ประเภทคือ ละครชาตรีซึ่งเป็นละครดั้งเดิม ละครนอกที่แก้ไขมาจาก ละครชาตรี และละครในเป็นละครของผู้หญิง มีบทละครสำหรับแสดงละคร 22 เรื่อง เช่น มโนห์รา คาวี อิเหนา อุณรุท รามเกียรติ์ ดาหลัง
วิวัฒนาการของละครไทยเริ่มตั้งแต่สมัยใดสมัยกรุงศรีอยุธยาละครไทยเริ่มจัดระเบียบแบบแผนให้รัดกุมยิ่งขึ้น มีการตั้งชื่อละครที่เคยเล่นกันอยู่ให้เป็นไปตามหลักวิชานาฏศิลปขึ้น มีการแสดงเกิดขึ้นในสมัยนี้หลายอย่าง เช่น ละครชาตรี ละครนอก ละครใน โขน การแสดงบางอย่างก็รับวัฒนธรรมเพื่อนบ้าน และวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาผสมได้ ละครไทยเริ่มจัดระเบียบแบบแผนให้รัดกุมยิ่งขึ้น มี ...
|