รถผ่อนอยู่ ก็ขอสินเชื่อได้

จะทำยังไงดี ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินด่วนแต่เงินในบัญชีไม่อำนวย แถมเงินสดที่ติดตัวอยู่ก็มีเหลือไม่มากแล้ว สารพัดค่าใช้จ่ายยังทยอยมาเรื่อยๆ อยากจะเอารถไปแลกเงิน แต่ รถติดไฟแนนซ์ ยังจะขอสินเชื่อได้ไหม…

หากใครกำลังมีคำถามนี้ในใจ แล้วไม่มั่นใจว่าการมีรถที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่ จะยื่นกู้ขอสินเชื่อเพื่อเปลี่ยนรถเป็นเงินได้หรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ

รถติดไฟแนนซ์ ก็ยังยื่นขอสินเชื่อได้

เชื่อว่า หลายคนที่กำลังหาข้อมูล สินเชื่อรถยนต์ คงจะเคยได้ยินเคมเปญโฆษณามาแล้วหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่เกี่ยวกับ สินเชื่อทะเบียนรถ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ เปลี่ยนรถเป็นเงิน คาร์ ฟอร์ แคช หรือ รถแลกเงิน … ทั้งหมดนี้ ใจความหลักเบื้องต้นของมันก็คือ การนำเอารถที่มีเล่มทะเบียน หรือเป็นรถที่ผ่อนหมดแล้ว ไปขอกู้สินเชื่อเงินก้อนจากสถาบันการเงิน ธนาคาร หรือบริษัทที่ให้บริการด้านสินเชื่อ ออกมาใช้จ่ายก่อนนั่นเอง

ขณะที่มีคนจำนวนมากยังผ่อนส่งงวดรถอยู่ แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนอีกจำนวนหนึ่งไปใช้หมุนทั้งในชีวิตประจำวัน และการทำธุรกิจ ต่อมาเลยมีเคมเปญใหม่ๆ ออกมา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ให้รถที่ยังผ่อนอยู่ก็สามารถนำมารีไฟแนนซ์ หรือเปลี่ยนรถเป็นเงินได้ด้วย

เพียงแต่มีเงื่อนไขในการแลกรถเป็นเงินที่ผู้ขอกู้ต้องศึกษาให้ดีก่อนว่า คุ้มค่าหรือไม่ ตอบโจทย์ที่ตัวเองต้องการแล้วหรือเปล่า?

มาดูตัวอย่างเพิ่มความเข้าใจกันบ้างดีกว่า ถ้าหากคุณมีรถที่ติดไฟแนนซ์จากการผ่อน ซึ่งผ่อนมาแล้วประมาณ 1 ปี หรือผ่อนมาได้ไม่กี่งวด แล้วสงสัยว่าจะกู้ได้หรือไม่ … คำถามนี้ เราหาคำตอบมาให้ได้ว่า จริงๆ แล้วธนาคาร สถาบันการเงิน หรือบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการด้านสินเชื่อ ไม่ได้มีกำหนดหรือข้อบ่งชี้ระบุไว้ชัดเจนหรอกว่า จะต้องผ่อนรถมาให้ได้แล้วอย่างน้อยกี่งวด ถึงจะขอกู้ได้ หรือไม่ได้

เพราะ ปัจจัยหลักนั้นอยู่ที่ "ยอดปิดจากที่เดิม" ที่จะต้องมีไม่เกินยอดที่จะขอกู้ใหม่ ถึงจะสามารถรีไฟแนนซ์รถได้ ตัวอย่างเช่น รถยนต์ที่จะนำมาขอกู้ กำลังติดไฟแนนซ์อยู่ และมียอดจัดที่ 450,000 บาท คุณจ่ายไปแล้ว 205,000 บาท ดังนั้น ยอดปิดก็จะอยู่ที่ราว ๆ 245,000 บาท ทีนี้ ทางไฟแนนซ์ที่ใหม่ ประเมินราคารถให้ในราคา 350,000 บาท ตรงนี้ จะเห็นได้ว่าราคาประเมินรถที่คุณได้มา มีมูลค่าสูงกว่ายอดปิด

ฉะนั้น กรณีแบบนี้ รถของคุณก็จะยังสามารถนำมารีไฟแนนซ์ได้ โดยผู้กู้จะได้รับเงินส่วนต่างกว่าหนึ่งแสนบาท ซึ่งจะกลายเป็นเงินก้อนใหม่ ให้คุณสามารถนำไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการ

ขณะเดียวกัน หากรถที่คุณนำมาขอกู้มีมูลค่า 450,000 บาท แต่ทำการผ่อนจ่ายมาแล้วเพียง 95,000 บาท ดังนั้น ยอดปิดก็จะอยู่ที่ราวๆ 360,000 บาท แต่ราคาประเมินรถของคุณ อยู่ที่ประมาณ 350,000 บาท ซึ่งเป็นราคาประเมินที่มีมูลค่าน้อยกว่ายอดปิด กรณีแบบนี้ ทางไฟแนนซ์ที่ใหม่ ก็อาจจะไม่รับรีไฟแนนซ์รถให้กับคุณ ด้วยเหตุผลว่า ราคาประเมินรถของคุณ มีมูลค่า "ต่ำกว่า" ยอดปิด จึงไม่สามารถอนุมัติให้เงินกู้ได้

ดังนั้น คำถามที่ว่า รถติดไฟแนนซ์อยู่ กู้ใหม่ได้ไหม ก็สามารถบอกได้ว่า "ขอกู้ได้" เพียงแต่ต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ เข้ามาร่วมพิจารณาให้การอนุมัติให้สินเชื่อ ก็เท่านั้นเอง

ทีนี้ คนส่วนใหญ่ที่ผ่อนรถไปแล้วประมาณ 1 ปี ที่มักจะขอกู้ไม่สำเร็จ นั่นเป็นเพราะการผ่อนรถของคนส่วนใหญ่ มักจะเป็นการชำระเพียงดอกเบี้ยมากกว่าการจ่ายเงินต้น ฉะนั้น เมื่อเงินต้นยังไม่ลดลง ก็จะทำให้รถคนนั้น ไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้ เพราะเมื่อคำนวณยอดหนี้แล้ว จะพบว่า ยอดหนี้ที่ค้างอยู่ มีมูลค่าสูงกว่าราคาประเมินรถที่ไฟแนนซ์ใหม่จะให้ได้

แต่หากคุณชำระค่างวดมาได้เรื่อยๆ ดอกเบี้ยหมด เงินต้นลด อย่างน้อยสัก 50% ขึ้นไป หรือ ชำระค่างวดมาแล้วอย่างน้อยครึ่งทาง ก็มีโอกาสที่จะขอกู้สินเชื่อผ่านมากขึ้น เพราะเงินต้นที่เหลืออยู่นั้น ลดลงไปมากพอที่จะให้ไฟแนนซ์ที่ใหม่ สามารถปิดให้ได้

ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การขอรีไฟแนนซ์รถใหม่อีกครั้งนี้ คุณจะต้องแน่ใจว่า คุณจะได้รับเงินส่วนต่างจากการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ด้วย เพราะหากคำนวณแล้ว ยอดปิดจากที่เก่ามีมูลค่าเท่ากับยอดจัดไฟแนนซ์ที่ใหม่ประเมินให้ นั่นหมายความว่า ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องรีไฟแนนซ์รถอีกครั้ง

อ้างอิงข้อมูลจาก สมหวังเงินสั่งได้, เฮงลิสซิ่ง, refinn blog