นาย เกรียงไกร ศูนย์กลาง ชั้น ม.๔/๒ เลขที่๑๐ บทละครเรื่องอิเหนา (หน้า๔๓)
บัดนั้น ทั้งสองทูตาคนขยันซึ่งถือสารไปเมืองดาหานั้น พากันรีบกลับมาฉับไวถึงกะหมังกุหนิงนคเรศ มายังนิเวศน์วังใหญ่พอเวลาเฝ้าท้าวไท ก็เข้าไปในพระโรงรจนา
จึงประนมก้มเกล้าเคารพ ทูลพระองค์ทรงภพนาถา ข้าไปได้ถวายสารา ท้าวดาหาทราบสิ้นทุกประการตรัสขาดว่าราชบุตรี จรกาธิบดีมากล่าวขานพระยกให้ได้กำหนดนัดงาน ยังแต่จะแต่งการวิวาห์กันบรรดาของถวายนั้นไม่รับ ส่งกลับคืนมาทุกสิ่งสรรพ์มิได้คิดเกรงองค์พระทรงธรรม์ บากบั่นสลัดตัดรอนข้าทูลความตามสั่งนอกสารา ว่ามิให้พระธิดาดวงสมรจงเร่งตกแต่งพระนคร รับทัพภูธรจะยกมาจะชิงนางโฉมยงให้จงได้ ใครมีชัยก็จะสมปรารถนาท้าวตรัสว่าตามแต่วิญญาณ์ พระราชาจงทราบบาทมูล
เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงนเรนทร์สูรได้ฟังทั้งสองทูตทูล ให้อาดูรเดือดใจดังไฟฟ้าจึงบัญชาตรัสด้วยขัดเคียง ดูดู๋เจ้าเมืองดาหาเราอ่อนง้อขอไปในสารา แต่ว่าจะรับไว้ก็ไม่มีถึงจรกามากล่าวนางไว้ ได้ยกให้เขาก่อนก็ควรที่จะโอภาปราสยมาให้ดี นี่สิตัดไมตรีให้ขาดทางเราก็เรืองฤทาศักดาเดช อาณาจักรนัดเรศกว้างขวางจำต้องมีมานะไม่ละวาง จะชิงนางบุษบาลาวัณย์แม้นมิได้สมคิดดังจิตปอง ไม่คืนครองกรุงไกรไอวรรย์จะสงครามตามตีติดพัน ไปกว่าชีวันจะบรรลัย
…………………………………………………..
ถอดคำประพันธ์(หน้า๔๓)บัดนั้นทูตทังสองคนที่ท้าวกะหมังกุหนิงได้ส่งให้ถือสารไปเมืองดาหา รีบกลับมาหาท้าวกะหมังกุหนิงแล้วทูตบอกว่าท้าวดาหาได้ยกนางบุษบาให้กับระตูจรกาไปแล้ว ส่วนของที่นำไปฝากท้าวดาหาไม่รับและให้นำกลับมาคืน ข้าจึงได้บอกกับท้าวดาหาว่า ถ้าไม่ยกนางบุษบาให้ ก็ขอให้รอรับมือจะยกทัพกลับมาทำศึกสงครามเพื่อแย่งชิงนางบุษบา ท้าวดาหาจึงบอกว่าก็แล้วแต่พวกท่านเถิด เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงได้ฟังทูตทั้งสองบอกก็โกรธแค้นมาก จึงตัดพ้อต่อว่า ดูซิท้าวดาหาเราอุตส่าห์เขียนสารไปง้อขอนางบุษบาให้กับลูกชาย ก็น่าจะรับฟังความเห็นของข้าบ้างมาเล่นหักหน้ากันแบบนี้ เดี๋ยวข้าจะยกทัพไปทำศึกสงครามแย่งชิงนางบุษบามาให้ได่ไม่ว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ข้าก็จะสู้จนกว่าจะตาย
ตอบลบ
คำตอบ
เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี
ลบ
หน้า45 บัดนั้น พระโหราราชครูผู้ใหญ่รับรสพจนารภูวไนย คลี่ดำรับขับไล่ไปมาเทียบดูดวงชะตาพระทรงยศ กับโอรสถึงฆาตชันษา ทั้งชั้นโชคโยคยามยาตรา พระเคราะห์ขัดฤกษ์พาสารพันจึงทูลว่าถ้ายกววววันพรุ่งนี้ จะเสียชัยไพรีเป็นแม่นมั่นงดอยู่อย่าเสด็จสักเจ็ดววัน ถ้าพ้นนั้นก็เห็นไม่เป็นไรขอพระองค์จงกำหนดงดดยาตรา ฟังคำโหราหาฤกษ์ใหม่อันการยุทธ์ยิงชิงชัย หนักหน่วงน้าพระทัยดูให้ดี
เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรีได้ฟังโหราพาที จึงมีพจนารถประภาษาไปเมื่อเราบัญชาการกำหนดทัพ แล้วจะกลับงดอยู่อย่างไรได้เกียรติยศจะไว้ในธรณินทร์ จนสุดสิ้นดินแดนแผ่นฟ้าประการหนึ่งถ้าว่าช้าวันไป ทัพใหญ่จะมาพร้อมยังดาหาจะต้องหักหนักมือโยธา เห็นจะยากยิ่งกวว่านี้ไปสุดแท้แต่บุญกับกรรม จะฟังคำโหรานั้นหาไม่ตรัสพลางเสด็จคลาไคล เข้าในไพชยนต์มนเทียรทอง………………………………………………
ถอดคำประพันธ์(45)ท้าวกะหมังกุหนิงก็ไม่ฟังคำทัดทานเพราะรักลูกมากจนไม่อาจทนเห็นลูกทุกขืทรมานได้ แม้จะรู้อาจสู้ศึกไม่ได้ แต่ก็ตัดสินใจทำฃสงครามด้วยเหตุผลที่บอกแก่อนุชาทั้งสองว่า เอ้นดูนัดดาโศกาลัย ว่ามิได้ไทจะมรณา แม้วิหยาสะกำมอดม้วย พี่คงตายด้วยโอรสา ผิดก้ทำสงครามดูตามที เคราะห์ดีก็จะได้ดังใฝ่ฝัน พี่ดังพฤกษาพนาวัน จะอาสัญเพราะลูกเหมือนกล่าวมา
นาย เกรียงไกร ศูนย์กลาง ชั้น ม.๔/๒ เลขที่๑๐บทละครเรื่องอิเหนา(หน้า๔๓)
จึงประนมก้มเกล้าเคารพ ทูลพระองค์ทรงภพนาถาข้าไปได้ถวายสารา ท้าวดาหาทราบสิ้นทุกประการตรัสขาดว่าราชบุตรี จรกาธิบดีมากล่าวขานพระยกให้ได้กำหนดนัดงาน ยังแต่จะแต่งการวิวาห์กันบรรดาของถวายนั้นไม่รับ ส่งกลับคืนมาทุกสิ่งสรรพ์มิได้คิดเกรงองค์พระทรงธรรม์ บากบั่นสลัดตัดรอนข้าทูลความตามสั่งนอกสารา ว่ามิให้พระธิดาดวงสมรจงเร่งตกแต่งพระนคร รับทัพภูธรจะยกมาจะชิงนางโฉมยงให้จงได้ ใครมีชัยก็จะสมปรารถนาท้าวตรัสว่าตามแต่วิญญาณ์ พระราชาจงทราบบาทมูล
ถอดคำประพันธ์(หน้า๔๓)บัดนั้นทูตทังสองคนที่ท้าวกะหมังกุหนิงได้ส่งให้ถือสารไปเมืองดาหา รีบกลับมาหาท้าวกะหมังกุหนิงแล้วทูตบอกว่าท้าวดาหาได้ยกนางบุษบาให้กับระตูจรกาไปแล้ว ส่วนของที่นำไปฝากท้าวดาหาไม่รับและให้นำกลับมาคืน ข้าจึงได้บอกกับท้าวดาหาว่า ถ้าไม่ยกนางบุษบาให้ ก็ขอให้รอรับมือจะยกทัพกลับมาทำศึกสงครามเพื่อแย่งชิงนางบุษบา ท้าวดาหาจึงบอกว่าก็แล้วแต่พวกท่านเถิดเมื่อท้าวกะหมังกุหนิงได้ฟังทูตทั้งสองบอกก็โกรธแค้นมาก จึงตัดพ้อต่อว่า ดูซิท้าวดาหาเราอุตส่าห์เขียนสารไปง้อขอนางบุษบาให้กับลูกชาย ก็น่าจะรับฟังความเห็นของข้าบ้างมาเล่นหักหน้ากันแบบนี้ เดี๋ยวข้าจะยกทัพไปทำศึกสงครามแย่งชิงนางบุษบามาให้ได่ไม่ว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ข้าก็จะสู้จนกว่าจะตาย
นายนิวัติ จรมั่งนอก เลขที่ ๓๗ ชั้น ม.๔/๒ถอดคำประพันธ์ เรื่อง อิเหนา (หน้า ๗๓)
ขณะนั้นท้าวกะหมังกุหนิงที่ยิ่งใหญ่ก็มีความสุขเพราะคิดว่าครั้งนี้อิเหนาจะได้ตายสมใจด้วยกฤต ว่าแล้วก็ร่ายรำไปมา มือขวานั้นถือกฤตมือซ้ายถือผ้าเช็ดหน้าขณะนั้นระเด่นมนตรีที่เก่งกล้าถือกฤตไล่แทงหลบไปมาอย่างไม่มีหยุดมีหย่อนเห็นระตูเสียทีจึงเอากฤตแทงอกทะลุหลังจนระตูตายลงขณะนั้นทั้งกะหรัดตะปาตี ระเด่นมนตรี สุหรานากง เห็นระเด่นมนตรีแทงระตูจนตาย เลยจะขี่ม้าไปฆ่าสังหารท้าวหยังประหมัน แต่ท้าวหยังประหมันก็รีบหนี ทหารต่างโห่ร้องเอาชัย ตามฆ่าทัพท้าวประหมันอย่างแข็งขัน
นายภาคิไนย พิศนอก เลขที่ ๓๖ ม.๔/๒ถอดคำประพันธ์ เรื่อง อิเหนา
ขณะนั้นท้าวกะหมังกุหนิงที่ยิ่งใหญ่ต่างต่อสู้ด้วยกระบี่ที่มีท่องท่าอ่อนช้อยสวยงาม ขณะนั้นท้าวกะหมังกุหนิงใช้ดาบแทงระตูฟันหลายครั้งแต่ไม่ระคายผิวหนังเพราะมีฤทธิ์เดชมากแต่ท้าวกะหมังกุหนิงก็ไม่ลดความพยายาม ขณะนั้นท้าวกะหมังกุหนิงไม่ลดความพยายามตามแทงระเด่นมนตรีกระบี่กระทบกันจนเกิดประกาย ขณะนั้นระเด่นมนตรีใจกล้าเห็นระตูนั้นมีเพลงกระบี่ที่เก่งกล้าเป็นที่สุดยากหาใครเทียบทั้งยังมีกฤตที่พระอินทร์มอบให้ระเด่นมนตรีก็ว่าระตูว่าให้ลองมาสู้กันแล้วทำเย้ยระตูใหญ่ทำให้ระตูโมโห
นายขจรศักดิ์ ภักดีแก้ว ม.๔/๒ เลขที่ ๕ถอดคำประพันธ์เรื่องอิเหนา หน้า ๓๖เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรีเสด็จเหนือแท่นรัตน์มณี ภูมีเห็นสองอนุชาจึงตรัสเรียกให้นั่งร่วมอาสน์ สำราญราชหฤทัยหรรษาแล้วปราศรัยระตูบรรดามา ยังปรีดาผาสุขหรือทุกข์ภัยซึ่งเราให้หามาทั้งนี้ จะไปตีดาหากรุงใหญ่ระตูทุกนครอย่านอนใจ ช่วยเราชิงชัยให้ทันการ
เมื่อนั้น เหล่าระตูปรีดิ์เปรมเกษมศานต์จึงสนองมธุรสพจมาน พระมีการสงครามแต่ละครั้งจะตั้งหน้าอาสาออกชิงชัย มิได้ย่อท้อถอยหลังสู้ตายไม่เสียดายชีวัง กว่าจะสิ้นกำลังของข้านี้
เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรีฟังระตูทูลตอบชอบที สมถวิลยินดีปรีดาจึงตรัสว่าท่านมาเหนื่อยนัก จงไปพักพลขันธ์ให้หรรษาตรัสพลางทางชวนอนุชา เข้ามหาปราสาทรูจี
ลดองค์ลงนั่งบนแท่นทอง กับด้วยพระน้องทั้งสองศรีจึงตรัสเล่าความตามคดี จนใช้เสนีถือสารไป
เมื่อนั้น สองกษัตริย์ฟังแจ้งแถลงไขจึงทูลขัดทัดทานทันใด เป็นไฉนผ่านเกล้ามาเบาความ
ถอดคำประพันธ์ได้ดังนี้
ท้าวกะหมังกุหนิงเห็นน้องทั้งสองจึงเรียกให้มานั่งด้วยกัน แล้วพูดคุยถามว่า ยังมีสุขหรือมีทุกข์ ที่เราให้มาหา จะไปตีกรุงดาหา ระตูทุกเมืองอย่าประมาท ให้สู้สุดกำลังจากนั้นเหล่าระตูจึงตอบกลับไปว่า จะสู้ศึกสงครามครั้งนี้อย่างเต็มที่และสุดความสามารถ ไม่เสียดายแม้แต่ชีวิตเมื่อท้าวกะหมังกุหนิงได้ยินดังนั้นจึงขอบใจและเชิญชวนให้ทุกคนไปพักผ่อนที่ด้านในปราสาทแล้วพระองค์ก็นั่งลงกับน้องทั้งสองคน แล้วเล่าให้ฟังถึงสาเหตุของการรบเมื่อน้องทั้งสองได้ยินจึงคัดค้าน เพราะเห็นว่าพระองค์ไม่ไตร่ตรองให้ดี
เมื่อนั้น พระสุริย์วงศ์เทวาอัชฌาสัยสุดที่จะบิดเบือนเลื่อนวันไป ด้วยเกรงในบิตุเรศตัดมาความกลัวความรักสลักทรวง ให้เป็นห่วงหนหลังกังวลหน้าแต่เรรวนหวนนึกตรึกตรา พระราชาสะท้อนถอนใจจึงดำรัสตรัสสั่งตำมะหงง เร้งเตรียมจตุรงค์ทัพใหญ่ม้ารถคชสารชาญชัย รีบรัดจัดไว้ให้ครบครันเลือกสรรโยธาตจงสามารถ ที่อยู่คงองอาจแข็งขันแต่ปืนตึงก็ถึงทันควัน เข้าโรงรุกบุกบันฟันแทงเราจะตัดศึกใหญ่ให้ย่อย่น ด้วยกำลังรี้พลเข้มแข็งแม้นไฟรีหนีมือกลางแปลง เห็นหักได้ไม่แคลงวิญญาณ์ฤกษ์รุ่งพรุ่งนี้จะยกไป ชิงชัช่วยกรุงดาหาสั่งเสร็จเสด็จทรงอาชา ไปเฝ้าท้าวหมันหยาฉับพลัน
ครั้นถึงนิเวศน์วังใน ลงจากมโนมัยผายผันยุรยาตรนาดกรจรจรัล เข้าพระโรงสุวรรณทันใด
บัดนั้น ดะหมังกุเรปันกรุงใหญ่จึงรีบไปหาเสนาใน แถลงไขข้อความตามคดี
บัดนั้น อำมาตย์หมันหยากรุงศรีได้แจ้งแห่งดะหมังเสนี ก็พาไปยังที่พระโรงคัล
ก้มเกล้าประณตบมาลย์ พระผู้ผ่านวิชัยไอศวรรย์ทูลเบิกดะหมังเสนานั้น ว่าพระปิ่นกุเรปันใช้มา
บัดนั้น ดะหมังผู้มียศถานบนิ้วบังคมคัลวันทา ทลูถวายสาราพระภูมี
ช่วยเเปลหย่อยคับ ขอบคุณคับ
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ช่วยถอดคำประพันธ์อิเหนา ตอนศึกกระหมังกุหนิง หน้า 27 หนังสือวรรณคดีวิจักดิ์หน่อยครับ
ถอดคำประพันธ์ให้หน่อยค่ะ ครั้นถึงถามถ่วนถี่ ทัพยกมานี่จะหนีไปไหน อยู่ยังถิ่นฐานบ้านเมืองใด คือใครเป็นจอมจัตุรงค์ ระเด่นมนตรีตรัสใช้ มาถามไถ่ให้แจ้งโดยประสงค์ จงบอกเนื้อความตามตรง จะได้ทูลองค์พระทรงธรรม
ถอดหน้า32ให้หน่อยค่ะ