81312 หลักและวิธีการศึกษาทางรัฐประศาสนศาสตร์ แบบประเมินผลก่อนและหลังเรียน (เตรียมซ่อม 8 สิงหาคม 2553 เวลา 11.45-14.15 น.) ............................................................................................................................. หน่วยที่ 1 1. รัฐประศาสนศาสตร์ หรือ(PUBLIC ADMINISTRATION) แยกพิจาณาได้เป็น 2 แนวทาง - ในแง่ของวิชาการ เป็นศาสตร์หนึ่งที่เกี่ยวกับการบริหารของภาครัฐ - ในแง่ของการปฏิบัติการ
จะเกี่ยวข้องกับการดำเนินการบริหารของภาครัฐ 2. รัฐประศาสนศาสตร์ หรือ รัฐกิจ หมายถึง(พจนานุกรม วิกีพีเดีย) - การดำเนินการทั้งปวงของฝ่ายบริหาร -
มีจุดมุ่งหมายให้นโยบายของรัฐที่วางไว้บรรลุผล อาจมองได้ทั้งเป็นการปฏิบิการและการเป็นสาขาวิชาแขนงหนึ่งในการบริหารจัดการภาครัฐ - เป็นการเน้นให้ลูกค้าพึงพอใจ โดยลูกค้าก็คือ “ประชาชน”ที่มาใช้บริการ -
และต้องเป็นการให้บริการต่อทุกคนอย่างเป็นธรรม 3. รัฐประศาสนศาสตร์เกี่ยวข้องกับข้อใด - เกี่ยวข้องกับวิชาบริหารรัฐกิจ - การบริหารที่เกี่ยวข้องกับกิจการของรัฐ เช่น ความมั่นคง
การต่างประเทศ การยุติธรรม เป็นต้น 4. ขอบเขตของรัฐประศาสนศาสตร์ คือข้อใด - ขอบเขตด้านนโยบายสาธารณะ - ขอบเขตด้านองค์การ และ พฤติกรรมองค์การ -
ขอบเขตด้านการบริหารรัฐกิจเปรียบเทียบและการบริหารพัฒนา - ขอบเขตด้านการบริหารภาครัฐแนวใหม่ 5. รัฐประศาสนศาสตร์ได้ให้ความสำคัญกับ สิ่งใด - คน -
กลุ่ม - องค์การ - และสภาพสิ่งแวดล้อม 6. พัฒนาการของ “รัฐประศาสนศาสตร์”สามารถแบ่งออกได้คร่าวๆเป็น
3 ยุค ได้แก่ - ยุดที่ 1 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 - ยุคที่ 2 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึง ค.ศ.1970 - ยุคที่ 3 ตั้งแต่ปี ค.ศ.1970-2008 7.
การบริหารภาครัฐแนวใหม่เกิดขึ้นในสมัยใด - ปลายทศวรรษที่ 1980 และต้นทศวรรษที่ 1990 8. การศึกษารัฐประศาสนศาสตร์เริ่มขึ้นอย่างจริงจังเมื่อใด -
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 - มีกรอบแนวคิดที่พัฒนามาตั้งแต่ปลาย ค.ศ. ที่ 18 9. เป้าประสงค์สำคัญของการบริหารภาครัฐในขณะนี้ คือ -
ประโยชน์สุขของประชาชน 10. กลไกการบริหารภาครัฐที่สำคัญได้แก่ - ส่วนราชการ - รัฐวิสาหกิจ -
องค์การมหาชน - องค์กรปกครองส่วนท้องสิ่น 11. พฤติกรรมการบริหารภาครัฐเกี่ยวข้องกับ - ฝ่ายการเมือง -
ฝ่ายบุคลากรประจำ - ฝ่ายประชาชนเป็นสำคัญ 12. การบริหารโดยยึดหลัก “พหุนิยม”(ADMINISTRATION PLURAISM) คือ -
การบริหารที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มที่หลากหลายในสังคม - จะคำนึงถึงนโยบายที่ได้รับมาจากกลุ่มประโยชน์ต่างๆ - เมื่อภาครัฐตัดสินใจก็ต้องคำนึงถึงความหลากหลายความต้องการของกลุ่มต่างๆ 13.
ศาสตร์การบริหาร (ADMINTRATIVE SCIENCE) หมายถึง - ให้ความสำคัญกับการพัฒนาลักษณะวิชาที่เน้นนักบริหารสามารถนกความรู้ไปใช้ได้ในวงกว้าง 14. “กรอบเค้าโครงความคิดเบ็ดเสร็จ” หมายถึง -
กรอบคิดว่าการบริหารเป็นส่วนหนึ่งของการเมือง และ - กรอบคิดว่า การบริหารเป็นส่วนหนึ่งของศาสตร์การบริหารมารวมกัน 15. แมก เวเบอร์ (MAX WEBER) -
นักวิชาการที่เสนอเกี่ยวกับ “ระบบราชการในอุดมคติ” 16. แฟรงค์ กูดนาว (FRANK GOODNOW) คือ - นักวิชาการด้านกฏหมายปกครอง ชาวอเมริกัน -
เริ่มสอนวิชาที่มีสาระคล้ายกับรัฐประศาสนศาสตร์ - ผลงานชื่อ “POLITICS AND ADMINITRATION” 17. โรเบิร์ต ดาห์ล - นักวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ ที่สนใจในการ
“ศึกษาการบริหารรัฐกิจเปรียบเทียบ” 18. วู๊ดโรว์ วิลสัน - เขียนบทความเรื่อง “THE STUDY OF MINISTRSTION”ที่ส่งผลกระทบต่อการศึกษารัฐประศาสนศาสตร์ 19.
ประเทศสำคัญที่เป็นผู้บุกเบิก “การศึกษารัฐประศาสนศาสตร์”ได้แก่ - ประเทศเยอรมันนี 20. แนวคิดที่อยู่ใน “ยุคพฤติกรรมนิยม” ได้แก่ - แนวคิดมนุษย์สัมพันธ์ 21. เฟรด ริกซ์ - นักวิชาการที่สนใจ “เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมกับการบริหาร” - และ
“การจัดการเชิงวิทยาศาสตร์”ได้แก่ * วิธีการทำงานที่ดีที่สุด * และ การค้นหาหลักการทำงานที่ก่อให้เกิดการกลมกลืน 19. แม็คซีแลนด์ (MC CLELAND) - ให้จุดริ่มต้นของ
“การศึกษา”เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาในเรื่อง สมรรถนะ 20. เป้าประสงค์สำคัญของ “การบริหารภาครัฐ” ในอดีตคือ - การรักษาความมั่นคงของรัฐ ในปัจจุบันคือ
“ประโยชน์สุขของประชาชน” 21. ประเทศไทยนำเอา “แนวคิดการบริหารภาครัฐแนวใหม่”มาใช้ในรัฐบาล - รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชิณวัตร 22. วิชาที่เป็นพื้นฐานของ ทฤษฎีองค์การ
คือ - สังคมวิทยา - จิตวิทยาสังคม - มานุษยวิทยา 23. ทฤษฎีองค์การ สามารถแยกออกได้เป็น 3 ทฤษฎีหลัก
ได้แก่ - ทฤษฎีที่อาศัยการใช้หลักเหตุผล ใช้โครงสร้างและการมีเหตุผลเป็นหลัก - ทฤษฎีเกี่ยวกับพฤติกรรมของคน
ให้ความสำคัญกับคนมากกว่าตัวแปรอื่น - ทฤษฎีระบบเปิด ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม 24. กระบวนการนโยบายสาธารณะ ประกอบด้วย - การริเริ่มนโยบาย - การกำหนดประเด็นนโยบาย - การกำหนดทางเลือกนโยบาย - การประเมินทางเลือก และการเลือกนโยบาย -
การประกาสนโยบาย - การนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ 25. การศึกษานโยบายสาธารณะมีหลายแนวทางศึกษาที่สำคุญๆ เช่น - การศึกษาที่มาของนโยบาย -
การศึกษากระบวนการตัดสินใจของนโยบาย - การศึกษาผลลัพธ์ของนโยบาย - การศึกษานโยบายสาธารณะเปรียบเทียบ 23. ในปลายทศวรรษที่ 1990 และต้นทศวรรษที่ 2000 ผู้ที่เสนอเครื่องมือการบริหารจัดการใหม่ๆและถูกนำมาใช้บริหารภาครัฐ คือ -
แคพแลน (KAPLAN) เรียกว่า BALANCED SCORECARD) 24. องค์ประกอบหนึ่งของ POSDCORB คือ - การรายงาน(REPORTING) P. PLANNING
การวางแผน O. ORGANIZATION การจัดองค์การ S. STAFFING การจัดการบุคคล D. DIRECTING
การอำนวยการ 25. แนวคิดเกี่ยวกับ
“องค์กรที่มีสมรรถนะสูง”เกิดขึ้นในยุคใดของการ “ศึกษารัฐประศาสนศาสตร์” - ยุคหลังพฤติกรรมนิยม 26. ข้อใดที่มีการกำหนดเกี่ยวกับการยึดหลัก “ประโยชน์สุขของประชาชน” - พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534(แก้ไขเพิ่มเติม) 26. เป้าประสงค์ของ “การบริหารภาครัฐยุคใหม่” คือ - ประโยชน์สุขของประชาชน เป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุด
27. การบริหารสาธารณะ (PUBLIC SERVICE) หมายถึง - บริหารที่รัฐจัดให้แก่พลเมืองของตนในสังคมทั้งโดยทางตรงและโดยทางอ้อม เพื่อตอบสนองความต้องการและความจำเป็นของประชาชน 28. ประเภทของบริการสาธารณะ - บริการสาธารณะที่มีลักษณะทางการปกครอง(SERVICE PUBLICS ADMINISTRATION) - บริการสาธารณะที่มีลักษณะทางอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม(SERVICE PUBLICS INDUSTRIES ET COMMERCIAUX) 29. หลักเกณฑ์สำคัญในการจัดทำบริการสาธารณะ - หลักว่าด้วยความเสมอภาค - หลักว่าด้วยความต่อเนื่อง - หลักว่าด้วยการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง 30. องค์กรที่ทำหน้าที่บริหารบริการสาธารณะ แยกเป็น 2
ฝ่ายคือ - ฝ่ายภาครัฐ (องค์กรบริหารบริการสาธารณะโดยรัฐ) - ฝ่ายภาคเอกชน(องค์กรบริหารบริการสาธารณะโดยเอกชน) .............................................................................................................................................................หน่วยที่ 2 1. วิชารัฐประศาสนศาสตร์กำเนิดมาจากงานเขียนข้อใด - THE STUDY OF ADMINISTRATION 2.
กระบวนทัศน์ใดที่ส่งผลให้เกิดวิชา “รัฐประศาสนศาสตร์” - การแยกการบริหารออกจากการเมือง 3. ขอบข่ายของรัฐประศาสนศาสตร์ คือ -
การเมืองและนโยบายสาธารณะ - ทฤษฎีองค์การ - เทคนิคการบริหาร 4. รัฐประศาสนศาสตร์
“ยุคโครงสร้าง-หน้าที่” คือ - การจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ - หลักการบริหาร 5. ทฤษฎี X
และ ทฤษฎี Y เป็นแนวคิดของผู้ใด - ดักกลาส แมกเกรเกอร์ 6. กระบวนทัศน์ของ เอลตัน เมโย คือ -
มนุษย์สัมพันธ์ 7. รัฐประศาสนศาสตร์ - ไม่ได้เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ - เป็นสังคมศาสตร์ประยุกต์ -
เป็นกึ่งวิชาชีพ - เป็นสหวิทยาการ 8. อัตลักษณ์ของรัฐประศาสนศาสตร์ คือ - การบริหารรัฐกิจ และ สาธารณกิจ 9.
รัฐประศาสนศาสตร์ในความหมายใหม่ ให้ความสำคัญกับเรื่องใด - ความเสมอภาคทางสังคม 10. ข้อที่แสดงว่า รัฐศาสตร์ กับรัฐประศาสนศาสตร์ เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน คือ -
การเมืองกับการบริหาร - การกำหนดนโยบายกับการนำนโยบายไปปฏิบัติ - ระบบบริหารเป็นระบบย่อยของระบบการเมือง - มหภาคกับจุลภาค .............................................................................................................................................................หน่วยที่ 3 1. วิธีการแสวงหาความรู้แบบวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ที่สังคมศาสตร์แนววิทยาศาสตร์นำมาใช้จะแยกทฤษฎีว่าด้วยความรู้ออกเป็นสองกระบวนการใหญ่ๆคือ ตรรกะ ของการค้นพบหรือการแสวงหาแบบวิทยาศาสตร์กับข้อใด - ตรรกะของการพิสูจน์แบบวิทยาศาสตร์ * ข้อนี้หากถาม พิสูจน์ ให้ตอบ ค้นพบ หากถามค้นพบ ให้ตอบ พิสูจน์ ลงท้ายว่า “แบบวิทยาศาสตร์” 2. การเมืองหรืออำนาจไม่สามารถแยกออกจากกันได้ด้วยเหตุผลหลัก 3 ประการ คือ เงื่อนไขหรือบริบทของการผลิตหรือสร้างความรู้ซึ่งเป็นเรื่องของวัฒนธรรม-สังคมเป็นเรื่องของเอกลักษณ์ของนักทฤษฎีและ - ความรู้คือผลลัพธ์ของวาทกรรม * เงื่อนไขหรือ บริบท ของการผลิตหรือสร้างความรู้ซึ่งเป็นเรื่องของวัฒนธรรม-สังคม เป็นเรื่องของเอกลักษณ์ของนักทฤษฎี และความรู้คือผลลัพธ์ทางวาทกรรม จัดเป็นเหตุผลหลัก 3 ประการของเรื่องใด - ญาณวิทยากับการเมือง/อำนาจแยกกันไม่ออก 3. “การบำบัดเป็นมากกว่าการสื่อสารธรรมดา แต่อัดแน่นไปด้วยเรื่องของอำนาจผลประโยชน์ และความเหนือกว่า”จัดเป็นการมองญาณวิทยา แบบใด - การให้ความสำคัญของฐานคติของวิธีการแสวงหาความรู้แต่ละแบบ 4. ข้อใดกล่าวถูกต้อง - สำนักประจักษนิยมและสำนักปฏิฐานนิยมทางตรรกวิทยา ต่างไม่มีที่ว่างให้กับการตีความ - เพราะต่างเห็นว่าภาษามีความชัดเจนและมี “ตรรกะ”ของตัวเอง 5. สำนักปฏิฐานนิยม เชิง ตรรกะ มองข้ามเรื่องใด - การตีความ 6. สำนักใดที่มองว่า “ภาษา”เป็นกลาง - สำนักประจักษนิยม 7. ความหลากเลื่อน(DIFFERENCE)ตามแนวคิดของ ฌาร์ค แดร์ริดา เกี่ยวกับโครงสร้างเรื่องใด - การเขียน - เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถจัดวางไว้ในกรอบของมโนทัศน์เรื่องการสื่อสารในแบบของปฏิฐานนิยมได้ 8. ออสติน แยกความหมายการพูด - ILLOCUTIONARY ACTES หมายถึง · การพูดในฐานะที่เป็นการกระทำ/การแสดงแบบหนึ่งที่มีความหมายขึ้นกับจารีตปฏิบัติทางสังคมในเรื่องนั้น เช่น “ผมสัญญาว่าจะไม่มาสาย” - LOCUTIONARY ACTS หมายถึง · การพูดโดยทั่วๆไป เป็นการพูดเพื่อจะบอกหรือกล่าวอะไรบางอย่างเพื่อให้รู้ว่าเป็นการพูดถึงเรื่องนี้/สิ่งนี้ มิใช่เรื่องนั้นสิ่งนั้น เช่น เขาบอก/เขากล่าวกับผมว่า.... - PERLOCUTIONARY ACTS หมายถึง · การพูดเพื่อต้องการให้เกิดผลลัพธ์บางอย่าง เช่นการพูดหว่านล้อม ชักชวน ข่มขู่ เช่น เขาข่มขู่ /หว่านล้อมผมให้......... การพูดทั้ง 3 แบบนี้ถือเป็นการกระทำทั้งสิ้น นั่นคือ การพูดทุกครั้ง(LOCUTIONARY ACTS) ถือเป็นการกระทำไปพร้อมๆกันด้วย การพูดทุกครั้งเป็นการพูดเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่นการพูดเพื่อถามหรือตอบคำถาม พูดเพื่อให้ข้อมูลให้ความมั่นใจเพื่อเตือน พูดเพื่อประกาศเจตนารมณ์ ความตั้งใจ พูดเพื่อบอกนัด วิพากษ์ วิจารณ์ หรือพูดเพื่อระบุถึงบางสิ่งบางอย่างเป็นต้น 9. คลิฟฟอร์ด เกอร์ทซ์ ได้วิเคราะห์ตัวบทจากเรื่องใด - การตีไก่ ในบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะตัวบท 10. เฟรด เดอริกสัน นักวิชาการด้านรัฐประศาสนศาสตร์ เรียกร้องในเรื่องใด - แยกการศึกษาระหว่าง PUBLIC ADMINISTRATION กับ PUBLIC GOVERNMENT 11. โดนัลด์ เดวิดสัน เรียกทัศนะที่มีต่อภาษาว่า - ความบริสุทธิ์ผุดผ่องทางปรัชญา 12. ตัวตั้งที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงจากการบริหารจัดการที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพสู่การบริหารจัดการความแตกต่างที่หลายหลายคือเรื่องใด - สังคม 13. การให้ความสำคัญกับ “คนชายขอบ” ให้เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมทำให้เกิดการเคลื่อนไหวจากการบริหารจัดการที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพสู่การบริหารจัดการแบบใด - ความแตกต่างหลากหลาย “””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””” หน่วยที่ 4 ความแตกต่างระหว่าง “องค์การสาธารณะ” กับ “องค์การภาคเอกชน” คือ - การทำงานขององค์การสาธารณะถูกกำหนดโดยสภาพแวดล้อมทางราชการ - องค์การสาธารณะอาจมีเป้าหมายในการดำเนินกิจการให้เกิดผลกำไรได้เช่นเดียวกับองค์การภาคเอกชน - ที่มาของแหล่งเงินทุนขององค์การสาธารณะมาจากภาษีประชาชนและบางส่วนอาจมาจากภาคเอกชน - องค์การสาธารณะจะถูกตรวจสอบจากฝ่ายการเมือง ภาคประชาชน สื่อมวลชน มากกว่าองค์การภาคเอกชน การอธิบาย ความหมายขององค์การ หมายถึง - กลุ่มคนที่ซึ่งมีความสนใจร่วมกันในการอยู่รอดในสังคมและมีพันธะในการดำเนินกิจกรรมร่วมกันโดยใช้โครงสร้างที่ไม่เป็นทางการ” - เป็นการอธิบายความหมายภายใต้ “กรอบแนวคิดเหตุผลนิยม” องค์การสาธารณะ ที่ทำหน้าที่ บริหารราชการส่วนท้องถิ่น คือ - องค์การบริหารส่วนตำบล - เทศบาล - องค์การบริหารส่วนจังหวัด - กรุงเทพมหานคร/เมืองพัทยา ข้อความใด “อธิบายความหมายของหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ”(SERVICE DELIVERY UNIT=SDU) - เป็นหน่วยงานที่ให้บริการภายในระบบราชการเป็นอันดับแรก - อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของปลัดกระทรวง หรือ อธิบดี - มีรูปแบบการบริหารจัดการในเชิงธุรกิจ(BUSINESS-LIKE APPROACH) - การก่อตั้งต้องไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ความหมายของ “องค์การมหาชน”(AUTONOMOUS PUBLIC ORGANIZATION:APO) คือ - มีฐานะเป็นนิติบุคคล ในทางกฎหมายมหาชน ตัวแบบการตัดสินใจ “ที่มีฐานคติว่าผู้ตัดสินใจมีทรัพยากรและข้อมูลข่าวสารและที่จะต้องใช้ในการตัดสินใจเพียงพอ(PERFECT INFORMATION)ที่จะใช้ในการตัดสินใจ และมีเป้าหมายในการตัดสินใจเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด(UTILIZATION OR PROFIT MAXIMIZATION) - ตัวแบบการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล(RATIONALCOMPREHENSIVE DECISION MAKING) สาระสำคัญของกระบวนทัศน์การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่(NEW PUBLIC MANAGEMENT:NPM) คือ - นำเทคนิคและวิธีการบริหารจัดการของภาคเอกชามาปรับใช้ในการบริหารราชการ - ปฏิบัติต่อประชาชนผู้รับบริการโดยถือเสมอเหมือนเป็นลูกค้าของหน่วยงาน - เน้นภาระรับผิดชอบต่อผลสัมฤทธิ์ของงาน(ACCOUNTABILITY FOR RESULT) - ประยุกต์ใช้วิธีการจัดจ้างและการแข่งขันประมูลงาน(COMPETITIVE TENDERING) ข้อใดอธิบายข้อจำกัดของ “ตัวแบบการตัดสินใจแบบมีเหตุผลอย่างจำกัด”(BOUNDED-RATIONALITY) ได้ถูกต้องที่สุด - ขาดการพิจารณาโดยใช้เหตุผลครบถ้วนสมบูรณ์ สาระสำคัญของ “กระบวนทัศน์การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่”(NEW PUBLIC MANAGEMENT=NPM) - วิธีการบริหารจัดการไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการบริหารธุรกิจและการบริหารสาธารณะ - มีการถ่ายโอนอำนาจการควบคุมของหน่วยงานกลาง เพื่อเพิ่มอิสระและความคล่องตัว - มุ่งปรับโครงสร้างของหน่วยราชการให้มีขนาดเล็กลง เพิ่มความคล่องตัวมากขึ้น - การแปรสภาพกิจการของรัฐให้เป็น เอกชน และการจ้างเหมางานภายนอก ทฤษฎีการบริหารร่วมสมัยต่างๆเหล่านี้อาศัยแนวคิดระบบเปิด(OPEN SYSTEM)ในการอธิบายองค์การ คือ - ทฤษฎีพึ่งพาทรัพยากร(RESOURCE DEPENDENCY THEORY) - ทฤษฎีเชิงสถาบัน(INSTITUTIONAL THEORY) - ทฤษฎีโครงสร้างองค์การตามสถานการณ์(STRUCTURAL CONTINGENCY THEORY) - ทฤษฎีต้นทุนการแลกเปลี่ยน(TRANSACTIONAL COST THEORY) ยกเว้น ทฤษฎีมนุษยสัมพันธ์(HUMAN RELATIONS THEOERY) การอธิบายองค์การภายใต้ “แนวคิดระบบเปิด” คือ - องค์การเป็นระบบที่มีปัจจัยนำเข้า กระบวนการและผลผลิต - องค์การมีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมภายนอก - องค์การมีระบบการหยุดความเสื่อมภายใน(NEGATIVE ENTROPY) - องค์การเป็นระบบที่มีลำดับชั้น(HIERARCHICAL SYSTEM) ตามแนวคิด “ตัวแบบองค์การระบบเปิด”(OPEN SYSTEM) คำว่า “EQUIFINALITY” หมายถึง - วิธีการบรรลุเป้าหมาย อย่างมีประสิทธิภาพหลายแนวทาง แนวคิดการบรรลุเป้าหมายองค์การด้วย”วิธีการที่ดีที่สุดเพียงวิธีเดียว”(ONE BEST WAY)มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ใดมากที่สุด - การสร้างความเป็นทางการและความเป็นมาตรฐานเดียวกันในระบบ การจัดโครงสร้างองค์การ “แบบใบไม้สามแฉก”(SHAMROCK ORGANIZATION) ของชารล์ส แฮนดี้(CHARLES HANDY)สามารถเทียบเคียงได้กับโครงสร้างองค์การแบบใด ในทัศนะของเฮนรี่ มินซ์เบริก์ (HENRY MINTZBERG) - โครงสร้างแบบเฉพาะกิจ(ADHOCRACY) · สร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ · นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่สู่ตลาดได้เร็วกว่าคู่แข่งเสมอ · ประกอบด้วยผู้ชำนาญการที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในการสร้างสินค้า · มีประสิทธิภาพสูงสุดในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงภายนอก · องค์การประเภทนี้ได้แก่ องค์การเกี่ยวกับแฟชั่น ความบันเทิง เทคโนโลยีล้ำสมัย ตัวย่อ “SDU” หมายถึง - หน่วยงานที่มีรูปแบบการบริหารจัดการในเชิงธุรกิจ - จะมีลักษณะการบริหารในแบบกระจายอำนาจ - การจัดโครงสร้างแยกส่วนออกมาเป็นหน่วยงานเอกเทศ หรือที่เรียกว่า “ศูนย์รับผิดชอบ” - สามารถดูแลรับผิดชอบการดำเนินการบริหารทรัพยากรและส่งมอบผลผลิตของตนเองในลักษณะเดียวกับ “ศูนย์กำไร”(PROFIT CENTER)ของบริษัทเอกชนทั่วไป การจัดโครงสร้างองค์ประกอบที่มีส่วนประกอบหลักคือ “ผู้บริหารและพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพสูง” โดยแบ่งกลุ่มคนทำงานในองค์การออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่ - กลุ่มมืออาชีพ (THE PROFESSION) - กลุ่มคู่สัญญาจากภายนอก(THE OUTSOURCES) - กลุ่มพนักงานชั่วคราว(PART-TIME HELPERS) มีชื่อเรียกว่า “SHARMROCK OGANIZATION” หรือ “องค์การแบบใบไม้สามแฉก” ของ ชารล์ส แฮนดี้(CHARLES HANDY) นักรัฐประศาสนศาตร์ ชื่อ WALLACE S.SAYRE ได้กล่าวไว้ว่า - “ภาคธุรกิจเอกชนกับภาครัฐมีความคล้ายกันเฉพาะในเรื่องที่ไม่มีความสำคัญ” ความหมายของประโยชน์ หมายถึง - องค์การภาครัฐ มีภารกิจบริหารสาธารณะในบริบทของการเมือง และ การปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในชาติ ............................................................................................................................................................. หน่วยที่ 5 ข้อใดเป็น “แนวคิดองค์การลักษณะเครื่องจักรกล” - แนวคิดวิทยาศาสตร์การจัดการ และ แนวคิดหลักการบริหาร ข้อใดเป็น “จุดอ่อน”ของแนวคิด “องค์การแบบสิ่งมีชีวิต” - เน้นเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมเพื่อให้มีชีวิตรอด องค์การร้านอาหารจานด่วน “แมคโดนัลด์”มีลักษณะการบริหารจัดการ “แบบเครื่องจักรกล”อย่างไร - สร้างระบบบริหารที่มีประสิทธิภาพ ข้อใดเป็นแนวคิดองค์การ “ลักษณะสิ่งมีชีวิต” - แนวคิดองค์การชีวิตขององค์การ แนวคิดองค์การแบบมนุษยสัมพันธ์ และแนวคิดเชิงระบบ องค์การ “ลักษณะสิ่งที่เรียนรู้ได้”มีลักษณะอย่างไร - บุคลากรอุทิศตัวในการทำงานให้องค์การ และมีการเรียนรู้ร่วมกัน องค์การ “แบบสิ่งมีชีวิต”ควรนำไปประยุกต์ใช้ภายใต้เงื่อนไขอย่างไร - ผู้ปฏิบัติกล้าแสดงออกและต้องการมีส่วนร่วม ข้อใด “เป็นศาสตร์”ที่ได้นำมาใช้ในการศึกษา “ทฤษฎีองค์การ” - จิตวิทยา-เศรษฐศาสาตร์-มนุษยศาสตร์ ข้อใดเรียงลำดับ “พัฒนาการของทฤษฎีองค์การ”ได้อย่างถูกต้อง - สำนักระบบเปิด-สำนักเหตุผลนิยม-สำนักธรรมชาตินิยม ข้อใดแสดงถึง “ทฤษฎีองค์การที่ได้รับอิทธิพล”ทางแนวคิด “วิทยาศาสตร์” ได้ถูกต้อง - แนวคิดทฤษฎีระบบขององค์การได้รับอิทธพลจาก “ชีววิทยา” ข้อใด อธิบายความเหมือนหรือความแตกต่างของ “องค์การลักษณะสิ่งที่เรียนรู้ได้ กับองค์การลักษณะสิ่งมีชีวิต”ได้ถูกต้อง - องค์การลักษณะสิ่งที่เรียนรู้ได้ต่างกับองค์การลักษณะสิ่งมีชีวิตในแง่ที่องค์การลักษณะสิ่งมีชีวิต เน้นการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม แต่องค์การลักษณะสิ่งที่เรียนรู้ได้ เน้นการปรับตัวหรือเอาชนะสิ่งแวดล้อม “””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””” หน่วยที่ 6 แนวคิดการบริหารจัดการ “ภาคสาธารณะแนวใหม่” คือ - การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี จุดเน้นของการบริหารจัดการภาคสาธารณะแนวใหม่ คือ - การบริการ การปกครองตนเองจัดอยู่ในแนวคิดใด ที่มีอิทธิพลต่อการบริหารจัดการภาคสาธารณะแนวใหม่ - ประชาธิปไตย แนวคิดใดให้ความสำคัญต่อ “การยอมรับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”และการอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นสำคัญ คือ - ชุมชนนิยม แนวคิดยุคโลกาภิวัตน์ “ยกเว้น” ข้อใด - รัฐควบคุมกำกับเอกชนมากขึ้น ที่ไม่ยกเว้น คือ - ลูกค้า คือ ปัจจัยสำคัญที่สุด - คิดทั่วโลก กระทำท้องถิ่น - ต้องการความเป็นอิสระทางการเมืองและวัฒนธรรม - ท่องเที่ยวจะเป็นตัวแปรสำคัญในเศรษฐกิจโลก ข้อใด “มิใช่”อนาคตของสังคมไทย - ประสิทธิภาพการทำงานจะลดลง ที่ใช่คือ - คอมพิวเตอร์จะทำงานแทนคนมากขึ้น - คนจะเปลี่ยนงานหลายครั้ง - อาคารชุดและอาคารสูงมากขึ้น - การประเมินผลจะเปิดเผยมากขึ้น - ระบบความสามารถถูกนำมาใช้มากขึ้น ข้อใด คือ การทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต - E-COMMERSE ข้อใดคือ “ปัจจัย”ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ - ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี · เทคโนโลยีสารสนเทศ · เทคโนโลยีชีวภาพ แนวคิดการปฏิรูประบบราชการใหม่(REINVENTING GOVERNMENT) ยกเว้น ข้อใด - มุ่งเน้นลูกค้า ที่ถูกต้อง คือ - มุ่งเน้นพันธกิจ การกระจายอำนาจ - มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ วิสาหกิจ - มุ่งเน้นกลไกตลาดคาดการณ์ล่วงหน้า และ ส่งเสริมกำกับ ข้อใดคือ “จุดเริ่มต้น”ของวิธีการสร้างบรรษัทภิบาลที่ดี - ความเข้าใจที่ถูกต้อง ขั้นตอนสุดท้าย คือ - การประเมินผลและปรับแก้ที่ถูกต้อง ข้อใดคือ “บทบาทภาคประชาสังคม”ในการบริหารภาครัฐ - การมีส่วนร่วมบริหารจัดการ - การติดตามตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ - การพัฒนาชุมชนและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของชุมชน จุดเริ่มต้นของภาคประชาสังคมในการมีส่วนร่วมในการบริหารภาครัฐ คือ - ร่วมคิด ร่วมแบ่งปันผลประโยชน์ ข้อใด หมายถึง “การบริหารจัดการที่ดี” - สุประศาสนการ(GOOD GOVERNANCE) - ธรรมาภิบาล การบริหารงานที่เป็นธรรม - ธรรมรัฐ รัฐที่มีการบริหารบ้านเมืองด้วยความเป็นธรรม - สุประศาสนการ การบริหารจัดการที่ดี - ธรรมราษฎร์ การกำกับดูแลที่ดี “การคาดคะเนความเสี่ยงและการบริหารความขัดแย้ง” จัดเป็นตัวชี้วัดในหลักการข้อใดของ “ทศธรรม”ในการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี - หลักการบริหารจัดการ * หลักการบริหารจัดการสาธารณะแนวใหม่ในทศธรรมในการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี คือ - หลักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ .............................................................................................................................................................หน่วยที่ 7 คำว่า “พันธกิจ”(MISSION) มีความหมายตรงกับ - กรอบ ขอบเขต การดำเนินงานของหน่วยงาน แผนยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิ่งใด - งานตามประเด็นยุทธศาสตร์ เอกสารแผนยุทธศาสตร์ต้องมีองค์ประกอบหลักใดบ้าง - วิสัยทัศน์-พันธกิจ-ประเด็นยุทธศาสตร์-เป้าประสงค์-ตัวชี้วัด-เป้าหมายยุทธศาสตร์ ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ SWOT - จุดแข็ง-จุดอ่อน เป็นปัจจัยภายใน - โอกาส-ภัยอุปสรรค เป็นปัจจัยภายนอก การใช้ยุทธศาสตร์ “การพัฒนา” เหมาะสมกับสถานการณ์ข้อใด - WO = จุดอ่อน-โอกาส ยุทธศาสตร์ “ป้องกันตัว”(DEFENSIVE)ควรใช้สถานการณ์ใด - โอกาสน้อยกว่าภัยคุกคาม จุดแข็งมากกว่าจุดอ่อน BSC หรือ BALANCED SCORECARD เป็นเครื่องมือใช้ทำอะไร - การแปลงยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ - ตัวแบบคะแนนสมดุล ข้อใดจัดเป็นข้อเสนอการเปลี่ยนแปลง(BLUEPRINT FOR CHANGE) ที่ผู้บริหารตัดสินใจปรับองค์การให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ - โครงสร้างองค์การ-กระบวนงาน-เทคโนโลยี-การเงินงบประมาณ และ ทรัพยากรมนุษย์ งานวิเคราะห์ปัจจัยภายในเพื่อหา SWOT อาศัยตัวแบบใด - ตัวแบบ 7-S แผนยุทธศาสตร์ คือการเชื่อมโยง - เป้าประสงค์ แผนยุทธศาสตร์ คือ - ยุทธศาสตร์ที่มีความเชื่อมโยงในลักษณะแผนที่ที่แสดงเส้นทางของความสัมพันธ์ในเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ - จัดทำได้จากการสร้างความสัมพันธ์ของเป้าประสงค์ตามมุมมองตัวแบบบัตรคะแนนสมดุล องค์ประกอบในการเขียนแบบ “โครงการแบบเหตุผลสัมพันธ์” คือ - สาระสำคัญโดยสรุป - แหล่งอ้างอิง/เจ้าภาพ - ฐานคติที่สำคัญ มุมมองตามหลัก “คะแนนสมดุล”(BALANCED SCORECARD) - มุมมองด้านประสิทธิผลตามยุทธศาสตร์ - มุมมองด้านคุณภาพการบริการ - มุมมองด้านประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการ หลักข้อใด ใช้สำหรับการกำหนดและเขียนดัชนีชี้วัดให้มีความชัดเจน - หลัก 2O 2T (QUALITY,QUANTITY,TARGET AND TIME) ยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์การ(TURNAROUND) ควรใช้สถานการณ์ใด - โอกาสมากกว่าภัยคุกคาม และจุดแข็งมากกว่าจุดอ่อน การงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน หรือ PBB(PERFORMANCE BASED BUDGETING) คือ - การจัดทำงบประมาณที่มุ่งเน้นผลงาน หรือถือเอาผลงานเป็นตัวตั้ง เน้นพวงผลและการตั้งเป้าหมายแล้วกำหนดงบประมาณให้สอดคล้องตามผลงานที่ระบุไว้ในแผน การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก เพื่อหา SWOT อาศัยตัวแบบใด - ตัวแบบ SYSTEM องค์ประกอบสำคัญของดัชนีชี้วัด คือ - เป้าหมาย - เวลา - กำไร ............................................................................................................................................................. หน่วยที่ 8 1. หน้าที่ทางการคลังที่ “สำคัญที่สุด” ของรัฐบาลคือ - รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ - เก็บรักษาเงินของรัฐบาล 2. ระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐสู่ระบบอีเล็กทรอนิกส์ที่นำมาใช้ในการบริหารการเบิกจ่ายเงินของไทยคือระบบ ใด - GFMIS(GOVERNMENT FISCAL MANAGEMENT INFORMATION SYSTEM) - ระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐสู่ระบบอีเล็กทรอนิกส์ 3. ในภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ หรือ ชะลอตัว รัฐบาลควรตัดสินใจเลือกใช้นโยบายการคลังแบบใด - แบบขยายตัว 4. ในภาวะเศรษฐฏิจของประเทศมีการขยายตัวมากเกินไป รัฐบาสลควรตัดสินใจเลือกใช้นโยบายคลังแบบใด - แบบหดตัว 5. รายได้จากภาษีอากร ภาษีทางตรง คือ - ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา - ภาษีเงินได้นิติบุคคล - ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม * ภาษีทางอ้อม คือ ภาษีการค้า-ภาษีมูลค่าเพิ่ม-ภาษีธุรกิจจำเพาะ-ภาษีสินค้าเข้า-ออก 6. รายรับของรัฐบาล คือ - เงินภาษีอากร - รายได้ของรัฐบาล - เงินกู้ทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ - เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ - เงินที่ได้รับมาจากการนำเงินคงคลังมาใช้ 7. ข้อใดจัดอยู่ในประเภทรายจ่ายการลงทุน - ค่าครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง · รายจ่ายประจำคือ - ค่าวัสดุสำนักงาน - ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง - ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า - เงินเดือนและค่าจ้าง 8. ตามกระบวนการงบประมาณของไทย ขั้นตอนการอนุมัติงบประมาณ เป็นอำนาจหน้าที่ของใคร - รัฐสภา/ฝ่ายนิติบัญญัติ 9. ระบบงบประมาณของไทยที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือระบบใด - ระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ 10. แนวคิดสำคัญประการหนึ่งของของนักเศรษฐศาสตร์ “สำนักเคนส์” คือ - การก่อหนี้เป็นสิ่งจำเป็น · สำนักเสรีนิยม มีแนวคิดว่า - การก่อหนี้เป็นการสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน 11. สถานการณ์ “หนี้สาธารณะ”ของไทย คือ - หนี้ในประเทศมีจำนวนมากว่าหนี้ต่างประเทศ 12. หน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมงบประมาณโดยการตรวจหลังจ่าย(POST-AUDIT) คือ - ผู้ตรวจการแผ่นดิน 13. ผลจากการกู้เงินมาใช้จ่ายเพื่อการบริโภคในปัจจุบัน คือ - จะเป็นภาระแก่คนรุ่นลูกหลาน 14. ผลของการกู้เงินมาใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในระยะยาว คือ - ไม่ถือว่าเป็นภาระของคนรุ่นลูกหลาน “””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””” หน่วยที่ 9 การจัดการบุคคล(PERSONEL MANAGEMENT)เน้นในเรื่อง - มนุษย์สัมพันธ์และมนุษย์นิยมตามแนวทางพฤติกรรมศาสตร์ - การจัดข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลากร การทำงานตามเวลาที่กำหนด การลากิจ ลาป่วย - การจัดประโยชน์และบริการ การฝึกอบรมและการเน้นบุคคลากรเฉพาะเป็นรายบุคคล - การดำเนินกิจกรรม การดำเนินการทั้งระบบนับตั้งแต่การสรรหาสู่การพ้นสภาพพนักงานขององค์การ การบริหารทุนมนุษย์(HUMAN CAPITAL MANAGEMENT)เน้นในเรื่อง - การลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์เพื่อสร้างมู,ค่าเพิ่มให้แก่ผลสำเร็จขององค์การ - การยืดหยุ่นหลากหลาย การจัดการผลการปฏิบัติงาน การใช้คนน้อยที่ให้ประสิทธิภาพมาก - การเพิ่มคุณค่าให้กับทรัพยากรมนุษย์ ทั้งการยึดหลักสมรรถนะและการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงาน - การบริหารเทคโนโลยี ความรู้ทักษะ สมรรถนะที่ติดตัวคนในองค์การ และมีความจำเป็นในการปฏิบัติงาน ฮูโก มันสเตอร์เบอร์ก (HUGO MUNSTERBERG) - นักวิชาการที่เสนอวิธี “การปรับปรุงวิธีการทดสอบบุคคลเพื่อการจ้างงาน การฝึกอบรม การประเมินผลการทำงาน และประสิทธิภาพการทำงาน” แมรี่ ปาร์กเกอร์ ฟอลเลต(MARY PARKER FOLLET) - นักวิชาการคนใดที่เสนอแนวคิด “องค์การที่เน้นคนเป็นศูนย์กลางและให้ความสำคัญกับกลุ่มมากกว่าบุคคล”การนำเสนอแนวคิด”การทำงานเป็นกลุ่มและความผูกพันระว่างบุคคลในกลุ่ม เอลตัน เมโย(ELTON MAYO) - นักวิชาการที่ทำการศึกษาวิธีการที่มีประสิทธิภาพการทำงาน - โดยเน้นพฤติกรรมกลุ่มจากการทดลอง “ฮอร์ธอร์น”(HAWTHORNE STUDY) - และกลายเป็นที่มาของขบวนการมนุษยสัมพันธ์(HUMAN RELATION MOVEMENT) สังคมแห่งการเรียนรู้(KNOWLEDGE-BASE SOCEITY)มีความเกี่ยวพันกับเรื่องต่างๆ คือ - การคิดรวบยอด - การคิดแบบวิเคราะห์ - การคิดแบบโครงสร้าง - การคิดอย่างเป็นระบบ กระบวนการ “แผนยุทธศาสตร์”ของการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์เริ่มต้นจาก - การกำหนดพันธกิจองค์การ การนำกรอบหรือ “ตัวแบบการสมรรถนะ”มาใช้สำหรับการดำเนินการและการตัดสินใจด้านการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์เป็นความหมายของ - การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์โดยยึดสมรรถนะ องค์การเสมือนจริงมีความเกี่ยวข้องกับ - กระแสโลกาภิวัตน์ ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการแผนยุทธศาสตร์ของการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ - การเปรียบเทียบอุปสงค์ทางด้านทรัพยากรมนุษย์ และอุปทานทางด้านทรัพยากรมนุษย์ การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์โดยยึด “สมรรถนะ”(COMPETENCY BASE HRM.)หมายถึง - การนำกรอบหรือตัวแบบการสมรรถนะมาใช้สำหรับการดำเนินการและการตัดสินใจด้านการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ บุคคลที่มีหน้าที่ริเริ่มการจัดการความรู้ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ คือ - ผู้บริหารระดับสูง การให้ความสำคัญกับการศึกษาวิเคราะห์ถึงการใช้ความรู้ ความชำนาญ และขีดความสามารถของพนักงานที่ปฏิบัติงานในองค์การแต่ละระดับหรือแต่ละตำแหน่ง จัดเป็นแนวทางการวางแผนการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์แบบใด - การวางแผนจากล่างขึ้นบนและการวางแผนแบบผสม การบริหารงานโดยยึดวัตถุประสงค์(MANAGEMENT BY OBJECTIVE :MBO)เป็นเทคนิควิธีการที่ใช้ในการวางแผนทรัพยากรมนุษย์แนวทางใด - การวางแผนแบบผสม “การสรรหา” วิธีใดที่เป็น “แนวทางเชิงรุก” - การเสาะแสวงหาโดยตรง การสรรหาวิธีใดที่มีหลักสามประการ คือการประกาศต้องเป็นการดึงดูด(ASTTRACTIVE)ต้องการและทั่วถึง(COMPREHENSIVE)และการกำหนดระยะเวลาให้ยาวนานพอสมควร - การโฆษณา การเปลี่ยนตำแหน่งจากตำแหน่งเดิมไปสู่ตำแหน่งใหม่ที่มีลักษณะเปลี่ยนสังกัด จัดเป็นความหมายข้อใด - การโอน การย้าย หมายถึง - การเปลี่ยนจากตำแหน่งเดิมไปสู่ตำแหน่งใหม่ในสังกัดเดียวกัน ตัวแบบ RLBR MODEL มุ่งอธิบายกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ในเรื่องใด - การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มุ่งเน้น · ปฏิกริยา · การเรียนรู้ · พฤติกรรม · ผลลัพท์ “”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””หน่วยที่ 10 ความหมายของ “เทคโนโลยีสารสนเทศ”(INFORMATION TECHNOLOGY)คือ - เทคโนโลยี 2 ด้านหลักที่ประกอบด้วย · เทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์ · เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมที่ผนวกเข้าด้วยกัน เพื่อใช้ในกระบวนการจัดหา จัดเก็บ สร้าง และเผยแพร่สารสนเทศในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นเสียง ภาพ ภาพเคลื่อนไหว ข้อความหรือตัวอักษรและตัวเลขเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความถูกต้อง ความแม่นยำ และความรวดเร็วให้ทันต่อการนำไปใช้ประโยชน์ การประมวลผล(PROCESSING) คือการเปลี่ยนรูปแบบข้อมูลให้อยู่ในรูปที่มีความหมาย ซึ่งอาจได้แก่ การคำนวณ การสรุป หรือการจัดหมวดหมู่ของข้อมูลประมวลผลประกอบด้วย องค์ประกอบย่อยดังนี้ - บุคลากร - กระบวนการ - ฮาร์ดแวร์ - ซอฟต์แวร์ KNOWLEDGE-BASED SOCEITY ตามแนวของ ALVIN TOFFLER คือสังคมใด - สังคมคลื่นลูกที่ 3 - อุตสาหกรรมแนวใหม่ๆ อันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งอารยธรรมในช่วงที่ 2 - ซึ่งเป็นยุคแห่งโรงงานและอุตสาหรรม คลื่นลูกที่ 1 คือ - การปฏิวัติด้านการเกษตรกรรมประมาณ 10,000 ปีมาแล้ว - อำนาจจะอยู่ที่กำลังผู้ปกครอง ประชาชนคอยรับคำสั่งเท่านั้น - เป็นการปกครองแบบเผด็จการ คลื่นลูกที่ 2 คือ - การเปลี่ยนแปลงสำคัญทางสังคมและเทคโนโลยี - ช่วงต้นแห่ง ทศวรรษที่ 1950-1959 - เป็นต้นกำเนิดของพรรคการเมือง เพื่อสนับสนุนตัวแทนของกลุ่มต่างๆ - ที่มีความขัดแย้งกันเข้าไปรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มตน - ดุลแห่งอำนาจจึงเปลี่ยนมาอยู่ที่ “กลุ่มผลประโยชน์และพรรคการเมือง” คลื่นลูกที่สาม (THIRD WAVE) หมายถึง อุตสาหกรรมแนวใหม่ อันเป็นยุคเริ่มต้นแห่งอารยธรรมในช่วงที่ 2 ซึ่งเป็นยุคแห่งโรงงานและอุตสาหกรรมการเปลี่ยนแปลงต่างๆมีหลายประการ คือ - การพัฒนาเครื่องจักรกลคอมพิวเตอร์(COMPUTERS) - การพัฒนาดด้านอิเล็กทรอนิกส์(ELECTRONIC) - การพัฒนาเทคโนโลยีข่าวสาร(INFORMATION) - ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพ(BIOTECHNOLOGY) ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร คือ - MANAGEMENT INFORMATION SYSTEM : MIS วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ อาจแบ่งเป็นยุคได้ดังนี้ - ยุคก่อนเครื่องจักร(PREMACHANICAL) - ยุคเครื่องจักรกล(MACHANICAL) - ยุคเครื่องจักรกลระบบอิเล็กทรอนิกส์(ELECTROMECHANICAL) - ยุคเครื่องอิเล็กทรอนิกส์(ELECTRONIC) ขนาดของเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ขนาด ดังนี้ - ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ - เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ - มินิคอมพิวเตอร์ - ไมโครคอมพิวเตอร์ TRANSLATION PROGRAM เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการแปลโปรแกรม หรือ ชุดคำสั่งที่เขียนด้วยภาษาที่ “ไม่ใช่ภาษาเครื่อง” หรือ “ภาษาเครื่องที่ไม่เข้าใจให้เป็นภาษาที่เครื่องสามารถรู้เรื่องเข้าใจ และนำไปปฏิบัติได้ คือ - ASSEMBLY CIO คือตำแหน่งใด - ผู้นำการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง INFORMATION TECHNOLOGY SECURITY คือ - การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงปลอดภัย .............................................................................................................................หน่วยที่ 11 1. การค้นแสวงหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งหลังจากที่ได้มีการวิเคราะห์นโยบายที่ถูกต้อง คือ - สิ่งที่รัฐทำหรือดำเนินการ 2. ในแง่ของหลักการการวิเคราะห์นโยบาย โดยทั่วไปเป็นการพยายามค้นแสวงหาสิ่งใด - สิ่งที่รัฐทำหรือดำเนนการ - พยายามค้นหาเหตุผลว่าที่รัฐบาลทำ ทำไมรัฐบาลจึงทำ 3. ประเด็นของการวิเคราะห์นโยบายที่รัฐประศาสนศาสตร์ให้ความสนใจ คือ - ปัญหาของนโยบาย - ประเด็นเชิงปทัสถานที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรม 4. ตัวอย่างของนักรัฐศาสตร์และนักสังคมศาสตร์ ให้ความสนใจทฤษฎีหรือ “ตัวแบบชนชั้นนำ”ที่ถูกต้อง - VILFREDO PARETO - GASTANO MOSCA - ROBERT MICHELS - HAROLD D.LASSWELL - C.WRIGHT MILLS ที่ไม่ใช่คือ - THOMAS R.DYE 5. ตามตัวแบบ “ทฤษฎีกลุ่ม บทบาทหน้าที่ของระบบการเมือง”ที่มีบทบาทหน้าที่ในการจัดการความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆ คือ - การสร้างกติกาต่อสู้ระหว่างกลุ่ม - การประนีประนอมและจัดสรรผลประโยชน์กับกลุ่มต่างๆ 6. ตามตัวแบบทฤษฎีระบบ “ปัจจัยนำเข้า” หรือ INPUT คือ - การสนับสนุนต่อระบบการเมือง ตามตัวแบบทฤษฎีระบบ “ปัจจัยนำออก”(OUTPUTS) คือ - การตัดสินใจหรือนโยบาย 7. ตามตัวแบบสถาบันใหม่ ในแง่ของหลักการถือกันว่าเป็นตัวแบบที่ให้ความสำคัญกับสถาบันทางการเมืองโดยมุ่งไปในประเด็นใด - การทำนายเชิงทฤษฎีรวมทั้งประเภทหรือชนิดของนโยบาย 8. JOHN W.KINGDON - จากการศึกษาได้สังเกตว่า มี 3 กระแสหลัก ที่ต่างเป็นอิสระต่อกันที่ทำให้เป็นที่มาของ “กระบวนการนโยบาย” คือ · กระแสปัญหา · กระแสการเมือง · กระแสนโยบาย 9. ตัวแบบ “กระแสหน้าต่าง”นโยบายพัฒนาขึ้นมาโดยใคร - JOHN W.KINGDON 10. ตามตัวแบบเหตุผล เวลาที่มีการเลือกนโยบายที่มีเหตุผล ผู้กำหนดนโยบายโดยทั่วไปจะต้องรู้และ/หรือจะต้อสามารถในเรื่องใด - ทางเลือกของนโยบายทุกทางเลือก - ผลของทางเลือกนโยบายแต่ละทางเลือก - เลือกทางเลือกนโยบายที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดได้ - คำนวณหาอัตราส่วนผลตอบแทนและค่าใช้จ่ายที่เสียไปในแต่ละทางเลือก 11. ตามทฤษฎีเกม องค์ประกอบของเกมที่ถูกต้อง คือ - ต้องมีทรัพยากร อาทิ ทรัพย์สินเงินทอง - ต้องมียุทธวิธี - ต้องมีเป้าหมายที่ผู้เล่นแต่ละคนพึงมี - ต้องมีผู้เล่นอย่างน้อย 2 คน 2 กลุ่ม 2 ฝ่าย 12. ใครคือบุคคลแรกที่ให้ความสนใจกับ “การวางแผนกลยุทธ์” - ALEVED CHANDLERS,Jr 13. ใครคือผุ้เสนอตัวแบบเพิ่มเติม หรือตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป - CHARLES E.LINBLOM “””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””” หน่วยที่ 12 สาเหตุหลักที่ผลักดันให้กระแสการปฏิรูปการบริหารงานภาครัฐเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ - ภาครัฐยุคใหม่ต้องปรับลดบทบาทจากผู้ปกครองเป็นผู้ให้บริการ - ภาครัฐไม่สามารถปรับตัวได้ทันต่อเหตุการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็ว รุนแรง เปิดกว้างและมีการแข่งขันสูง - ภาครัฐมีความอ่อนแอล้าสมัยไม่สามารถบริหารจัดการประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศตกต่ำ เกิดภาวะหนี้ท่วมท้น - สังคมเสื่อมศรัทธาในภาครัฐทั้งในเรื่องของการบริหารและการทุตจริตประพฤติมิชอบ ความหมายของการบริหาร “มุ่งผลสัมฤทธิ์” คือ - การบริหารโดยมุ่งผลลัพท์ที่เกิดกับประชาชน หรือ ผู้รับบริการ - ปรับปรุงงานบริการให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตามที่ประชาชนต้องการ - รายงานผลงานให้สาธารณธทราบ การที่ประเทศมี “ธรรมาภิบาล” ควรประกอบด้วย - เป็นสังคมที่มีกลไกกติกาการบริหารจัดการที่ดีเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ เอกชน และภาคประชาชนเข้าด้วยกัน - มีกลไกแกนในการสร้างความสมดุลระหว่างองค์ประกอบต่างๆของสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข - สังคมมีเสถียรภาพ และมีการพัฒนาที่ยั่งยืน ตัวบ่งชี้วัดผลงานตามแนวทาง “การบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์” จะประกอบด้วยตัวบ่งชี้สำคัญต่อไปนี้ - ตัวบ่งชี้กระบวนการ(PROCESS INDICATORES) ตัวบ่งชี้ “สารสนเทศเชิงอธิบาย “EXPLANATORYINFORMATION)เป็นตัวบ่งชี้วัดผลงานตามแนวทางหลักการใด - การบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ทฤษฎีรัฐประศาสนศาสตร์ มีหลายประเภท คือ - ทฤษฎีพรรณนา - ทฤษฎีปทัสถาน - ทฤษฎีว่าด้วยสันนิษฐาน - ทฤษฎีว่าด้วยวิธีการ การเกิดขึ้นของการบริหารภาครัฐแนวใหม่ ควบคู่ ไปกับกระแสการเปลี่ยนแปลงทางการบริหารที่สำคัญๆ กล่าวคือ - ความพยายามที่จะลดหรือชะลอการเจริญเติบโตของรัฐบาลที่มีการใช้จ่ายเงินที่เกินตัว และใช้กำลังคนมากเกินความจำเป็น - การปรับเปลี่ยนไปให้ความสำคัญในการแปรรูปกิจการของรัฐ ไปเป็นกิจการของภาคเอกชนหรือกึ่งเอกชน - พัฒนาการของระบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนในเรื่องการผลิตและการส่งมอบบริการ - พัฒนาการของการบริหารที่เป็นสากลมากขึ้น เช่น การให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการภาครัฐ การกำหนดนโยบายรูปแบบการตัดสินใจและการร่วมมือระหว่างรัฐบาล รูปแบบของการแปรรูปกิจการของรัฐไปสู่เอกชน ในข้อใดที่มีการดำเนินการอย่างกว้างขวางมากที่สุด - การให้สัมปทาน(FRANCHISING) *น้อยที่สุด คือ การให้สิทธิบัตร ข้อควรพิจารณาในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้วยวิธีการว่าจ้างเอกชนจัดทำบริการสาธารณะมีดังนี้ - มีการใช้งบประมาณน้อยลงเมื่อมีการว่าจ้างเอกชนจัดทำบริการสาธารณะ - ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของผู้รับจ้างภาคเอกชนจะต้องเกี่ยวกับประสิทธิภาพเชิงเทคนิคในการให้บริการตามสัญญาจ้าง - ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของเอกชนผู้รับจ้าง จะต้องทำให้เกิดผลต่อประสิทธิภาพของหน่วยงานภาครัฐในฐานะผู้ว่าจ้างนั้นด้วย การร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน(PPPs) จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต้องดำเนินการตามข้อใดสำคัญที่สุด - กำหนดนโยบายด้านการประเมินผลและการตรวจสอบการดำเนินการ ที่ต้องดำเนินการเป็นขึ้นตอนแรก คือ กำหนดนโยบายและการวางแผน รัฐวิสาหกิจแรกของไทย ที่ได้มีการดำเนินการตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในกฏหมายว่าด้วย “ทุนรัฐวิสาหกิจ” คือหน่วยงานใด - การปิโตรเลี่ยมแห่งประเทศไทย - แปรรูปจากรัฐวิสาหกิจไปสู่ความเป็นบริษัทมหาชนในปี พ.ศ.2544 - มีทุนจดทะเบียนทั้งหมด 28,500 ล้านหุ้น - นำหุ้นออกมาขายจำนวน 220 ล้านหุ้นหมดในเวลา 1.25 นาที กฏหมายฉบับหนึ่งที่รัฐใช้เป็นเครื่องมือในการ “แปลงทุน” ของรัฐวิสาหกิจให้เป็น “หุ้น”เพื่อที่จะเข้าสู่กระบวนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่อไป คือ - พระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2542” ประเทศไทยนำรูปแบบ “การร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน”มาใช้อย่างเป็นทางการ โดยมีโครงการนำร่องในข้อใด - โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(บางปะอิน-โคราช) - ระยะทาง 199 กิโลเมตร อยู่ในแผนการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง - เร่งด่วนระยะ 10 ปี (พ.ศ.2550-2560) - โครงการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ - โครงการบริหารจัดการอุทยาน “””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””” หน่วยที่ 13 1. นักวิชาการที่เสนอแนวคิดเกี่ยวกับ “คลื่นการปฏิวัติของโลก” คือใคร - เอลวิท ท๊อฟเลอร์ คลื่นลูกแรก เป็นการปฏิวัติทางเกษตรกรรม คลื่นลูกที่ 2 เป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรม ช่วง ค.ศ.ที่ 17 คลื่นลูกที่ 3 เป็นการปฏิวัติทางเทคโนโลยีการสื่อสาร โทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ 2. แนวคิดเกี่ยวกับ REINVENTING GOVERNMENT เกิดขึ้นในประเทศใด - สหรัฐอเมริกา - เสนอโดยประธานาธิบดี บิล คลินตัน ในปี ค.ศ.1993 - ให้รัฐปรับบทบาทจากการทำเอง(ROW) มาเป็นการกำกับทิศทาง(STEER) - เพิ่มอำนาจให้ชุมชนในการแก้ไขปัญหาของตนเองมากกว่าเพียงเป็นผู้ให้บริการสาธารณะเท่านั้น - ส่งเสริมให้มีการแข่งขันแทนการผูกขาด - ให้ความสำคัญกับผลสัมฤทธิ์มากกว่าปัจจัยนำเข้า 3. ผู้ที่เสนอแนวคิดเกี่ยวกับ “ราชาปราชญ์”(PHILOSOPHY KING)คือใคร - เพลโต(PLATO) - เป็นผู้ปกครองที่มีความรู้ มีคุณธรรม ส่วนอริสโตเติล (ARISTOTLE) เห็นคล้ายคลึงว่า - รูปแบบการปกครองแบบราชาปราชญ์เป็นการปกครองที่ดีที่สุด - ส่วนรูปแบบการปกครองที่ เลวที่สุด คือ รูปแบบประชาธิปไตยเนื่องจากเป็นการปกครองของคนหมู่มากที่ไม่มีความรู้ ฮอบบ์ (HOPPES) - มนุษย์มารวมกันอยู่ในสังคมและมอบสิทธิที่มีอยู๋ตามธรรมชาติให้แก้ผู้ปกครอง แลกเปลี่ยนกับความคุ้มครองที่ผู้ปกครองจะให้แก่คนในสังคมนั้น ล็อค (LOCK) - แม้ว่า มนุษย์จะมอบสิทธิตามธรรมชาติที่มีอยู่แต่เดิมให้กับผู้ปกครองก็ตาม แต่หากผู้ปกครองปกครองโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่สามารถให้ความคุ้มครองคนในสังคมได้ ประชาชนก็สามารถถอดผู้ปกครองออกได้ 4. การบริหารราชการส่วนกลาง เป็นการบริหารราชการแบบใด - แบบรวมอำนาจ(CENTRALIZATION) - แบ่งเป็นกระทรวง ทบวง กรม การบริหารราชการส่วนภูมิภาค เป็นการบริหารราชการแบบใด - แบบมอบอำนาจ(DECONCENTRATION) - แบ่งเป็น จังหวัด อำเภอ การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น เป็นการบริหารราชการแบบใด - แบบแบ่งอำนาจ หรือ กระจายอำนาจ - แบ่งเป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล การปกครองรูปแบบพิเศษ 5. กฎหมายหลักในการบริหารราชการแผ่นดินไทย ขณะนี้คือ - พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการแผ่นดิน พ.ศ.2550 6. ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย ฉบับแรกเริ่มต้นใน พ.ศ.ใด - พ.ศ.2547 ฉบับที่ 1 พ.ศ.2546-2550 ฉบับที่ 2 พ.ศ.2551-2555 7. ในระดับจังหวัด มีองค์กรใดทำหน้าที่ที่ปรึกษา “ผู้ว่าราชการจังหวัด” - คณะกรรมการจังหวัด ประกอบด้วย - ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน - รองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ผู้ว่าฯมอบหมาย 1 คน - ปลัดจังหวัด - อัยการจังหวัด ซึ่งหัวหน้าที่ทำการอัยการจังหวัด - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด - หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดจากกระทรวงและทบวงกรมต่างๆ - เว้นแต่กระทรวงมหาดไทยที่ประจำอยู่ในจังหวัด กระทรวงหรือทบวงละ 1 คน เป็นกรรมการจังหวัดและหัวหน้าสำนักงานจังหวัดเป็นกรรมการจังหวัดและเลขานุการ 8. ระบบผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลใด - รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 9. การปกครองท้องถิ่นไทย มีจุดเริ่มต้นในข้อใด - การจัดตั้งสุขาภิบาลท่าฉลอม 10. องค์การบริหารส่วนจังหวัด จัดตั้งเทื่อใด - พ.ศ. 2498 11. หน่วยงานบริการรูปแบบพิเศษ หมายถึง - หน่วยงานที่มีสถานะเป็นหน่วยงานให้บริการภายในระบบราชการ - มีลักษณะกึ่งอิสระแต่ไม่มีสถานะเป็น “นิติบุคคล” - ถือเป็นส่วนหนึ่งของ กระทรวง หรือ กรม อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ “ปลัดกระทรวง” หรือ “อธิบดี” ได้แก่ · สำนักงานกษาปณ์ · กรมธนารักษ์ · สถาบันส่งเสริมการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี · สำนักงาน ก.พ.ร. 12. การบริหารราชการแผ่นดินของประเทศต่างๆจะมีระเบียบบริหารที่อาจมีความเหมือนกันหรือแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่ - รูปแบบของรัฐ - รูปแบบการบริหารงานของรัฐ 13. การจัดการบริหารภาครัฐ ขณะนี้ใช้แนวทางการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ที่เน้น - ประชาชนเป็นศูนย์กลาง และมีส่วนร่วม - ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล สามารถวัดผลได้เป็นนามธรรม 14. การจัดความสัมพันธ์ระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น อยู่บนพื้นฐานของหลักการ - การรวมอำนาจ - การมอบอำนาจ - การแบ่งอำนาจ 15. ในสังคมโลกาภิวัตน์ บทบาทรัฐได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากบทบาทหลักในการบริหารประเทศในเกือบทุกด้านเปลี่ยนมาเป็นบทบาทกำกับ ดูแล และสนับสนุนส่งเสริมโดยจะทำภารกิจสำคัญๆที่จำเป็น ได้แก่ - การป้องกันประเทศ - การต่างประเทศ - การยุติธรรม “”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””หน่วยที่ 14 แนวคิดการมีส่วนร่วมของประชาชนในทาง “รัฐประศาสนศาสตร์” มาจากรากฐานหรือ ปรัชญา ของใคร - โธมัส เจฟเฟอร์สัน(THOMAS JEFFERSON) - ที่มองว่าภาครัฐ ควรมีบทบาทให้น้อย และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครองมากยิ่งขึ้น องค์กร INTERNATIONAL ASSOCIATION FOR PUBLIC PARTICIPATION (IAP2) ซึ่งเป็นองค์กรสากลที่ส่งเสริมและพัฒนาเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนมองว่าระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เป็นระดับการเข้ามามีส่วนร่วมที่น้อยที่สุด - การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน(TO INFORM) แนวคิดและทฤษฎีทาง “พฤติกรรมศาสตร์”อยู่บนความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องใด - พฤติกรรมเกิดจากแรงจูงใจ กระบวนการที่สร้างความตื่นตัวในการพัฒนาเพื่อสร้างความยั่งยืนของชุมชน โดยอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรมในสังคมและการเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน เป็นกระบวนการที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดเรื่องใด - แนวคิดการพัฒนาชุมชน ฐานคติ...ที่สำคัญของแนวคิดเรื่อง “ทางเลือกสาธารณะ คือ - มองว่าปัจเจกบุคคลโดยธรรมชาติ ยึดประโยชน์ตนเองเป็นหลัก มีเหตุมีผล และต้องการมีทางเลือก - วิธีการดำเนินการบริหารต้องปรับให้เหมาะสมกับสินค้าและบริการสาธารณธแต่ละประเภท - พิจารณาว่าการถ่วงดุลและการแข่งขันเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น - รูปแบบของการบริหารควรมีลักษณะที่ส่งเสริมให้แต่ละองค์การต้องทำการตัดสินใจในรูปของหลักเหตุผล และสามารถสนองตอบต่อความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด ESCAP มองว่า “หลักธรรมาภิบาล”มีองค์ประกอบที่ประกอบด้วย กี่หลักการ - 8 หลักการ แนวคิดชุมชนนิยม (COMMUNITARIANISM) เป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิด - การยอมรับศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์และการคงอยู๋ร่วมกันในสังคม ที่เน้นให้ความสำคัญต่อการสร้างศีลธรรมและคุณธรรม การหยิบยกประเด็นหัวข้อในเรื่องเรื่องหนึ่งขึ้นมาทำการสนทนาร่วมกัน ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาของสังคมหรือข้อกังวลใจต่างๆ มาปรึกษาหารือหาทางออกโดยไม่ได้ เน้นนำมาใช้ในการตัดสินใจ เรียกวิธีการแบบนี้ว่า - การจัดเสวนาหาทางออก ตัวบ่งชี้ ที่นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการวัดผลสัมฤทธิ์ ที่เกิดขึ้นจากการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เรียกตัวบ่งชี้ นี้ว่า - KPI การนำตัวชี้วัด มาใช้ในการประเมินความสำเร็จของการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน จะต้องเริ่มต้นขั้นตอนแรกคือ - การกำหนดวัตถุประสงค์ ............................................................................................................................................................. หน่วยที่ 15 องค์ประกอบของ “หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี” มี 6 ประการ คือ - หลักนิติธรรม - หลักคุณธรรม - หลักความโปร่งใส - หลักการมีส่วนร่วม - หลักความรับผิดชอบ - หลักความคุ้มค่า ที่ไม่ใช่คือ -หลักประสิทธิภาพ ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 ได้กำหนดให้การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เป็นการปฏิบัติราชการที่มีความมุ่งหมายให้บรรลุเป้าหมาย 7 ประการ คือ - เกิดประโยชน์สุขของประชาชน - เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ - มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ - ไม่มีขั้นตอนปฏิบัติงานเกินความจำเป็น - มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อเหตุการณ์ - ประชาชนได้รับความสะดวกและได้รับการตอบแทนสนองความต้องการ - มีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ แนวคิดการบริหาร “แบบมุ่งผลสัมฤทธิ์”(RESULTBASED MANAGEMENT) เป็นแนวคิดที่มุ่งหวังให้บรรลุเป้าหมายของการบริหารภาครัฐในเรื่อง - เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ นักวิชาการสำนัก “นีโอคลาสสิก”มีจุดเน้นสำคัญอยู่ที่เรื่องใด - การลดบทบาทและขนาดของภาครัฐลง ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ ที่มองว่า “พฤติกรรมของมนุษย์สามารถอธิบายได้ในรูปแบบของพันธสัญญา(CONTRACTS)โดยที่บุคคลฝ่ายหนึ่งจะเข้ามาทำการตกลงแลกเปลี่ยน(EXCHANGE)กับอีกฝ่ายหนุ่งหรือผู้รับจ้าง - ทฤษฎีผู้ว่าจ้างและตัวแทน มาตรการในการเปิดโอกาสให้ประชาชนมี “ทางเลือกและร้องเรียนได้” คือ - การเพิ่มช่องทางให้แก่ประชาชนในการเข้าถึงบริการสาธารณะให้หลากหลายมากขึ้น BUSINESS-LIKE APPROACH หมายความว่า - ภาครัฐมองว่าสามารถนำเทคนิคและเครื่องมือที่ใช้อยู่ในภาคเอกชนมาประยุกต์ใช้ในภาครัฐได้เช่นกัน ในการบริหารภาครัฐโดยภาครัฐของไทยที่เรียกว่า “การบริหารงานเชิงยุทธศาสตร์”ได้มีการนำเครื่องการบริหารใดมาใช้ - BALANCED SCORECARD หรือ “การบริหารงานแบบมุ่งสมดุล” - โดยได้ประยุกต์ 4 มิติที่ใช้ในภาคธุรกิจมาเป็น 4 มิติที่ประกอบด้วย · มิติประสิทธิภาพ · มิติคุณภาพการบริการ · มิติประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการ · มิติการพัฒนาองค์กร นักวิชาการที่สำคัญ “เออร์วิน และ สแตนบูรี่ (IRVIN AND STANSBURY)เห็นว่าเงื่อนไขการจูงใจให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารงานภาครัฐ มีเครื่องชี้วัดที่สำคัญ 2 ประการที่สำคัญ คือ - เครื่องชี้วัดค่าใช้จ่ายต่ำ และเครื่องชี้วัดผลประโยชน์สูง ข้อใดเป็นค่านิยมของ “กระแสแนวคิดทางรัฐศาสตร์” - TRANSPARENCY กระแสแนวคิดอื่นๆ คือ - EFFECTIVENESS กระแสแนวคิดการจัดการนิยม - RULE OF LAW กระแสแนวคิดทางนิติศาสตร์ - EFFECIENCY กระแสแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ “””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””” |