แบบทดสอบ ศิลาจารึก ม. 2 พร้อม เฉลย

ชื่อ  - สกุล  เลขที่

ให้กรอกชื่อ สกุล เลขที่ ของผู้ทำแบบทดสอบ

1. ศิลาจารึกหลักที่ 1 ไม่ได้ให้ความรู้ด้านใด

2. ข้อใดแสดงลักษณะสภาพของเมืองสุโขทัย

กูไปท่บ้านท่เมืองได้ช้างได้งวงได้ปั่วได้นาง

สร้างป่าหมากป่าพูลทั่วเมืองนี้ทุกแห่งป่าพร้าวก็หลายวันในเมืองนี้

คนในเมืองสุโขทัยนี้มักทานมักทรงศีนมักโอยทาน

ใครจักมักเล่นเล่นใครจักมักหัวหัวใครจักมักเลื้อนเลื้อน

3.  ศิลาจารึกหลักที่ 1 ด้านที่ 1 มีเนื้อหากล่าวถึงอะไร

พระราชประวัติพ่อขุนรามคำแหง

ธรรมเนียมประเพณีความเป็นอยู่ชาวสุโขทัย

การเมือง การปกครอง การค้าขายของชาวสุโขทัย

การทำสงครามขยายอาณาเขตของพ่อขุนรามคำแหง

4. ข้อใดแปลคำศัพท์ไม่ถูกต้อง

เกลื่อนเข้า หมายถึง เคลื่อนพลเข้าทำศึก

บำเรอ  หมายถึง  รับใช้,ปรนนิบัติ

หมากหวาน  หมายถึง  ผลไม้เชื่อม

ไพร่ฟ้าหน้าใส หมายถึง  ไพร่พล

5.  ข้อใดแสดงให้เห็นว่าบ้านเมืองในสมัยสุโขทัยมีความอุดมสมบูรณ์

อันใดกินอร่อยดีกูเอามาแก่พ่อกู

เมืองสุโขทัยนี้ดีในน้ำมีปลาในนามีข้าว

ใครจักใคร่ค้าเงือนค้าทองค้า

เพื่อนจูงวัวไปค้าขี่ม้าไปขาย

6. ข้อใดอธิบายความหมายของคำศัพท์ในศิลาจารึกไม่ถูต้อง

แพ้   แปลว่า  ชนะ  พ่าย  แปลว่า  แพ้

เกลื่อนเข้า  แปลว่า   ระดมกำลังเข้ารบ

หนีญญ่าย  พายจแจ้น  แปลว่า  หนีไปไกล

7. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะสำนวนภาษาที่ใช้ในศิลาจารึก

ใช้ประโยคสั้น ง่ายไม่ซับซ้อน

บางตอนมีเสียงสัมผัสอันไพเราะ

8. ข้อใดสะท้อนค่านิยมทางด้านการเป็นผู้นำที่ดี

พ่อกูจึงขึ้นชื่อกูชื่อพระรามคำแหง เพื่อกูพุ่งช้างขุนสามชน

กูบ่หนี กูขี่ช้างเบกพล กูขับเข้าก่อนพ่อกู

กูบำเรอแก่พี่กูดั่งบำเรอแก่พ่อกู

กูไปตีหนังวังช้างได้ กูเอามาเวนแก่พ่อกู

9. "เมื่อกูขึ้นใหญ่ได้สิบเก้าเข้า"  ข้อใดไม่ใช่ความหมายของ  "เข้า" ในบริบทข้างต้น

10. ข้อใดสะท้อนค่านิยมทางด้านความกตัญญูกตเวที

กูบ่หนี กูขี่ช้างเบิกพล กูขับเข้าก่อนพ่อกู

พ่อกูจึงขขึ้นชื่อกู ชื่อพระรามคำแหง เพื่อกูพุ่งช้างขุนสามชน

กูพร่ำบำเรอแก่พี่กูดั่งบำเรอแก่พ่อกู

พี่กูตายจึงได้เมืองแก่กูทั้งกลม

Never submit passwords through Google Forms.

แบบทดสอบวัดผลปลายภาค

โรงเรียน...............................................  อำเภอ....................................  จังหวัด.......................

รายวิชา  ภาษาไทยพื้นฐาน  รหัสวิชา ท ๒๒๑๐๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๑.๐๐ ชั่วโมง


คำชี้แจง
          ๑.  แบบทดสอบรายวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน  รหัสวิชา ท ๒๒๑๐๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๑.๐๐ ชั่วโมง
          ๒.  แบบทดสอบเป็นแบบปรนัย ๔ ตัวเลือก จำนวน ๖๐ ข้อ คะแนนเต็ม ๓๐ คะแนน
          ๓.  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่เห็นว่าถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว  และกาเครื่องหมายกากบาททับอักษร ก ข ค
                หรือ ง ในกระดาษคำตอบ
          ๔.  ห้ามขีดเขียนเครื่องหมายใด ๆ ในข้อสอบ เมื่อทำเสร็จแล้วให้นำส่งครูผู้กำกับห้องสอบ
          ๕.  ตัวชี้วัดที่ออกข้อสอบ  เครื่องหมายใด ๆ ในข้อสอบ เมื่อทำเสร็จแล้วให้นำส่งครูผู้กำกับห้องสอบ
          ๖.  ตัวชี้วัดที่ออกข้อสอบ  ข้อที่     จำนวน        ข้อ     คะแนน         คะแนน 
                                          ข้อที่  ๑๖  จำนวน   ๒๔   ข้อ     คะแนน    ๑๒   คะแนน  
                                          ข้อที่  ๑๗  จำนวน   ๑๐   ข้อ     คะแนน         คะแนน 
                                          ข้อที่  ๒๐  จำนวน   ๒๐   ข้อ     คะแนน    ๑๐   คะแนน


ตัวชี้วัดที่ ๒การอ่านจับใจความสำคัญ สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องที่อ่าน 

๑. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะการสร้างนิสัยที่ดีในการอ่าน    
       ก.  ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน

       ข.  จดบันทึกข้อความ ข้อคิดที่มีประโยชน์

       ค.  รวบรวมสมาธิในการอ่าน

       ง.  อ่านทุกที่แม้ขณะนั่งรถ

๒. ข้อใดไม่ใช่จุดมุ่งหมายในการอ่านออกเสียง
       ก.  เพื่อให้อ่านออกเสียงได้ถูกต้องตามอักขรวิธีและให้
            เข้าใจเรื่องที่อ่านได้ถูกต้อง
       ข.  เพื่อตะโกนอ่านออกเสียงดังชัดเจนและไม่ถือเป็น
            การรบกวนผู้อื่น
       ค.  เพื่อให้รู้จักใช้น้ำเสียงบอกอารมณ์และความรู้สึกให้
            สอดคล้องกับเนื้อหาของเรื่องที่อ่าน
       ง.  เพื่อเป็นการรับสารและส่งสารวิธีหนึ่ง  เพื่อให้
           ผู้อ่านและผู้ฟังเกิดความเพลิดเพลิน

๓. เรื่อง พูดดี มีเสน่ห์ ให้ข้อคิดเห็นเรื่องใด
       ก.  การใช้ภาษาในการติดต่อสื่อสารในสังคม

       ข.  การกล้าแสดงความคิดเห็นและมีเสน่ห์ในการพูด

       ค.  การมีมารยาท

       ง.  การพูดเป็นสิ่งสำคัญ

อ่านข้อความต่อไปนี้  แล้วตอบคำถามข้อ  ๔-๕

          “การอบรมสั่งสอนลูกที่เคร่งครัดมากมายเกินไป  ก็อาจเป็นผลร้ายได้เหมือนกัน  เพราะฉะนั้นวิธีเลี้ยงลูกที่ดีก็ คือ
เดินตามทางสายกลาง  อย่าให้ตึงหรือหย่อนเกินไป  ควรเปิดโอกาสให้เด็กหรือลูกได้ใช้ความคิดได้ทดลอง  ได้มีประสบการณ์ต่าง ๆ ได้รู้วิธีช่วยตัวเอง  ได้ฝึกแก้ปัญหาของตัวเองให้มาก  ส่วนที่จะควบคุมกันควรเป็นเรื่องกรอบของกฎหมายและศีลธรรมเท่านั้น
         การเสริมให้เขาได้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ที่เขาพอใจให้มาก  ย่อมดีกว่าการตั้งแต่ข้อห้าม  หรือการให้ทำตามคำสั่งแต่ฝ่ายเดียว

. ใจความสำคัญของข้อความที่อ่านคือข้อใด

ก.       การอบรมสั่งสอนเด็ก ๆ  ควรควบคุมเฉพาะกรอบแห่งกฎหมายและศีลธรรมเท่านั้น

ข.       การอบรมสั่งสอนเด็ก ๆ ต้องมีความยืดหยุ่นและปลูกฝังในเรื่องของคุณธรรม

ค.       การดูแลบุตรหลานควรเดินสายกลางเพราะเด็กสมัยนี้มีอิสระทางความคิด

ง.        การปลูกฝังคุณธรรมให้เด็กเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าเรื่องอื่น ๆ

                                                                          ข้อสอบปลายภาค ท ๒๒๑๐๑ หน้า ๒

. จากข้อความที่อ่านกล่าวถึงวิธีการอบรมบุตรที่ดีคือข้อใด

          สอนให้รู้จักตนเอง             
          สอนให้มีประสบการณ์

          สอนให้อยู่ในกรอบศีลธรรม    
          . อย่าบังคับและตามใจเกินไป

๖. เรื่อง ลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริง  ได้สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมไว้ยกเว้นข้อใด
      ก.   การเคารพกฎระเบียบของโรงเรียนหรือของสังคม

      ข.   ความประพฤติที่เหมาะสมของหญิงชายที่เป็น
            สุภาพชน

      ค.   ความเข้มแข็งและไม่ยอมแพ้                      

      ง.   ศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้ชาย

ตัวชี้วัดที่ ๑๖  คำและหน้าที่ของคำ การสร้างคำในภาษาไทย

. ข้อใดไม่ใช่หลักของภาษาบาลี
    
  ก.  พยัญชนะภาษาบาลีมี ๓๓ รูป  ไม่มี  ศ ษ
       ข.  สระบาลีมี ๘ เสียง คือ อะ  อา อิ อี อุ อู เอ  โอ
       ค.  ไม่มีคำควบกล้ำ

       ง.  ตัวสะกดตัวตามไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัวแน่นอน

๘. ลักษณะคำไทยที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤต มีหลักสังเกตยกเว้นข้อใด

ก.       มักเป็นคำพยางค์เดียว เช่น แม่ เศิก เศร้า ฆ้อง ฯลฯ

ข.       ตัวสะกดมักไม่ตรงตามมาตรา เช่น เทวัญ เนตร ฯลฯ

ค.       นิยมมีตัวการันต์ เช่น กาญจน์ เกณฑ์ อาทิตย์ ฯลฯ

ง.        ประสมด้วยพยัญชนะ ฆ ฌ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ ภ ศ ษ ฤ ฤๅ เช่น พยัคฆ์ อัชฌาสัย กฎ ปรากฏ สัณฐาน ฯลฯ

๙. ประโยคในข้อใดไม่มีคำบาลีสันสกฤตอยู่เลย

       ก.  แก้วคิดถึงแม่ของเธอมาก

       ข.  สไปร์ทมีปัญหาด้านการเงินกับห้องพัสดุ

       ค.  มนุษย์เป็นสัตว์สังคม

       ง.  งานกีฬาสีปีนี้จัดยิ่งใหญ่อลังการมาก

๑๐. คำใดต่อไปนี้เป็นคำภาษาสันสกฤตทุกคำ

       ก.  กติกา  ญาติ   ราชินี

       ข.  กรรม  บัญญัติ  ศานติ

       ค. ทฤษฎี   บัลลังก์  มัศยา

       ง.  สังเคราะห์  วิเคราะห์  สร้างสรรค์

๑๑. คำในข้อใดยืมมาจากภาษาบาลีทุกคำ

     ก.  สัตย์  คิมหันต์  ดารา

     ข.  เศวต อิทธิ ศานติ

     ค. กัลป์ วิทยุ วิชา

     ง.  สันติ บุปผา  สัจ

๑๒. ข้อใดต่อไปนี้เป็นคำภาษาสันสฤต –ภาษาบาลี-ภาษาบาลี

      ก. มัศยา  วิญญาณ  สมถะ

      ข.  กิเลส             มฤตยู  วนิพก

      ค.  พิสดาร   พิศดร  เมตตา

      ง.   สันติ    สันโดษ  จรรยา
๑๓. ข้อใดเป็นลักษณะของคำสมาส

      ก.  คำไทยประสมกันตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไป

      ข.  คำประสมที่มาจากภาษาบาลีและคำไทย

      ค.  คำประสมที่มาจากคำภาษาบาลีกับคำอื่น

      ง.  คำที่ประสมคำภาษาบาลีหรือภาษาสันสกฤต

๑๔. ข้อใดอธิบายลักษณะของคำสนธิได้ถูกต้อง

      ก.  การนำคำมูลมาเชื่อมกัน

      ข.  การนำคำภาษาต่างประเทศมาเชื่อมกัน

      ค.  การนำคำไทยมาเชื่อมคำบาลีและสันสกฤต

      ง.  การนำคำภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตมาเชื่อมกัน

๑๕. ภาษาใดมีมาตราตัวสะกดและเป็นภาษาคำโดด

      ก.  ภาษาไทย

      ข.  ภาษาเขมร

      ค.  ภาษาบาลี

      ง.  ภาษาสันสกฤต

๑๖. ข้อใดจับคู่คำภาษาบาลี-สันสกฤตได้ถูกต้อง

      ก.  กรีฑา ภัตตา

      ข.  บุคคล เกษียณ

      ค.  เกษตร กษัย

      ง.  ปฐม ปัญหา

๑๗. ข้อใดจับคู่คำภาษาสันสกฤต-บาลีได้ถูกต้อง

      ก.  พิศดาร กิริยา

      ข.  มหัศจรรย์วรรค

      ค.  วรรณะ กษัย

      ง.  วัสดุ ปัญหา

                                                              ข้อสอบปลายภาค ท ๒๒๑๐๑ หน้า ๓

๑๘. ข้อใดจับคู่คำภาษาสันสกฤต-

สันสกฤต

ได้ถูกต้อง

     ก.  ญาติพรรษา

     ข.  สังเคราะห์ เกษียณ

     ค.  ทัพพี นาฬิกา

     ง. สาน สันติ

๑๙. ข้อใดจับคู่คำภาษาบาลี-บาลีได้ถูกต้อง

     ก.  บุปผา จักรวาล

     ข.  พยัคฆ์ การบูร

     ค.  วิเศษ จันทรา

     ง.  ปัญญาปัญหา

๒๐. สระในข้อใดไม่ใช่สระ ในการสนธิ

      ก.  อะ อา

      ข.  อิ อี

      ค.  อึ อื

      ง.  อุ อู

๒๑. ข้อใดเป็นคำสมาสทั้งหมด

       ก.  พลศึกษา   บุตรธิดา  วัฒนธรรม

       ข.  ปัญญาชน   ราชูปโภค  ราชูปถัมภ์ชโลทร

       ค.  อิสรภาพ  ราโชวาท  โลกาธิบดี 

       ง.  อุบัติเหตุ  รโหฐาน  มโนภาพ

๒๒. ข้อใดเป็นคำสนธิทั้งหมด

      ก.  วัฒนธรรม พันธนาการ  ปริยานุช

      ข.  ราโชวาส  มโหสถ  พุทโธวาท

      ค.  ครุศาสตร์  มหรรณพ  มหัศจรรย์

      ง.  มหรรณพ  มหัศจรรย์  พลศึกษา

๒๓. ข้อใดไม่ใช่คำสนธิ

      ก.  วัฒน+ธรรม = วัฒนธรรม

      ข.  พุทธ+โอวาท = พุทโธวาท

      ค.  ธนู+อาคม = ธันวาคม

      ง.   รังสี+โอภาส = รังสิโยภาส

๒๔. ข้อใดไม่ใช่คำมูลทุกคำ

      ก.  นที   วารี  วงรี

      ข.  กระดาษ  ยิ้ม  หิว

      ค.  สตรี นารี  ยุพา

      ง.   กัญญา  เพลง  ยิ้ม

๒๕. ข้อใดเป็นคำประสมที่ทำหน้าที่เหมือนกันทุกคำ

      ก.  กรวดน้ำ ขอโทษ คนสนิท

      ข.  ขาดมือ คนทรง จับใจ

      ค.  ข้าวตอก เงินตรา ลูกเลี้ยง

      ง. กระดานชนวน ข้าวต้ม  เงินเดือน

๒๖. ข้อใดไม่ใช่คำซ้อนทั้งหมด

      ก.   เติบโต  อ้วนพี  มากมาย  ข้าทาส

      ข.   หน้าตา  คัดเลือก  ข้าวปลา  เสื้อผ้า

      ค.   เขียวขจี   ดี๊ดี  กระต่าย  ต้นไม้                     

      ง.   ถูกผิด  ยากง่าย  หนักเบา  สูงต่ำดำขาว
๒๗.
ข้อใดเป็นคำไทยแท้ทุกคำ

     ก. แด  เขนย  บุหลัน                               
     ข. บะช่อ  ตะเกียบ  เกาเหลา

     ค. โครม  โปรด  ทราบ                             
     ง. โกย  จาม  ไม้

๒๘. ข้อใดเป็นคำมาจากภาษาบาลี-สันสฤต

        ก.  ณรงค์  -ฤทธิ์       
        ข.  แข - ลออ

        ค.  ปาก - เปียก        
        ง.  เสียบ – จัก

๒๙. ข้อใดไม่ใช่คำประสมทั้งหมด

        ก. จานแตก   หนังสือพิมพ์  คอมพิวเตอร์    
        ข.  ลูกน้ำ
  แม่บ้าน  เข็มทิศ

        ค.  จานร้อน  พ่อตา  แม่ยาย       
        ง.  แม่ยาย  จานร้อน  ลูกน้ำ

๓๐. ข้อใดเป็นคำประสมทุกคำ

        ก.  มือแข็ง  แพะ ต้นไม้
        ข.  กล้ามเนื้อ  ปลา  ต้นน้ำ

        ค.  จานร้อน  ลูกน้อง   เข็มทิศ
        ง.  จานแตก  ดินสอ ปากกา

                                                                ข้อสอบปลายภาค ท ๒๒๑๐๑ หน้า ๔

ตัวชี้วัดที่ ๑๗วิเคราะห์ประโยคสามัญ  ประโยคคำซ้ำ  ประโยคความรวมความซ้อน
๓๑. ประโยคในข้อใดต่อไปนี้ที่มีรูปลักษณ์ของคำซ้ำ
       ก.   เขาเอาแต่เล่นเล่นจนลืมกินข้าวกินปลา 
       ข.   พ่อไปซื้อที่ที่อังกฤษ
       ค.   เขาออกกำลังกายทุกวันวันละครึ่งชั่วโมง
     
 ง.   ฉันไม่ได้ตั้งใจดูเขาหรอก แต่รู้สึกว่าเขามีผิวสีดำ ๆ๓๒. ข้อความต่อไปนี้มีคำซ้อนกี่คำ
       การระเบิดของภูเขาไฟทำให้หินร้อนจากใต้พิภพดันตัวขึ้นมาเหนือผิวโลก ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าทำลายบ้านเรือนและชีวิต ท้องทะเลปั่นป่วน ท้องฟ้ามืดมิดทำให้ผู้คนหวาดกลัวคิดว่าโลกจะแตก
        .   คำ
        ข.  ๕  คำ
        ค
.   คำ
        ง.  ๗  คำ
๓๓. คำซ้ำในข้อใดไม่สามารถใช้เป็นคำเดี่ยวได้

        ก.
    กับข้าวพื้น ๆ ใครก็ทำได้
        ข.  แท็กซี่คันไหน ๆ ก็ไม่รับฉันสักคน
        ค.
    หาซื้อเมล็ดพันธุ์ดี ๆ มาเพาะปลูก
        ง.
  จุดตะเกียงกระป๋องเล็ก ๆ ท่องหนังสือ
๓๔. ประโยคในข้อใดต่างจากพวก

       ก.  แม่ซื้อเสื้อซึ่งแขวนอยู่ในตู้

       ข.  คนเดินริมถนนมองดูตำรวจ

       ค.  สัปดาห์หน้าเธอจะไปเที่ยวทะเลหรือน้ำตก
       ง.  เขาทำงานหนักเพราะต้องหาเลี้ยงดูลูก ๔ คน
๓๕. ประโยคใดเป็นประโยคความรวม

      ก.  นักกีฬาทีมชาติไทยมุ่งมั่นไปสู่จุดหมาย

      ข.  กมลอ่านหนังสือสารคดีซึ่งแม่ซื้อมาให้

      ค.  พอพ่อกลับถึงบ้านแม่ก็เตรียมอาหารเย็นเสร็จแล้ว

      ง.  นักแสดงที่มีความสามรถย่อมได้รับการกล่าวขาน
๓๖. ข้อใดเป็นประโยคความซ้อน

      ก.  ฉันร้องเพลงให้น้องฟัง

      ข.  ฉันชอบกินขนมแต่แม่ชอบกินข้าว

      ค.  ฉันชอบเดินวนเวียนอยู่รอบชายทะเล
      ง.  ฉันจะร้องเพลงแต่พี่สาวชอบฟังเพลง

๓๗. จงเติมคำให้เหมาะสมกับประโยคต่อไปนี้
       ครูสามารถ........เยาวชนให้เป็นคนดีได้
       ก.  เกลี้ยงกล่อม
       ข.  ดุด่า
       ค.  สั่งสอน
       ง.
  ตบตี

๓๘. ประโยคมีความหมายตรงตามข้อใดมากที่สุด

       ก.  คำหรือกลุ่มคำ

       ข.  การนำกลุ่มคำมาเรียบเรียงกัน

       ค.  มีภาคประธานและภาคแสดง
       ง.  คำหรือกลุ่มคำที่นำมาเรียงกันแล้วมีความหมาย
๓๙.
ข้อใดไม่ใช่ประโยคความเดียว
       
ก. นกตัวสีขาวจิกหนอน
      
 ข. พ่อซื้อบ้านซึ่งอยู่บนเนินเขา
     
  ค. พวกเราทุกคนรักประเทศไทย
       
ง. ความเอื้อเฟื้อเป็นคุณสมบัติของคนไทย

๔๐. การอ่านในใจ ถือว่าเป็นการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ ยกเว้นข้อใด
        ก.   เด็กชายยุทธพงษ์ อ่านในใจเพื่อพัฒนาด้านความรู้
              คือ ได้ทั้งความรู้รอบตัวและความรู้เฉพาะด้าน
        ข.   เด็กชายคามินพัฒนาอ่านในใจเพื่อพัฒนา
              ด้านอารมณ์ ช่วยให้เกิดความเพลิดเพลิน
              บันเทิงใจคลายความขุ่นมัวต่าง ๆ
        ค.
   เด็กชายณัฐพล อ่านในใจเพื่อพัฒนาคุณธรรม
              การมีคุณธรรมย่อมเกิดมาจากความจรรโลงใจซึ่ง
              ได้จากการอ่าน หนังสือประเภทธรรมะ
              ชีวประวัติ สารคดี ฯลฯ
         ง.  เด็กชายอภิชาติอ่านในใจเพื่อ พัฒนาทักษะ
              การใช้น้ำเสียงบอกอารมณ์และความรู้สึกให้
              สอดคล้องกับเนื้อหาของเรื่องที่อ่าน

                                                             ข้อสอบปลายภาค ท ๒๒๑๐๑ หน้า ๕

ตัวชี้วัดที่ ๒๐ อธิบายคุณค่าของวรรณคดี และวรรณกรรม
                  ที่อ่าน

๔๑.  คุณแม่หนาหนักเพี้ยง     พสุธา
        คุณบิดรดุจอา
-                กาศกว้าง
        คุณพี่พ่างศิขรา                เมรุมาศ
        คุณพระอาจารย์อ้าง          อาจสู้สาคาร
              (โคลงโลกนิติ  พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
  กรมพระยาเดชาดิศร)

       คำประพันธ์ที่ยกมาใช้ภาพพจน์ในการเปรียบเทียบลักษณะเด่นโวหารใด
       ก.   อุปมาโวหาร
       ข.   อุปมานิทัศน์
       ค.   สาธกโวหาร
       ง.    อุปไมยโวหาร
๔๒. ตัวละครใดที่พระอิศวรขอให้ลงมาปราบนนทกที่กำลังมีใจกำเริบใช้อำนาจในทางที่ผิด
      ก.   พระนารายณ์
      ข.   พระราม
      ค.   หนุมาน
      ง.    พระอินทร์

๔๓. พระอิศวรประทานสิ่งใดให้แก่นนทก
        ก.   จักร
        ข.   สามง่าม
        ค.   นิ้วเพชรที่สามารถชี้สังหารใคร ๆ ก็ได้

        ง.    สังข์
๔๔. นนทกหลงกลอุบายใดของใครจึงทำให้เกิดเหตุร้ายแก่ตนตนเอง
        ก.   เหล่าเทวดา หลอกให้วิ่งจนตกเขา
        ข.   พระนารายณ์ที่แปลงกายเป็นหญิง ร่ายรำ
              ท่าทางจน นนทกพลาดชี้ขาตัวเองทำให้ขาหัก
        ค.   พระอิศวรหลอกให้ร่ายรำจน นนทกพลาดชี้ตา
              ตนเองบอด
        ง.   พระอินทร์หลอกให้นนทกวิ่งจนตกเขาหัก

๔๕. เมื่อ นนทกถูกฆ่าแล้วได้มาเกิดใหม่เป็นใคร
        ก.   พระราม
        ข.   ทศกัณฐ์
        ค.   หนุมาน
        ง.   พระลักษมณ์
๔๖. ข้อใดใช้ภาษาเกิดภาพพจน์ชัดเจนที่สุด
       ก.   จนผมโกร๋นโล้นเกลี้ยงถึงเพียงหู ดูเงาในน้ำแล้ว
            ร้องไห้
       ข.  ผู้ใดทำชอบต่อเบื้องบาท ก็ประสาททั้งพร
            แลยศศักดิ์
       ค.  อ้ายนี่ทำชอบมาช้านาน เราจึ่งประทานพรให้
       ง.  สิ้นทั้งไตรภพจบโลกา จะเอามาเปรียบไม่เทียบทัน๔๗. ข้อใดแสดงถึงความงามของนารายณ์แปลงกายจน
 นนทกหลงใหล
      ก.   เมื่อนั้น พระนารายณ์ทรงสวัสดิ์รัศมี
      ข.   เมื่อนั้น นางนารายณ์เยาวลักษณ์เสน่หา
      ค.   ถึงโฉมองค์อัครลักษมี พระสุรัสวดีเสน่หา
      ง.    เป็นโฉมนางเทพอัปสร อ้อนแอ้นอรชรเฉลิมศรี

๔๘. รามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทกได้รับการยกย่องว่าเป็นตอนที่มีความงามยิ่งด้านใด
        ก.   คีตศิลป์
        ข.   นาฏศิลป์
        ค.   วรรณศิลป์
        ง.    ถูกทั้งข้อ ข และ ค

๔๙. ข้อใดคือหลักสังเกตกลอนบทละครแตกต่างจากกลอนทั่วไปชัดเจนที่สุด
        ก.  จุดประสงค์การแต่ง
        ข.  จำนวนคำในวรรค
        ค.  คำขึ้นต้นบท
        ง.   เสียงพยัญชนะ

๕๐. ผู้พบศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงคือใคร
        ก.  พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
        ข.  พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
        ค.  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
        ง.  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว


                                                          
ข้อสอบปลายภาค ท ๒๒๑๐๑ หน้า ๖

๕๑. หลักศิลาจารึกที่ ๑ ด้านที่ ๑ กล่าวถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ
       ก.  การกล่าวสรุปสรรเสริญ และยอพระเกียรติ
           พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
       ข.  กล่าวถึงการขยายอาณาเขตสมัยพ่อขุนรามคำแหง
       ค.  พระราชประวัติของพ่อขุนรามคำแหง
       ง.  การพรรณนาถึงเมืองสุโขทัยสมัยพ่อขุนรามคำแหง๕๒. นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าศิลาจารึกนี้จารึกเมื่อไร
       ก.  พ.ศ.๑๖๒๘
       ข.  พ.ศ.๑๗๕๖
       ค.  พ.ศ.๑๘๒๖
       ง.  พ.ศ.๑๙๓๐
๕๓. คำใดมีความหมายไม่ถูกต้อง
      
ก.  เตียมแต่   หมายถึง  ตี
     
 ข.  แพ้  ในความหมายเดิมแปลว่า  ชนะ
     
 ค.  โสง  หมายถึง  สอง
     
 ง.  ตีหนังวังช้าง  หมายถึง  คล้องช้าง
๕๔. ข้อใดอธิบายความหมายของคำศัพท์ที่ปรากฏในข้อความข้างต้นไม่ถูกต้อง
       ก.  หมากส้มหมากหวาน      -  ส้มที่มีรสหวาน
       ข.  ตีหน้าวังช้าง                -  คล้องช้าง
       ค.  ได้ปั่วได้นาง                 -  ได้บริวารชายหญิง
       ง.  ท่บ้านท่เมือง                -  ตีเมือง
๕๕. ข้อใดอธิบายความในศิลาจารึกต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง

       “พ่อกูชื่อศรีอินทราทิตย์  แม่กูชื่อนางเสือง
    พี่กูชื่อบานเมือง  ตูมีพี่น้องท้องเดียวกันห้าคน

    ผู้ชายสาม  ผู้หญิงโสง  พี่เผื่อผู้อ้ายตาจากเผือเตรียม
    แต่ยังเล็ก

        ก.  พ่อขุนรามคำแหงมีพี่น้องท้องเดียวกัน  ๕ คน       
        ข.  มารดาของพ่อขุนรามคำแหงมีพระนามว่านางเสือง  
        ค.  บิดาของพ่อขุนรามคำแหงมีพระนามว่า
             พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
        ง.  พ่อขุนรามคำแหงเป็นบุตรคนที่  ๒  ส่วน
            พ่อขุนบานเมืองเป็นคนโต

๕๖. กูบ่หนี กูขี่ช้างเบกพล กูขับเข้าก่อนพ่อกู กูต่อช้างด้วยขุนสามชนข้อความนี้สะท้อนให้เห็นคุณสมบัติใด
        ก.  ความเด็ดขาด
        ข.  ความรัก
        ค.  ความกล้าหาญ
        ง.  ความอดทน
๕๗. หลักศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราชมีคุณค่าในด้านใดมากที่สุด
       ก.  อักษรศาสตร์และประวัติศาสตร์
       ข.  อักษรศาสตร์และรัฐศาสตร์
       ค.  สังคมศาสตร์และศึกษาศาสตร์
       ง . รัฐศาสตร์และประวัติศาสตร์

๕๘. คุณค่าที่ได้รับจากวรรณคดีเรื่องศิลาจารึกหลักที่ ๑ ยกเว้นด้านใด

      
ก.   ด้านประวัติศาสตร์ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับพระราช
            ประวัติพ่อขุนรามคำแหง ความรู้ทางโบราณคดี
            พระปรีชาสามารถของพ่อขุนรามคำแหง
            ความเจริญรุ่งเรือง สภาพสังคมสมัยกรุงสุโขทัย

      
ข.  ด้านสังคม ให้ความรู้ด้านกฎหมายและการปกครอง
            สมัยกรุงสุโขทัย
       ค.  ด้านภาษาและวัฒนธรรม ให้ความรู้เกี่ยวกับการ
            กำเนิดอักษรไทยวรรณคดีและขนบธรรมเนียม
            วัฒนธรรม ประเพณีของสมัยกรุงสุโขทัย

       ง.    ด้านความรักอารมณ์ความรู้สึกชายหญิง
๕๙. ศิลาจารึกหลักที่  ๑ มีลักษณะคำประพันธ์ประเภทใด
       ก.   กาพย์
       ข.   ร้อยแก้วบรรยายโวหาร
       ค.   ร้อยกรอง
       ง.    โคลง

                                                         ข้อสอบปลายภาค ท ๒๒๑๐๑ หน้า ๗

๖๐. ข้อใดเป็นความสำคัญที่สุดของศิลาจารึกหลักที่  ๑
       ก.  เป็นต้นแบบของการใช้อักษรไทย
       ข.  เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวบนแท่งศิลา
       ค.  เล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ  ที่เกิดขึ้นในสมัยสุโขทัย
       ง.  สะท้อนสภาพบ้านเมืองและวิถีชีวิตของผู้คนใน
             สมัยสุโขทัย

อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ     ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

******  จงใคร่ครวญให้มาก  *******

 ลงชื่อ........................................ผู้สอน                        
      (นางสาวจันทิมา  ชายกวด)                                   
       

   ลงชื่อ..........................................ครูพี่เลี้ยง
          (...........................................)

   ลงชื่อ.......................................หัวหน้ากลุ่มสาระฯ          
          (....................................)

  ลงชื่อ.........................................หัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการ
         (........................................)

😃😎😏😏😏😏

๑.

๑๑.

๒๑.

๓๑

๔๑

๕๑

๒.

๑๒.

๒๒.

๓๒

๔๒

๕๒

๓.

๑๓.

๒๓.

๓๓

๔๓

๕๓

๔.

๑๔.

๒๔.

๓๔

๔๔

๕๔

๕.

๑๕.

๒๕.

๓๕

๔๕

๕๕

๖.

๑๖.

๒๖.

๓๖

๔๖

๕๖

๗.

๑๗.

๒๗.

๓๗

๔๗

๕๗

๘.

๑๘.

๒๘.

๓๘

๔๘

๕๘

๙.

๑๙.

๒๙.

๓๙

๔๙

๕๙

๑๐.

๒๐.

๓๐.

๔๐

๕๐

๖๐




















**********************************************************************************************************