จงบอก 10 เทคนิคการสืบค้นข้อมูลด้วย google

ทุกวันนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งของการเรียนรู้บนโลกออนไลน์นั้น Search Engine ถือเป็นตัวกลางสำคัญในการนำทางจากผู้สืบค้นไปยังหน้าเว็บไซด์ปลายทางที่มีเนื้อหาตรงกับคำหรือคีย์เวิร์ดที่สืบค้น โดย Search Engine นอกจากจะทำหน้าที่ในการแสดงผลลัพธ์การสืบค้นออกมาแล้ว กระบวนการทำงานหลักอีกอย่างก็คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลจากหน้าเว็บที่เป็นแบบ Public จากเว็บไซด์ต่าง ๆบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต นำมาจัดเก็บลงในฐานข้อมูล Index จากนั้นจะใช้อัลกอริธึมในแสดงผลการสืบค้นหรือการจัดอันดับผลลัพธ์เพื่อให้ตรงกับคำค้นมากที่สุด ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่ Search Engine นำมาคิดคำนวณด้วย
เมื่อพูดถึง Search Engine ยอดนิยมในปัจจุบัน เราก็จะนึกถึง Google เนื่องจากเป็น Search Engine ที่สามารถสืบค้นข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ตรงกับความต้องการ และ มีความรวดเร็วในการสืบค้น อย่างไรก็ตามในการสืบค้นข้อมูลบน Google จำเป็นต้องเข้าใจวิธีการใช้เครื่องมือต่าง ๆที่ทาง Google จัดสรรมาให้ร่วมกับการใช้คีย์เวิร์ดที่ถูกต้อง สิ่งเหล่านี้จะยิ่งช่วยให้เราสามารถค้นเจอผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

การสืบค้นข้อมูลบน Google ด้วย 10 เทคนิคง่าย ๆดังนี้
1. การสืบค้นข้อมูลแบบเปรียบเทียบ
– ในการสืบค้นข้อมูลเชิงเปรียบเทียบนั้น อาทิเช่น เราอยากได้ผลลัพธ์การเปรียบเทียบของผลิตภัณฑ์จาก 2 ยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร ในการสืบค้นบน Google นั้นให้ใช้คำ “VS” ซึ่งย่อมาจาก Versus เช่น Samsung vs Apple เป็นต้น

2. การใช้ Double Quote (“) ครอบคำค้น
– ในการใช้ (“) ครอบคำค้นนั้น เป็นการบอกว่าเราต้องการผลลัพธ์ที่มีคำค้นแสดงอยู่ในเนื้อหาเท่านั้น เหมาะสำหรับการจำกัดผลลัพธ์ให้แคบลง ให้ตรงกับที่ต้องการมากขึ้น เช่น การสืบค้นชื่อ- นามสกุล เป็นต้น

3. การใช้สัญลักษณ์ดอกจัน (*) ร่วมกับคำค้นภายใต้ Double Quote (“) สำหรับขยายคำค้นที่ไม่ทราบ
– ในการใช้ดอกจัน (*) นั้น เป็นการบอกถึงคำอะไรก็ได้ที่ร่วมกับคำค้นที่เราใช้ให้แสดงออกมา ยกตัวอย่าง “* ราคาถูก” ผลลัพธ์ที่ได้จะแสดงคำที่ต่อท้ายด้วยราคาถูกขึ้นมา เช่น โรงแรมราคาถูก, ตั๋วเครื่องบินราคาถูก, ค่าโดยสารราคาถูก เป็นต้น

4. การสืบค้นตามช่วงเวลาได้
– การสืบค้นตามช่วงเวลานั้น Google จะให้เราทำการเลือกออปชัน โดยคลิกที่ปุ่ม “เครื่องมือ” จะมีลิงค์ให้กำหนดช่วงเวลาได้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาของผลลัพธ์ที่มีการใช้คำค้นนี้ ซึ่งระบบจะทำการจัดอันดับผลลัพธ์เฉพาะช่วงเวลาที่เลือกเท่านั้น

5. อยากรู้ index ของเว็บไซด์ที่เก็บไว้ในฐานข้อมูลของ Google
– แน่นอนหากเรามีเว็บไซด์และต้องการตรวจสอบว่าเว็บไซด์เรานั้นถูกเก็บ index ไว้ใน google ครบทุกลิงค์หรือไม่ เราสามารถทำได้โดยใช้คำสั่ง site:<ตามด้วยชื่อเว็บ> เช่น site:google.com เป็นต้น

6. ต้องการจำกัดผลลัพธ์ที่ไม่ต้องการออกไปด้วยสัญลักษณ์ Minus(-)
– การสืบค้นบางครั้งคำค้นนั้นเป็นทั้งชื่อยี่ห้อ และชื่อสัตว์ หรือ ผลไม้ เช่น jaguar (จากัวร์) เวลาค้นก็จะแสดงรถยี่ห้อจากัวร์ขึ้นมา ที่นี้ถ้าเราอยากให้แสดงผลลัพธ์ที่ไม่ใช่รถ ก็ใช้คำสั่ง jaguar –car ก็จะได้ผลลัพธ์ เช่น เสือจากัวร์ ออกมา แทนที่จะเป็นรถยนต์ยี่ห้อจากัวร์

7. การสืบค้นรูปภาพด้วยรูปภาพ
– ในการสืบค้นภาพด้วยรูปภาพจะใช้ในกรณีที่ถ้าเราอยากรู้ว่าภาพนี้มีที่มาที่ไปยังไง ต้นทางมาจากเว็บไหน เราก็สามารถทำการอัพโหลดรูปภาพขึ้นไปในช่องสืบค้นรูปภาพของ Google ได้

8. การสืบค้นด้วยเสียง
– ในการสืบค้นด้วยเสียง Google จะใช้การสังเคราะห์เสียงเปลี่ยนเป็นข้อความ หรือ Speech-to-text เพื่อสืบค้น วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบพิมพ์ แต่ต้องออกเสียงให้ชัดเจน วิธีการคือคลิกไอคอนรูปไมค์ที่หน้าจอเซิร์จของ Google แล้วพูดคำคีย์เวิร์ดผ่านไมค์เข้าไป โดยที่ระบบจะทำการแปลงเสียงเป็นข้อความคีย์เวิร์ดลงในช่องเซิร์จพร้อมกับประมวลผลลัพธ์ของการสืบค้นออกมา

9. การสืบค้นไฟล์ หรือ eBook
– ในการสืบค้นไฟล์เอกสารผ่าน Google จะใช้คีย์เวิร์ดร่วมกับนามสกุลไฟล์ ebook ที่ต้องการ เช่น easy english .pdf ผลลัพธ์ที่ได้จะแสดงลิงค์ที่เป็นไฟล์ PDF ขึ้นมา นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกสืบค้นโดยใช้นามสกุลไฟล์อื่น ๆได้ เช่น .doc, .xls, .ppt เป็นต้น

10. การคำนวณหรือใช้เครื่องคำนวณผ่านหน้า Search ของ Google
– คำว่า Search อาจจะรวมไปถึงการค้นหาผลลัพธ์จากการคำนวณด้วย ทำให้ google พัฒนาฟังก์ชันการคำนวณขึ้นมา ซึ่งสามารถพิมพ์ตรง ๆผ่านช่อง Search ได้ทันที เช่น (2*5)/10 ผลลัพธ์จะแสดงขึ้นมาผ่านโปรแกรม Calculator ของ Google ทั้งนี้ในส่วนของผลลัพธ์การสืบค้นที่เป็น index ของเว็บไซด์ก็ยังแสดงขึ้นมาเหมือนเดิม

จะเห็นว่าเทคนิคเล็ก ๆน้อย ๆเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถสืบค้นข้อมูลบน Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการ อย่างไรก็ตามอีกจุดหนึ่งที่สำคัญสำหรับการสืบค้นข้อมูลผ่าน google ก็คือ การเลือกใช้คำหรือคีย์เวิร์ด หากเรารู้ว่าจะใช้คีย์เวิร์ดแบบไหนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการก็จะยิ่งทำให้การสืบค้นมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นไปอีก