Show
การตรวจสภาพรถ นอกจากผู้ใช้รถต้องหมั่นตรวจสอบเชคตามระยะและตรวจเชคด้วยตัวเราเองแล้ว เมื่อใช้งานมาระยะหนึ่ง ยังมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจเชคการใช้งานอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญมากๆ นั่นก็คือ "ตรวจสภาพรถก่อนเสียประจำปี" การตรวจสภาพรถประจำปี หรือชื่อที่หลายๆ คนคุ้นเคยก็คือ ตรวจสภาพรถ ตรอ. ซึ่งถือได้ว่าเป็นการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเสียภาษีรถยนต์นั่นเอง ทำไมต้องตรวจสภาพก่อนเสียภาษีประจำปี ?เพราะพระราชบัญญัติรถยนต์ พศ. 2522 ได้ระบุไว้ว่า “รถที่จะนำมาใช้ในการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พศ. 2522 หรือนำมาจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติรถยนตร์ พศ. 2522 จะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับรถ ผู้โดยสารไปกับรถคันนั้น ผู้ขับขี่รถคันอื่นๆ คนเดินถนน รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่างๆ” ดังนั้นเราที่ต้องการใช้รถยนต์ก็ต้องปฏิบัติตามที่พระราชบัญญัติรถยนต์ พศ. 2522 ได้กำหนดไว้ โดยกรมการขนส่งทางบกมีหน้าที่รับผิดชอบการตรวจสภาพรถ ทั้งรถที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติ การขนส่งทางบก พศ. 2522 และตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พศ. 2522 นั่นเอง 1. รถที่อยู่ในข่ายต้องตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี1.1 รถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทุกประเภท โดยไม่จำกัดอายุการใช้งาน 2. สถานที่ตรวจสภาพ2.1 รถที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทุกประเภท เจ้าของรถจะนำไปตรวจสภาพ ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก หรือหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกก็ได้
1 รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม จะตรวจสภาพที่ ตรอ. หรือหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกก็ได้ 3. ระยะเวลาที่ต้องนำรถไปตรวจสภาพการตรวจสภาพรถ เจ้าของสามารถนำรถไปตรวจสภาพล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนถึงวันสิ้นอายุภาษีประจำปี 4. อัตราค่าตรวจสภาพรถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท 5. การนับอายุใช้งานของรถการนับอายุการใช้งานของรถ ให้นับอายุทางทะเบียนโดยนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก ถึงวันสิ้นสุดอายุภาษีประจำปี (วันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี) 6. เงื่อนไขเกี่ยวกับประเภท ชนิด (ยี่ห้อ) และขนาดรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชนจะให้บริการตรวจสภาพได้สถานตรวจสถาพรถเอกชนแต่ละแห่งจะต้องตรวจสภาพรถตามชนิด (ยี่ห้อ) ประเภท และ ขนาดรถตามที่ยื่นขออนุญาตและได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนกลางไว้ เช่น ตรวจสภาพรถยนต์ ขนาดน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม ทุกยี่ห้อ หรือตรวจสภาพรถจักรยานยนต์ เฉพาะ ยี่ห้อหรือ ตรวจสภาพรถยนต์ขนาดน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม และเกิน 1,600 กิโลกรัม และรถจักรยานยนต์ ทุกยี่ห้อ เป็นต้น กรณีรับตรวจสภาพรถบางชนิด (ยี่ห้อ) ต้องแสดงป้ายที่เห็น ได้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนที่จะมาใช้บริการทราบด้วย กรณีสถานตรวจสภาพรถเอกชนแห่งใด ประสงค์จะตรวจสภาพรถในประเภท ชนิด(ยี่ห้อ) และขนาดต่างจากที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนกลาง ให้ทำหนังสือขออนุญาตต่อนายทะเบียน กลางเพื่อพิจารณาเป็นรายๆ ไปได้ 7. รถที่ต้องนำไปให้นายทะเบียนตรวจสถาพที่หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบก(สถานตรวจสภาพรถเอกชนไม่สามารถรับตรวจสภาพได้)รถที่ดัดแปลงสภาพผิดไปจากที่ได้จดทะเบียนไว้ 8. คำเตือน !1 ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขซึ่งได้ กำหนดในกฏกระทรวง ออกตามความในมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 อาจถูกนายทะเบียนกลางเพิกถอนใบอนุญาตนั้นได้ 2 ผู้ได้รับใบอนุญาตผู้ใดโดยทุจริตหรือจงใจออกใบรับรองการตรวจสภาพรถไปโดยไม่ ตรง ตามความเป็นจริง ย่อมมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี
และปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทและนายทะเบียนกลางมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตั้ง สถานตรวจสภาพรถนั้นเสียได้ บทความที่น่าสนใจ: > ขนส่งฯ เปิดต่อใบขับขี่แบบ New Normal เริ่ม 8 มิย. นี้ > ประกันภัยรถยนต์แบบใหม่ มีทั้งแบบจ่ายเบี้ยประกันแบบ รายวัน-รายเดือน-รายไตรมาส หมายเหตุ: ***รถที่สามารถต่อภาษีทางออนไลน์ต้องเป็นรถเก๋ง รถกระบะ หรือรถตู้ ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี*** คลิค ! ที่นี่ ภาพที่เกี่ยวข้อง............. |