หน้า |1 Show หน้า |2 แบบทดสอบก่อนเรยี น เรือ่ ง เรยี นรู้เพลงหน้าพาทย์ คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นทำเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ ในขอ้ ที่คิดวา่ ถูกตอ้ งท่สี ุด 1. ข้อใดกลา่ วถงึ “เพลงหน้าพาทย์” ไดถ้ กู ตอ้ งที่สุด 2. เพลงหนา้ พาทย์สำหรับการแสดงโขน ละครจำแนกออกเปน็ กป่ี ระเภท 3. เพลงองคพ์ ระพริ าพ จัดอยใู่ นเพลงหน้าพาทย์ประเภทใด 4. ข้อใดไมส่ ัมพนั ธ์กนั 5. “เพลงเสมอตนี นก” หมายถงึ เพลงใด หน้า |3 6. เพลงหนา้ พาทย์ใดใชแ้ สดงอิทธิฤทธิ์ 7. เพลงหน้าพาทย์ชน้ั กลางใช้บรรเลงประกอบกิริยาบคุ คลหรอื ส่งิ ใด 8. เพลงใดคือเพลงทใี่ ช้จดั ทพั ตรวจพล 9. เพลงหน้าพาทยเ์ สมอเขา้ ท่ี ใช้สำหรบั เชญิ ใคร 10. เพลงหน้าพาทยใ์ ดทใ่ี ช้สำหรบั สัตว์ปกี หน้า |4 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง เรียนรู้เพลงหน้าพาทย์ 1. ข 6. ค หน้า |5 แผนผงั การเรยี นรู้ เลม่ ท่ี 1 เรยี นรเู้ รอ่ื งเพลงหนา้ พาทย์ 01 ความเปน็ มาของเพลงหนา้ พาทย์ หน้า |6 ความเปน็ มาของเพลงหน้าพาทย์ เพลงหน้าพาทย์สันนิษฐานไดว้ ่า ปรากฏขึ้นครั้งแรกในการแสดงหนังใหญ่ หุ่นโขนและละคร จากหลักฐานในบุณโณวาทคำฉันท์ ที่กล่าวถึงการเล่นหนังใหญ่เรื่องรามเกียรติ์เช่นเดียวกับ หน้า |7 ความหมายของเพลงหนา้ พาทย์ คำว่า “เพลงหน้าพาทย์” เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงทั้งประกอบการแสดง และการประกอบ ราชบณั ฑติ ยสถาน (2556 : 1290) กล่าวไวว้ า่ หนา้ พาทย์ น.เพลงประเภทที่ใช้บรรเลงในการ มนตรี ตราโมท (2531 : 34) กล่าวไว้ว่า เพลงหน้าพาทย์เป็นเพลงที่บรรเลงประกอบกิริยา จตุพร รัตนะวราหะ (2519 : 9) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนาฏศิลป์โขนยักษ์ ให้ความหมาย จรูญศรี วีระวานิช (2526) กล่าวไว้ว่า เพลงหน้าพาทย์เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ หน้า |8 ประเมษฐ์ บณุ ยะชยั (ม.ป.ป : 63) ไดก้ ลา่ วถงึ เพลงหน้าพาทยไ์ ว้ว่า เพลงหนา้ พาทย์ หมายถึง สุขสันติ แวงวรรณ (2540) กล่าวไว้ว่า เพลงหน้าพาทย์เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงประกอบ สมศกั ดิ์ ทดั ติ (2540 : 266) ได้ใหค้ วามหมายของเพลงหน้าพาทย์ไวว้ ่า หน้าพาทย์ เปน็ เพลงท่ี ศุภชัย จันทร์สุวรรณ (2553) กล่าวถึงเพลงหน้าพาทย์ไว้ว่า เพลงหน้าพาทย์เป็นเพลงที่ใช้ สรุปได้ว่า “เพลงหน้าพาทย์” หมายถึง เพลงที่ใช้ประกอบกิริยาอาการของตัวละครในการ หน้า |9 ประเภทเพลงหนา้ พาทย์ เพลงหน้าพาทย์ เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงประกอบการแสดง และการประกอบพิธีกรรม ซึ่งมี มนตรี ตราโมท (2481 : 36) ได้แบ่งประเภทของเพลงหน้าพาทย์ไวเ้ ปน็ 2 ประเภท ดงั น้ี ไหว้ครู เชน่ ตระพระปรคนธรรพ โปรยข้าวตอก เป็นต้น สำหรับประกอบการแสดงโขน ละคร และอน่ื ๆ เช่น เพลงพญาเดนิ ดำเนินพราหมณ์ เปน็ ต้น นายธนติ อยูโ่ พธ์ิ (อดตี อธบิ ดกี รมศลิ ปากร) ละคร และอนื่ ๆ เช่น เพลงพญาเดนิ เพลงดำเนนิ พราหมณ์ เป็นตน้ ปราณี สำราญวงศ์ (ม.ป.ปป) ได้แบ่งประเภทของเพลงหน้าพาทย์ออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ โอด ฯลฯ หรือตวั แสดงท่มี ยี ศศกั ดส์ิ ูง เชน่ ตระนมิ ิต ตระบองกนั ชำนาญ เสมอเถร เสมอมาร ฯลฯ เฉพาะเทพเจ้า หรือตัวแสดงที่มียศศักดิ์สูงหรือตัวเอกในการแสดงโขน ละคร เช่น บาทสกุณี ห น ้ า | 10 พราหมณเ์ ข้า พราหมณ์ออก ดำเนนิ พราหมณ์ หรอื เพลงหนา้ พาทยท์ ี่บรรเลงในพิธีไหวค้ รู เชน่ ตระเชิญ ณรงค์ชยั ปฎิ กรชั ต์ (2522 : 25) ได้แบ่งเพลงหนา้ พาทย์ตามลักษณะไว้ 2 ประเภท คือ ความศักดิส์ ทิ ธ์ิ อยู่ในทำนอง เชน่ เพลงองคพ์ ระพิราพ ตระนารายณบ์ รรทมสนิ ธุ์ ตระพระปรคนธรรพ 2. เพลงหน้าพาทย์ปกติ ได้แก่ เพลงหน้าพาทย์ที่ใช้บรรเลงประกอบในพิธี และการ จากการแบ่งประเภทเพลงหน้าพาทย์ขา้ งต้น สรุปได้ว่า เพลงหน้าพาทย์มี 2 ประเภทใหญ่ ๆ ห น ้ า | 11 โอกาสทีใ่ ช้เพลงหนา้ พาทย์ จากการแบ่งประเภทของเพลงหน้าพาทย์นั้น พบว่าเพลงหน้าพาทย์มี 2 ประเภท คือ จตุพร รัตนวราหะ (2519 : 17) ไดจ้ ดั เพลงหนา้ พาทย์ท่ใี ชใ้ นโอกาสตา่ ง ๆ ดงั น้ี โคมเวียน เข้ามา่ น และกลม แม่ศรี นฤมล ขันสัมฤทธิ์ (2545 : 12-34) ได้จัดลำดับการใช้เพลงหน้าพาทย์บรรเลงประกอบ 1. บรรเลงประกอบพระราชพิธีของหลวง เชน่ พระราชพธิ ีทรงผนวช พระราชพิธีถวายผ้า 2. บรรเลงประกอบพธิ ีทางศาสนา เช่น ทำขวัญนาค โกนจุก เทศนม์ หาชาติ เปน็ ตน้ ห น ้ า | 12 3. บรรเลงประกอบชุดโหมโรงประเภทต่าง ๆ เช่น โหมโรงเช้า โห มโรงกลางวัน โหมโรงเย็น 4. บรรเลงประกอบพธิ ไี หวค้ รูโขน ละคร 5. บรรเลงประกอบการแสดงโขน ละคร ตวั อยา่ ง การบรรเลงเพลงหน้าพาทย์ ในพระราชพธิ ขี องหลวงและพธิ ที างศาสนา เช่น พระราชพิธีทรงผนวช ใชเ้ พลงกราวรำ เพลงสาธกุ าร พระราชพิธีถวายผา้ พระกฐิน ใช้เพลงชา้ , สระหม่า เพลงสาธุการ เพลงกราวรำ พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ใช้เพลงช้า เพลงสาธุการ เพลงกราวรำ เพลงพญาเดนิ เพลงเชิดฉาน เพลงโคมเวียน เพลงปลูกตน้ ไม้ พธิ ีทำขวัญนาค ใชเ้ พลงโหมโรง เพลงเวียนเทยี น เพลงรวั สามลา เพลงกราวใน , เชดิ พิธีโกนจุก ใช้เพลงโหมโรงเย็น เพลงช้า เพลงกลม เพลงกราวใน , เชิด เพลงโหมโรงเช้า เพลงลงสรง เพลงฉงิ่ พระฉัน เพลงพระเจา้ ลอยถาด พิธีเทศน์มหาชาติ ใช้เพลงโหมโรง เพลงสาธุการ ปี่พาทย์บรรเลงเพลงหน้าพาทย์ประจำ 13 กัณฑ์ เพลงกราวรำ และเพลงเชิด การบรรเลงปี่พาทย์ประกอบการเทศนา เรื่อง มหาเวสสันดร ชาดก ซึ่งถอื ว่าเป็นพิธีสำคญั ทางศาสนามีท้งั หมด 13 กณั ฑ์ โดยการบรรเลงป่ีพาทยน์ ัน้ จะบรรเลงเพลง ทมี่ ีความหมาย และสัมพันธ์เน้ือเร่ือง คือ 1) จบกัณฑ์ 1 ทศพร ใช้เพลงสาธุการ 2) จบกณั ฑ์ 2 หิมพานต์ ใชเ้ พลงตวงพระธาตุ 3) จบกัณฑ์ 3 ทานกณั ฑ์ ใชเ้ พลงพระยาโศก 4) จบกัณฑ์ 4 วนประเวสน์ ใชเ้ พลงพระยาเดิน 5) จบกณั ฑ์ 5 ชชู ก ใชเ้ พลงเซ่นเหล้า (คา้ งคาวกินกล้วย) 6) จบกณั ฑ์ 6 จลุ พน ใชเ้ พลงรัวสามลา 7) จบกณั ฑ์ 7 มหาพน ใช้เพลงเชดิ กลอง 8) จบกัณฑ์ 8 กุมาร ใช้เพลงเชดิ ฉงิ่ โอด 9) จบกัณฑ์ 9 มทั รี ใช้เพลงทยอยโอด 10) จบกณั ฑ์ 10 สกั กบรรพ ใชเ้ พลงเหาะ 11) จบกณั ฑ์ 11 มหาราช ใชเ้ พลงกราวนอก 12) จบกัณฑ์ 12 ฉกษตั รยิ ์ ใชเ้ พลงตระนอน 13) จบกณั ฑ์ 13 นครกัณฑ์ ใช้เพลงกลองโยน - เชดิ กราวรำและเชิด ห น ้ า | 13 การบรรเลงเพลงหน้าพาทย์ประกอบการโหมโรงนัน้ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญท่ีเป็นจารีตประเพณี โหมโรงเช้า ใช้สำหรบั ทำบญุ เลีย้ งพระ ประกอบดว้ ยเพลง สาธุการ เหาะ รัว กลม ชำนาญ เพลงหน้าพาทย์ประกอบพิธีไหว้ครู การบรรเลงเพลงหน้าพาทย์ประกอบพิธีไหว้ครูแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การบรรเลงเพลงหน้าพาทย์ประกอบพิธีไหว้ครูโขน ละคร และการบรรเลงเพลงหน้าพาทย์ประกอบ พิธไี หวค้ รดู รุ ิยางค์ไทย 1) การบรรเลงเพลงหนา้ พาทยป์ ระกอบพธิ ีไหว้ครโู ขน ละคร การบรรเลงเพลงหน้าพาทย์ในพธิ ีการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการอัญเชิญเทพยดา ครู อาจารย์ ลำดับการเรียกเพลงหน้าพาทย์ในพิธีไหว้ครูน้ันขึ้นอยู่กับผู้ประกอบพิธีแต่ละท่านจะเป็น ผูเ้ รยี ก อาจจะเหมือนหรอื แตกตา่ งกันออกไป การเรียกเพลงหน้าพาทย์ที่มีหลักฐานว่าเก่าแก่ที่สุดนั้น ประเมษฐ์ บุณยะชัย (2534 : 78) ไดก้ ล่าวไวใ้ นเอกสารประกอบการสอนนาฏศิลป์ไทยวิจักขณ์ว่าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจา้ อยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ในปี พ.ศ. 2397 ครูเกษ เป็นผู้ประกอบพิธี นับเป็นพระราชพธิ ี ไหว้ครูครอบละครหลวง มหี ลกั ฐานปรากฏเปน็ ครัง้ แรก มีลำดบั ขั้นตอนการเรียกเพลงหนา้ พาทย์ ดังนี้ 1) เพลงสาธกุ ารกลอง (รวั ธรรมดา) 2) เพลงตระประคนธรรพ (รัวเฉพาะ) 3) เพลงตระเชญิ (รัวธรรมดา) 4) เพลงโคมเวยี น (รวั ธรรมดา) 5) เพลงโหมโรง วา (รวั ธรรมดา) 6) เพลงตระบรรทมสินธ์ุ (รัวธรรมดา) ห น ้ า | 14 7) เพลงแผละ (รวั ธรรมดา) 8) เพลงกลม (รัวธรรมดา) 9) เพลงกราวนอก (รวั ธรรมดา) 10) เพลงกราวใน (รัวธรรมดา) 11) เพลงชา้ เพลงเร็ว ลา (รวั ธรรมดา) 12) เพลงเชิดฉิ่ง (รวั ธรรมดา) 13) เพลงคุกพาทย์ (รัวธรรมดา) 14) เพลงองค์พระพริ าพ (ปฐมแลว้ รัวธรรมดา) 15) เพลงลงสรง 16) เพลงเชดิ 17) เพลงรำดาบ (รวั เฉพาะ) 18) เพลงเสมอผี (รวั ธรรมดา) 19) เพลงเสมอมาร (รวั ธรรมดา) 20) เพลงนั่งกนิ (รัวธรรมดา) 21) เพลงเซน่ เหล้า 22) เพลงโปรยขา้ วตอก 23) เพลงพราหมณเ์ ข้า (รวั เฉพาะ) 24) เพลงเสมอสามลา (รวั เฉพาะ) 25) เพลงมหาชยั 26) เพลงเสมอเถร (รวั เฉพาะ) 27) เพลงพราหมณอ์ อก (รัวเฉพาะ) 28) เพลงเวยี นเทยี น (รัวธรรมดา) 29) เพลงกราวรำ 30) เพลงเชิด 31) เพลงเสมอเขา้ ท่ี (รวั ธรรมดา) 32) เพลงกราวรำ หมายเหตุ รัวเฉพาะ คือ เพลงรัวธรรมดาที่ประดิษฐ์ทำนองให้แตกต่างกันออกไป เพอื่ ให้สัมพนั ธ์กบั เพลงหน่งึ โดยเฉพาะ ห น ้ า | 15 นอกจากเพลงหน้าพาทย์ในพระราชพิธีไหว้ครูครอบละครหลวง ตามฉบับของครูเกษ ประเมษฐ์ บุณยะชัย (2534 : 80) กล่าวว่า แบบแผนสำคัญการเรียกเพลงหน้าพาทย์ 2) การบรรเลงเพลงหนา้ พาทยป์ ระกอบพิธไี หวค้ รดู นตรีไทย อัญเชิญเทพยดา ครู อาจารย์ เช่นเดียวกับพิธีไหว้ครูทางด้านนาฏศิลป์ไทย แต่การใช้เพลงหนา้ พาทย์ เพลงหน้าพาทย์ประกอบการแสดงโขน ละคร อารมณ์ ความรู้สึก อากัปกิริยา รวมทั้งเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับตัวละครที่เป็นเทวดา มนุษย์ 1) เพลงหนา้ พาทย์ทใ่ี ช้แสดงอารมณ์ เพลงหน้าพาทย์ท่ีใช้แสดงอารมณ์ อารมณ์ ใชเ้ พลง ห น ้ า | 16 อารมณ์ ใช้เพลง อารมณ์โศกเศรา้ เสียใจ เพลงทยอย : ใช้แสดงความโศกเศร้า เสียใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการร้องไห้ เช่น การแสดงพระเวสสันดรชาดก ตอนนางมัทรีเดินร้องไห้ตามหา พระกมุ ารทงั้ สอง เพลงโอด : ใช้แสดงความโศกเศร้า เสียใจ ร้องไห้ มีทั้งโอดชั้นเดียว โอดสองช้ัน อารมณ์โกรธ เพลงคุกพาทย์ และเพลงรัวสามลา : ใช้แสดงอารมณ์โกรธ ดุดัน น่าเกรงขาม หรอื ใช้ในการแผลงอิทธิฤทธิ์ สำแดงเดช เพลงหน้าพาทย์ทใี่ ช้แสดงอากปั กริ ิยา อากัปกิริยา ใชเ้ พลง กิริยาการกิน อาบน้ำ เพลงนง่ั กิน : โดยทั่วไปใชใ้ นพธิ ีไหว้ครู เมื่อเชญิ ครู หรอื เทพยดามาพร้อม นอน กันในพธิ ีแล้วได้เวลาถวายเคร่อื งกระยาบวชสังเวย เพลงเซ่นเหล้า : ใช้ประกอบการกินอาหาร ดื่มสุรา ใช้ในพิธีไหว้ครูโขน ละคร หรอื ใช้บรรเลงตอนภตู ผปี ีศาจออก เพลงลงสรง : ใช้ประกอบกริ ิยาอาบนำ้ เพลงลงสรงโทน : ใช้บรรเลงเมื่ออาบน้ำเสร็จ และนำเครื่องหอม เครอ่ื งแตง่ ตัวขน้ึ มาแต่ง เพลงตระนอน : ใช้ประกอบการนอน จะเป็นนอนคนเดียว หรือมากกว่า กไ็ ด้ ใช้กบั ตัวแสดงพระ นาง ยักษ์ ลิง เพลงตระบรรทมไพร : ใช้ประกอบการนอนขณะท่คี ้างในปา่ เพลงตระบรรทมสินธ์ุ : ใช้สำหรับพระนารายณ์บรรทมองค์เดียวเท่าน้ัน เรียกเพลงนี้อยา่ งเต็มว่า “ตระนารายณ์บรรทมสินธ์ุ” เปน็ การแสดงกิริยา การบรรทมของพระนารายณ์ อยบู่ นหลังพญานาคราชกลางเกษียรสมทุ ร กริ ิยาไป มา เพลงเสมอ : ใช้ประกอบกริ ยิ าไป มาใกล้ ๆ เชน่ เดินออกจากทอ้ งพระโรง ในระยะใกล้ ไกล เขา้ ฉาก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื เสมอตามลักษณะตัวละคร หมายถึง เพลงเสมอที่มีชื่อตามลักษณะ ผแู้ สดง ได้แก่ - เพลงเสมอมาร : ใช้สำหรับพญายักษ์ที่มียศศักดิ์สูง เช่น สหัสสะเดชะ ทศกัณฐ์ และท่ีมีตำแหน่งรองลงมา เปน็ ต้น ห น ้ า | 17 อากัปกริ ยิ า ใชเ้ พลง เป็นทา้ วพระยา มหากษตั ริย์มีฐานะสูงศักด์ิ ใช้ไดท้ ง้ั พระ นาง ห น ้ า | 18 อากปั กริ ยิ า ใช้เพลง - เพลงเชิดช้ันเดียว : ใช้บรรเลงประกอบการโลดไล่ ติดตาม - เพลงเชิดสองชั้น : ใช้บรรเลงประกอบการแสดงโขน ละคร - เพลงเชิดฉาน : ใช้ในการติดตามจับระหว่างมนุษย์กับสัตว์ - เพลงเชิดนอก : ใชใ้ นการติดตามจับระหวา่ งสัตว์กับสัตว์ เช่น - เพลงเชิดจีน : ใช้ในการหลอกล่อ เลี้ยวไล่ไป มาในการ - เพลงฉะเชิด : ใช้บรรเลงประกอบท่ารำโดยเฉพาะของเจ้า เพลงเหาะ : ใช้สำหรับเทวดา นางฟา้ ไป มาในทต่ี ่าง ๆ ด้วยกิริยารวดเร็ว ห น ้ า | 19 อากัปกริ ิยา ใชเ้ พลง ห น ้ า | 20 อากปั กริ ยิ า ใช้เพลง สรุปได้ว่า โอกาสที่ใช้เพลงหน้าพาทย์ แบ่งได้ 2 โอกาส คือ ใช้ประกอบพิธีกรรม เช่น ห น ้ า | 21 แบบฝึกหดั ชื่อ...................................................................................... ช้ัน........................... เลขที.่ ................. เพลงสีนวล เพลงทยอย เพลงชำนาญ เพลงเชดิ การร่ายเวทมนตร์คาถา/แปลงตวั การเดินทางไป/มา ความโศกเศร้า/เสยี ใจ ความร่ืนเริง/สนกุ สนาน ห น ้ า | 22 เฉลยแบบฝึกหดั ชอ่ื ...................................................................................... ชั้น........................... เลขท่ี.................. เพลงสีนวล เพลงทยอย เพลงชำนาญ เพลงเชิด การร่ายเวทมนตร์คาถา/แปลงตวั การเดนิ ทางไป/มา เพลงชา้ ,เพลงเร็ว ห น ้ า | 23 แบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง เรยี นรเู้ พลงหนา้ พาทย์ คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นทำเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ ในข้อทีค่ ดิ วา่ ถกู ตอ้ งทีส่ ุด 1. ขอ้ ใดกล่าวถึง “เพลงหน้าพาทย์” ได้ถูกต้องทีส่ ุด 2. เพลงหนา้ พาทย์สำหรับการแสดงโขน ละครจำแนกออกเป็นกปี่ ระเภท 3. เพลงองค์พระพิราพ จัดอยูใ่ นเพลงหน้าพาทย์ประเภทใด 4. ขอ้ ใดไมส่ ัมพนั ธก์ นั 5. “เพลงเสมอตีนนก” หมายถงึ เพลงใด ห น ้ า | 24 6. เพลงหนา้ พาทยใ์ ดใชแ้ สดงอิทธฤิ ทธิ์ 7. เพลงหน้าพาทยช์ ้ันกลางใช้บรรเลงประกอบกริ ิยาบคุ คลหรือส่งิ ใด 8. เพลงใดคอื เพลงทใี่ ช้จัดทพั ตรวจพล 9. เพลงหนา้ พาทยเ์ สมอเขา้ ที่ ใช้สำหรบั เชิญใคร 10. เพลงหน้าพาทย์ใดทใ่ี ช้สำหรบั สัตว์ปีก ห น ้ า | 25 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน เรอื่ ง เรียนรู้เพลงหน้าพาทย์ 1. ข 6. ค ห น ้ า | 26 เพลงหน้าพาทย์ต่อไปนี้จะใช้บรรเลงในโอกาสใดบ้างเพลงหน้าพาทย์ คือเพลงที่ใช้บรรเลงประกอบอากัปกิริยาของตัวโขน ละคร หรือใช้สำหรับอัญเชิญพระเป็นเจ้า ฤษี เทวดา และครูบาอาจารย์ทั้งหลายให้มาร่วมในพิธีไหว้ครู และพิธีที่เป็นมงคลต่างๆ อากัปกิริยาของตัวโขนละครต่างๆ นั้น เป็นกิริยาที่มองเห็นได้ เพราะกำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน เช่น กิริยาเดิน วิ่ง นั่ง นอน กิน เศร้าโศก ร้องไห้ ...
บาทสกุณี ใช้ตอนไหนน. ชื่อเพลงไทยประเภทเพลงหน้าพาทย์ ใช้บรรเลงในลักษณะต่าง ๆ กันคือ รัวธรรมดาหรือรัวลาเดียว ใช้บรรเลงเมื่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ในการแสดงโขนละครเป็นต้น และใช้บรรเลงต่อท้ายเพลงหน้าพาทย์ที่แสดงผลสำเร็จของพิธีการหรือพิธีกรรมนั้น ๆ, รัวเฉพาะ ใช้บรรเลงต่อท้ายเพลงหน้าพาทย์บางเพลง เช่น รัวท้ายเพลงบาทสกุณี รัวท้ายเพลงปลูก ...
การแสดงอิทธิฤทธิ์ โกรธ ใช้เพลงใดตัวละครแสดงอิทธิฤทธิ์หรือแสดงอาการโกรธ ใช้เพลงรัวสามลาหรือ เพลงคุกพาทย์ ๓. ฉากการจัดทัพและกรีธาทัพ ใช้เพลงปฐม ถ้าเป็นทัพพระรามจะให้ตัวสุครีพ แม่ทัพใหญ่ออกมา แสดงท่าตรวจพล ส่วนทัพทศกัณฐ์จะให้ตัวมโหทรออกมารำ ตอนยกพล ฝ่ายพระรามใช้เพลงกราวนอก ฝ่ายทศกัณฐ์ใช้เพลงกราวใน
เพลงสาธุการใช้บรรเลงในโอกาสใดบ้างเพลงสาธุการ เป็นเพลงหน้าพาทย์เพลงหนึ่งที่ใช้ประกอบในพิธีกรรม อันเป็นมงคลที่เกี่ยวข้องในทางพุทธศาสนา มีความหมายในเชิงนอบน้อมบูชา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งมีบทบาทส าคัญอย่างมากต่อการศึกษาวิชาดนตรีไทย โดยเฉพาะ กลุ่มเครื่องปี่พาทย์ เพราะเป็นเพลงเริ่มแรกของนักดนตรีปี่พาทย์ที่จะต้องร ่าเรียน กัน เป็นระเบียบที่ยึดถือปฏิบัติ ...
|