Show วันนี้ทีมงาน Specphone เราจะมาแนะนำมือถือราคาถูกให้กันเพื่อนๆ ได้ไว้ใช้เป็นตัวเลือกกัน เนื่องด้วยในปัจจุบันนี้สถานการณ์ที่จะอำนวยให้สามารถหาเงินได้นั้นค่อนข้างมีจำกัด เราจึงจะมาแนะนำมือถือที่เพื่อนๆ สามารถซื้อได้ด้วยงบไม่เกิน 2,000 บาทกัน (เฉพาะราคาเครื่องนะ) ซึ่งในครั้งนี้เราจะมีการแนะนำทั้งแบบติดโปรรายเดือนและแบบไม่ติดโปรให้ด้วย ซึ่งจะมีรุ่นไหนบ้างนั้นไปชมกันได้เลย
เทียบสเปคมือถือราคาถูกแบบติดโปร
ใครที่อยากได้รายละเอียดมือถือราคาถูกเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้เลยที่AIS, DTAC, Truemove Hปล. มือถือราคาถูกแบบติดโปรที่บอกไปนั้นคือราคาของแพ็กเกจต่ำสุดสำหรับลูกค้าใหม่หรือย้ายค่ายที่ยังไม่รวมค่าบริการล่วงหน้านะ 1. realme C21มาเริ่มกันที่ตัวแรกกับ realme C21 มือถือราคาคุ้มตัวล่าสุดของ realme ที่ตอนนี้มีการจัดโปรครบทั้ง 3 ค่ายเลยก็คือ AIS, DTAC และ Truemove H ในราคาเครื่องไม่ถึง 1,000 บาท ซึ่งตัว realme C21 นี้เป็นตัวที่อัพเกรดสเปคขึ้นมาให้ทันสมัยมากขึ้น พร้อมด้วยยังคงจุดเด่นเรื่องแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เอาไว้ โดยในส่วนของสเปคนั้น realme C21 นั้นมาพร้อมหน้าจอที่มีชื่อว่า Mini-Drop ที่เป็นหน้าจอ IPS-LCD มีขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ ใช้ชิปประมวลผลเกมมิ่งราคาประหยัดอย่าง MediaTek Helio G35 มาพร้อมแรมขนาด 3GB / 4GB และมีหน่วยความจำขนาด 32GB / 64GB ซึ่งรุ่นที่เอามาจัดโปรนี้จะเป็นรุ่น 3 + 32GB เท่านั้นนะ ส่วนกล้องถ่ายภาพนั้นมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 13MP, กล้อง Macro ความละเอียด 2MP และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่นั้นมีความละเอียด 5MP โดยตัวกล้องนี้จะมี AI มาช่วยประใวลผลเสริมด้วย สำหรับแบตเตอรี่นั้นมีขนาด 5,000 mAh พร้อมด้วยที่ชาร์จขนาด 5V/2A ทำให้อาจต้องใช้เวลาชาร์จนานกว่าจะเต็ม แต่ก็แลกมาด้วยความอึดที่ทำให้แบตเตอรี่หมดช้าเช่นกัน ราคา : 4,299 บาท (ราคาเต็ม) / 1,289 บาท (AIS) / 690 บาท (DTAC) / 1,289 บาท (Truemove H) หน้าสเปค / รีวิว 2. OPPO A15OPPO A15 มือถือน้องเล็กของ OPPO ที่ออกมาเพื่อคนที่ต้องการมือถือราคาประหยัดจริงๆ และไม่ต้องการใช้อะไรมากมาย ด้วยชิปประมวลผลแบบเน้นประหยัดพลังงานสุดๆ อย่าง Helio P35 ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานเกินวันโดยที่ไม่จำเป็นต้องเอาไปชาร์จเลย โดยตัวสเปคของ OPPO A15 นั้นประกอบไปด้วยหน้าจอแบบ IPS-LCD ขนาด 6.52 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ HD+ ใช้ชิปประมวลผลเป็น MediaTek Helio P35 ที่เป็นชิปประหยัดพลังงานแบบสุดๆ มาพร้อมแรมขนาด 3GB และมีหน่วยความจำขนาด 32GB ในด้านการถ่ายภาพนั้นมาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 13MP, กล้อง Macro ความละเอียด 2MP และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 5MP สำหรับแบตเตอรี่นั้นมีขนาด 5,000 mAh แต่ก็ด้วยการที่ไม่มีระบบชาร์จเร็ว ทำให้ต้องใช้เวลาชาร์จนานพอสมควรอยู่ถึงจะเต็ม ราคา : 3,999 บาท (ราคาเต็ม) / 2,089 บาท (AIS) / 1,589 บาท (DTAC) / 1,799 บาท (Truemove H) หน้าสเปค / รีวิว 3. vivo Y3svivo Y3s มือถือรุ่นเล็กตัวล่าสุดในตระกูล Y ของ vivo ที่ออกมาเพื่อจับกลุ่มคนที่ต้องการมือถือจอใหญ่ แบตอึด ในราคาไม่แพง นอกจากนี้ยังใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Android Go ด้วยการที่ไม่ต้องการสเปคที่สูงมาก ช่วยให้ตัวเครื่องมีราคาที่ถูกลง แต่ยังคงคุณภาพของงานประกอบเอาไว้ได้ ในด้านสเปคของ vivo Y3s นั้นมาพร้อมหน้าจอ IPS-LCD ขนาด 6.51 นิ้วที่มีความละเอียดระดับ HD+ ใช้ชิปประมวลผลแบบประหยัดพลังงานอย่าง MediaTek Helio P35 มาพร้อมแรมขนาด 3GB และหน่วยความจำขนาด 32GB (ด้วยการที่ใช้ระบบปฏิบัติการเป็น Go Edition ทำให้แอพต่างๆ ก่อนพื้นที่น้อยลง) สำหรับกล้องถ่ายภาพนั้นมาพร้อมกล้องเดี่ยวความละเอียด 13MP และมีกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 5MP ส่วนแบตเตอรี่นั้นให้มา 5,000 mAh พร้อมระบบชาร์จขนาด 10W ทำให้ต้องใช้เวลาชาร์จนานหน่อย ราคา : 4,999 บาท (ราคาเต็ม) / 1,989 บาท (AIS) หน้าสเปค / รีวิว 4. vivo Y12Avivo Y12A คือมือถือรุ่นเริ่มต้นอีกตัวหนึ่งจากแบรนด์ vivo ที่มีจุดเด่นคือที่สแกนลายนิ้วมือถูกย้ายไปไว้ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง ช่วยให้เวลาต้องการปลดล็อคเครื่องได้แบบที่ไม่เลอะหน้าจอ (ถ้านิ้วเลอะอะไรสักอย่างอยู่) และด้วยการที่เน้นในความประหยัดสุดๆ ทำให้ความแรงนั้นไม่มาก แต่ก็แลกมาด้วยความอึดของแบตเตอรี่ โดยตัวสเปคของ vivo Y12A นั้นประกอบไปด้วยหน้าจอแบบ IPS-LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ HD+ ใช้ชิปประมวลผลเป็น Qualcomm Snapdragon 439 ที่เป็นชิปแบบประหยัดพลังงาน (รุ่นเก่านะเออ) มาพร้อมแรมขนาด 3GB และมีหน่วยความจำขนาด 32GB ในด้านการถ่ายภาพนั้นมาพร้อมกล้องหลังถึง 2 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 13MP และกล้อง Bokeh ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 8MP สำหรับแบตเตอรี่นั้นมีขนาด 5,000 mAh แต่ก็ด้วยการที่ไม่มีระบบชาร์จเร็ว ทำให้ต้องใช้เวลาชาร์จนานพอสมควรอยู่ถึงจะเต็ม ราคา : 4,299 บาท (ราคาเต็ม) / 1,789 บาท (AIS) / 9 บาท (DTAC) หน้าสเปค / รีวิว 5. Redmi 9ARedmi 9A มือถือราคาประหยัดขั้นสุดของ Redmi ที่เปิดตัวมาเพื่อคนที่ต้องการมือถือราคาถูกมากๆ ที่สามารถใช้เล่นเกมได้ พร้อมด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ และแบตเตอรี่สุดอึด นอกจากนี้ยังสามารถหาซือ้ได้ง่ายด้วยเนื่องจากถูกเอาไปจัดโปรพ่วงแพ็กเกจหรือลดราคาบนร้านออนไลน์อยู่บ่อยๆ ในด้านสเปคของ Redmi 9A นั้นมาพร้อมหน้าจอ IPS-LCD ขนาด 6.53 นิ้วที่มีความละเอียดระดับ HD+ ใช้ชิปประมวลผลเกมมิ่งราคาประหยัดอย่าง MediaTek Helio G25 มาพร้อมแรมขนาด 2GB และหน่วยความจำขนาด 32GB สำหรับกล้องถ่ายภาพนั้นมาพร้อมกล้องเดี่ยวความละเอียด 13MP และมีกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 5MP ส่วนแบตเตอรี่นั้นให้มา 5,000 mAh พร้อมระบบชาร์จขนาด 10W ทำให้ต้องใช้เวลาชาร์จนานหน่อย ราคา : 2,999 บาท (ราคาเต็ม) / 889 บาท (AIS) / 1,490 บาท (DTAC) / 990 บาท (Truemove H) หน้าสเปค / รีวิว เทียบสเปคมือถือราคาถูกแบบไม่ติดโปร
1. OPPO A57มาที่มือถือที่ราคาถูกแบบไม่ต้องติดโปรกันบ้าง โดยเราจะเริ่มจากมือถือรุ่นเก่ามาก ๆ ที่ยังสามารถหาซื้อได้จากใน Shopee อยู่นั่นก็คือ OPPO A57 มือถือระดับเริ่มต้นที่ให้สเปคมาแรงพอที่จะยังใช้ในปัจจุบันได้อยู่ ถึงแม้จะเป็นเครื่องที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2560 แล้วก็ตาม ในส่วนของสเปคนั้น OPPO A57 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอ IPS-LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ ซึ่งในสมัยนี้ก็นับว่าเล็กเอาการอยู่ ใช้ชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 435 ที่เป็นอดีตชิปราคาประหยัดของ Qualcomm มีแรมขนาด 3GB และมีหน่วยความจำขนาด 32GB สำหรับกล้องถ่ายรูปนั้นมีกล้องหลังเพียงตัวเดียวความละเอียด 13MP และมีกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 16MP สำหรับแยตเตอรี่นั้นมีความจุเพียง 2,900 mAh ซึ่งด้วยปริมาณแบตขนาดนี้ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาชาร์จนาน ราคา : 1,759 บาท (Shopee) หน้าสเปค / รีวิว 2. Wiko SUNNY 5มาที่มือถือราคาถูกที่เป็นเครื่องมือ 1 แท้แน่นอนอย่าง Wiko SUNNY 5 ที่เปิดตัวมาด้วยราคาไม่ถึง 2,000 บาท แต่ก็ด้วยราคาที่ถูกมากทำให้สเปคโดนลดไปเยอะพอสมควรเลยทีเดียว แถมยังใช้ Android Go ที่เป็น Android เวอร์ชั่นประหยัด กินสเปคและกินพื้นที่น้อยกว่าปกติด้วย ในด้านสเปคนั้น SUNNY 5 มาพร้อมหน้าจอ IPS-LCD ขนาด 6 นิ้วความละเอียด 960 x 480 พิกเซล (ไม่ถึง HD นั่นเอง) ใช้ชิปประมวลผล Spreadtrum SC7731E ที่เป็นของยี่ห้อชิปยอดนิยมในอุปกรณ์ Android ราคาถูกมาก ๆ ซึ่งในเรื่องการใช้งานทั่วไปก็สามารถทำได้ดีเช่นกัน แรมให้มา 1GB / 2GB ให้เลือก (แนะนำยังไงก็เลือก 2GB เถอะ) ส่วนหน่วยความจำให้มา 32GB สำหรับการถ่ายภาพนั้นทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังมีความละเอียด 5MP เช่นเดียวกัน ส่วนแบตเตอรี่นั้นให้มา 3,000 mAh ซึ่งด้วยตัวสเปคแล้วแค่นี้ก็ใช้งานได้เกินวันสบาย ๆ แล้ว ราคา : 1,999 บาท หน้าสเปค / รีวิว 3. Wiko SUNNY 5 LITEเมื่อพูดถึง Wiko SUNNY 5 แล้วก็จะไม่พูดถึงไม่ได้กับ Wiko SUNNY 5 LITE ที่เป็นรุ่นประหยัดขึ้น ซึ่งสเปคโดยรวมจะคล้าย ๆ กัน แต่จะแตกต่างกันที่ขนาดหน้าจอและขนาดแบตเตอรี่เป็นหลัก และด้วยขนาดที่เล็กมาก ทำให้เรื่องพกพามีความสะดวกแบบสุด ๆ เลย ในด้านสเปคนั้น SUNNY 5 LITE มาพร้อมหน้าจอ IPS-LCD ขนาด 5.45 นิ้วความละเอียด 960 x 480 พิกเซล (ไม่ถึง HD นั่นเอง) ใช้ชิปประมวลผล Spreadtrum SC7731E ที่เป็นของยี่ห้อชิปยอดนิยมในอุปกรณ์ Android ราคาถูกมาก ๆ ซึ่งในเรื่องการใช้งานทั่วไปก็สามารถทำได้ดีเช่นกัน แรมให้มา 1GB และมีหน่วยความจำให้มา 32GB สำหรับการถ่ายภาพนั้นทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังมีความละเอียด 5MP เช่นเดียวกัน ส่วนแบตเตอรี่นั้นให้มา 2,500 mAh ราคา : 1,799 บาท หน้าสเปค / รีวิว |