โน๊ตบุ๊คควรชาร์จด้วยเล่นด้วยไหม

ข่าวสารทั่วไป

  1. หน้าแรก
  2. ข่าวสารทั่วไป
  3. ชาร์จแบตเตอรี่ โน้ตบุ๊ก มือถือ แท็บเล็ต ที่ถูกต้อง

วิธีชาร์จแบตเตอรี่ โน้ตบุ๊ก มือถือ แท็บเล็ต ที่ถูกต้อง

แบตเตอรี่ในโน้ตบุ๊ก มือถือ แท็บเล็ต ส่วนใหญ่ในปัจจุบันนั้น จะมีแบบ Li-on และ Li-Polymer ทั้งสองแบบมีลักษณะการทำงานในลักษณะ “นับรอบการชาร์จ (Cycle)” ซึ่งมีความหมายประมาณว่าใช้จนหมด 100% ของแบตฯ นับเป็น 1 รอบ) ไม่ได้นับเป็นจำนวนครั้ง เหมือนแบตรุ่นเก่า วันนี้รายการเคล็ดลับน่ารู้โลกหุ่นจะแนะนำวิธีการชาร์จที่ถูกต้อง ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน

โน๊ตบุ๊คควรชาร์จด้วยเล่นด้วยไหม

วิธีการชาร์จแบตเตอรี่ที่ถูกต้อง

  1. ควรชาร์จไฟก็ต่อเมื่อระดับแบตเตอรี่อยู่ที่ 65-70% จะดีที่สุด แต่การใช้งานจริงถ้าได้ระดับ 35-60% ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ ซึ่งจากผลการทดสอบจากต่างประเทศ ได้ระบุว่า หากชาร์จแบตเตอรี่ที่ระดับต่ำกว่า 30% จะสามารถชาร์จได้ประมาณ 300 รอบ (Cycle) แต่หากเราชาร์จที่ระดับ 65-70% จะสามารถชาร์จได้มากกว่า 400-500 รอบ (Cycle) ดังนั้นไม่ควรชาร์จในขณะที่แบตต่ำกว่า 30% เพราะมันจะเสื่อมเร็ว

  2. ห้ามใช้แบตจนหมดเกลี้ยงในระดับเปิดเครื่องไม่ติด (แบตเหลือ
0%) โดยเด็ดขาด เพราะบางทีเครื่องชาร์จทั่วไปจะชาร์จไฟไม่เข้าอีกเลย ต้องถอดไปชาร์จกับเครื่องชาร์จแรงดันไฟสูงๆ หรือกระตุ้นแบต ซึ่งจะยุ่งยากและอาจทำให้เสียหายได้

  3. ถ้าหากไม่ได้ใช้มือถือเป็นเวลานาน และแบตเตอรี่สามารถถอดออกมาได้ ควรถอดแบตเตอรี่เก็บไว้ในขณะที่มีประจุประมาณ
40% และควรที่จะเก็บไว้ในที่เย็น และไม่มีความชื้น

  4. สำหรับมือถือหรือแท็บเล็ตนั้น ส่วนใหญ่จะมีระบบตัดไฟเมื่อชาร์จแบตจนเต็ม
100% แต่ถ้าหากแบตมันลดลงเพียง 1% มันก็จะชาร์จใหม่ ต่างกับโน้ตบุ๊คที่จะชาร์จใหม่เมื่อแบตลดลงเหลือ 90% ซึ่งหากเราเสียบสายชาร์จมือถือ หรือแท็บเล็ตทิ้งไว้นานๆ จะทำให้เราสูญเสียรอบการชาร์จไปโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อเราชาร์จเสร็จก็ควรถอดปลั๊กเพื่อนำมาใช้งาน

  5. ควรใช้ที่ชาร์จที่มีคุณภาพ และหลีกเลี่ยงที่ชาร์จปลอม เพราะอาจจะทำให้จ่ายไฟไม่นิ่ง รวมทั้งสายไฟที่เราใช้ชาร์จ ก็ควรที่จะเป็นสายที่มีคุณภาพในการนำไฟฟ้าได้ดี

โน๊ตบุ๊คควรชาร์จด้วยเล่นด้วยไหม

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องไปซีเรียสเรื่องการชาร์จมากเกินไปจนเป็นภาระ เพราะยังไงแบตเตอรี่ไม่ว่าจะชาร์จดีถูกต้องแค่ไหน ก็มีอายุการใช้งานของมัน โดยทั่วไป 3-5 ปีก็ต้องเปลี่ยนใหม่อยู่แล้ว

ที่มาของแหล่งข่าว : http://www.lokehoon.com/topic.php?q_id=236

โน๊ตบุ๊คควรชาร์จด้วยเล่นด้วยไหม

ปัญหาหนึ่งของคนที่ใช้โน๊ตบุ๊คมาสักปีสองปี จะเริ่มสังเกตเห็นว่าแบตเตอรี่หมดไวขึ้นเรื่อยๆ หรือหนักเข้าคือไม่สามารถถอดสายอแดปเตอร์ออกจากเครื่องได้ ต้องเสียบไฟเลี้ยงไว้ตลอดเวลา จะเอาไปทำงานนอกสถานที่ก็ไม่สะดวกเหมือนเดิม งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คเสื่อมไว แล้วจะมีวิธีป้องกัน และประหยัดแบตเตอรี่ขณะใช้งานได้ยังไงบ้าง? 

สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คเสื่อม

  • สาเหตุแรกคือ แบตเตอรี่หมดอายุและเสื่อมตามระยะเวลา โดยปกติแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 2 ปีเราจะเริ่มเห็นว่าแบตเตอรี่เสื่อม หรือใช้งานไปประมาณ 300-400 Life Cycle (1 Life Cycle เท่ากับการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง) หลังจากนั้นไปแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คก็จะค่อยๆ เสื่อมลง และเก็บแบตฯ ไม่อยู่นั่นเอง 
  • สาเหตุต่อมาคือ การใช้งานโน๊ตบุ๊คในที่ที่มีอากาศร้อน อากาศไม่ถ่ายเท ทำให้ความร้อนจากตัวเครื่องสะสมและส่งไปที่แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค เมื่อแบตเตอรี่โดนความร้อนจึงส่งผลให้เสื่อมลงได้
  • การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดและเครื่องดับไปเอง เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่คนใช้โน๊ตบุ๊คปล่อยให้เกิดขึ้นบ่อยๆ และเป็นการทำลายแบตเตอรี่โดยไม่รูตัว เนื่องจากจะต้องชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ซึ่งจะต้องใช้แรงดันไฟฟ้ามากกว่าปกติ ทำให้เกิดความร้อน เมื่อเกิดความร้อนแบตเตอรี่ก็เสื่อมไวขึ้น ดังนั้นเมื่อเห็นว่าแบตเตอรี่เหลือประมาณ 20% ให้ทำการเสียบชาร์จได้เลย 

วิธีแก้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คเสื่อม

1.การคลายประจุแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค

หลายคนอาจจะเจอปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือ พยายามกู้คืนเพื่อให้แบตฯ กลับมาใช้งานให้ได้มากที่สุด วิธีนั้นก็คือ การคลายประจุแบตเตอรี่ หรือที่เรียกว่า Calibrate Battery มาดูกันว่ามีขั้นตอนการทำยังไงบ้าง

  1. ให้ชาร์จแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คให้เต็ม 100% และชาร์จต่ออีก 30 นาที ก่อนจะดึงปลั๊กออกและใช้งานโน๊ตบุ๊คตามปกติ
  2. เมื่อใช้ไปจนแบตฯ เหลือ 5-10% ก็ให้ปิดเครื่องทิ้งไว้อีก 5-6 ชั่วโมงหรือทิ้งไว้ข้ามคืน ในระหว่างนี้แบตเตอรี่จะทำการคลายประจุออก
  3. หลังจากนั้นให้เปิดเครื่องแล้วชาร์จแบตเตอรี่อีกครั้งให้เต็ม 100% ก่อนจะเอาปลั๊กออกและสามารถใช้งานต่อได้ เท่านี้แบตเตอรี่ก็จะสามารถกลับมาใช้งานได้ดีขึ้น แม้จะไม่เต็มร้อยเหมือนเดิมก็ตาม

2.การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ 

การใช้วิธีคลายประจุไฟฟ้าเป็นเพียงการเยียวยาได้ในระยะหนึ่งเท่านั้น หากแบตเตอรี่เสื่อมลงเรื่อยๆ แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ไปเลย โดยเกรดของแบตเตอรี่ที่สามารถซื้อมาเปลี่ยนได้ก็มีหลากหลาย ตั้งแต่ของแบรนด์แท้ซึ่งราคาค่อนข้างสูง หรือจะเป็นระดับเกรด AAA ที่ราคาถูกลงมาหน่อยแต่คุณภาพดีใกล้เคียงกัน 

โน๊ตบุ๊คควรชาร์จด้วยเล่นด้วยไหม

แต่ก่อนที่เราจะปล่อยให้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คเสื่อมไปถึงขั้นที่ต้องเปลี่ยนใหม่ ในระกว่างที่ใช้งานก็ควรใช้อย่างถูกวิธี เพื่อยืดอายุให้แบตฯ เสื่อมช้าลง จะมีวิธีไหนบ้าง มาดูกันเลย 

  1. ไม่ควรเสียบปลั๊กไฟสายอแดปเตอร์ค้างไว้ตลอดเวลา ควรชาร์จให้เต็มแล้วถอดออกเพื่อให้แบตเตอรี่ได้คลายแบตออกไปบ้าง เมื่อลดลงเหลือประมาณ 20% ค่อยกลับไปชาร์จใหม่อีกรอบ
  2. ควรวางให้โน๊ตบุ๊คอยู่ในลักษณะที่คลายความร้อนได้ดี เช่น วางบนขาตั้งโน๊ตบุ๊ค หรือใช้งานในห้องที่อุณหภูมิไม่ร้อนจนเกินไป เพื่อไม่ให้ความร้อนสะสมใต้เครื่อง จนทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไว
  3. ปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth เมื่อไม่ได้ใช้งาน ซึ่งโน๊ตบุ๊คก็เหมือนกับสมาร์ตโฟนเมื่อเราเปิดใช้ Wi-Fi และ Bluetooth อยู่ตลอดเวลาก็ทำให้แบตเตอรี่หมดไว ก็จะต้องชาร์จบ่อยขึ้นทำให้ Life Cycle ลดลง แบตเตอรี่จึงเสื่อมเร็วขึ้น
  4. ให้ถอดอุปกรณ์เสริมต่างๆ ออกหากไม่ได้ใช้งาน เช่น  Wireless mouse, Wireless keyboard, สายกล้อง สายไมค์ แฟลชไดร์ฟ ฯลฯ เพราะการเสียบอุปกรณ์เสริมเหล่านี้จะทำให้กินไฟจากแบตเตอรี่เครื่องโน๊ตบุ๊คตามไปด้วย 
  5. ไม่ปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือ 0% เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า การที่แบตเตอรี่หมดจนเครื่องดับแล้วเริ่มต้องชาร์จใหม่ จะทำให้ต้องใช้แรงดันไฟฟ้ามากกว่าปกติ ซึ่งก่อให้เกืดความร้อนและผลเสียต่อแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คได้ 
  6. หากพกโน๊ตบุ๊คติดตัวไปทำงานนอกสถานที่ การปรับค่าความสว่างหน้าจอลงประมาณ 10% หรือปรับให้สว่างพอมองเห็นหน้าจอได้ จะช่วยให้ใช้งานโน๊ตบุ๊คได้นานขึ้น
  7. เปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่ (Battery Saver) ซึ่งจะทำให้หน้าจอลดความสว่างลงเองอัตโนมัติ แต่จะช่วยให้คุณใช้งานโน๊ตบุ๊คได้นานขึ้น
  8. เปลี่ยนมาใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD จะช่วยให้โน๊ตบุ๊คทำงานได้เร็วขึ้น และยังช่วยประหยัดแบตได้ เพราะการทำงานของ SSD ใช้พลังงาน และใช้ไฟน้อยกว่าฮาร์ดดิสก์แบบ HDD 

คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเลี่ยงไม่ให้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คเสื่อม เนื่องจากแบตเตอรี่ไม่ว่าจะเป็นแบตฯ ของอุปกรณ์ชิ้นไหนก็จะมีอายุที่จำกัด เมื่อถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เราจะสามารถทำได้คือการยืดระยะเวลา ให้แบตเตอรี่เสื่อมช้าลงด้วยการใช้งานอย่างถูกวิธี เท่านี้แบตเตอรี่จะอยู่ได้นานยิ่งขึ้น 

ช้อปโน๊ตบุ๊ค Laptop และอุปกรณ์เสริมได้เลยในเว็บไซต์ OfficeMate ช้อปออนไลน์ที่บ้านแบบสบาย ได้ทั้งส่วนลด และของแถม รวมถึงบริการส่งฟรี* และรับประกันคืนสินค้านาน 30 วัน

โน๊ตบุ๊คควรชาร์จด้วยเล่นด้วยไหม

บทความแนะนำ!

ขอบคุณข้อมูลจาก

  • notebookspec.com
  • www.potatotechs.com

โน๊ตบุ๊คควรชาร์จไปเล่นไปไหม

เพราะโน๊ตบุ๊คถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้แบบไม่ต้องเสียบปลั๊กตลอดเวลาเหมือนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจึงไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กให้โน๊ตบุ๊คตลอดเวลาจะทำให้แบตเตอรี่ได้ใช้งานน้อยเกินไป ดังนั้นเราควรถอดปลั๊กและใช้งานโน๊ตบุ๊คด้วยแบตเตอรี่เป็นระยะ ๆ จะทำให้แบตเตอรี่มีการบริหารไฟฟ้าเข้าออก ช่วยให้ Battery cycle ลดช้าลง แต่ก็ไม่ควรปล่อย ...

Battery Notebook อยู่ได้กี่ชั่วโมง

หลายท่านเวลาที่ต้องการนำโน๊ตบุ๊ค ไปใช้ต่างสถานที่ และอยากให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานๆ เช่น ไปนั่งพิมพ์งานที่ร้านกาแฟ หรือ แม้กระทั่งเวลาไปเรียน ซึ่งแบตเตอรี่จะต้องสามารถอยู่ได้ 3 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ โดยการตั้งค่านั้นจะเน้นไปทาง Maximize Battery Life, Low Power, Power Saving.

ชาร์จแบตไปเล่นไปได้ไหม

ชาร์จมือถือไปเล่นไป ในเรื่องของแบตเตอรี่ ในขณะที่เราชาร์จแบตมือถือเครื่องก็จะมีความร้อนมากอยู่แล้ว และการชาร์จไปเล่นไปกระแสไฟฟ้าจะเกิดการแบ่งไฟ ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณกระแสไฟสูงขึ้น ส่งผลให้ตัวเครื่องนั้นร้อนมากกว่าเดิม เป็นส่วนที่ทำให้แบตเตอรี่มือถือเสื่อมไว และยังเพิ่มโอกาสในการเกิดไฟช็อหากเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วอีกด้วย

โน๊ตบุ๊คกินไฟมากไหม

2. เลือกใช้ Notebook ประหยัดกว่า PC เพราะ Notebook นั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานแบบพกพาและมีแบตเตอร์รี่สำรองไว้ในตัว ซึ่ง Notebook จะกินไฟอยู่ที่ 30-100 วัตต์ ส่วน PC นั้นจะอยู่ที่ 300-800 วัตต์ เลยทีเดียวครับ