คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้อง วงจรปิด

ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2564

ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เคารพความเป็นส่วนตัวของท่านและมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ประกาศใช้ในนามของ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“เรา” “ของเรา” หรือ “บริษัท”) รวมถึงบริษัท นิติบุคคลต่างๆ ภายในกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ ซึ่งรับผิดชอบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราใช้กล้องวงจรปิดสำหรับการตรวจสอบและบันทึกภาพบุคคลที่อยู่ภายในและบริเวณโดยรอบสถานที่ของบริษัท บริษัทจัดทำและเผยแพร่นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิดเพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางการจัดการข้อมูลดังกล่าวอย่างเหมาะสมตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง

บริษัทมีการพิจารณาทบทวนและอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความเหมาะสมอยู่เป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม ในกรณีที่นโยบายนี้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการเผยแพร่ผ่านช่องทางที่เหมาะสม

1. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านระบบกล้องวงจรปิดสำหรับวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณสถานที่ของบริษัทแก่ลูกค้า พนักงาน และทรัพย์สินของบริษัท

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ข้างต้น เป็นความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เพื่อรับรองความปลอดภัยภายในบริเวณสถานที่ของบริษัท

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

บริษัทเก็บรวบรวมภาพที่บันทึกโดยกล้องวงจรปิด ซึ่งรวมทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และ มิได้มีการบันทึกเสียง

3. ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

ภาพจะถูกเก็บรักษาเป็นระยะเวลา 30 วัน เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ภาพที่บันทึกไว้โดยกล้องวงจรปิดใดๆ จะถูกลบโดยอัตโนมัติ

4. การเปิดเผยข้อมูล

ข้อมูลของท่านอาจถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานและผู้มีอำนาจของรัฐที่เกี่ยวข้อง หากมีความจำเป็นและมีการกำหนดให้ทำได้ภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ

5. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายที่ใช้บังคับ

  • การเข้าถึงข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเป็นผู้จัดเก็บได้ทุกเมื่อ โดยเป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้และไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี หากกฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาต เราอาจขอให้ท่านชำระค่าธรรมเนียมตามความเหมาะสม ก่อนที่เราจะจัดหาข้อมูลดังกล่าว
  • การแก้ไขข้อมูล: ท่านสามารถขอให้เราแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของท่านซึ่งไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง
  • การลบข้อมูล: ท่านสามารถขอให้เราลบบัญชีและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
  • การระงับการใช้ข้อมูล: ท่านสามารถขอให้เราระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หากท่านได้คัดค้านการประมวลผลข้อมูล และมูลเหตุที่ชอบด้วยกฎหมายยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณา เป็นต้น
  • การคัดค้านการจัดเก็บข้อมูล: ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำขึ้นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตามกฎหมายของเรา หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ ณ เวลาใดก็ได้ตามบทบัญญัติของกฎหมาย หากท่านยื่นคัดค้าน เราจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะกรณีที่เราสามารถแสดงความจำเป็นและเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่าผลประโยชน์ สิทธิ และเสรีภาพของท่าน หรือหากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยนั้นเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฎิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิทุกเมื่อในการเพิกถอนความยินยอมของท่าน โดยการเพิกถอนดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลของเราตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมก่อนที่จะมีการเพิกถอนความยินยอมนั้น
  • การให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล: หากสามารถทำได้ ท่านสามารถขอให้เราส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราจัดเก็บในรูปแบบที่ใช้กันโดยทั่วไปและสามารถใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์อ่านได้ให้แก่ท่าน หรือขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นได้ตามที่กฎหมายกำหนด
  • สิทธิในการร้องเรียน: ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้

เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของท่าน เราจะตรวจสอบตัวตนของท่านก่อนตอบกลับคำขอของท่าน และจะตอบกลับภายในกรอบเวลาที่เหมาะสม เราอาจไม่อนุญาตให้ท่านเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างในบางกรณี เช่น หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกี่ยวโยงกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น หรือด้วยเหตุผลทางกฎหมาย ในกรณีเช่นนั้น เราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุผลที่ท่านไม่สามารถขอรับข้อมูลดังกล่าวได้ เราอาจปฏิเสธคำขอของท่านในการลบหรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจากบทบัญญัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะคำขอที่มีผลต่อการดำเนินการทางบัญชีของเรา การดำเนินการเรียกร้อง การดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการป้องกันและการตรวจสอบการฉ้อโกง และการเก็บรักษาข้อมูลที่ต้องกระทำ ซึ่งอาจไม่อนุญาตให้ลบข้อมูล หรือการทำข้อมูลให้เป็น นิรนาม

6. มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้กำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมและเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

อีกทั้งเรายังจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลจากพนักงาน ตัวแทน พนักงานชั่วคราว และหน่วยงานภายนอกต่างๆให้เป็นไปตามความจำเป็นเท่านั้น ตามคำแนะนำและแนวทางที่ได้กำหนดไว้เพื่อรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล

ทางบริษัทได้กำหนดกระบวนการทำงานเพื่อบริหารจัดการในกรณีที่มีเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และแจ้งเหตุการละเมิดให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ ตามหน้าที่ความรับผิดชอบของบริษัท เพื่อเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

7. ติดต่อเรา

หากท่านมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือวิธีการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของเรา หรือการใช้สิทธิของท่าน กรุณาติดต่อ

อีเมล: ; หรือ
ส่งจดหมาย: 88 The Parq Building ชั้น12 ถนน รัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 ประเทศไทย

8. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

บริษัทมีการพิจารณาทบทวนนโยบายนี้ตามความเหมาะสมอยู่เป็นประจำ โดยวันที่ทำการแก้ไขล่าสุดจะระบุไว้ด้านบนของนโยบายนี้ซึ่งหมายรวมถึงวันที่นโยบายนี้มีผลบังคับใช้ด้วย ทั้งนี้หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หากท่านใช้บริการต่อ หรือมีส่วนร่วมกับทางบริษัท จะถือว่าท่านตกลงและยอมรับการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ หากท่านมีความต้องการตรวจสอบนโยบายที่มีผลบังคับใช้ก่อนหน้านี้ สามารถติดต่อเราที่ .