Star -Delta (ʵ��� �ŵ��)
ʵ��� - �ŵ�� �繡�äǺ������Ţͧ������ ��Ҵ�˭� ����ա������Ŵ�ҡ � �ͧ
������俿�Ҫ�Դ������ 3�� 380 Volt ����ҳ��Ҵ������ ����� 7.5 kw(10 HP) ����
���˵ط�����äǺ��� ����ʵ���������Ẻ Star - Delta ���ШЪ�����������Դ��á�Ъҡ
����俵� ������ª�ǧ���� Timer �繡�õѴ��͡�÷ӧҹ ���������ҹ������ ���ʵ���ǧ��
����ǧ��ʵ���-Star ���з�����������դ�� torque (�ç�Դ) ����͡�������¡��� ��ʹ��¡���
����͡���Ẻ�ŵ��-Delta ��ШЪ���Ŵ�������þդ�ͧ��������
�ѭ�ѡ�� �ͧǧ��
- Star ����¹ ᷹ ���ٻ ��� Y (������)
- Delta ����¹᷹ ���ٻ Δ (����������)
� �Ѩ�غѹ �ػ�ó�俿�� ������ Inverter ��� Soft Start ������պ��ҷ
��᷹��äǺ���Ẻ Star - Delta �ҡ��� ��ǹ�˭� �����ç�ҹ �ص��ˡ���
����µ鹷ع���١���� �ѧ������� ��äǺ���Ẻ STAR-DELTA �ѧ����������
�ա��駡�ë����� ��к��ا�ѡ�� ����ö�������¡��ҹ���ͧ
Example : Wiring Diagram Star - Delta
Example : Wiring Control Star - Delta
Example : Wiring Power Line Star - Delta
วงจรควบคุมมอเตอร์ วงจรสตาร์ทมอเตอร์แบบสตาร์เดลต้า Star Delta Starter (แบบที่ 2)
(วงจรสตาร์ทมอเตอร์แบบสตาร์เดลต้าแบบที่ 1 นั้นสามารถดูได้จากลิ้งด้านล่าง)
เหตุผลของการใช้การสตาร์ทมอเตอร์แบบสตาร์เดลต้าแบบที่ 2 ก็เพราะว่า วงจรควบคุมมอเตอร์แบบที่ 2 นี้ จะสั่งให้ตัวแมกเนติกคอนแทคเตอร์ของตัวสตาร์ทแบบสตาร์ทำงานก่อน แล้วจึงให้แมกเนติกของตัวเมนทำงานตามทีหลัง ด้วยเหตุนี้ เมื่อแมกเนติกของตัวสตาร์ทแบบสตาร์ทำงานก่อน กระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายจึงยังไม่ถูกจ่ายมา (เพราะตัวเมนยังไม่ทำงาน) หน้าสัมผัสหรือหน้าคอนแทคจึงไม่เกิดการอาร์ค แต่แมกเนติกของตัวเมนทำงานหลังจากนั้นซึ่งเป็นการต่อไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายเข้ามาในวงจรมอเตอร์ไฟฟ้าจึงทำให้เกิดการอาร์คมากกว่า เพราะเหตุผลนี้เองที่การต่อมอเตอร์ 3 เฟสแบบนี้จึงเหาะกับวงจรสตาร์ทมอเตอร์แบบสตาร์เดลต้าแบบที่ 2 มากกว่า เพราะหากให้แมกเนติกของตัวสตาร์ทแบบสตาร์กับของตัวเมนให้ทำงานพร้อมกันแบบในวงจรควบคุมมอเตอร์แบบที่ 1 นั้นจะทำให้เกิดการอาร์คขึ้นที่หน้าสัมผัสของแมกเนติกของตัวสตาร์ทสตาร์ด้วย ดังรูปที่ 1 ด้านล่างนี้จะเห็นว่าวงจรมอเตอร์นี้แมกเนติกคอนแทคเตอร์ตัวสตาร์ทสตาร์มีขนาดเล็กกว่าแมกเนติกของตัวเมน
รูปที่ 1 วงจรสตาร์ทมอเตอร์แบบสตาร์เดลต้า วงจรมอเตอร์
การสตาร์ทมอเตอร์แบบสตาร์เดลต้า คือขณะเริ่มสตาร์ทมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้ขดลวดต่อแบบสตาร์ และเมื่อมอเตอร์หมุนไปด้วยความเร็ว 75% ของความเร็วพิกัดจึงจะให้ขดลวดต่อแบบเดลต้า และหลังจากนั้นก็เดินมอเตอร์ต่อไปแบบเดลต้า ต่อเนื่องไปจนกระทั่งหยุดการทำงานมอเตอร์นั่นเอง
เรื่องที่สำคัญคือมอเตอร์ไฟฟ้าหรือมอเตอร์ 3 เฟสที่สามารถสตาร์ทแบบสตาร์เดลต้าได้นั้น จะต้องมีปลายสายไฟต่อออกมาจากมอเตอร์จำนวน 6 เส้น และที่สำคัญมอเตอร์จะต้องมีพิกัดแรงดันของขดลวดที่สามารถต่อวงจรควบคุมมอเตอร์แบบสตาร์เดลต้าได้ตามระบบแรงดันไฟฟ้าที่ใช้งานในโรงงาน สามารถศึกษาได้ในหัวข้อการต่อมอเตอร์ 3 เฟสตามลิ้งด้านล่าง
วงจรควบคุมมอเตอร์หรือวงจรสตาร์ทมอเตอร์ 3 เฟสแบบสตาร์เดลต้า แบ่งวงจรออกเป็น 2 ส่วนคือวงจรกำลัง และวงจรควบคุมหรือวงจรคอนโทรล
รูปที่ 2 วงจรสตาร์ทมอเตอร์แบบสตาร์เดลต้า วงจรกำลัง
วงจรควบคุมมอเตอร์ วงจรกำลัง (Power Circuit)
ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าดังต่อไปนี้
- เซอร์กิตเบรกเกอร์ 3 เฟส (เมนเซอร์กิตเบรกเกอร์)
- แมกเนติกคอนแทคเตอร์ พร้อมหน้าสัมผัสช่วย (Auxiliary Contact)
- โอเวอร์โหลดรีเลย์
รูปที่ 3 วงจรสตาร์ทมอเตอร์แบบสตาร์เดลต้า วงจรควบคุมหรือวงจรคอนโทรล
ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าดังต่อไปนี้
- เซอร์กิตเบรกเกอร์ 1 เฟส
- หน้าสัมผัสของโอเวอร์โหลดรีเลย์
- สวิตซ์ปุ่มกด (Push button switch) แบบปกติปิด (Normally close หรือ NC)
- สวิตซ์ปุ่มกดแบบปกติเปิด (Normally open หรือ NO)
- หน้าสัมผัสช่วย (Auxiliary Contact) ของแมกเนติกคอนแทคเตอร์
- ไทม์เมอร์รีเลย์ (Timer Relay) ชนิด On Delay Timer
การทำงานของวงจรควบคุมมอเตอร์
1. ในสภาวะเริ่มต้นแมคเนติกคอนแทกเตอร์มีสถานะเปิดวงจร กระแสไฟฟ้ายังไม่ถูกจ่ายเข้าวงจรมอเตอร์
2. เมื่อกดปุ่ม Start ที่วงจรควบคุมจะมีกระแสไฟฟ้าไหลจากแหล่งจ่ายไฟผ่านขดลวดสนามแม่เหล็กของแมกเนติกคอนแทคเตอร์ตัวสตาร์ทสตาร์ (MC-1) ทำให้หน้าสัมผัสของแมกเนติกปิดวงจร และทำให้หน้าสัมผัสช่วยของแมกเนติกแบบ NO ที่แถว 2 ก็ปิดวงจรไปด้วยพร้อมกัน ทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลไปจ่ายให้ขดลวดสนามแม่เหล็กของแมกเนติกคอนแทคเตอร์เมน (MC-2) ด้วย มอเตอร์จึงเกิดการสตาร์ทแบบสตาร์ และยังทำให้หน้าสัมผัสช่วยของแมกเนติก MC-2 แบบ NO ในแถวที่ 3 ปิดวงจรด้วยทำให้เกิดสภาวะค้างการทำงาน (Self-holding) เพราะวงจรควบคุมมีกระแสไหลผ่านหน้าสัมผัสช่วยอีกทางหนึ่ง ส่วนในแถวที่ 4 นั้นหน้าสัมผัสช่วยของแมกเนติกคอนแทคเตอร์ MC-1 แบบ NC ก็จะถูกเปิดวงจรออกไปพร้อมกับที่ MC-1 ทำงานด้วย จึงไม่มีกระแสไฟฟ้าจ่ายไปที่ MC-3
3. พร้อมกันนั้นที่แผงวงจรของไทม์เมอร์รีเลย์ (T-1) ก็ได้รับกระแสไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงวงจรด้วยเช่นกัน ไทม์เมอร์รีเลย์จึงเริ่มนับเวลา แต่ในช่วงแรกหน้าสัมผัสของไทม์เมอร์จะยังไม่เปลี่ยนแปลง
4. เมื่อไทม์เมอร์นับเวลาครบตามที่ได้ตั้งเวลาไว้ หน้าสัมผัสของไทม์เมอร์จึงเปิดวงจรออก ทำให้ MC-1 และไฟเลี้ยงวงจร timer เองถูกตัดออก ทำให้หน้าสัมผัสช่วยของ MC-1 ที่แถว 2 (แบบ NO) กลับมาเปิดวงจรอีกครั้ง และที่แถว 4 (แบบ NC) กลับมาปิดวงจรด้วยทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลไปที่ MC-3 จึงเกิดการต่อวงจรมอเตอร์เป็นแบบเดลต้า
และหน้าสัมผัสช่วยของ MC-3 ในแถวที่ 1 (แบบ NC) ก็จะเปิดวงจรออกเพื่อตัดกระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้ MC-1 และ T-1 ดังนั้นขณะนี้มอเตอร์จึงมีการรันต่อเนื่องเป็นแบบเดลต้า
5. เมื่อต้องการหยุดการทำงานมอเตอร์ให้กดปุ่ม Stop หน้าสัมผัสของปุ่ม Stop จึงเปิดวงจรออกทำให้กระแสไฟฟ้าของวงจรควบคุมถูกตัด ณ จุดนี้ ขดลวดสนามแม่เหล็กของแมกเนติกคอนแทคเตอร์ทุกตัวถูกตัดกระแสไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าที่จ่ายไปที่วงจรมอเตอร์จึงถูกตัดมอเตอร์จึงหยุดทำงาน