Show ข้อมูลภาพ วิธีการก่อสร้างอาคาร โดยกองแบบแผน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขการรวบรวมและเรียบเรียงภาพรวมทั้งเขียนคําบรรยาย ประกอบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างทั้งที่มีและไม่มีประสบการณ์ในการทํางานหน้างานก่อสร้างได้เรียนรู้วิธีการก่อสร้างอาคารจากภาพถ่ายหน้างาน ก่อสร้างซึ่งแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการทํางาน การเตรียมการแก้ไขปัญหาของงานแต่ละอย่าง เช่น การเสียบเหล็กเสริมเพื่อต่อกับส่วนของอาคารที่จะหล่อคอนกรีตในภายหลัง การเสียบเหล็ก เสริมไว้เพื่อก่ออิฐ การเตรียมงานไว้สําหรับงานวิศวกรรมระบบ เป็นต้น รวมทั้งแสดงขั้นตอน การทํางานบางอย่างซึ่งไม่ปรากฏในแบบและรายการแต่จะต้องทําตามหลักวิชา เช่น การเท คอนกรีตหยาบรองใต้พื้นที่ใช้ดินเป็นแบบ ก่อนผูกเหล็กเสริมที่ต้องเสริมเหล็กจํานวนมากหรือการ ใส่แผ่นยางกันน้ําบริเวณรอยต่อคอนกรีตของพื้นหรือผนังชั้นใต้ดิน เป็นต้น
Comments การก่อสร้างอาคารนั้นมีขั้นตอนมากมาย แต่โดยหลักแล้วล้วนอยู่ในขั้นตอนพื้นฐานที่จะเล่านี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจ และการวางแผนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือประกอบการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณในแต่ละเดือนแต่ละงวด อีกทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาต่างๆ หรือเกิดงบประมาณบานปลายที่มักจะเกิดขึ้นเป็นปัญหาแรกๆ(และปัญหาใหญ่)ของการก่อสร้างโครงการ ซึ่งหากทำความเข้าใจได้ในภาพรวมของขั้นตอนการก่อสร้าง ก็จะสามารถรับทราบเกี่ยวกับตัวงานและความคืบหน้าของงานก่อสร้าง ทั้งยังอาจทราบถึงปัญหาบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ทำตามขั้นตอนหลักนี้ได้ด้วย ทั้งนี้ลำดับการก่อสร้างที่เจ้าของบ้านควรทราบสามารถแบ่งเป็น 10 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้ อย่างไรก็ตามขั้นตอนเหล่านี้สามารถมีการปรับเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับปัญหาหน้างาน สัญญาว่าจ้าง และสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น 1. เตรียมพื้นที่ ขั้นตอนแรกที่ต้องเตรียมการก่อนเป็นอันดับแรกเลยคือเรื่อง การเตียมพื้นที่ แน่นอนว่าก่อนที่จะปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างอาคารใดๆ เราต้องมีที่ดินที่ถูกต้อง การเป็นเจ้าของโดยถูกต้องเพื่อปลูกสร้างแล้วจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง ที่ดินพร้อมเราจะไปดูกันต่อว่าการเตรียมพื้นที่สร้างบ้านมีอะไรกันบ้าง การเตรียมพื้นที่ขั้นตอนแรก คือ เตรียมที่ดิน
ทั้งนี้การเตรียมพื้นที่ ต้องมีการถมดินเพื่อปรับระดับ แล้วสร้างรากฐานความมั่นคงให้กับบ้านหลังนั้นๆ การถมที่ดินมี 2 สิ่งที่ควรคำนึง คือ
ไม่ควรถมดินในช่วงฤดูฝนเนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ดินไหล ควรถมดินในน้าแล้งมากกว่า คือช่วงเดือน ธันวาคม-พฤษภาคม 2. ขั้นตอนงานวางผังอาคาร การวางผังอาคาร เป็นการกำหนดตำแหน่งและขอบเขตของสิ่งก่อสร้างโดยอ้างอิงจากแบบก่อสร้าง เพื่อให้สามารถก่อสร้างบ้านบนพื้นที่ดินได้อย่างครบถ้วนและถูกต้องตามแบบก่อสร้าง เพื่อให้ทุกฝ่าย ตั้งแต่เจ้าของบ้าน ผู้ออกแบบ (สถาปนิก) วิศวกร ผู้รับเหมา รวมถึงบริษัทรับเหมางานเสาเข็ม (ถ้ามี) ได้มีความเข้าใจที่ตรงกัน เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญก่อนจะลงมือก่อสร้างโครงสร้างอาคาร (เช่น เสาเข็ม ฐานราก ตอม่อ) และจะทำหลังจากการเตรียมพื้นที่ดินเรียบร้อยแล้ว (เช่น ถมดิน และรอระยะเวลาให้ดินเซตตัวดีแล้ว ปรับระดับดินแล้ว) การวางผังอาคารนี้ควรตรวจสอบหมุดหลักเขตที่ดินกับโฉนดที่ดินว่าครบถ้วนตามแบบหรือไม่ โดยเริ่มจากหาตำแหน่งเสาต้นแรกที่จะเป็นจุดอ้างอิง กำหนดด้านเริ่มที่จะให้ขนานกับแนวเขตที่ดิน (ว่าจะขนานกับถนนด้านหน้าบ้านหรือขนานกับที่ดินด้านข้าง) จากนั้นใช้หลักมุมฉากเพื่อหาแนวอาคารอีกด้าน (อาจใช้กล้องทีออโดไลต์ (กล้องวัดมุม) หรือใช้กฏ 3 : 4 : 5 สร้างมุมฉากก็ได้) แล้วจึงหาตำแหน่งกึ่งกลางของฐานราก (หรือเสาอาคาร) ถัดไปจนครบทุกตำแหน่ง สำหรับอาคารขนาดเล็กอาจใช้วิธีขึงเอ็นให้เห็นเป็นแนว จากนั้นจึงทำเครื่องหมายแสดงตำแหน่งฐานรากให้เห็นชัดเจน (อาจใช้วิธีพ่นสีเพื่อแสดงตำแหน่งฐานราก) โดยตรวจสอบอีกครั้งว่าองค์ประกอบอาคารที่ยื่นออกมาตามแบบนั้นให้ถูกต้องตามแบบก่อสร้าง เมื่อได้ระยะที่จะวางผังแล้วจึงตอกหลักผังให้แน่นและมั่นคง ไม่เกิดการเคลื่อนที่ในภายหลัง ในขั้นตอนนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับระยะต่างๆ ให้เหมาะสม หากพบอุปสรรคที่หน้างาน (เช่น แนวต้นไม้ใหญ่อยู่ใกล้หรืออยู่ในบริเวณที่ตรงกับแนวอาคารที่จะก่อสร้าง แต่ต้องการคงไว้ ไม่อยากตัดทิ้ง) อาจพิจารณาขยับผังการก่อสร้างให้เหมาะสม โดยผู้รับเหมาจะนำเสนอแนวทางแก้ไขให้ผู้ออกแบบเซ็นชื่อรับรอง แล้วจึงดำเนินการกำหนดผังการก่อสร้าง
3. งานเสาเข็ม เสาเข็ม คือ โครงสร้างที่เป็นส่วนรับน้ำหนักของอาคารทั้งหมด จึงมีความสำคัญอย่างมากต้องได้รับการควบคุมดูแลจากผู้ควบคุมงานก่อสร้างและวิศวกร เพื่อจะได้ตรวจสอบและหาวิธีการแก้ไขในกรณีที่เกิดปัญหาเสาเข็มที่ใช้กับอาคารบ้านพักอาศัยแบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้ เสาเข็มกลุ่ม ใช้กับอาคารพักอาศัยที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ความสามารถในการรับน้ำหนักต่อต้นมีไม่มากจึงต้องใช้เสาเข็มที่มีปริมาณมาก เพื่อเป็นการช่วยรับน้ำหนักจึงเรียกกันว่าเสาเข็มกลุ่ม วิศวกรผู้ออกแบบจะเป็นผู้คำนวณว่าจุดรับน้ำหนักนั้นๆ จะใช้เสาเข็มหน้าตัดความลึกและจำนวนเท่าไหร่ เทคนิคการทำงานสามารถใช้แรงงานคนใช้สามเกลอตอกหรือใช้รถแบ็คโครกดเข็มก็ได้ เสาเข็มตอก เป็นเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงมีรูปแบบพื้นที่หน้าตัดเป็นรูปตัว I เข็มสี่เหลี่ยมเป็นต้น ใช้ปั้นจั่นในการตอกเสาเข็มในกรณีที่มีความลึกเกิน 10 เมตร จะใช้เสาเข็ม 2 ต้นต่อกัน วิธีการต่อเชื่อมนั้นจะเชื่อมโดยต่อปลอกหรือต่อเชื่อม วิศวกรจะเป็นผู้กำหนดน้ำหนักตุ้มและระยะการยกตุ้ม ความสมบูรณ์ของการตอกเสาเข็มลงดิน 10 ครั้งสุดท้ายว่าอยู่ในระยะที่วิศวกรได้คำนวณไว้หรือไม่ อีกทั้งต้องตรวจสอบตำแหน่งของเสาเข็มให้อยู่ในแนวพิกัดตามการวางผัง เสาเข็มเจาะ คือ เสาเข็มที่เจาะเอาดินออกจนถึงดินแข็ง (ชั้นทราย) ค่าเฉลี่ยความลึกโดยประมาณ 21.00 ม. โดยการใช้ชุดเสาเข็มเจาะต่อปลอกเหล็กลึกตามความยาวของเสาเข็มลงเหล็กแกนเสาเข็มเต็มความยาวเสาเข็ม เทคอนกรีตชนิดรับกำลังอัดสูง (วิศวกรเป็นผู้คำนวณ) การทำเสาเข็มเจาะนี้จะมีเสียงดังจากเครื่องจักรกลระหว่างการทำงาน แต่จะมีข้อดีคือลดการสั่นสะเทือนระหว่างการทำงาน ลดการเลื่อนตัวของดินเหมาะสำหรับอาคารที่ปลูกปลูกสร้างใกล้ๆ กัน
4. งานฐานรากโครงสร้างชั้นล่าง ฐานรากโครงสร้างอาคาร (Foundation) คือส่วนประกอบที่คอยรองรับน้ำหนักของอาคารที่ถูกถ่ายเทลงมา ซึ่งปกติแล้วน้ำหนักทั้งหมดจะถูกส่งต่อมายังตัวเสาแล้วค่อยถ่ายเทผ่านฐานรากโครงสร้างอาคารก่อนจะค่อยเคลื่อนตัวไปยังดินหรือหินที่อยู่ด้านใต้ในท้ายที่สุด โดยฐานรากแบบพื้นฐานหรือฐานรากแผ่ (Spread footing) เป็นฐานรากโครงสร้างอาคารประเภทหนึ่งที่ไม่มีเสาเข็มมาช่วยผ่อนน้ำหนัก ดังนั้นฐานรากแผ่จึงใช้โครงสร้างทั้งหมดของตัวเองในการรองรับน้ำหนักอาคาร สืบเนื่องจากสาเหตุที่ตัวอาคารมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ดังนั้นฐานรากแผ่ที่เหมาะสมจึงควรมีขนาดใหญ่พอสำหรับการกระจายน้ำหนักลงไปยังพื้นผิวด้านใต้โครงสร้าง หรือในกรณีที่ฐานรากแผ่มีขนาดไม่ใหญ่ดินหรือหินที่อยู่ด้านใต้ก็ควรจะมีความแข็งแรงมากพอในการรองรับน้ำหนักของตัวอาคารทั้งหมด เพราะหากฐานรากแผ่ต้องรองรับน้ำหนักของตัวอาคารแต่ดินหรือหินที่อยู่ด้านใต้ดันมีขีดจำกัดในการรองรับน้ำหนักที่ไม่มากพอ วิธีแก้ปัญหาดังกล่าวจะมีเพียงหนทางเดียวคือการสร้างโครงสร้างฐานรากแผ่ให้มีขนาดใหญ่กว่าปกติ เมื่อต้องสร้างอะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นเช่นนี้ แน่นอนว่างบประมาณในการก่อสร้างย่อมบานปลาย เมื่อมีสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ประเภทของฐานรากที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดีจึงเป็นฐานรากวางบนเสาเข็ม (Piled foundation) ที่มีจุดเด่นสามารถรองรับน้ำหนักที่ถูกถ่ายเทลงมาจากตัวอาคารได้อย่างมั่นคง เพราะน้ำหนักที่เดินทางมาถึงตัวงานฐานรากโครงสร้างอาคาร เสาเข็มจะช่วยฐานรากรองรับน้ำหนักทั้งหมดก่อนโดยอาศัยความฝืดหรือแรงเสียดทานระหว่างผิวเสาเข็มและดินที่อยู่โดยรอบ แต่หากเป็นกรณีที่เสาเข็มมีขนาดยาวมากพอจนสามารถตอกลงไปถึงชั้นหินได้ ตัวเสาก็จะทานน้ำหนักโดยอาศัยทั้งแรงฝืดและแรงแบกทาน (Bearing) ที่ปลายเสาเข็มและชั้นดินหรือหินที่อยู่รอบๆ แทน
5. งานโครงสร้างชั้นบน โครงหลังคา และวางระบบสุขาภิบาล ขั้นตอนนี้ประกอบไปด้วยงานโครงสร้างชั้นบน โครงหลังคา วางระบบสุขาภิบาล โครงสร้างเสา คาน อเส (ส่วนประกอบของโครงสร้างหลังคา) ติดตั้งถังบำบัดน้ำเสียและถังเก็บน้ำใต้ดิน ซึ่งแต่ละงานสามารถทำได้พร้อมกัน หรือเรียงลำดับก่อนหลังตามความสะดวกหน้างาน โดยอิงเนื้องานตามแบบเป็นหลัก ขั้นตอนส่วนโครงสร้างชั้นบน
โครงสร้างชั้นบนหรือคือส่วนชั้นสองของบ้าน สำหรับคนที่มีบ้านเพียงชั้นเดียว สามารถมาสู่ขั้นตอนของการวาง คาน หรือ เริ่มต้นสร้างโครงหลังคาได้เลย แต่ในกรณีที่เป็นบ้านสองชั้น สิ่งที่ต้องทำคือการทำพื้น วางเสา และ คาน รวมไปถึงส่วนของอเส และโครงสร้างหลังคาด้วย ส่วนของระบบพื้นชั้นบนนั้นสามารถใช้ระบบพื้นเหมือนกับที่ใช้ชั้นล่างได้ แต่ว่าในกรณีที่เป็นระบบพื้นบบหล่อในที่ หรือ Cast in place concrete slabs นั้นจำเป็นต้องมีการตั้งไม้ค้ำยันใต้ท้องพื้นจนกว่าคอนกรีตจะแข็งตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน
6. งานมุงหลังคา โครงสร้างบันได งานหล่อชิ้นส่วนต่างๆ "หลังคา" เป็นองค์ประกอบของบ้านที่จะช่วยคุ้มครองบ้านเราให้ปลอดภัยจากแดด ลมและฝน ให้เราได้อยู่อย่างสุขสบายปลอดภัย ไม่ร้อน ไม่หนาว แต่หากได้ผู้รับเหมาหรือช่างที่ก่อสร้างไม่ดี หลังคาจะกลายเป็นจุดที่มักเกิดปัญหารั่วซึมลงมาอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อน้ำรั่วเข้าบ้านเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ พื้นไม้สวยๆ ก็อาจจะเสียหายและพังได้ หรืออาจจะถึงขั้นฝ้าเพดานถล่มลงมาได้เลย หลังคาจึงเป็นจุดที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก "บันได" เป็นส่วนหนึ่งของอาคาร ที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าส่วนอื่น ๆ ของอาคาร ใช้เป็นทางขึ้นลงระหว่างชั้นต่าง ๆ ในอาคาร จำเป็นต้องมีสัดส่วนพอเหมาะ ใช้ประโยชน์ได้เพียงพอ และปลอดภัย รวมทั้งความสวยงามของราวบันได สำหรับอาคารพักอาศัยความกว้างไม่ต่ำกว่า 0.90 เมตร และตามเทศบัญญัติที่ท้ายบทได้กำหนดขนาดกว้าง ความสูงของบันได ลูกบันไดไว้ ผู้เขียนแบบจะต้องแม่นยำในกฎเกณฑ์ของการประกอบการก่อสร้างบันได
7. ก่อผนัง ติดตั้งวงกบ เตรียมงานระบบไฟฟ้า-ประปา "ก่อผนัง" องค์ประกอบสำคัญของอาคารอย่างหนึ่งก็คือ “ผนัง” ไม่ว่าจะเป็นอาคารแบบไหน สไตล์ไหน จะเป็นสไตล์ Loft โชว์เนื้อแท้วัสดุ อย่างอิฐ ปูน สไตล์โมเดิ้น เน้นสีขาวสะอาดตา หรือแนวคันทรี เล่นสีสันที่ผนัง ก็มักจะหนีไม่พ้นผนังที่ต้องใช้ปูนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ดังนั้นนอกจากจะให้ความสำคัญกับแบบแล้ว ควรคำนึงถึงเรื่องพื้นฐานสำคัญๆอย่างผนังปูนกันไว้ โดยเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการทำงานผนังปูนทั้งก่อ และฉาบ ทำอย่างไรให้ผนังปูนมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่แตกร้าว อายุการใช้งานยาวนานควรคำนึงถึง
"ติดตั้งวงกบ" เป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างผนังของตัวบ้าน กับบานประตูหน้าต่าง เป็นส่วนที่ยึดเหนี่ยว ผนังกับบานประตู หน้าต่าง ให้อยู่ด้วยกันอย่างมั่นคงแข็งแรง และทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ วัสดุที่ใช้ทำวงกบสำหรับ อาคารบ้านเรือนทั่วไปมักจะ ทำจากไม้ หรืออะลูมิเนียม ซึ่งถ้าทำจากไม้ก็ควรจะเป็นไม้เนื้อแข็ง เพราะจะให้ความแข็งแรง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า การใช้วัสดุทำวงกบ ที่เหมาะสมประกอบ กับการติดตั้งอย่างถูกวิธีจะทำให้การติดตั้งประตูหน้าต่างมีความมั่นคงแข็งแรงและ ใช้งานได้ดี ลดปัญหา การชำรุดแตกร้าวของผนัง อันเกิดจากการติดตั้งวงกบไม่ถูกต้อง รวมทั้งลดปัญหาการรั่วซึมที่เกิดจากรอยแตก หว่างวงกบและผนัง ทั้งนี้ขั้นตอนการติดตั้งวงกบเป็น เรื่องทางเทคนิค ซึ่งมีอยู่หลายวิธีขึ้นอยู่กับแบบและขนาดของวงกบ วัสดุที่ใช้ ตลอดจนความชำ นาญ ของผู้รับเหมาหรือช่างแต่ละราย "เตรียมงานระบบ" ในการก่อสร้างนั้นหมายถึงกลุ่มงาน ระบบสุขาภิบาล, ระบบไฟฟ้า, ระบบไฟฟ้าสื่อสาร, ระบบดับเพลิง, ระบบปรับอากาศ ซึ่งระบบเหล่านี้ทำให้บ้านน่าอยู่ มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น งานระบบมีความสำคัญมากกว่าที่คิด หากวางแผนการติดตั้งให้ดีและเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม จะสามารถลดปัญหาการบำรุงรักษาในอนาคตได้มาก
8. งานฉาบผนัง และติดตั้งฝ้าเพดาน "งานฉาบผนัง" ถือเป็นการตกแต่งผิวผนังให้เรียบร้อย ที่เป็นงานหลักในการก่อสร้างบ้าน ที่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้บ้านสมบรูณ์ และสวยงามมากขึ้น โดยเป็นการปกปิดชั้นอิฐที่ก่อไว้ ซึ่งจะช่วยทำหน้าที่ป้องกันความชื้นระหว่างสองด้านของผนัง สำหรับประเทศไทยเป็นหนึ่งประเทศที่ให้ความสำคัญกับขั้นตอนนี้ค่อนข้างมาก จึงมีปูนซีเมนต์สูตรต่าง ๆ สำหรับปิดผิวที่มีความเรียบเนียน สวยงามมากเป็นพิเศษ ซึ่งในงานฉาบปูนก็จะมีขั้นตอนการทำงานอยู่หลายขั้นตอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพและความเหมาะสมของพื้นผิวผนังที่จะทำการฉาบปูน เช่น ขั้นตอนการจับเซี้ยม, จับปุ่ม, การสลัดดอก,กรุตาข่าย, ขึ้นปูน (ฉาบปูน), ปาดสามเหลี่ยม, เสริมปูน, ปั่นตีน้ำ, ลงฟอง, ปัดด้วยไม้กวาด เป็นต้น โดยวัตถุประสงค์หลัก เพื่อให้ผนังเรียบเนียนยิ่งขึ้น เพราะหลังจากช่างตีน้ำ(สลัดน้ำ)และปั่นผนังให้เรียบเสร็จแล้ว ผิวผนังก็จะเรียบแบบด้านๆและยังหลงเหลือร่องรอยที่ไม่เรียบเนียนเล็กๆน้อยๆ ช่างฯก็จะทำการเก็บงานอีกครั้งโดยการใช้ฟองน้ำหมาดๆปั่นในขณะที่ปูนยังหมาดอยู่ ก็จะช่วยเก็บรอยหรือผิวที่ไม่เรียบ ให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น
"ติดตั้งฝ้าเพดาน" ฝ้าเพดานมีจุดประสงค์หลัก ๆ คือ ต้องการปกปิดงานระบบต่าง ๆ ที่ยุ่งเหยิงอยู่บนโถงหลังคาและใช้เป็นพื้นที่รองรับการติดตั้งไฟส่องสว่าง ซึ่งส่วนของฝ้าเพดานเองก็ต้องการความสวยงามเช่นกัน เพราะเป็นจุดพื้นที่กว้างที่เห็นได้ชัดเมื่ออาศัยอยู่ในบ้าน หากแหงนหน้ามองแล้วเจอร่องรอยหัวตะปูหรือเป็นคลื่นระหว่างแผ่นก็คงรู้สึกขัดใจทุกครั้งที่มอง การเก็บรายละเอียดให้เรียบเนียนเสมอกันแบบไม่มีรอยต่อ จึงจำเป็นต้องมีการติดตั้งอย่างถูกวิธี เพื่อควบคุมให้คุณภาพของระบบฝ้าเพดานทั้งหลังได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นไปตามที่ตั้งใจ
9. งานติดตั้งประตู-หน้าต่าง รวมถึงวัสดุตกแต่ง พื้น-ผนัง และงาน Build-in "ติดตั้งบานประตู หน้าต่างไม้ ชุดประตู-หน้าต่างไวนิล/อะลูมิเนียม" ขั้นตอนนี้จะเป็นการติดตั้งบานประตู บานกระจก หน้าต่างเข้ากับวงกบไม้ที่ติดตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ รวมถึงติดตั้งชุดประตู-หน้าต่างไวนิลหรืออะลูมิเนียมเข้ากับผนังที่เว้นช่องไว้ ซึ่งขอบผนังโดยรอบต้องเรียบสม่ำเสมอ ได้ระดับดิ่ง-ฉาก เพื่อให้ชุดประตู-หน้าต่างติดตั้งได้พอดี ลดความเสี่ยงการรั่วซึมในอนาคต ด้านงาน Build-in อาจมารวมอยู่ในช่วงนี้ได้ เช่น ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ เคาน์เตอร์ครัว เป็นต้น
10. ทำความสะอาด และตรวจความเรียบร้อย
ลำดับขั้นตอนตามที่กล่าวมา ในทางปฏิบัติอาจมีการสลับหรือซ้อนทับกันบางส่วน รวมถึงอาจมีการแยกย่อยเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น การขนส่งวัสดุหน้างาน ความถนัดของช่าง/ผู้รับเหมา ปัจจัยสภาพคล่องทางการเงิน ปัญหาแรงงานช่าง สภาพลมฟ้าอากาศที่ไม่อำนวย เป็นต้น ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนหน้างานตามความเหมาะสม การสร้างก่อสร้างอาคารให้สำเร็จนั้นไม่ได้หมายเพียงว่าแค่สร้างอาคารแล้วเสร็จ แต่หมายถึงการบริหารโครงการก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ควบคู่กัน ความรู้ด้านทฤษฎีต้องแน่น รวมถึงต้องมีประสบการณ์หน้างานด้วย เพราะต้องนำมาใช้ในการวางแผนการทำงานอันซับซ้อน บริหารทั้งคน และทรัพยากรอื่นๆให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ และเรียกได้อีกอย่างว่า การบริหารโครงการก่อสร้าง เป็นการช่วยขับเคลื่อนงาน หากท่านมีความต้องการหาผู้รับเหมาก่อสร้าง เราพร้อมและยินดีให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยความจริงใจ บริษัทฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้รับความไว้วางใจจากท่านให้เราเป็นผู้ดำเนินการสร้างความพึงพอใจให้แก่ท่านเหมือนดังทุกผลงานที่เราได้สร้างสำเร็จมา เราดำเนินธุรกิจด้านการรับเหมาก่อสร้างโดยทางบริษัทรับเหมาก่อสร้างโรงงาน รับเหมาก่อสร้างโกดัง อาคารสำนักงาน รับสร้างบ้าน คอนโด ที่พักอาศัย รวมถึงการปรับปรุง-รีโนเวทโรงงาน และงานต่อเติมทั้งหมด ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ด้วยทีมงานมืออาชีพ โดยมีเจตนาที่จะสร้างงานที่มีคุณภาพ และราคาที่เหมาะสม ทุกผลงานของเราสร้างจากความทุ่มเท ใส่ใจในรายละเอียด ส่งมอบงานตรงเวลา ซื่อสัตย์ จริงใจ ไม่ทิ้งงาน จนทำให้บริษัทเราเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าตลอดมา และท่านสามารถติดต่อเพื่อปรึกษางานต่างๆได้ฟรี เราคือทีมงานมืออาชีพ มากประสบการณ์ พร้อมขึ้นงานได้ทันที "เราจะก้าวไป ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยหลักวิศวกรรม เพื่อให้ได้งานที่ออกมามีคุณภาพที่สุด" บริษัท โยธินพัตน์
เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ ในการก่อสร้างอาคารมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง10 ขั้นตอนพื้นฐานสร้างบ้านให้สำเร็จ. เตรียมพื้นที่ ... . ขั้นตอนงานวางผังอาคาร ... . งานขุดเจาะเสาเข็ม ... . งานฐานรากโครงสร้างชั้นล่าง ... . งานโครงสร้างชั้นบน โครงหลังคา และวางระบบสุขาภิบาล ... . งานมุงหลังคา โครงสร้างบันได งานหล่อชิ้นส่วนต่างๆ ... . ก่อผนัง ติดตั้ง เตรียมงานระบบไฟฟ้า-ประปา ... . งานฉาบผนัง และติดตั้งฝ้าเพดาน. กระบวนการก่อสร้างคืออะไรการก่อสร้าง หมายถึง กระบวนการอย่างหนึ่ง ซึ่งจัดขึ้นเพื่อประกอบโครงสร้างพื้นฐานจนก่อขึ้นมาเป็นตัวอาคาร บ้านเรือนหรือระบบสาธารณูปโภค ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการใช้งานของมนุษย์ สำหรับวิชาการก่อสร้างในระดับมหาวิทยาลัยนั้นจะไม่ได้สอนเพียงวิธีสร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมาเฉพาะแค่แรงงานเท่านั้น ทว่ายังสอนให้ได้เรียนรู้ ...
งานก่อสร้างมีกี่ขั้นตอน10 ลำดับการสร้างบ้าน. 1.เตรียมพื้นที่. 2.ขั้นตอนงานวางผังอาคาร. 3.งานขุดเจาะเสาเข็ม. 4.งานฐานราก. 5.งานโครงสร้างชั้นบน โครงหลังคา และวางระบบสุขาภิบาล. 6.งานมุงหลังคา โครงสร้างบันได งานหล่อชิ้นส่วนต่างๆ. 7.งานติดตั้ง เตรียมงานระบบไฟฟ้า-ประปา. 8.งานฉาบผนัง-ฝ้าเพดาน. ขั้นตอนแรกของงานก่อสร้างอาคารคือข้อใดขั้นตอนแรกที่ต้องเตรียมการก่อนเป็นอันดับแรกเลยคือเรื่อง การเตียมพื้นที่ แน่นอนว่าก่อนที่จะปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างอาคารใดๆ เราต้องมีที่ดินที่ถูกต้อง การเป็นเจ้าของโดยถูกต้องเพื่อปลูกสร้างแล้วจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง ที่ดินพร้อมเราจะไปดูกันต่อว่าการเตรียมพื้นที่สร้างบ้านมีอะไรกันบ้าง การเตรียมพื้นที่ขั้นตอนแรก คือ เตรียม ...
|