ไม่ ต้อง ทํา งาน มี เงิน ใช้

ทุกวันนี้ไม่ว่าเราจะไปไหนทำอะไรต่าง ๆ ก็ต้องใช้ “เงิน” แทบทั้งนั้น ต่อให้ไม่ไปไหน นอนอยู่บ้านสบาย ๆ เราก็ยังต้องใช้เงินอยู่ดี เพราะข้าวก็ต้องกิน ค่าไฟที่บ้านก็ต้องเปิด หรือใครจะอิ่มทิพย์แล้วนอนร้อน ๆ ตามสไตล์อากาศในบ้านเราได้ก็ไม่ว่ากัน ฮ่าๆๆ แต่พี่ทุยว่าเราควร “เก็บเงิน” กันบ้างนะ

ยุคสมัยนี้ ใคร ๆ ก็มีความฝันกันทั้งนั้น ฝันแล้วก็ต้องไปให้ถึงเป้าหมาย และพี่ทุยก็เชื่อว่าหลายคนต้องมีความฝันหรือมีอารมณ์ว่า อยากอยู่เฉย ๆ แน่นอน ! เอาแบบไม่ต้องทำงานก็สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ อันนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความฝันเหมือนกัน

วันนี้พี่ทุยจะมาแนะนำวิธีการ “เก็บงิน ยังไงให้เราอยู่สบายแบบไม่ต้องทำอะไรแล้วชีวิตนี้ เอาให้อยู่เฉย ๆ จนเป็นง่อยได้เลย ฮรี่ๆๆๆ

ก่อนที่เราจะเตรียมตัวเพื่อเป็นง่อยกัน เราจะต้องกลับมาสู่ความจริงที่ว่า เราต้องใช้เงินทุกวันก่อน แต่สำหรับใครที่อยากอยู่เฉย ๆ ก็สามารถใช้ชีวิตชิว ๆ ได้เนี้ย พี่ทุยยังยืนยัน นอนยัน นั่งยัน ว่า ต้องมีเงินทุนประมาณนึงถึงจะสามารถใช้ชีวิตแบบนั้นได้

แล้วต้องทำยังไงบ้าง ถ้าอยากรวย โดยที่ไม่ต้องทำงานแล้ว พี่ทุยจะสรุปให้ฟัง..

1. ต้องลองไปทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายก่อน

ว่าในแต่ละเดือนเราใช้เงินเท่าไหร่บ้าง ถึงจะมีชีวิตรอดได้ เพราะส่วนใหญ่ถามไปก็ตอบกันไม่ค่อยจะได้ ว่ารายจ่ายแต่ละเดือนเท่าไหร่กันบ้าง ?

ในตัวอย่างนี้ พี่ทุยขอลองสมมติว่า เราต้องใช้เดือนละ 10,000 บาท ปีนึงก็คือ 120,000 บาทกันก่อน หลังจากนั้นสิ่งที่ต้องมาดูต่อ ก็คือ

2. เช็กกันหน่อยว่า เรามีความสามารถในการลงทุนแค่ไหน ?

เพราะถ้าเราสามารถหาผลตอบแทนได้มาก เราก็จะใช้เงินลงทุนที่ลดลง เช่น ถ้าฝากธนาคารได้ 1% เราก็จะต้องมีทุนทั้งหมด 120,000/1% = 12 ล้านบาท แต่ถ้าเราจัดพอร์ตเป็นแบบเสี่ยงต่ำ ๆ หน่อยได้สัก 4% เราก็ต้องเตรียมทุนไว้ 120,000/4% = 3 ล้านบาทเท่านั้นเอง

แต่พี่ทุยมักจะแนะนำเสมอว่า ถ้าอยากมีรายได้จากการลงทุนเป็นรายเดือนน่าจะไม่มีอะไรเหมาะไปว่าอสังหาริมทรัพย์อีกแล้ว เพราะผลตอบแทนจากการลงทุนก็น่าจะได้ประมาณ 6% ได้โดยเฉลี่ยสำหรับการปล่อยเช่า ถ้าเราลองมาคำนวณกันดูจริง ๆ แล้ว ก็เท่ากับ 120,000/6% = 2 ล้านบาท แต่การลงทุนในอสังริมทรัพย์ มันไม่ง่ายแบบหมูอู๊ด ๆ เหมือนที่เราคิดแน่นอน พี่ทุยคิดว่าเราน่าจะต้องไปศึกษาให้ดีก่อนเสมอเลยนะ อย่างที่รู้กัน “ผลตอบแทน” มาคู่ความเสี่ยงอยู่แล้วล่ะ

หลังจากนั้นเราก็ต้องกลับมาถามตัวเอง ว่าอยากใช้ชีวิตแบบไหน อยากอยู่สบาย ๆ ไม่ต้องทำงานก็มีรายได้หรือเปล่า ถ้าอยากได้จริง ๆ สิ่งที่เราต้องเตรียมก็คือเงิน 2,000,000 บาท แล้วนำไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็ได้ ส่วนจะเก็บก้อนนี้ยังไง พี่ทุยคิดว่าแล้วแต่ที่เราถนัดเลยนะ จะเก็บได้เร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการหาเงินของเราแล้วล่ะ ถ้าเรายอมเหนื่อยขึ้นอีกหน่อยเพื่อให้ได้ชีวิตที่เราต้องการ พี่ทุยว่ายังไงก็คุ้มมมมมมม !!

สุดท้ายพี่ทุยเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากอยู่เฉย ๆ หรอก แต่แค่รู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ชอบ ไม่ตอบโจทย์ ก็เลยอยากอยู่เฉย ๆ ถ้าเราสามารถเก็บเงินระดับนึงแล้วเอาไปลงทุนสร้างรายได้ขึ้นมาได้จริง เราก็สามารถออกมาทำงานที่เราชอบอย่างเต็มที่ได้เลยนะ..

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

“ทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต” เชื่อว่าใครหลายคน กำลังเป็นอยู่แน่ ๆ ตั้งใจทำงานเช้ายันเย็น แต่พอจะเลิกงานเตรียมตัวกลับบ้าน หัวหน้าก็ผุดงานใหม่ให้ทำในช่วง 15 นาทีสุดท้าย !!  รู้สึกตัวอีกทีก็ 3 ทุ่ม ละครไม่ได้ดู ซีรีส์ไม่ได้อัพเดต แน่นอนว่าการทำงานหนัก ก็น่าจะช่วยให้เงินเดือน หรือ รายได้มากขึ้นไปด้วย ซึ่งคนทำงานทุกคนก็หวังอยู่ทุกสิ้นปีว่าจะมีรายได้เพิ่มเพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระ หรือ เพิ่มพูนเงินในกระเป๋า โดยหวังว่าสักวันหนึ่งจะทำให้เราร่ำรวยได้ เกษียณไว ๆ ด้วยเงินล้านที่เก็บออมมา

แต่หารู้ไม่ว่า การทำงานหนักอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เราออกไปแตะขอบฟ้าได้ !! ยิ่งคนที่ทำงานมาสักระยะ หรือ ทำงานมาจนใกล้เกษียณ หากไม่รู้จักเก็บออมมาก่อนหน้านี้ และเริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้ เราอาจจะมีเงินไม่พอใช้หลังเกษียณ

ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้เห็นภาพกันมากขึ้น เหมือนไปยืนดูอนาคตของเราเอง สมมติว่า เราต้องการมีเงินใช้ยามเกษียณเดือนละประมาณ 30,000 บาท ทุกเดือน ตั้งแต่เกษียณตอนอายุ 60 ปี จนถึง 85 ปี หรือเป็นเวลาทั้งหมด 25 ปี เงินที่ต้องเตรียมไว้อย่างน้อย ๆ ก็ต้องประมาณ 25(ปี) x 12(เดือน) x 30,000(บาท/เดือน) = 9,000,000 บาท !! (โอ้ว !! แม่เจ้า) 

เรามาคำนวณกันต่อว่า เราจะต้องเก็บเงินต่อเดือน เดือนละเท่าไหร่กัน จึงจะมีเงิน 9,000,000 บาท ง่าย ๆ แค่เอาจำนวนปี ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงเกษียณ มาหารเงิน 9,000,000 บาท ที่เราคิดได้ในตอนต้น สมมติว่าตอนนี้เราอายุ 30 ปี ก็จะได้ 9,000,000/30 = 300,000 บาทต่อปี จากนั้นก็หารด้วย 12 อีกครั้ง เพื่อที่จะทำให้เป็นเงินที่ต้องเก็บต่อเดือน คือ 25,000 บาทต่อเดือน !!! (โอ้ว !! แม่เจ้าครั้งที่ 2) ดูเหมือนว่า เงินที่เราเก็บต่อเดือนจะค่อนข้างสูงทีเดียว

ทางหนึ่งที่จะช่วยได้ก็คือ 1.ประหยัด 2.หารายได้เพิ่ม ซึ่งข้อแรกนั้นทำได้ทันที และช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการมีเงินเกษียณไม่พอได้อยู่ดี ส่วนการหารายได้เพิ่มก็เป็นทางออกที่ดี แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำมันได้ เพราะอย่างที่เกริ่นไว้ในตอนต้นแล้วว่า งานที่มีนั้นอาจจะหนักอยู่แล้ว เราไม่สามารถปลีกตัวไปทำอย่างอื่นได้เลย แต่รู้ไหมว่า เงินสามารถทำงานแทนเราได้ด้วยนะ

การให้เงินทำงานแทนนั้น หมายถึงการลงทุนนั่นเอง โดยการนำเงินเก็บที่หามาได้ ไปวางไว้ให้ถูกที่ถูกทาง หรือลงทุนให้ถูกที่ อาจจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่มีโอกาสเติบโตมากกว่าการเก็บสะสมอยู่เฉยๆ แถมการลงทุนก็ช่วยให้เรายังทำงานประจำได้อย่างปกติสุข

การที่เงินทำงานแทนเรา จะช่วยให้เก็บเงินเกษียณได้ง่ายกว่าที่คิดมากมายเลย เช่น ถ้าเราลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนเพียง 7% ต่อปี การเก็บเงินเกษียณ 9 ล้านบาท จากที่ต้องเก็บถึงเดือนละ 25,000 บาท ในตอนแรกจะเหลือเพียงเก็บเดือนละประมาณ 8,000 บาท และถ้าเราเพิ่มความเสี่ยงอีกสักนิด ลงทุนแล้วได้ผลตอบแทน 10 % ต่อปี การเก็บเงินต่อเดือนจะลดลงเหลือ เพียง 4,560 บาทเท่านั้น

เห็นแล้วใช่มั้ยว่า การให้เงินไปทำงานแทนเรามีประโยชน์มากแค่ไหน แถมไม่ต้องลงแรงเองเสียด้วย เงินทำงานแทนเราได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุดพักปีใหม่ สงกรานต์ หรือ เทศกาลใด ๆ เงินไม่มีวันเกษียณ ยิ่งลงทุนนานๆ เงินยิ่งงอกเงย สร้างความมั่งคั่งในระยะยาวให้กับเราในแบบที่ไม่คิดค่าจ้างอีกด้วย ถ้าเราไม่เริ่มต้นให้เงินทำงานแบบ “ตัวเป็นเกลียว” แทนเราละก็ เงินไม่พอใช้แน่ ๆ ดังนั้นเริ่มวางแผนให้เงินทำงานตั้งแต่วันนี้ เกษียณได้อย่างสบายใจในวันหน้า 


ให้เงินช่วยทำงาน เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเปิดบัญชีที่ SCB ครั้งเดียวลงทุนได้หลากหลายสถาบันการเงิน ใช้แค่บัตรประชาชน ก็พร้อมซื้อ-ขาย ได้ภายใน 9 นาที หรือเปิดบัญชีลงทุนด้วยตัวเองที่ SCB EASY App