 Show เคยสังเกตุกันมั้ยครับว่า Facebook Messenger ในช่วงหลังๆมานี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเล็กน้อย ซึ่งหลายๆคนก็น่าจะเห็นกันแล้วละมั้ง นั่นก็คือภาพแสดงสถานะการส่งข้อความผ่านตัวแอพ Messenger เป็นแบบใหม่แล้ว แล้วแบบใหม่มันเป็นยังไงบ้างและมีดียังไง มาดูกัน 😀 เคยสังเกตุกันมั้ยครับว่า Facebook Messenger ในช่วงหลังๆมานี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเล็กน้อย ซึ่งหลายๆคนก็น่าจะเห็นกันแล้วละมั้ง นั่นก็คือภาพแสดงสถานะการส่งข้อความผ่านตัวแอพ Messenger เป็นแบบใหม่แล้ว แล้วแบบใหม่มันเป็นยังไงบ้างและมีดียังไง มาดูกัน 😀 สำหรับสถานะของข้อความแบบใหม่ใน Messenger จะมีทั้งหมด 4 แบบด้วยกันดังนี้ สถานะแบบแรกจะเป็นวงกลมสีขาวขอบสีฟ้า สื่อความหมายว่าข้อความนั้นยังไม่ถูกส่งขึ้นไปยังเซิฟเวอร์ (มือถือของผู้ใช้กำลังส่งข้อความอยู่) สถานะแบบที่สองจะเป็นวงกลมสีขาวขอบสีน้ำเงินที่มีเครื่องหมายถูกต้องสีน้ำเงินอยู่ข้างใน หมายความว่าข้อความได้ส่งไปยังเซิฟเวอร์แล้ว สถานะแบบที่สามจะเป็นวงกลมสีน้ำเงินที่มีเครื่องหมายถูกต้องสีขาวอยู่ข้างใน หมายความว่าเซิฟเวอร์ได้ส่งข้อความดังกล่าวไปยังผู้ใช้ปลายทางแล้ว แต่ว่าผู้ใช้ยังไม่ได้เปิดอ่านข้อความ สถานะสุดท้ายจะเป็นรูปโปรไฟล์ของผู้ใช้ปลายทาง หมายความว่าผู้ใช้คนนั้นได้เปิดอ่านข้อความเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากเดิมจะมีเพียงแค่ข้อความบอกว่า Sending, Sent และ Read คราวนี้ Messenger ก็ได้ทำใหม่ให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่ายขึ้นและดูสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่ว่าในการใช้งานช่วงแรกๆอาจจะเข้าใจยากซะหน่อย เพราะมันแบ่งเป็นหลายขั้นตอนเหลือเกิน เอาเข้าจริงมันก็มีประโยชน์เหมือนกันนะที่ต้องแบ่งเป็นสถานะแบบนี้ อย่างเช่น เจ้านายส่งข้อความหาคุณใน Messenger (ทำไมไม่โทรหาฟระ) ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็จะมีปัญหาเข้าใจผิดกันบ่อยๆเช่น “ผมส่งข้อความไปแล้ว ทำไมคุณไม่ตอบ” ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าปลายทางยังไม่ได้รับข้อความก็เป็นได้ แต่ด้วยการแสดงสถานะแบบใหม่นี้ก็จะช่วยให้รู้ได้ว่า อีกฝั่งยังไม่ได้รับข้อความนั่นเอง (แต่ถ้าส่งข้อความถึงปลายทางแล้วก็ซวยไป :P) และลูกเล่นที่แสดงรูปโปรไฟล์ผู้ใช้นั้นถ้าใครเคยใช้ Google Hangout มาก่อนก็อาจจะเคยเห็นกันมาแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าซีเรียสอย่างไร เพราะ Hangout ก็อาจจะไม่ได้ทำเป็นเจ้าแรกสุด และก็ไม่มีการจดสิทธิบัตร และที่สำคัญผลดีนั้นตกมาที่ผู้ใช้เต็มๆ ได้รูปแบบการทำงานที่ดูง่ายเข้าใจง่าย เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ความอยากรู้ไม่ใช่สิ่งพิเศษเฉพาะมนุษย์ ค่อนข้างพบได้ในอาณาจักรสัตว์ทุกชนิดหรืออย่างน้อยก็ส่วนใหญ่ ด้วยการมาถึงของเทคโนโลยีสู่ผู้คนนับล้าน ความอยากรู้อยากเห็นได้ปรับให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่เท่านั้น แอพส่งข้อความ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน เช่นเดียวกับฟังก์ชันที่ช่วยให้ทราบว่าอีเมลถูกอ่านหรือไม่ แม้ว่าฟังก์ชันนี้ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนองความอยากรู้ของมนุษย์มากนักเกี่ยวกับงานและสภาพแวดล้อมทางการค้าเป็นหลัก หนึ่งในฟังก์ชันที่ฉันเกลียดที่สุดเกี่ยวกับแอปพลิเคชันการรับส่งข้อความคือ คนรู้ว่าครั้งสุดท้ายที่ฉันใช้แอปพลิเคชัน. ไม่ใช่ว่าฉันสงสัยในความเป็นส่วนตัวของฉันมาก แต่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของฉัน เช่นเดียวกับที่ฉันไม่ค่อยสนใจที่จะรู้ว่าเมื่อใดที่ผู้ติดต่อของฉันใช้แอปพลิเคชันครั้งล่าสุดฉันก็ไม่สนใจที่จะแบ่งปันข้อมูลนั้นเช่นกัน บทความที่เกี่ยวข้อง: วิธีลบข้อความบน Facebook Messenger อย่างไรก็ตาม ฉันตระหนักดีว่าในบางโอกาส อาจช่วยได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อความที่เราส่งไม่ได้รับการตอบ หรือไม่ได้อ่าน หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ข้อความที่เราส่งไปไม่ได้รับการตอบกลับ ถ้าอยากรู้ว่าจะรู้ได้อย่างไรว่ามีใคร ละเว้นข้อความ Messenger ของคุณ, ผมขอเชิญชวนให้คุณอ่านต่อไป. ดัชนี
ด้วยความที่ภาษาสเปนมีความหลากหลายในแง่ของคำศัพท์จึงเป็นเรื่องที่โชคร้ายในหลาย ๆ ครั้ง ไม่มีใครรำคาญที่จะแปลคำบางคำ เมื่อเวลาผ่านไป ทุกคนใช้มันและการค้นหาคำแปลก็หมดความหมาย Messerger ทำเครื่องหมายเช่นเดียวกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ คือ ไอคอนที่แสดงสถานะของข้อความ ที่เราส่ง. ในกรณีของ Messenger สิ่งเหล่านี้จะแสดงใน 4 วิธีที่แตกต่างกัน:
เมื่อเราชัดเจนว่าไอคอน Messenger ใดแจ้งให้เราทราบเกี่ยวกับ inform สถานะของข้อความที่เราส่งไปถึงเวลาที่จะรู้หรือพยายามค้นหาว่าผู้รับข้อความของเราไม่สนใจเราหรือไม่ Messenger มีทางเลือกอะไรให้เราบ้าง
Messenger พร้อมให้บริการแก่เรา สองวิธีในการจัดการข้อความ ที่เราได้รับผ่านแพลตฟอร์มนี้ ในแง่หนึ่งเราพบตัวเลือก ความเงียบตัวเลือกนี้จะปิดใช้งานการแจ้งเตือนข้อความทั้งหมดที่ได้รับจากการแชทเป็นกลุ่มหรือการแชทเฉพาะ ตัวเลือกอื่น ๆ ที่เรามีให้คือ ไม่สนใจ. ตัวเลือกนี้จะหยุดแจ้งเตือนข้อความทั้งหมดที่มาจากผู้ใช้รายเดียวกัน (จะแจ้งเฉพาะข้อความแรกที่ส่ง) ในส่วน คำขอข้อความ ข้อความทั้งหมดของผู้ใช้ที่เราไม่ได้ดูแลการอนุรักษ์มาก่อนอยู่ที่ไหน ทำไมข้อความของเราไม่ได้รับ?
เมื่อเราทราบตัวเลือกที่ Messenger มีให้สำหรับเราในการจัดการข้อความที่เราได้รับและไอคอนที่แสดงถึงสถานะของพวกเขาแล้วเราจะได้ทราบถึง หากข้อความของเราถูกละเลยจริงๆ โดยผู้รับตั้งใจพวกเขาไม่ได้อ่าน / รับพวกเขาเราถูกปิดเสียงในแอปพลิเคชัน ... พวกเขาไม่สนใจเราโดยสิ้นเชิงหากผู้ใช้มักจะแสดงเวลาของการเชื่อมต่อครั้งล่าสุดและเรายังเปิดใช้งานตัวเลือกนั้นและอยู่ที่ด้านบน nหรือชั่วโมงสุดท้ายจะปรากฏขึ้น ซึ่งผู้รับข้อความของเราเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันเป็นครั้งสุดท้ายเป็นที่ชัดเจนว่าเขาไม่ได้เพิกเฉยอย่างสมบูรณ์และเราต้องเลือกวิธีการสื่อสารอื่นเนื่องจาก อาจบล็อกเรา โดยไม่ได้ตั้งใจ คุณไม่ได้รับข้อความของเราหากผู้ใช้ไม่เพียงแค่ได้รับข้อความของเรา แต่ก่อนหน้านี้หากเขาตอบรับและตอบเราเป็นไปได้ว่าสิ่งนี้มี ปิดเสียงการสนทนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรามีน้ำหนักมากเป็นพิเศษและส่งข้อความจำนวนมากโดยแทบจะไม่พูดถึงสิ่งที่น่าสนใจ ถ้าเป็นเช่นนั้นเราควรดำเนินการในลักษณะเดียวกับในส่วนก่อนหน้าคือการทดสอบ รูปแบบการสื่อสารอื่น ๆ หรือฉันรวมถึงการโทร (ใช่ด้วยสมาร์ทโฟนคุณยังโทรได้ไม่ใช่แค่ส่งข้อความ) พวกเขาบล็อกเราแล้วหากบัญชี Messenger เชื่อมโยงกับบัญชี Facebook ทั้งของผู้ใช้และของเราหากพวกเขาบล็อกเราผ่าน Facebook พวกเขาบล็อกเราโดยอัตโนมัติใน Messenger หากเรายังไม่ได้เชื่อมโยงหมายเลขโทรศัพท์ของเรากับบัญชี Facebook ของเรา เราสามารถเลือกที่จะ สร้างบัญชี Messenger ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของเรา แล้วติดต่อกลับไปหาคนที่บล็อคเราไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ (เราไม่จำเป็นต้องคิดไม่ดีเสมอไป) วิธีหลีกเลี่ยงการถูกบล็อกใน Messenger
จดจ่อกับข้อความของคุณกับตัวเลขที่น้อยที่สุดถ้าจะเลี่ยงไม่ให้โดนบล็อกเพราะหนักต้อง หลีกเลี่ยงการส่ง 10 ข้อความเพียงเพื่อถามสิ่งหนึ่ง. แม้ว่าข้อความสุดท้ายอาจยาว แต่ก็เหมาะสำหรับผู้รับเสมอ เนื่องจากจะป้องกันไม่ให้สมาร์ทโฟนส่งเสียงเรียกเข้าชั่วขณะหนึ่งจากการแจ้งเตือนแต่ละครั้ง คิดก่อนเขียนหากเรากำลังสนทนากันอย่างดุเดือดผ่าน Messenger และต้องการป้องกันไม่ให้ถูกขัดจังหวะโดยการบล็อกเราอย่างสมบูรณ์เราต้อง คิดให้ดีว่าเราอยากจะพูดอะไรและพูดอย่างไร. มันง่ายมากที่จะบล็อกผู้ใช้ แต่ยากกว่ามากที่จะให้พวกเขาเลิกบล็อกเราอีกครั้ง ติดต่อบุคคลด้วยวิธีอื่นเราไม่เพียง แต่ติดต่อผู้ใช้ผ่าน Messenger เท่านั้น แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงกับบัญชีนั้นก็มีให้เราเช่นกัน วิธีการต่างๆในการสื่อสาร กับบุคคลนั้นตราบใดที่พวกเขาไม่ได้บล็อกเราโดยตรง ถ้าเป็นเช่นนั้นทางเลือกเดียวที่เราเหลือคือติดต่อเพื่อนที่อยู่ร่วมกันเพื่อให้พวกเขาขอร้องเราและถามพวกเขาว่าทำไมพวกเขาถึงบล็อกเรา ไม่มีวิธีการใดที่อนุญาตให้คุณเลี่ยงการจำกัดความปลอดภัยของ Facebook ในเรื่องนี้ได้ แม้ว่าแพลตฟอร์มนี้ เป็นหนึ่งในความปลอดภัยน้อยที่สุด |
ส่งข้อความ messenger ขึ้นเครื่องหมายถูก
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.ketiadaan Inc.
