รี ไฟแนนซ์ บัตร เครดิต กับ ธนาคารออมสิน

​

โครงการ Refinance บัตรดี

หากท่านเป็นผู้ใช้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดที่มีวินัยและมีประวัติการผ่อนชำระที่ดีอย่างต่อเนื่อง 

ท่านสามารถลองศึกษาทางเลือกสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรดีที่จะช่วยให้ท่านจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่ถูกลง ผ่านช่องทางเครื่องมือผู้ให้บริการทางการเงินดังต่อไปนี้

หมายเหตุ :

ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาอนุมัติให้สินเชื่อหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ของสถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือบริษัทอื่นใดทั้งสิ้น และไม่มีนโยบายขอข้อมูลส่วนบุคคล

ไทยรัฐ สำนักข่าวอันดับ 1 ของไทย | ไทยรัฐออนไลน์ ไทยรัฐออนไลน์

• ข่าว
  • พระราชสำนัก
  • ทั่วไทย
  • ในกระแส
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ
  • ต่างประเทศ
  • อาชญากรรม
  • ยานยนต์
  • เทคโนโลยี
  • ราคาทองคำ
  • รายงานพิเศษ

• วิดีโอ
• หนังสือพิมพ์
• ไทยรัฐทีวี
  • ดูย้อนหลัง
  • ผังรายการ
  • Live

• ไลฟ์สไตล์
• กีฬา
  • ฟุตบอลต่างประเทศ
  • ฟุตบอลไทย
  • Sport insider
  • ไฟต์สปอร์ต
  • กีฬาโลก
  • วิดีโอ
  • แกลเลอรี่
  • ซีเกมส์ 2021

• บันเทิง
• ดวง
• หวย
• นิยาย
• โปรโมชั่น
  • ซื้อ-ขาย
  • ส่วนลด
  • เช็คราคา

• ThairathPlus

ออมสินส่งโครงการบ้านดีหนี้เบา รีไฟแนนซ์รวมหนี้บัตรสินเชื่อไว้ที่เดียว

LiveLive

แก้หนี้บัตรเครดิตด้วยการรวมหนี้ เริ่มอย่างไรดี

หลายคนประสบปัญหาหนี้บัตรเครดิตพอกพูน ต้องจ่ายขั้นต่ำวนไปทุกเดือน หาเงินมาเท่าไรก็ไม่พอใช้หนี้ เพราะดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสูง ยิ่งมาเจอภาวะวิกฤติโรคระบาดซ้ำเข้าไปอีก ทำให้ปัญหาใหญ่ขึ้นจนยากจะแก้ไข แต่ช่วงนี้คนไทยเริ่มปรับตัวได้แล้ว ภาคธุรกิจกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ทางธนาคารแห่งประเทศไทย และสถาบันการเงิน ก็มีมาตรการช่วยเหลือคนเป็นหนี้บัตรเครดิตออกมา อย่างเช่น การรวมหนี้บัตรเครดิตไว้ที่ธนาคารเดียว ผ่านสินเชื่อส่วนบุคคล หรือการรวมหนี้กับสินเชื่อบ้านที่มีอยู่ ถือเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีจ่ายหนี้บัตรเครดิต ให้มีภาระดอกเบี้ยลดลง บริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น และมีหนทางการปิดหนี้ ซึ่งตอนนี้มีหลายธนาคารที่เปิดให้เรารวมหนี้ได้แล้ว

การรวมหนี้ คือ การที่เรานำหนี้ดอกเบี้ยสูง อย่างเช่น หนี้บัตรเครดิต หรืออาจจะเป็นหนี้สินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น ที่เรามีอยู่หลายที่ มารวมไว้ที่เดียวกัน เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ สามารถเลือกผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ตามกำลังที่เราไหว และยังช่วยลดภาระในเรื่องดอกเบี้ยลงได้ ซึ่งจะช่วยให้เราปิดหนี้ได้ง่ายและเร็วขึ้น สำหรับคนที่อยากจะรวมหนี้บัตรเครดิตก็สามารถทำได้ 2 รูปแบบ ด้วยกัน คือ

1. การรวมหนี้บัตรเครดิต ที่เรามีอยู่กับหลายธนาคาร มาเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล กับธนาคารเดียว เพื่อให้ดอกเบี้ยลดลง และบริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น ด้วยการผ่อนจ่ายหนี้เพียงก้อนเดียว ระยะเวลาสินเชื่อยืดหยุ่นได้สูงสุดถึง 5 ปี ตรงนี้มีหลายธนาคารให้บริการอยู่ ส่วนใหญ่จะให้วงเงินได้สูงสุด 5 เท่าของรายได้ กรณีไม่มีหลักประกัน
2. การรวมหนี้บัตรเครดิต เข้าไว้กับหนี้สินเชื่อบ้านที่เรามีอยู่ เป็นหนี้ก้อนเดียว กับธนาคารเดียว เพื่อช่วยลดภาระเรื่องดอกเบี้ย และการผ่อนค่างวด โดยจะได้วงเงินไม่เกินมูลค่าของหลักประกัน และคิดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหนี้บัตรเครดิตที่นำมารวมหนี้ ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านภายหลังช่วงส่งเสริมการขาย (Teaser Rate) บวก 2% ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้สนับสนุนมาตรการนี้ และยังให้เราได้รวมหนี้แบบข้ามธนาคารได้แล้ว ตอนนี้ก็มีถึง 13 ธนาคาร ที่เข้าร่วมโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 6 เม.ย. 65) ใครอยากรวมหนี้ไว้กับธนาคารไหนก็ทำได้เลย ขอแค่ตรงกับ 3 วิธี ตามนี้

วิธีที่ 1 รวมหนี้บ้าน และหนี้บัตรเครดิต ที่อยู่ในธนาคารเดียวกันไว้ด้วยกัน เป็นหนี้ก้อนเดียว ตรงนี้เป็นหนี้ภายในธนาคารเดียวกันยิ่งติดต่อง่าย

วิธีที่ 2 รวมหนี้บ้านจากธนาคารหนึ่ง (A) กับหนี้บัตรเครดิตอีกธนาคารหนึ่ง (B) ซึ่งเป็นคนละธนาคารกัน มาไว้ที่ธนาคารใดธนาคารหนึ่ง (A หรือ B) เพียงธนาคารเดียว ให้ง่ายต่อการบริหารจัดการยิ่งขึ้น

วิธีที่ 3 รวมหนี้บ้านจากธนาคารหนึ่ง (A) กับหนี้บัตรเครดิตอีกธนาคารหนึ่ง (B) ไปไว้ที่ธนาคารใหม่ที่ไม่เคยมีหนี้มาก่อน (C) เพียงธนาคารเดียว เผื่อไม่ถูกใจธนาคารเดิม อยากจะรีไฟแนนซ์ไปธนาคารใหม่ที่มีเงื่อนไขดีกว่าก็สามารถทำได้

มาดูกันว่า ประโยชน์ของการรวมหนี้ จะมีอะไรบ้าง

1. อัตราดอกเบี้ยลดลง จากดอกเบี้ยของหนี้บัตรเครดิตที่ลดลง เพราะเปลี่ยนเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล หรือรวมกับสินเชื่อบ้าน ช่วยให้เงินที่จ่ายหนี้ในแต่ละเดือน ไปลดในส่วนของเงินต้นได้มากขึ้น และปิดหนี้ได้เร็วขึ้น
2. บริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น มีหนี้ให้จ่ายเพียงก้อนเดียว และอัตราดอกเบี้ยเดียว กับธนาคารเพียงธนาคารเดียว จากเดิมที่กระจายอยู่หลายธนาคาร
3. ชำระหนี้ได้เท่าที่ไหว สามารถเจรจาได้ตามกรอบวงเงิน และระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด ส่วนใหญ่ให้ระยะเวลาสินเชื่อสูงสุดถึง 5 ปี เลือกยอดผ่อนจ่ายในแต่ละเดือนเป็นยอดที่เราจ่ายไหว และสามารถปิดหนี้ได้ตามเวลาที่กำหนด
4. ไม่เสียประวัติข้อมูลเครดิต กรณีที่เจรจารวมหนี้สำเร็จ ก่อนเป็นหนี้เสีย จะช่วยรักษาประวัติข้อมูลเครดิตของเราไว้ได้ ดีกว่าปล่อยให้เป็นหนี้เสียจะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ขึ้น
5. ช่วยให้ชีวิตยังมีหวัง จากที่ไม่รู้จะจัดการหนี้ยังไง การรวมหนี้จะช่วยเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดี ที่จะช่วยให้เราสามารถปิดหนี้บัตรเครดิตได้ ซึ่งธนาคารเองก็พร้อมช่วยเราอย่างเต็มที่

มาถึงตรงนี้สำหรับใครที่ อยากรวมหนี้บัตรเครดิต ที่มีอยู่หลายใบให้เป็นหนี้ก้อนเดียวกับธนาคารเดียว ก็สามารถทำได้ไม่ยาก และมีทางเลือกให้เราหลากหลาย ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเราว่าจะรวมหนี้แบบไหน กับธนาคารใด ที่ตอบโจทย์ความต้องการปิดหนี้บัตรเครดิตมากที่สุด เดี๋ยวลองมาดูว่าควรเตรียมตัวอย่างไรบ้างในการพิจารณารวมหนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เราได้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

1. ลิสต์รายการหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดที่เรามีอยู่ สรุปยอดว่ามีหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดกี่ใบ แต่ละใบมียอดหนี้เท่าไร เพื่อประเมินเบื้องต้นว่าเราจะต้องขอสินเชื่อจำนวนเท่าไร เช่น มีหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด 3 ใบ ยอดหนี้ 30,000 40,000 และ 50,000 ตามลำดับ เท่ากับว่าเราต้องได้สินเชื่ออย่างน้อย 120,000 ถึงจะครอบคลุมหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด
2. ประเมินค่างวดที่เราจะผ่อนไหว คิดจาก รายได้สุทธิของเราในแต่ละเดือน ลบ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต หรือค่าใช้จ่ายประจำต่าง ๆ แล้วลองดูว่าเหลือเท่าไร ตรงนี้แหละคือก้อนเงินที่เราจะสามารถนำไปผ่อนจ่ายค่างวดได้แบบไม่มีปัญหา ถ้ายิ่งเหลือเยอะ ยิ่งปิดหนี้ได้เร็ว ตัวอย่างเช่น เรามีรายได้สุทธิ 30,000 บาทต่อเดือน มีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 20,000 บาทต่อเดือน เราก็จะเหลือ 10,000 บาทต่อเดือน เอาไว้จ่ายหนี้ ยิ่งเราผ่อนจ่ายต่อเดือนได้มากเท่าไร ยิ่งปิดหนี้ได้เร็วเท่านั้น เพราะถึงแม้ธนาคารจะให้เวลาสินเชื่อสูงสุด 5 ปี แต่ระยะเวลาที่น้อยกว่า ย่อมมีภาระดอกเบี้ยน้อยตามไปด้วย
3. หาข้อมูลธนาคารที่ให้บริการรวมหนี้ ดูว่าธนาคารไหนคิดดอกเบี้ยต่ำ และมีเงื่อนไขตรงกับที่เราต้องการบ้าง กรณีที่เรามีหนี้บ้านอยู่แล้ว ก็ใช้วิธีการรวมหนี้บ้านเข้ากับหนี้บัตรเครดิต เพราะจะได้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ถ้าเราไม่มีหนี้สินเชื่อบ้าน ก็ให้รวมหนี้บัตรเครดิตเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลแทน อย่างสินเชื่อส่วนบุคคลกรุงศรี ที่ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 2 ล้านบาท หรือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ ดอกเบี้ยต่ำสุด 10.99% สำหรับ 12 เดือนแรก แบบลดต้นลดดอก และยังสามารถเลือกผ่อนได้สบาย 12-60 เดือน แบบนี้ก็ช่วยให้เราได้ลดภาระดอกเบี้ยลง แล้วก็บริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น เมื่อพิจารณาครบถ้วนแล้ว ก็ดำเนินการรวมหนี้กับธนาคารที่เราเลือกได้เลย

ถ้าหากใครที่ยังคงสงสัย และสนใจในการมองหาทางออกอื่น ๆ สำหรับแก้หนี้บัตรเครดิตหรือการรวมหนี้ Krungsri The COACH “ติดโควิด VS ติดหนี้บัตรเครดิต” รอให้คำตอบคุณอยู่ คลิกเลย

การรวมหนี้ถือเป็นทางออกสำหรับคนที่มีปัญหาหนี้บัตรเครดิตหลายใบ แล้วไม่สามารถจ่ายเต็มจำนวนได้ ต้องจ่ายแบบขั้นต่ำอยู่ทุกเดือน และรับภาระดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง ให้สามารถปิดหนี้ได้ เหมาะกับคนที่มีความตั้งใจจะปิดหนี้บัตรเครดิต เพื่อเริ่มต้นชีวิตทางการเงินใหม่ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญจะต้องมีรายได้ก่อนถึงจะไปติดต่อรวมหนี้กับธนาคารได้ ไม่เช่นนั้นแล้วหนี้ก้อนใหม่นี้อาจจะกลายเป็นภาระ มากกว่าที่จะเป็นตัวช่วยให้เราผ่านพ้นปัญหาไปได้ และถ้าเราไม่อยากกลับมาเป็นหนี้ดอกเบี้ยสูงอีก ก็ควรเริ่มวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ เพื่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว เพราะถึงยังไงการมีเงินย่อมมีโอกาสให้เราหาความสุขได้มากกว่าแน่นอน

ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง