คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของโรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ?. ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้ อก. รับความเห็นของ อว. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย Show ทั้งนี้ อก. เสนอว่า 1. โดยที่มาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย ปี พ.ศ. 2561 ? 2570 ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ในส่วนของมาตรการขจัดอุปสรรคการลงทุนและสร้างปัจจัยสนับสนุนได้กำหนดให้ อก. (กรมโรงงานอุตสาหกรรม) เพิ่มบัญชีประเภทกิจการอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพในบัญชีประเภทโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อแยกอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพออกจากอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ อก. จึงดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานปรับปรุงแก้ไขประเภทหรือชนิดของโรงงานตามบัญชีท้ายกฎกระทรวง (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 เพื่อปรับปรุงแก้ไขประเภทหรือชนิดของโรงงานตามบัญชีท้ายกฎกระทรวง (พ.ศ. 2535)ฯ รวมทั้งยกร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ?. ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 เพื่อเพิ่มประเภทหรือชนิดของโรงงานประกอบกิจการทำเคมีภัณฑ์ หรือสารเคมี หรือวัสดุเคมี โดยกระบวนการเคมีชีวภาพ และการผลิตพลาสติกชีวภาพ 2. ต่อมาได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับแล้วเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2562 อก. จึงดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวง (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติดังกล่าวก่อน จึงไม่อาจดำเนินการร่างกฎกระทรวงตามข้อ 1. ต่อไปได้ โดยดำเนินการยกเลิกกฎกระทรวงเดิมและออกเป็นกฎกระทรวงฉบับใหม่ คือ กฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของโรงงาน พ.ศ. 2563 ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงบัญชีประเภทหรือชนิดของโรงงานท้ายกฎกระทรวง (พ.ศ. 2535)ฯ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2563 3. โดยที่กฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของโรงงาน พ.ศ. 2563 ตามข้อ 2. ยังไม่มีความชัดเจนในการประกอบกิจการโรงงานหลักที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมชีวภาพ (Bio Industry) ซึ่งเดิมมีการพิจารณาจัดรวมอยู่ในประเภทหรือชนิดของโรงงานลำดับที่ 42ฯ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติได้ ประกอบกับเพื่อเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมชีวภาพ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมใหม่และเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล (S ? Curve) อีกทั้งยังก่อให้เกิดผลดีในการกำกับดูแลการประกอบกิจการโรงงานอันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปและสิ่งแวดล้อมโดยรวมมากยิ่งขึ้น จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีท้ายกฎกระทรวงฯ โดยเพิ่มประเภทโรงงานอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ 3 ประเภทให้เป็นโรงงานจำพวกที่ 3 (ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานก่อนจึงจะดำเนินการได้) ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องและให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 กรกฎาคม 2661 โดยจัดทำเป็นร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาด ของโรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ?. 4. อก. โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างกฎกระทรวงตามข้อ 3 แล้ว สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง แก้ไขเพิ่มเติมประเภทหรือชนิดของโรงงานในลำดับที่ 42 แห่งบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของโรงงาน พ.ศ. 2563 โดยเพิ่มประเภทโรงงานอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ 3 ประเภท ให้เป็นโรงงานจำพวกที่ 3 ได้แก่ (1) การทำเคมีภัณฑ์หรือสารเคมี หรือวัสดุเคมี ซึ่งใช้วัตถุดิบพื้นฐานทางการเกษตรหรือผลิตภัณฑ์อื่นที่ต่อเนื่อง โดยใช้กระบวนการเคมีชีวภาพเป็นพื้นฐาน (2) การผลิตพลาสติกชีวภาพจากเคมีภัณฑ์หรือสารเคมี หรือวัสดุเคมีที่ผลิตจากวัตถุดิบ พื้นฐานทางการเกษตรหรือผลิตภัณฑ์ที่ต่อเนื่อง และ (3) การผลิตพลาสติกชีวภาพจากเคมีภัณฑ์ หรือสารเคมี หรือวัสดุเคมีที่ผลิตจากวัตถุดิบพื้นฐานทางการเกษตรหรือผลิตภัณฑ์ที่ต่อเนื่องรวมกับวัตถุดิบที่ผลิตมาจากปิโตรเลียม และทำให้พลาสติกชีวภาพนั้นสลายตัวได้ทางชีวภาพ ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 เมษายน 2564 ก่อนอื่น นิยามใหม่ของคำว่า โรงงาน ได้ถูกปรับให้เป็น อาคาร สถานที่ หรือ ยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังรวมตั้งแต่ 50 แรงม้า (HP) หรือใช้คนตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปในการผลิต ทั้งนี้จากเดิมคือ กำลังรวมตั้งแต่ 5 แรงม้า หรือ คน7คนขึ้นไป เพื่อช่วยผู้ประกอบการ และให้สอดคล้องกับ การทำธุรกิจในปัจจุบัน ได้ออกมาเป็น “กฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิดและขนาดของโรงงาน พ.ศ. 2563”
ประกาศให้ในวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยยังแบ่งโรงงานเป็น 3 จำพวกเช่นเดิม แต่จะมีการปรับให้เหมาะสมขึ้นดังนี้. คือ โรงงานที่ มีเครื่องจักรรวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน 20 แรงม้า ( HP) หรือเทียบเท่า และมีพนักงาน หรือ คนงานไม่เกิน 20 คน ถูกถอดออกจากบัญชี ไม่เข้าข่ายการเป็นโรงงานตามกฎหมายอีกต่อไป
คือ โรงงานที่ มีเครื่องจักรรวมกันทั้งสิ้น ไม่เกิน 75 แรงม้า ( HP) และมีพนักงาน หรือ คนงานไม่เกิน 75 คน หากเป็นโรงงานประเภทนี้ จะสามารถประกอบกิจการได้ทันที ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน แต่ต้องมีการชำระค่าธรรมเนียมในแต่ละปี แต่ต้องไม่เข้าข่ายโรงงานที่ส่งผลต่อมลพิษและสิ่งแวดล้อม คือ โรงงานที่ มีเครื่องจักรรวมกันทั้ง 75 แรงม้าขึ้นไป ( HP) หรือเทียบเท่า และมีพนักงาน หรือ คนงานมากกว่า 75
คนขึ้นไป หากเป็นโรงงานประเภทนี้ต้องขออนุญาตตั้งโรงงานต่อกรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรมด้วยนะครับ และเมื่อไปขอแล้วจะได้รับเอกสาร รง.3 และต้องยื่นขอเอกสารอนุญาตประกอบกิจการโรงงานด้วย นั่นก็คือ รง.4 และเมื่อได้รับเอกสารทั้งหมดนี้แล้ว จะสามารถเปิดใช้โรงงานของเราได้ครับ โดย รง.4 นี้ในอดีตเราจะต้องไปต่ออายุทุกๆ 5 ปี โดยค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับประเภทและขนาดของเครื่องจักรอีกด้วย และในปัจจุบัน ได้มีการยกเลิกการต่ออายุ ใบ รง.4 แล้ว พูดง่ายๆก็คือ ใบ รง.4 จะไม่มีวันหมดอายุแล้วนั่นเอง โดยนับตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา (ในสมัยก่อนนั่น การต่อใบ รง.4 ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการ คอรัปชั่น และความไม่โปร่งใสต่างๆ และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างมาก อีกด้วย) ฉะนั้นแล้ว การวางแผนในการก่อสร้าง และรู้ถึงกฏหมายเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ท่านเจ้าของ หรือผู้เข้ามาอ่านทั้งหลาย สามารถใช้ข้อมูลข้างบนนี้เพื่อจำแนกประเภทโรงงานหรือกิจการของเราได้ด้วยตัวเอง และยังมีข้อมูลเชิงลึกกว่านั้น ในกฎกระทรวง 2563 (ฉบับเดียวกัน) ที่ยังระบุประเภทโรงงาน โดยแยกย่อยออกมาอย่างละเอยีดแลัชัดเจน เพื่อให้ ผู้ออกแบบและเจ้าของ รู้ถึงประเภทของโรงงาน ของเรา โดยสามารถศึกษาได้ตาม ลิ้งค์นี้ ดังต่อไปนี้ ฉบับเต็ม https://download.asa.or.th/03media/04law/fa/mr63-03.pdf หรือตาม web-site กรมโรงงานอุตสาหกรรม https://www.diw.go.th/datahawk/factype.php และสำหรับท่านผู้ประกอบการ ทางเรา EASY WAREHOUSE มีให้บริการการก่อสร้างงานโรงงาน แบบ one-stop-service ตั้งแต่ออกแบบจนก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยสามารถศึกษาผลงานเพิ่มเติมและข้อมูลของพวกเราได้ ที่ FACEBOOK หรือ ช่อง ผลงาน ด้านบน ครับ Post Views: 1,284 |