สารเคมีท่ใี ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน สารเคมี หมายถึง สารทป่ี ระกอบด้วยธาตชุ นิดเดยี วกันหรอื ธาตุ สารเคมีทีใ่ ช้ในชีวติ ประจาวัน สารเคมใี นชีวติ ประจาวัน จาแนกเป็น 5 ประเภท ดังน้ี สารทาความสะอาด สารทาความสะอาด หมายถงึ สารทม่ี คี ณุ สมบตั ิในการกาจัดความ แบ่งตามการเกิด ได้ 2 ประเภท คอื ผงซกั ฟอก สารทาความสะอาดพน้ื เป็นต้น 2) ไดจ้ ากธรรมชาติ เช่น น้ามะกรดู มะขามเปียก เกลือ เปน็ ต้น สารทาความสะอาด แบง่ ตามวตั ถปุ ระสงค์ในการใชง้ านได้เป็น 4 ประเภท คือ สบู่(soap) สบู่ คือ สารอินทรยี ์พวกเกลือท่ไี ด้จากปฏกิ ิรยิ าเคมรี ะหว่าง ปฏกิ รยิ าเคมีทีเ่ กิดข้นึ เรียกว่า สปอนนฟิ เิ คชั่น(saponification) สบู่มคี วามสามารถละลายได้ทงั้ ในน้าและไขมัน และสามารถ สบู่(soap) โครงสรา้ งของสบู่ แบ่งเปน็ 2 ส่วน ไดแ้ ก่ ผงซักฟอก ผงซกั ฟอก เปน็ สารสังเคราะห์ท่ีประกอบด้วยสารอนิ ทรยี ์ซัลโฟเนต โมเลกุลของผงซกั ฟอกประกอบด้วย 2 ส่วน มีสมบตั ิชาระล้างส่ิง สารปรุงแต่งอาหาร สารปรงุ แตง่ อาหาร หมายถงึ สารปรงุ รสและวัตถุเจือปนในอาหาร สารปรงุ แตง่ สี สีผสมอาหาร มวี ตั ถปุ ระสงคใ์ นการใชเ้ พือ่ เพิ่มความดงึ ดดู ใจ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสขุ ฉบับที่ 21 (พ.ศ.2522) ซึ่งได้ 1. สีอินทรยี ์ทไี่ ด้จากการสงั เคราะห์ สารปรุงแตง่ สี 1. สอี ินทรียท์ ไ่ี ดจ้ ากการสงั เคราะห์ ได้แก่ 1.1 จาพวกสีแดง ไดแ้ ก่ ปองโซ 4 อาร์ (Ponceau-4 R) เออรโิ ธรซีน 1.2 จาพวกสีเหลอื ง ได้แก่ ตาร์ตราซีน (Tartrazine) ซนั เซต เยลโลว์ 1.3 จาพวกสีเขยี ว ไดแ้ ก่ ฟาสต์กรีน เอฟซีเอฟ (Fast Green FCF) สารปรงุ แตง่ สี 2. สอี นินทรยี ์ ไดแ้ ก่ 2.1 ผงถ่านทีไ่ ด้จากเผาพชื (Vegetable Charcoal) สารปรุงแต่งสี 3. สีที่ไดจ้ ากธรรมชาติ ได้แก่ - สเี หลือง จากขมน้ิ ชนั ขมน้ิ ออ้ ย ดอกคาฝอย
ดอกกรรณิการ์ ลกู พดุ สารแตง่ กลิน่ และรส หมายถึง สารเคมที เ่ี กดิ ในธรรมชาตแิ ละทส่ี งั เคราะห์ข้นึ สามารถทา 1. รสหวาน ผงชูรส ผงชูรส เปน็ สารประกอบอินทรยี ์ชนดิ หนงึ่ มชี ่อื ทางเคมวี า่ โมโนโซเดยี ม แผนผงั การผลติ ผงชรู สจากแปง้ มันสาปะหลงั ผงชูรส ลักษณะของผงชูรส ผงชูรส สามารถแบ่งเปน็ 2 ชนิดคอื ผงชูรส คุณสมบตั แิ ละประโยชนข์ องผงชรู ส แจม่ ใส กระปรกี้ ระเปรา่ ผงชรู ส การทดสอบสารปลอมปนในผงชูรส 1). บอแรกซ์ การตรวจสอบหาบอแรกซใ์ นผงชรู สทาได้โดยนาผงชรู สประมาณเมด็ ผงชูรส การทดสอบสารปลอมปนในผงชูรส 2). โซเดยี มเมตาฟอสเฟต สารเคมีในการเกษตร สารเคมปี ราบศตั รพู ชื ซึ่งสามารถแบง่ เปน็ 4 กลมุ่ 1). กลุ่มออรก์ าโนคลอรีน (Organochlorine) และสลายตวั ได้ยาก โดยเม่ือฉดี พ่นไปแลว้ มกั สลายตวั ไดห้ มดในระยะเวลา 2-5 ปี ตัวอย่างของสารพษิ ในกลมุ่ น้ี ได้แก่ ดดี ที ี (DDT) แอลดริน (Aldrin) และ สารเคมใี นการเกษตร 2). กลุ่มออรก์ าโนฟอสเฟต (Organophosphate) และสลายตัวได้เรว็ โดยจะสลายตวั ไดห้ มดหลงั จากที่ฉดี หรอื พ่นแล้วในระหวา่ ง ตัวอยา่ งของสารพษิ กลมุ่ นี้ ได้แก่ พาราไทออน (Parathion) สารเคมใี นการเกษตร 3). กลุ่มคาร์บาเมต (Carbamate) (Methomyl) และคาร์โบฟวิ แรน (Carbofuran)สารพษิ กล่มุ นถี้ กู ใชก้ นั อยา่ ง สารเคมีในการเกษตร 4). กล่มุ ไพรีทรอยด์ (Pyrethroids) ธรรมชาติ คอื สกัดจากดอกทานตะวัน และจากการสงั เคราะห์ เชน่ เฟอร์เมทริน สารพิษในกลมุ่ น้ถี กู นามาใชฆ้ ่าแมลงไดด้ ี มีพษิ คอ่ นขา้ งนอ้ ยตอ่ มนุษย์ สารเคมใี นการเกษตร ขอ้ ควรปฏบิ ัติในการใชส้ ารเคมีปราบศตั รูพืช สารเคมใี นการเกษตร 5). ขณะฉดี พน่ สารเคมกี าจดั ศตั รพู ชื ควรสวมหน้ากาก หรือใช้ 6). อยา่ สบู บหุ ร่ีหรือรบั ประทานอาหารขณะผสมยาหรือฉดี พ่นยา สารเคมีทใี่ ช้ในสานักงาน 1). สารเคมที ีเ่ ปน็ ส่วนผสมในสเปรยป์ รับอากาศ เช่น อะซีโตน สารเคมที ี่ใชใ้ นสานักงาน 2). สารเคมีที่นามาใช้เป็นสว่ นผสมของน้ายาลบคาผดิ (Liquid Paper) สารเคมที ีใ่ ชใ้ นสานกั งาน 3). สารเคมที ีอ่ ย่ใู นเครอื่ งถา่ ยเอกสาร ไดแ้ ก่ สารเคมีทีใ่ ชใ้ นสานักงาน 4). สารเคมีทเี่ ป็นสว่ นผสมในน้ายาเชด็ กระจก เชน่ เมทานอลหรอื เมทลิ |