นิคมอุตสาหกรรม ภาคใต้ สะเดา

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผยนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจเข้าชมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสงขลา (สะเดา) ระยะที่ 1 เพิ่มขึ้น หลังมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และเปิดประเทศให้นักลงทุนเดินทางเข้า-ออกประเทศได้ จัดเต็มโปรโมชั่นเด็ดส่งเสริมการลงทุนฯ ทั้งนิคมฯ สงขลา และนิคมฯ ยางพารา

นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีตั้งศาลพระภูมิในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสงขลา (สะเดา) ระยะที่ 1 จังหวัดสงขลาว่า หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จนนำไปสู่การเปิดประเทศมากขึ้น ทำให้นักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้ามาทำธุรกิจได้สะดวก และกลายเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของนิคมอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ เห็นได้จากที่ผ่านมานิคมอุตสาหกรรมในกำกับของ กนอ.ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมพื้นที่ ทั้งนิคมอุตสาหกรรมสงขลา (ระยะที่1) อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) ในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งกนอ.นำเสนอความพร้อมรับการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และความพร้อมในส่วนของระบบสาธารณูปโภค การให้บริการและเส้นทางเชื่อมโยงกับประเทศมาเลเซีย รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการลงทุนในจังหวัดสงขลา เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้มาลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นการกระจายการลงทุนสู่ภูมิภาคในเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนจังหวัดสงขลา และส่งเสริมการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมยางพาราด้วย

นิคมอุตสาหกรรม ภาคใต้ สะเดา

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  (กนอ.) กล่าวว่า สำหรับนิคมอุตสาหกรรมสงขลา (สะเดา) ระยะที่ 1 ปัจจุบันมีความพร้อม 100% ในการรองรับการลงทุน โดยมีผู้ประกอบการเช่าพื้นที่เพื่อดำเนินธุรกิจแล้ว 3 ราย ประมาณ 166.895 ไร่ จากพื้นที่ให้เช่าประมาณ 346.556 ไร่ ยังเหลือพื้นที่ให้เช่าอีกเพียง 108 ไร่เท่านั้น ทั้งนี้ จุดเด่นของนิคมอุตสาหกรรมสงขลา (สะเดา) ระยะที่ 1 คือ ศักยภาพเชิงพื้นที่ โดยตั้งอยู่บนพื้นที่เศรษฐกิจชายแดน (SEZ) ใกล้กับด่านสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีอัตราการส่งออกสูงสุดในประเทศไทย นอกจากนั้น พื้นที่ยังเอื้อต่อธุรกิจโลจิสติกส์ และธุรกิจระหว่างไทย-มาเลเซีย สามารถเชื่อมโยงและต่อยอดธุรกิจกับเครือข่ายผู้ประกอบการในนิคมฯ เพราะมีการคมนาคมที่สะดวก โดยเดินทางถึงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ขณะเดียวกันภายในพื้นที่นิคมฯ มีการบริหารจัดการมลพิษ เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ ที่สำคัญการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมสงขลา(สะเดา) ระยะที่ 1 ยังได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีสูงสุด 13 ปี ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ SEZ จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ด้วย

นอกจากนี้ กนอ.ยังมีโปรโมชั่นส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสงขลา (สะเดา) ระยะที่ 1 โดยผู้เช่ารายใหม่ ได้รับสิทธิฟรีค่าเช่า 3 ปีแรกนับตั้งแต่วันที่ทำสัญญากับ กนอ.และฟรีค่าบริการรักษาบำรุงสิ่งอำนวยความสะดวก 3 ปีแรก นับจากวันที่ได้รับอนุญาตจาก กนอ. ขณะที่ผู้เช่ารายเดิมได้รับสิทธิฟรีค่าเช่า 3 ปีแรกนับจากวันทำสัญญา ฟรีค่าบริการรักษาบำรุงสิ่งอำนวยความสะดวก 3 ปีแรก นับจากวันที่ได้รับอนุญาตจาก กนอ. และยังได้ส่วนลด 25% ของค่าเช่าที่ดินในปีที่ 4 อีกด้วย

นิคมอุตสาหกรรม ภาคใต้ สะเดา

สำหรับนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) ปัจจุบันการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมรองรับการลงทุนในพื้นที่แล้ว 100 %  โดยพื้นที่นิคมฯ ถือว่ามีศักยภาพและจุดเด่นที่สามารถรองอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้น้ำในกระบวนการผลิต มีอัตราค่าน้ำประปา/น้ำดิบต่ำกว่านิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ และยังมีความได้เปรียบเนื่องจากตั้งอยู่ในแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง เช่น น้ำยางพาราสด การคมนาคมที่สะดวกเนื่องจากใกล้สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาที

ส่วนโปรโมชั่นส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมยางพารานั้น ผู้เช่ารายใหม่จะได้รับสิทธิฟรีค่าเช่า 1 ปีแรกนับตั้งแต่วันที่ทำสัญญากับ กนอ. และฟรีค่าบริการรักษาบำรุงสิ่งอำนวยความสะดวก 1 ปีแรก นับจากวันที่ได้รับอนุญาตจาก กนอ. ขณะที่ผู้เช่ารายเดิม ก็ได้รับสิทธิฟรีค่าเช่า 2 ปีแรก นับจากวันทำสัญญา ฟรีค่าบริการรักษาบำรุงสิ่งอำนวยความสะดวก 3 ปีแรก นับจากวันที่ได้รับอนุญาตจาก กนอ. และยังได้ส่วนลด 15% สำหรับผู้ซื้อรายใหม่ และได้ส่วนลด 20% สำหรับผู้ซื้อรายเดิมอีกด้วย

“หลายประเทศเริ่มทยอยเปิดประเทศแล้ว จึงเป็นโอกาสดีของนักลงทุน โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ ถือเป็นความโชคดีของประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในจุดที่ได้เปรียบต่อการพัฒนาศักยภาพของประเทศให้เติบโตได้ในหลาย ๆ ด้าน สามารถขนส่งสินค้าได้อย่างสะดวกสบายทั้งทางบกและทางทะเล ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ.มีศักยภาพพร้อมรองรับการลงทุน และเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งศักยภาพของระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ได้มาตรฐานสากล รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร และการบริหารจัดการอย่างทั่วถึง” 

นิคมอุตสาหกรรม ภาคใต้ สะเดา

นิคมอุตสาหกรรม ภาคใต้ สะเดา

นิคมอุตสาหกรรม ภาคใต้ สะเดา
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

query_builder 24 กุมภาพันธ์ 2563

remove_red_eye-

ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุ นิคมอุตสาหกรรมสงขลา ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา คืบหน้าไปแล้ว 35 % คาดเปิดให้บริการได้ช่วงเดือนตุลาคมนี้ ขณะที่นักลงทุนสิงคโปร์-มาเลเซีย-ไทย สนใจลงทุนจำนวนมาก แย้มหากใช้พื้นที่เต็มจำนวนสร้างมูลค่าลงทุนกว่า 13,000 ล้านบาท ล่าสุดสร้างมอเตอร์เวย์สายใหม่เส้นทางจากอำเภอหาดใหญ่ – อำเภอสะเดา เชื่อมระบบการคมนาคมขนส่งครบวงจร ประกาศความพร้อมรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายเต็มที่!
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสงขลา ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จังหวัดสงขลา (SEZ) ที่เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2562 ว่า การก่อสร้างแบ่งเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การก่อสร้างบนพื้นที่ 629 ไร่ แบ่งเป็นเขตประกอบการทั่วไปและเขตพาณิชยกรรม 337 ไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่ระบบสาธารณูปโภคและพื้นที่สีเขียวและแนวกันชน 292 ไร่ ปัจจุบันการก่อสร้างมีความคืบหน้าประมาณ 35% โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2563 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ขณะเดียวกันระหว่างการก่อสร้างหรือพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสงขลา มีนักลงทุนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก อาทิ นักลงทุนจากประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ และกลุ่มนักลงทุนในไทย โดยล่าสุดมีการทำสัญญาจองเช่าที่ดินแล้ว 1 ราย พื้นที่ 15 ไร่ เพื่อประกอบธุรกิจคอมมิวนิตี้มอลล์ และสถานีบริการน้ำมัน สำหรับการก่อสร้างระยะที่ 2 พื้นที่ประมาณ 298 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งมอบที่ดินจากกรมธนารักษ์ คาดว่าจะส่งมอบที่ดินให้ กนอ.ได้ภายในเดือนเมษายน 2563
แนวคิดในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสงขลา คือ การเป็นศูนย์อุตสาหกรรมแปรรูปเพื่อการส่งออกและการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบ มีมูลค่าการลงทุนโครงการประมาณ 2,890.402 ล้านบาท ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 4 ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีพื้นที่รวมทั้งหมด 927 ไร่  โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการ และใช้พื้นที่เต็มประสิทธิภาพแล้ว จะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนประมาณ 13,800 ล้านบาท และอัตราการจ้างงานในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 3,400 อัตรา นอกจากนี้ เมื่อมีการลงทุนจัดตั้งนิคมฯแล้วจะก่อให้เกิดประโยบชน์ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของพื้นที่ และการรักษาสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ โดยในแง่ของด้านเศรษฐกิจ จะก่อให้เกิดการลงทุนใหม่ในพื้นที่ การจ้างงานของแรงงานในพื้นที่เพิ่มขึ้น การสร้างความต้องการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดกิจกรรมต่อเนื่องจากการลงทุน เช่น ธุรกิจก่อสร้าง ร้านค้า ศูนย์การค้า หอพัก/บ้านเช่า เป็นต้น การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่มีเพิ่มขึ้นและมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ระบบคมนาคม ไฟฟ้า ประปา โรงเรียน และโรงพยาบาล เป็นต้น ขณะเดียวกันยังสามารถเพิ่มทางเลือกในการประกอบอาชีพของปราชนในพื้นที่ และจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อรองรับการประกอบอุตสาหกรรมและกิจกรรมเกี่ยวเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างความเดือดร้อน / รบกวนชุมชนโดยรอบพื้นที่ นอกจากนี้ นักลงทุนที่ไปลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสงขลา ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์จาก กนอ.ในด้านของภาษีอากร เช่น ยกเว้นภาษีอากรขาเข้า ค่าธรรมเนียมพิเศษฯ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต สำหรับเครื่องจักร วัตถุดิบ/ยกเว้นภาษีอากรขาออก ภาษีมูลค่าเพิ่มภาษีสรรพสามิต สำหรับวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ /ได้รับการยกเว้นหรือคืนภาษีอากรสำหรับเครื่องจักร และวัตถุดิบ  และสิทธิที่ไม่เกี่ยวกับภาษีอากร เช่น สามารถถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในนิคม อนุญาตให้คนต่างด้าวที่เป็นช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการ เข้ามาทำงานในนิคมฯ และอนุญาตให้ครอบครัวและบุคคลซึ่งอยู่ในอุปการะเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร และสามารส่งออกเงินตราต่างประเทศได้  
จังหวัดสงขลา ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการลงทุนสูง เนื่องจากมีที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ (Strategic Location) ด้านชายแดนไทย-มาเลเซีย อีกทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ล่าสุดเตรียมเปิดด่านศุลกากรสะเดาแห่งที่ 2 รองรับการค้าชายแดน และตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยได้จัดสร้างทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) บริเวณจุดตัดกับทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) อำเภอบางกลํ่า จังหวัดสงขลา มีจุดสิ้นสุดที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ใกล้กับด่านศุลกากรสะเดา แห่งที่ 2 รวมระยะทาง 70.43 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงระบบการคมนาคมขนส่งอย่างครบวงจรระหว่างอำเภอหาดใหญ่ และอำเภอสะเดา และเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งสินค้าสำหรับการค้าชายแดนในภูมิภาคได้เป็นอย่างดี  
“กนอ.มุ่งหวังให้เกิดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมบริการ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานพาหนะ หรือเครื่องจักร อุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และสายเคเบิ้ล รวมถึงอุตสาหกรรมเบา ซึ่งจากการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่างอำเภอหาดใหญ่ และอำเภอสะเดา การมีด่านศุลกากรสะเดา แห่งที่ 2 เชื่อว่าจะเพิ่มศักยภาพให้ทั้งนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) และนิคมอุตสาหกรรมสงขลา ที่มีความโดดเด่นอยู่แล้วได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างแข็งแกร่งตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” นางสาวสมจิณณ์ กล่าวปิดท้าย
---------------------------------------
กองประชาสัมพันธ์
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย