วางแผน ค่า ใช้ จ่าย งาน แต่งงาน

          การจัดพิธีมงคลสมรสช่วงเช้าให้ออกมาสมบูรณ์แบบและราบรื่นมากที่สุดนั้นเรียกได้ว่าจะต้องจัดการวางแผนการเงินและทำงบประมาณตั้งแต่เนิ่นๆ เลยนะคะ เพราะนอกจากเรื่องของฤกษ์ยาม สถานที่จัดงาน อาหาร จำนวนแขก และชุดบ่าวสาวแล้ว ยังมีรายละเอียดยิบย่อยอื่น ๆ อีกมาก วันนี้เราจึงคำนวณค่าใช้จ่ายงานแต่งงานตอนเช้าแบบคร่าวๆ ให้ทุกคนได้เตรียมตัวเก็บเงินล่วงหน้ากัน จะได้ไม่ต้องมีปัญหางบบานปลายในภายหลัง ซึ่งค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ

1. ค่าพิธีการ สถานที่ และสายกั้นประตู 

          เริ่มต้นกันด้วยค่าพิธีการและสถานที่สำหรับจัดงานเช้ากันนะคะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพิธีหมั้นสวมแหวน พิธีสงฆ์ รดน้ำสังข์ หรือยกน้ำชา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วทางโรงแรมจะจัดเป็นแพ็คเกจให้ทางบ่าวสาวได้เลือกขึ้นอยู่กับความต้องการค่ะ โดยค่าใช้จ่ายโดยประมาณจะอยู่ที่ 55,000 บาท ซึ่งราคานี้สำหรับงานหมั้นจะรวมค่าอุปกรณ์ เช่น พานแหวน และสายกั้นประตูให้ด้วย แต่บางโรงแรมก็อาจคิดค่าสายกั้นประตูเพิ่มเติม ประมาณเส้นละ 500 บาท ค่ะ 

2. ค่าอาหารว่างสำหรับงานเช้า 

          งบสำหรับค่าอาหารว่างสำหรับงานเช้า ในกรณีที่เป็นโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ที่รวมทั้งชา กาแฟ ข้าวต้ม ติ่มซำ น้ำเต้าหู้ ผลไม้ และของหวาน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ หัวละ 900 บาท ถ้าเชิญแขกมาร่วมงานประมาณ 80 คน ก็จะมีค่าใช้จ่ายโดยรวมประมาณ 72,000 บาท ค่ะ 

3. ค่าตกแต่งสถานที่ 

          การจัดตกแต่งสถานที่ด้วยดอกไม้สดหรูหราสำหรับโรงแรมระดับ 5 ดาว จะเริ่มที่ 20,000 บาท ค่ะ แต่ถ้าหากบ่าวสาวเลือกใช้ดอกไม้ประดิษฐ์แทนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็จะถูกลงมาค่ะ 

4. ค่าจ้างคนรันคิว พิธีกร ดูแลงาน 

          แน่นอนว่าในส่วนของงานตอนเช้าลำดับพิธีการจะต้องมีความเป๊ะนะคะ ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับทีมรันคิว พิธีกรดำเนินงาน และสตาฟที่ดูแลความเรียบร้อยของงานจะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 15,000 บาท 

5. ค่าช่างแต่งหน้า 

          สำหรับราคาแต่งหน้านั้นก็มีเรทราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของช่าง ซึ่งสำหรับช่างที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งจะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 25,000 บาท ค่ะ โดยราคานี้ก็จะรวมทั้งค่าแต่งหน้าของทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวเลย 

6. ค่าทำผม

          เรื่องผมก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญไม่แพ้หน้าเลยนะคะ โดยช่างทำผมเก่งๆ หรือช่างดังๆ ของดาราจะคิดค่าทำผมรอบละประมาณ 25,000 บาท รวมทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวค่ะ 

7. ค่าชุดสูทเจ้าบ่าวแบบสั่งตัด 

          ในส่วนของชุดสูทเจ้าบ่าวนั้นราคาจะหลากหลายมากค่ะ แต่โดยทั่วไปแล้วการสั่งตัดสูทแบบวัดสัดส่วนพร้อมรวมเสื้อเชิ้ตจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10,000 บาท 

8. ค่าชุดเจ้าสาวแบบเช่า 

          ส่วนใหญ่แล้วในงานพิธีเช้าเจ้าสาวจะเลือกใส่เป็นชุดไทย ชุดจีน หรือชุดลายลูกไม้สีขาวที่เน้นความคล่องตัวนะคะ เนื่องจากต้องมีการก้มกราบและรับไหว้ตลอดงาน ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปตามแบบดีไซน์และวัสดุเนื้อผ้า โดยราคาเช่าชุดลูกไม้จะอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท

9. ค่าช่างภาพ + ถ่ายวิดีโอ 

          สำหรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการเก็บภาพในวันงานเป็นความทรงจำ เราขอแนะนำให้เลือกช่างภาพมืออาชีพที่เคยมีประสบการณ์การถ่ายภาพงานแต่งมาก่อนนะคะ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะได้รูปที่สวยงาม ภาพออกมาดูดี ซึ่งราคาสำหรับทีมงาน 3 คนจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท โดยเรทราคานี้จะได้ภาพที่แต่งสวยๆ มาเรียบร้อยแล้วประมาณ 100 รูป 

10. ค่าอุปกรณ์ขันหมาก 

          ปิดท้ายด้วยค่าอุปกรณ์ขันหมากสำหรับพิธีไทยที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องเตรียมการเองนะคะ เนื่องจากโรงแรมส่วนใหญ่จะไม่รวมชุดขันหมากอยู่ในแพ็คเกจ ซึ่งถ้ารวมค่าพาน ดอกไม้ต่างๆ ต้นกล้วย และขนมมงคลนานาชนิด จะมีราคาคร่าวๆ ประมาณ 10,000 บาท ค่ะ 

          และทั้งหมดนี้คือภาพรวมค่าใช้จ่ายโดยประมาณของงานแต่งงานตอนเช้านะคะ ซึ่งหากรวมรายละเอียดทั้งหมดจะมีค่าใช้จ่ายคร่าวๆ อยู่ที่ 272,000 บาท นับว่าเป็นจำนวนเงินท่ีไม่น้อยเลยนะคะ ดังนั้น คู่บ่าวสาวจะต้องวางแผนการใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด 

          นอกจากงบสำหรับการจัดงานแต่งงานแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลย ก็คือ “แหวนแต่งงาน” นั่นเองค่ะ โดยแหวนเพชรขนาด 1 กะรัตขึ้นไปที่ถูกเจียระไนอย่างสวยงามจะมีราคาเริ่มตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป หากว่าที่คู่บ่าวสาวสนใจอยากจะขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกแหวนแต่งงานหรือแหวนเพชรสามารถแวะมาที่หน้าร้าน Pattana Gems ดิโอลด์สยามพลาซ่า ชั้น 1 ห้อง E112 ได้นะคะ เพราะเรามีเพชรเกรดคุณภาพ หลากหลายดีไซน์ ราคาจากผู้ผลิต ให้คุณได้เลือก รับรองว่าได้แหวนแต่งงานที่เปี่ยมไปด้วยความหมายและถูกใจคุณทั้งสองอย่างแน่นอนค่ะ 

ใครๆ ก็รู้ว่าจัดงานแต่งยุคนี้ต้องใช้เงินเยอะแถมบานปลายอย่างน่าทึ่ง เราจึงไปสรรหา 24 วิธี ที่จะช่วย ลดค่าใช้จ่ายในงานแต่ง มาฝากกัน

1. กำหนดงบให้ชัดเจน

หลังตกลงปลงใจว่าเราสองจะแต่งงานกัน สิ่งแรกที่ควรทำคือการกำหนดงบประมาณ เพื่อจะได้รู้ขนาดงานแต่ง และมองหาแพลนเนอร์ที่เหมาะสม พร้อมทั้งแจ้งงบประมาณให้แพลนเนอร์ทราบเพื่อคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้บานปลาย

2. เลือกวันแต่งที่คนไม่ค่อยนิยม 

บ่าวสาวหลายคู่นิยมแต่งงานช่วงหน้าหนาว เราก็เลี่ยงไปแต่งช่วงอื่นของปี หรือแทนที่จะเลือกแต่งวันศุกร์ เสาร์ ก็ไปแต่งวันธรรมดา เพราะช่วงเวลาเหล่านี้โรงแรมอาจมีส่วนลดหรือจัดโปรโมชั่นเด็ดเอาไว้ให้

3. การ์ดเชิญแปลกตา

คู่ที่ไม่อยากได้การ์ดเชิญซ้ำกับใคร เรามีไอเดียเด็ดแถมประหยัดมานำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นจ้างนักวาดภาพให้เขาวาดรูปสวยๆ ที่สื่อถึงคู่บ่าวสาวแล้วเอามาทำการ์ดเอง ใช้โปสการ์ดสวยๆ แทนการ์ดแต่งงาน หรือจะใช้เทมเพลทเก๋ๆ ที่แจกฟรีในอินเตอร์เน็ตมาดัดแปลงนิดหน่อย ก็ทำให้ได้การ์ดสวยๆ ราคาย่อมเยา

4. การ์ดเชิญใหญ่กว่าปกติ แต่แผ่นเดียวครบทุกอย่าง

บ่าวสาวหลายคู่อาจจะมีการ์ดเชิญหลายใบเพราะมีทั้งงานเช้า งานเย็น แผนที่ โน้นนี่นั่น แต่จะดีกว่าถ้าใส่รายละเอียดทั้งหมดลงบนการ์ดขนาดใหญ่แผ่นเดียวซึ่งจะทำให้เสียเงินน้อยลง

5. เปลี่ยนจากการ์ดมาเป็น อี-การ์ด

การ์ดแต่งงานที่ใช้กระดาษบางทีก็ราคาสูงลิบลิ่ว ลองเปลี่ยนมาใช้อี-การ์ดแล้วเพิ่มลูกเล่นเป็นวิดีโอง่ายๆ ที่คุณทำเองก็ทำให้ประหยัดเงินได้เยอะ

6. ทำจดหมายตอบรับคำเชิญ

การทำจดหมายตอบรับคำเชิญจะทำให้รู้จำนวนแขกที่แน่นอน แต่ถ้าไม่อยากยุ่งยากก็จัดทำบนโซเชี่ยลมีเดียไปเลย ง่ายทั้งส่งไปหาและตอบกลับ ช่วยลดค่ากระดาษทำจดหมายและที่สำคัญช่วยให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

7. จัดเวลาให้เป๊ะ

การควบคุมให้งานแต่งจบลงภายในเวลากำหนดทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าล่วงเวลากับทั้งสถานที่และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ

8. เป็นสมาชิก หรือบอกรับอีเมลโรงแรมและสถานที่จัดงาน

การบอกรับอีเมลข่าวสารของสถานที่จัดงานแต่งงานทำให้ไม่พลาดข่าวโปรโมชั่นดีๆ จนบางทีอาจทำให้ได้ราคาที่ถูกเหลือเชื่อพร้อมของแถมที่คาดไม่ถึง

9. ใกล้ๆ มันแพง เอาที่อยู่ไม่ไกลมากก็ได้

บ่าวสาวที่กำลังวางแผนแต่งงาน อาจเลือกไปแต่งงานที่บ้านเกิดแทนจัดงานในเมืองหลวงก็ได้ เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่ามาก

10. นั่งบ้าง ยืนบ้าง

งานแต่งงานไม่จำเป็นต้องมีเก้าอี้ครบสำหรับแขกทุกคนก็ได้ แต่ก็ต้องเตรียมเผื่อเอาไว้บ้างสำหรับแขกที่สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่สะดวกจะยืนนานๆ

11. ทำป้ายกำหนดการตัวใหญ่

ทำป้ายกำหนดการตัวใหญ่ๆ ไว้ที่หน้าทางเข้างาน ดีกว่าทำกำหนดการแจกทุกคนที่มาในงานนะ

12. น้อยแต่มาก

ตกแต่งงานด้วยสไตล์ Less is More ทำให้ใช้ของในการตกแต่งน้อยประหยัดค่าพร็อพไปได้เยอะ แต่ก็ออกมาดูดีไม่แพ้ใคร

13. จัดช่อดอกไม้เองก็ได้

เสียเงินให้คนจัดดอกไม้เฉพาะที่สำคัญๆ อย่างช่อบูเกต์เจ้าสาว หรือดอกไม้แบ็กดร็อป เท่านั้น ส่วนอื่นที่เป็นของประกอบเล็กๆ น้อยๆ จัดเองถูกกว่า

14. เปลี่ยนจากดอกไม้เป็นเทียน

เทียนบนเชิงเทียนมีราคาถูกกว่าดอกไม้นะ เอามาใช้ตกแต่งภายในงานก็สวยหรูไม่ต่างกัน

15. นักดนตรีอาชีพนั้นแสงแพง

คู่แต่งงานที่อยากได้ดนตรีสดมาสร้างบรรยากาศภายในงาน ลองมองหาวงดนตรีของนักเรียน นักศึกษา หรือเหล่าอาจารย์ที่ราคาถูกกว่าวงดนตรีอาชีพแต่ฝีมือไม่เป็นรอง

16. ชุดแต่งงานมันแพง ลองมิกซ์แอนด์แมตช์ดูก็ได้นะ

อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าชุดแต่งงานไม่ว่าจะซื้อหรือเช่าก็ราคาสูงทั้งนั้น ลองหาชุดโทนสีขาวแล้วจับมาแมตช์ ก็อาจจะได้ชุดแต่งงานสวยเก๋ในราคาเบาๆ ที่สำคัญคือใช้ในงานอื่นได้อีกด้วย

17. เปลี่ยนจากช่างแต่งหน้าชื่อดังมาเป็นหน้าใหม่ฝีมือเริ่ด

วิธีนี้จะช่วยลดค่าแต่งหน้าในส่วนของเจ้าสาวไปได้เยอะ โดยการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตจะมีชื่อช่างแต่งหน้าพร้อมผลงานขึ้นมากมาย คุณเจ้าสาวอาจโทรนัดวัดลองแต่งหน้าก่อนตัดสินใจก็ได้

18. เค้กก้อนเล็กๆ

งานแต่งงานไม่จำเป็นต้องใช้เค้กหลายชั้นเสมอไป แต่จะใช้เค้กชั้นเดียว หรือเค้กปลอมแทนก็ได้ แล้วเสิร์ฟแขกด้วยคัพเค้กหรือขนมหวานอื่นๆ ก็ได้

19. หากล่องใส่กลับบ้าน

ขนมหวานมักเหลือทิ้งมากมายในงานแต่งงาน ให้คุยกับแคเทอริ่งว่าสามารถหากล่องหน้าตาดี เพื่อจัดขนมให้แขกเอากลับบ้านไปได้ไหม จะได้ไม่ต้องทิ้งให้เสียของ

20. อาหารสำหรับเด็กน้อย

ลองสำรวจประชากรเด็กที่จะมาร่วมในงานของคุณ แล้วแจ้งให้ทางฝ่ายจัดอาหารรู้ จะทำให้ค่าอาหารถูกลงเพราะอาหารเด็กถูกกว่าอาหารผู้ใหญ่ตั้งเกือบครึ่ง

21. แอลกอฮอล์มีจำกัด

ถ้าแขกที่มางานไม่ใช่นักดื่มตัวยง คุณอาจจะใช้วิธีให้แขกสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นแก้วแทนการให้บริกรเดินเสิร์ฟไปทั่วงาน จะได้ไม่ต้องเตรียมพร่ำเพื่อ

22. เปลี่ยนจากค็อกเทลเป็นเบียร์และไวน์

ถ้าจะเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็อยากจะบอกว่า เบียร์และไวน์ถูกกว่าค็อกเทลนะ

23. อย่าวางแอลกอฮอล์บนโต๊ะเด็ดขาด

ก่อนจะวางแอลกอฮอล์ไว้บนโต๊ะได้ก็ต้องเสียเงินให้กับคนจัดก่อนแล้ว แต่ถ้าโต๊ะไหนไม่ได้เปิดดื่มก็ทำให้เสียเงินฟรีนะ สู้เสิร์ฟเป็นรายคนจะดีกว่า

24. No Alcohol

ไม่ผิดถ้างานแต่งงานจะไม่เสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แถมยังทำให้ประหยัดเงินไปได้เยอะ เพราะจริงๆ แล้ว ตัวผลาญเงินก็เจ้าเครื่องดื่มพวกนี้ล่ะ

แต่ละข้อเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่นึกไม่ถึง แต่ถ้าทำได้ครบรับรองว่าประหยัดเงินไปได้เยอะเลยล่ะ

>> ดูไอเดียงานแต่งและคำแนะนำดีๆ ในการจัดงานแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย! <<

เรียบเรียงจาก brides.com
ขอบคุณภาพ Room Bridal Studio 

จัดงานแต่งเล็กๆ ใช้งบกี่บาท

งบงานแต่งสำหรับสถานที่ นิยมแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ ค่าเช่าสถานที่เพียงอย่างเดียว และค่าเช่าสถานพร้อมพิธีการ อาหาร เครื่องดื่ม โดยงบเช่าสถานที่เพียงอย่างเดียว หากเป็นสโมสร หรือหอประชุมมักเริ่มที่ 10,000 – 70,000 บาท และสถานที่จัดงานแต่งโดยเฉพาะจะเริ่มที่ 25,000 บาท – 300,000 บาทขึ้นไป ในขณะที่โรงแรมทั่วไปจะเริ่มที่ ...

ออแกไนซ์งานแต่งกี่บาท

ราคาเริ่มต้นที่ 30,000 บาท (เฉพาะตกแต่งสถานที่) แต่ออร์กาไนซ์บางเจ้าอาจคิดค่าบริการแบบเหมาไปเลย เช่น ตกแต่งสถานที่ + ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งและออนเวดดิ้ง + ทำ VDO Presentation + แต่งหน้าคู่บ่าวสาว ซึ่งต่อให้เราไม่เลือกใช้บริการข้อใดข้อหนึ่งเหล่านี้ยังไงก็ต้องใช้งบตรงส่วนนี้แน่นอน แต่อาจพอมีทางลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้บ้าง หาก ...

แต่งงานต้องเตรียมอะไรบ้าง 2565

บ่าวสาวต้องรู้!.
กำหนดวันแต่งงาน ... .
กำหนดงบประมาณ ... .
กำหนดธีมงานแต่ง ... .
กำหนดสถานที่จัดงาน พร้อมจองสถานที่ ... .
กำหนดรูปแบบพิธีการและงานเลี้ยง ... .
เตรียมรายชื่อแขกและแจกการ์ดเชิญ ... .
เตรียมชุดและแหวนแต่งงานให้พร้อม ... .
ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งเก็บความทรงจำ.

ใครออกค่าชุดเจ้าสาว

แบ่งรับผิดชอบตามประเภทงาน เช่น พรีเวดดิ้ง ช่างภาพวันงาน ค่าสถานจัดงานแต่ง ฯลฯ เจ้าบ่าวเป็นคนออก แต่ในส่วนของ Beauty ชุดเจ้าสาว ช่างแต่งหน้า-ทำผม รองเท้าเจ้าสาว ปาร์ตี้สละโสด ฯลฯ เจ้าสาวเป็นคนออก ทีนี้เจ้าสาวอยากจะเซฟงบหรือฟุ่มเฟือยยังไงก็อยู่ที่ pocket money ของฝ่ายหญิงแล้ว ซึ่งวิธีนี้ยังเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายหญิง ...