การเขียนแบบควบคุม เครื่องกล ไฟฟ้า

เมือ่ ทามเมอร์รเี ลย์หน่วงเวลาจนถึงเวลาทีต่ ง้ั ไว้ หน้าสมั ผัสทกุ ชุดจะเปลีย่ นตาแหน่งทันที และจะคง
สภาพไว้ตลอดเวลาทีย่ งั จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าข้ัว 2 และ 7 หนา้ สัมผัสทุกชุดจะเปลี่ยนตาแหน่งอีกครั้งเม่อื
หยุดจ่ายกระแสไฟฟ้า ดังน้ันตาแหน่งของหน้าสัมผสั จะเหมอื นกบั ตาแหน่งของหน้าสมั ผัสขณะทีย่ ังไม่จา่ ย
กระแสไฟฟ้าเข้าทีข่ ว้ั 2 และ 7

รปู ที่ 1-41 รปู แสดงการใช้โอห์มมิเตอรว์ ัดค่าความตา้ นทานของหน้าสัมผสั ของทามเมอรร์ ีเลย์
แบบหนว่ งเวลาหลังจา่ ยกระแสไฟฟ้าเข้า เมือ่ ถึงเวลาทีต่ ง้ั ไว้

เมือ่ ทามเมอร์รเี ลย์หน่วงเวลาจนถึงเวลาที่ตง้ั ไว้ หน้าสมั ผัสทกุ ตัวจะเปลี่ยนตาแหน่ง หน้าสมั ผัสปกติ

ปิด (NC) กจ็ ะจากออก และหน้าสมั ผัสปกติเปิด ( NO) กจ็ ะต่อวงจร เมื่อใชโ้ อห์มมเิ ตอร์วดั และอ่านค่าความ

ต้านทานของหน้าสมั ผสั ปกติปิดจะมีคา่ ความตา้ นทานสงู มากและหน้าสมั ผสั ปกติเปิดกจ็ ะมีค่าความ

ต้านทานต่า

หมายเลขข้ัว หนา้ สัมผสั ค่าความตา้ นทานที่อ่านได้

1 - 4 NC สงู สดุ

1 - 3 NO ตา่ สุด

8 - 5 NC สูงสุด

8 - 6 NO ต่าสดุ

การตรวจสอบสภาพของอปุ กรณ์ตา่ งๆที่ใชใ้ นงานควบคมุ เครื่องกลไฟฟ้าน้ัน นอกจากการตรวจสอบสภาพ
ภายนอกแล้วจะต้องตรวจสภาพของหนา้ สัมผสั ( Contact) ตา่ งๆ ท้ังในสภาพปกติหรอื ขณะอปุ กรณ์ยังไม่
ทางานและในขณะทางานนั่นคอื หนา้ สมั ผัสเปลีย่ นตาแหน่งแล้ว ท้ังนเี้ พือ่ ให้แนใ่ จว่าอุปกรณ์ต่างๆสามารถ
ใช้งานได้จรงิ ๆหรอื ไม่

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรักษาระบบปัม้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 25

การควบคมุ มอเตอร์
ในการตดิ ตั้งวงจรควบคุมมอเตอรไ์ ฟฟ้านั้นมีหลกั เกณฑ์ หรอื สิ่งอานวยความสะดวก ต่างๆ ที่

จะต้องพิจารณาก่อนการตดิ ตั้ง เพือ่ ทีจ่ ะสามารถใช้ประโยชนจ์ ากมอเตอร์ได้อย่างเตม็ ที่ และเกิดความ
ปลอดภัยแก่ผทู้ ี่ใชง้ านอย่างสงู สดุ โดยมีสิ่งทีจ่ ะต้องพิจารณาก่อนการตดิ ต้ังวงจรควบคมุ ไฟฟ้าดังน้ี

1. การบริการทางไฟฟ้า คือ ข้อจากัดหรอื คุณลกั ษณะของการบริการทางไฟฟ้า เช่น เป็นไฟฟ้า
กระแสตรง หรอื ไฟฟ้ากระแสสลับ จานวนความถี่ เปน็ ต้น

2. มอเตอร์ คอื พิจารณาว่ามอเตอร์นนั้ มคี วามเหมาะสมกับการบริการทางไฟฟ้าอยู่หรอื ไม่ เชน่
ขนาดของมอเตอรม์ ีขนาดเหมาะสมพอดีกับการบริการทางไฟฟ้าที่มอี ยู่

3. วธิ ีการควบคุมมอเตอร์ คือ วิธีการควบคุมมอเตอร์ขน้ั พืน้ ฐานนนั้ ก็คือ วงจรการควบคมุ การปิด
เปิดมอเตอร์ และวงจรป้องกนั มอเตอร์จากความเสียหายทีอ่ าจจะเกิดข้ึนได้จากอบุ ัติเหตุ ซึง่ ทั้งสองวงจรจะ
มีการตดิ ต้ังอยู่เสมอภายในวงจรควบคมุ มอเตอร์ แตบ่ างครงั้ การใช้งานยังมวี ิธีการทีจ่ ะต้องพิจารณาเพิม่ ขึน้
อีก เชน่ การควบคมุ มอเตอร์ให้สามารถหมุนกลับทิศทางไปมาได้ หรอื การควบคุมมอเตอร์ให้สามารถ
ทางานได้ความเร็วรอบในระดับต่างๆกัน

4. สิ่งแวดล้อม ในปจั จุบนั นกี้ ารพิจารณาเรื่องสิ่งแวดล้อมเปน็ เรอ่ื งที่มคี วามสาคญั มาก ดังที่จะเห็น
ได้จากมีการตง้ั กฎและข้อบังคบั ต่างๆ ข้ึนมา เพื่อเปน็ ข้อบังคบั หรอื ข้อปฏิบตั ิสาหรบั ผปู้ ระกอบการเพื่อให้
เกิดความเสียหายต่อสง่ิ แวดล้อมให้นอ้ ยที่สดุ ดงั นนั้ ในการตดิ ต้ังมอเตอร์จะต้องมีการพิจารณาเรือ่ งของ
สิ่งแวดล้อมดว้ ย เช่น เรื่องของเสียหรอื สภาพแวดล้อมภายในโรงงาน

5. สญั ลักษณ์และมาตรฐานทางไฟฟ้า การใช้อุปกรณ์ตา่ งๆในการตดิ ต้ัง หรอื การใชส้ ัญลักษณ์
น้ันก็เพือ่ เป็นการบอกขั้นตอนในการควบคมุ มอเตอร์ ซึง่ อปุ กรณ์และสัญลักษณ์ทีใ่ ชจ้ ะต้องเป็นมาตรฐาน
สากลและเปน็ ทีย่ อมรับของหน่วยงานทีค่ วบคมุ ภายในท้องถิ่นนน้ั ด้วย
1. จุดมงุ่ หมายในการควบคมุ มอเตอร์

1.1 การเริม่ เดินและหยุดเดินมอเตอร์ เปน็ จุดมุ่งหมายเบือ้ งตน้ ในการควบคมุ มอเตอร์ การเริ่ม
เดินและการหยดุ เดินมอเตอร์น้ันอาจจะดูเปน็ เรือ่ งงา่ ย แตท่ ีแ่ ท้จริงแล้วมคี วามยุ่งยากกอยู่ไม่น้อย เนือ่ งจาก
ลกั ษณะของงานที่มีความแตกต่างกันออกไป ดังน้ัน การเริม่ เดินและการหยดุ เดินมอเตอร์จึงมีหลาย
ลกั ษณะเพือ่ ตอบสนองให้ตรงกับงานทีท่ า เชน่ การเริ่มเดินแบบเรว็ หรือแบบแบบช้า การเริ่มเดินแบบโหลด
น้อยหรอื เริม่ เดินแบบโหลดมาก การหยดุ เดินแบบทนั ทีหรอื หยุดเดินแบบช้าๆ

1.2 การหมนุ กลบั ทิศทาง การควบคุมมอเตอร์ที่สาคญั อีกอย่างหนึ่ง คอื การทาให้มอเตอรห์ มนุ
กลับทิศทางได้อาจจะโดยอตั โนมตั ิ หรอื ใช้ผู้ควบคุมได้

1.3 การควบคมุ ให้มอเตอร์ หมนุ ใหป้ กติตลอดเวลาการทางานมจี ดุ มงุ่ หมาย เพือ่ ให้เกิดความ
ปลอดภัยแก่มอเตอร์ เครื่องจักรกล โรงงาน และที่สาคญั ที่สุดคือ ผใู้ ช้งาน

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รักษาระบบปั้มน้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 26

1.4 การควบคมุ ความเรว็ รอบ เป็นอีกเหตุผลหน่งึ ในการควบคมุ มอเตอร์โดยการควบ คมุ ความเร็ว
รอบของมอเตอร์นน้ั สามารถทาได้หลายแบบด้วยกนั เช่น การควบคมุ ความเรว็ รอบใหค้ งที่ การควบคุม
ความเรว็ รอบที่ตา่ งกนั หรอื การควบคมุ ความเร็วรอบทีส่ ามารถปรับได้ตามตอ้ งการ

1.5 การป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ผู้ใชง้ าน ในการตดิ ต้ังวงจรความคมุ มอเตอรน์ ้ันกจ็ ะต้องมีการ
วางแผนป้องกนั อันตรายที่จะเกิดแก่ผู้ใชง้ าน หรอื ผทู้ ี่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงด้วย โดยการป้องกนั อนั ตรายที่ดี
ทีส่ ดุ กค็ ือการอบรมแก่พนักงานทีป่ ฏิบัติหนา้ ทีใ่ ห้คานึงถึงความปลอดภัยเปน็ อนั ดบั แรกในการทางานอยู่
เสมอ

1.6 การป้องกันความเสียหายจากอบุ ตั ิเหตุ การออกแบบวงจรการควบคมุ มอเตอร์ที่ดีควรจะมีการ
ป้องกนความเสียหายให้กับมอเตอร์ เครือ่ งจกั รทีม่ อเตอรต์ ิดตงั้ อยู่ในโรงงาน หรอื ความเสียหายต่อชิน้ ส่วน
ทีก่ าลงั อยู่ในสายการผลิตในขณะน้ันไว้ด้วย การป้องกันมอเตอร์จากความเสียหายนั้นมีดว้ ยกันหลายลี
กษณะด้วยกัน เช่น การป้องกนั โหลดเกินขนาด การป้องกันการกลับเฟส หรอื การป้องกันความเรว็ มอเตอร์
เกินขดี จากัด

2. สัญลกั ษณ์ท่ใี ช้กับงานควบคมุ มอเตอร์ระบบDIN

สญั ลักษณ์ ความหมาย

คอนแทคปกติเปิด

(Normally Open-N.O.)

คอนแทคปกติเปิด

(Normally Close-N.C.)

คอนแทคปรับตดั ต่อได้สองทาง

ทางานรว่ มแกนเดียวกัน

ต่อถึงช่วงสน้ั ๆ
แบบทางานด้วยมือ

แบบทางานกดลง หนา้ 27
แบบดึงขนึ้
แบบหมุน

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรักษาระบบปัม้ นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน

สัญลักษณ์ ความหมาย
แบบผลกั หรอื กด
แบบใช้เท้าเหยียบ
แบบถอดด้ามถือออกได้
แบบทางานด้วยแรงกด
ทางานด้วยลูกเบยี้ ว 3 ตาแหน่ง

สวิตช์ปุ่มกด-ปกติเปิด(N.O.)

สวิตช์ปิด-เปิดธรรมดาลกั ษณะปกติเปิด(N.O.)

สวิตช์ปุ่มกด-ปกติปิด(N.C.)

สวิตช์ปิด-เปิดธรรมดาลักษณะปกติเปิด(N.C.)

ลกั ษณะของสวิตช์เมอ่ื ถกู ทางานปกติปิด(N.C.)

ลักษณะของสวิตช์เม่อื ถูกทางานปกติปิด(N.O.)

ลกั ษณะถกู ทางาน
สวิตช์ปุ่มกด1 N.O. 1N.C.
.ใช้ได้ทั้งสตาร์ทและหยดุ

ลิมติ สวิตช์

คอนแทคปกติเปิดอันที่1 ตอ่ ก่อนอันที่ 2

คอนแทคปกติปิดอนั ที่1 ตดั ก่อนอันที่2

การทางานด้วยแรงกลท่ัวไป

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรักษาระบบปม้ั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 28

สญั ลักษณ์ ความหมาย
ทางานด้วยอุณหภมู ิ

ทางานด้วยแรงดนั (Pressure)
ทางานด้วยลูกสบู

ลอ็ กด้วยกลไกล

ลอ็ กด้วยไฟฟ้า

คอนแทกเตอร์ 3 คอนแทคล็อกด้วยไฟฟ้า
สวิตช์หน่วงเวลา (Time Delay Switch)

รอเคลื่อนไปทางขวา
รอเลื่อนไปทางซ้าย

รอเลื่อนไปทางซ้ายและขวา
คอนแทคปกติเปิดของสวิตช์หน่วงเวลาชนิด

จา่ ยไฟเข้าคอยล์ตลอดเวลา

คอนแทคปกติเปิดของสวิตช์หน่วงเวลารอเวลา
เปิดหลังจากตัดไฟออกา

รอเวลาเปิดชนิดจ่ายไฟเข้าคอยล์ตลอดเวลา

คอยล์ของคอนแทคเตอร์

คอยล์ของคอนแทคเตอร์อกี แบบหน่งึ

คอนแทคเตอร์ชนิด 3 เมนคอนแทค

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รกั ษาระบบป้มั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 29

สญั ลักษณ์ ความหมาย
คอนแทคเตอร์ชนิด 3 คอนแทคช่วย 1 N.O.1N.C.

โอเวอร์โหลดรีเลย์แบบไม่มรี ีเซท็

โอเวอร์โหลดรีเลย์แบบมีรีเซ็ท

หวดู สญั ญาณ
ไฟเข้าที่เส้นหนา
ต่อกับอุปกรณ์ทางกล

ฟิวส์มคี อนแทคที่ให้สัญญาณได้

ฟิวส์ 3 สายตัดต่อวงจรอตั โนมตั ิ
เมนฟิวส์ใช้กับเมนสวิตช์
ฟิวส์แยกวงจร

อุปกรณ์ป้องกนั เมอ่ื กระแสเกิน
กระแสต่า

แรงเคลือ่ นเกิน
แรงเคลื่อนต่า
แรงเคลื่อนรัว่

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรกั ษาระบบป้มั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 30

สัญลกั ษณ์ ความหมาย
กระแสเกินจากความร้อน
สวิตช์ทีท่ างานด้วยอุณหภมู ิ

ต่อวงจรดว้ ยอณุ หภมู ิ

ตัดวงจรดว้ ยอณุ หภมู ิ

วงจรท่ใี ช้ในการควบคมุ
วงจรที่ใชใ้ นงานควบคมุ แบ่งออกได้เป็น 4 แบบด้วยกนั ดังน้ี

3.1 แบบวงจรสายเดียว (One Line Diagram) วงจรสายเดียวเปน็ แบบวงจรที่แสดงวงจรชนิดหนึง่
ทีเ่ ขียนด้วยเส้นสายเดียวเท่านั้น

รูปที่ 2-1 รปู แสดงแบบวงจรสายเดียว

จากรปู วงจรจะแสดงให้เหน็ เพียงแต่
1. Power Supply จานวน Phase Wire ระดับแรงเคลื่อนและความถี่
2. จานวนสายไฟฟ้า
3. ขนาดและชนิดของสายไฟฟ้า
4. จานวนของอุปกรณ์ เชน่ (Contactor Relay (K1) Over Load Relay (F3) Motor (M1)

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รักษาระบบปม้ั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 31

3.2 แบบวงจรแสดงการทางาน (Schematic Diagram) วงจรแสดงการทางานสามารถแบ่งตาม
ลกั ษณะของวงจรได้เป็น 2 แบบด้วยกนั คือ

3.2.1 วงจรกาลงั (Power Circuit) แบบวงจรนีจ้ ะเขียนรายละเอียดของวงจรกาลังเท่านั้นโดยเริม่
จาก วงจรย่อย ผ่าน Main Fuse (F1) Main Contactor (K1) Overload Relay (F2) และต่อเข้ามายังมอเตอร์

รูปที่ 2-2 รูปแสดงวงจรกาลงั (แบบวงจรแสดงการทางาน)

3.2.2 วงจรควบคุม (Control Circuit) แบบนีไ้ ด้จากการจบั ต้นและปลายของวงจรควบคมุ ในแบบ
งานจรงิ จึงยืดออกมาเปน็ เส้นตรง สายแยกต่างๆจะเขียนในแนวดิง่ และแนวระนาบเท่านั้น ส่วนประกอบของ
อปุ กรณ์จะนามาเขียนเฉพาะส่วนที่ใช้ในวงจรควบคมุ เท่านั้น คอนแทครีเลย์หรอื คอนแทคเตอร ์สามารถ
เขียนแยกกนั อยู่ในส่วนตา่ งๆของวงจรได้ โดยจะเขยี นกากบั ด้วยอกั ษรและตวั เลขได้รวู้ ่าเปน็ ของคอนแทค
เตอร์ตวั ใด

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รักษาระบบปม้ั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 32

รูปที่ 2-3 รูปแสดงวงจรควบคุม (แบบวงจรแสดงการทางาน)

3.3 วงจรแสดงแบบงานจริง (Working Diagram) แบบชนิดน้จี ะเขียนคล้ายกับลักษณะงานจรงิ
คือ ส่วนประกอบของอปุ กรณ์ใดๆ จะเขียนเปน็ ชนิ้ เดียวไม่แยกออกจากกนั และสายต่างๆ จะต่อ กันที่จุดเข้า
สายของอปุ กรณ์เท่าน้ัน ซึง่ เหมอื นกบั ลักษณะของงานจรงิ

รปู ที่ 2-4 รปู แสดงวงจรแสดงแบบงานจรงิ

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรักษาระบบปมั้ นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 33

3.4 วงจรประกอบการติดต้งั (Constructional Wring Diagram) ในระบบควบคมุ จะประกอบ
ไปด้วยแผงควบคมุ ตู้สวิตช์บอร์ด และโหลดทีต่ อ้ งการควบคมุ ซึง่ มกั จะแยกกันอยู่ในต่างทีก่ นั ในส่วนตา่ งๆ
เหล่านจี้ ะเขียนแสดงรายละเอียดด้วยวงจรงานจรงิ และจะประกอบเข้าด้วยกนั ทีแ่ ผงตอ่ สาย โดยใช้วงจร
สายเดียว สายที่ออกจากจุดต่อสายแต่ละอัน จะมีโค๊ดกากบั ไว้ให้รู้วา่ สายน้ันจะไปต่อเข้าจดุ ใด เชน่ แผงตอ่
สาย X2 จุดที่ 1 จะไปต่อกับจุดที่ 5 ของแผงตอ่ สาย X3 ซึ่งทีจ่ ดุ นกี้ จ็ ะมโี ค๊ดบอกอยู่ด้วย ว่าสาย X3 ซึ่งทีจ่ ดุ
นกี้ จ็ ะมโี ค๊ดบอกอยู่ด้วย ว่าสายจดุ น้ีตอ่ มาจากจุดที่1 ของแผงต่อสาย X2

รูปที่ 2-5 รปู แสดงวงจรประกอบการตดิ ตั้ง

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรกั ษาระบบป้มั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 34

ความหมายสญั ลักษณอ์ ักษรกากบั วงจร

สญั ลกั ษณ์ ความหมาย

S1 สวิตช์ปุ่มกดหยุดเดินมอเตอร์ (Push Button Stop)

S2 สวิตช์ปุ่มกดเริม่ เดินมอเตอร์ (Push Button Start)

F1 ฟิวส์ป้องกันวงจรกาลัง (Power Fuse)

F2 ฟิวส์ป้องกนั วงจรควบคุม (Control Fuse)

F3 ส่วนป้องกันมอเตอร์ทางานเกินกาลงั (Overload Relay)

K1 แมคเนติคคอนแทคเตอร์ (Magnetic Contactor)

M1 มอเตอร์3เฟส (3 Phase Induction Motor)

4. วงจรและหลักการทางานของการสตารท์ มอเตอรโ์ ดยตรง (DIRECT START MOTOR)
เปน็ การควบคุมการเริ่มเดินและหยุดเดินมอเตอร์โดยใช้แมคเนติคคอนแทคเตอร์ ในการตัดต่อใน

การการควบคุมการทางานและมีอปุ กรณ์ป้องการมอเตอร์ ไม่ให้เกิดการเสียหายและสามรถเริ่มเดินเครือ่ ง
โดยกดปุ่มทีสวิตช์ปุ่มกดใหม้ อเตอร์ทางานได้โดยตรงและเมื่อตอ้ ง การหยดุ ก็กดที่สวิตช์ปุ่มกด อีกตัวได้
ดังนนั้ ต้องใช้อปุ กรณ์มาประกอบเป็นวงจรในการควบคมุ เพือ่ ให้เกิด การควบคุมได้ตามทีต่ ้องการและเกิด
ความปลอดภยั โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้

รูปที่ 2-6 รปู แสดงวงจรสตาร์ทมอเตอร์โดยตรง

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รักษาระบบป้ัมนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 35

ขั้นตอนการทางาน
1. กดสวิตช์ S2 คอนแทคเตอร์ K1 ทางาน ปล่อยสวิตช์ 2 คอนแทคเตอร์ K1 ยังทางานอยู่

ตลอดเวลา เนื่องจากหน้าสมั ผสั ชว่ ยปกติเปิด K1 ในแถวที่ 2 ทางานหนา้ สมั ผสั จะปิด กระแสไฟฟ้าไหลเข้า
ไปในขดลวดของแมคเนติคตลอดเวลา

2. เมอ่ื เกิดสภาวะโอเวอร์โหลดหน้าสมั ผสั ของโอเวอร์โหลดปกติปิด (F3) จะตัดวงจรไมม่ ีกระแส
ไหล เข้าขดลวด คอนแทคเตอร์ K1 จะหยุดทางาน

3. ในการหยุดการทางานของวงจร ใหก้ ดสวิตช์ S1
4. ถ้าฟิวส์ F2 ขาด วงจรก็จะหยดุ ทางาน
5. เมอ่ื เกิดสภาวะโอเวอร์โหลดใหว้ งจร ทางานใหม่ ให้ กดปุ่มรีเซ็ทโอเวอรร์โหลด หน้าสัมผสั กลับ
สู่สภาพเดิม แล้วทาการ กด S2 ใหมม่ อเตอร์ จะกลบั มาทางานตามเดิม
5. การควบคมุ มอเตอร์ทางานเรยี งตามลาดับ
ในการควบคมุ มอเตอร์เรยี งตามลาดับนั้นจะต้องให้มอเตอรต์ ัวแรกทางานก่อน และมอเตอร์ตัวที่
สองถึงจะทางานตามได้ เม่อื ต้องการหยดุ การทางานสามารถหยุดการทางานของมอเตอร์ท้ังสองตวั พร้อม
กันได้และเมื่อมอเตอร์ตัวใดตัวหนึง่ เกิดทางานเกินกาลงั มอเตอร์จะหยุดพร้อมกันท้ังสองตวั วงจรมอเตอร์
ทางานเรียงตามลาดบั นีน้ ิยมใชก้ บั งานสายพานลาเลียงหรอื งานทีม่ ีการควบคมุ ต่อเนอ่ื งและหยุดพร้อมกัน
รายละเอียดในการทีจ่ ะใช้อุปกรณ์ที่ประกอบ กันเป็นวงจรมีดงั นี้

ความหมายสัญลักษณ์อักษรกากับวงจร

สญั ลักษณ์ ความหมาย

S1 สวิตช์ปุ่มกดสีแดงหยุดเดิน (Push Button Stop Motor 1, 2)

S2 สวิตช์ปุ่มกดสีเขียวเริ่มเดินมอเตอรตัวที่1 (Push Button Start Motor 1)

S3 สวิตช์ปุ่มกดสีเหลืองเริม่ เดินมอเตอรตวั ที่2 (Push Button Start Motor2)

F1 ฟิวส์ป้องกนั วงจรกาลงั (Power Fuse)

F2 ฟิวส์ป้องกนั วงจรควบคมุ (Control Fuse)

F3 ส่วนป้องกันมอเตอร์ตวั ที่ 1 ทางานเกินกาลงั (Over Relay 1)

F4 ส่วนป้องกันมอเตอรตวั ที่ 2 ์ทางานเกินกาลัง (Over Relay 2)

K1 แมคเนติคคอนแทคเตอร์ของมอเตอรต์ ัวทีท่ ี่1 (Magnetic Contactor)

K2 แมคเนติคคอนแทคเตอร์ของมอเตอรต์ วั ที่2 (Magnetic Contactor)

M1 มอเตอร์ 3 เฟสตวั ที่ 1 (3 Phase Induction Motor 1)

M2 มอเตอร์ 3 เฟสตัวที่ 2 (3 Phase Induction Motor 2)

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รกั ษาระบบปั้มนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 36

5.1 วงจรและหลกั การทางานของการควบคุมมอเตอร์ทางานเรียงตามลาดบั (Manual
วงจรและหลกั การทางานการควบคมุ มอเตอร์แบบทางานเรียงตามลาดบั โดยใช้สวิตช์ปุ่มกด
Sequence Control)
วงจรกาลงั

รูปที่ 2-7 รูปแสดงวงจรสตาร์ทมอเตอร์ทางานเรียงลาดบั วงจรกาลัง

จากวงจรกาลังจะใช้คอนแทคเตอร์สองตัวในการ ให้มอเตอรท์ างานคอนแทคเตอร์แรก
(K1) ต่อใหก้ ับมอเตอร์ตัวที่ 1 (M1) ทางาน คอนแทคเตอร์ตัวที่ 2 (K2) ต่อใหก้ ับมอเตอร์ตวั ที่2 (M2) ทางาน
และมีอุปกรณ์การป้องกันสายเมนฟิวส์3ตวั เมื่อเกิดการลดั วงจรจะไม่มกี ระแสไฟฟ้าไหลไปยงั มอเตอร์ท้ัง
สองได้และมีอุปกรณ์ป้องกันมอเตอร์ทั้งสอง ไม่ให้เกิดการเสียหายเมอ่ื มอเตอร์ทางานเกินกาลัง อปุ กรณ์น้ัน
คือโอเวอร์โหลดรีเลย์

F3 เป็นโอเวอร์โหลดรีเลย์ป้องกนั มอเตอร์ตวั ที่ 1
F4 เป็นโอเวอร์โหลดรีเลย์ป้องกนั มอเตอร์ตวั ที่ 2
วงจรควบคมุ

รปู ที่ 2-8 รปู แสดงวงจรสตาร์ทมอเตอร์ทางานเรียงลาดับ วงจรควบคุม หนา้ 37
ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรักษาระบบป้มั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน

ขนั้ ตอนการทางาน

1. เมื่อกดสวิตช์ S3 ขณะที่คอนแทคเตอร์ K1 ยงั ไม่ทางานคอนแทคเตอร์ K2 จะไม่ทางานเพราะ

คอนแทคปกติเปิดของ K1 ในแถว 3 ยังเปิดอยู่

2.เมื่อกด S2 ทาให้คอนแทคเตอร์ K1 ในแถวที่1ทางานและหนา้ สัมผัสปกติเปิดของ K1 ในแถวที่ 2

จะต่อวงจรทาให้คอนแทคเตอร์ K1 ทางานตลอดเวลา และคอนแทคช่วยปกติเปิด K1 ชุดที่ 2 ในแถวที่ 3

ปิด จะต่อวงจรทาให้ K2 พร้อมทีจ่ ะทางานเมือ่ กด S3

3.หลังทีป่ ล่อยสวิตช์ S2 แล้วคอนแทคเตอร์ K1 ก็ยังคงทางานอยู่ตลอดเวลา

4. เมื่อกด S3 คอนแทคเตอร์ K2 กจ็ ะทางานคอนแทคปกติเปิด K2 ในแถว 4 จะต่อวงจรให้ K2

ทางานตลอดเวลา หลงั จากที่ปล่อยนิ้วออกจาก S3 ไปแล้ว

5.หากต้องการใหห้ ยดุ ทางานให้กด S1 K1และ K2 จะหยุดทางาน มอเตอรตวั ที่ 1 และ 2 หยุด

หมุน

6.และเมื่อเกิดสภาวะโอเวอร์โหลดที่ F3 หรอื F4 คอนแทคเตอร์ K1และ K2จะหยุดทางาน

7.เมือ่ เกิดโอเวอร์โหลดจะใหท้ างานใหม่ให้กดปุ่มรีเซ็ทของโอเวอร์โหลดตัวที่ TRIP แล้วทาการกด

S2 ให้คอนแทคเตอร์ K1 ทางานมอเตอร์1 ก่อนแล้วกด S3 ให้คอนแทคเตอร์ตัวที่ 2 ทางานมอเตอร์ 2

ทางาน

6. การควบคมุ การกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั

มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั ที่ใชใ้ นงานอตุ สาหกรรมมีทั้งมอเตอร์ที่ใชก้ ับ ระบบไฟฟ้า 1 เฟส และ 3

เฟส การกลับทางหมุนมอเตอร์ มคี วามจาเป็นอย่างหนึง่ ทีใ่ ช้ ในงานอตุ สาหกรรม มกี ารกลับทางหมุน

มอเตอร์ท้ังมอเตอร์ไฟฟ้า 1 เฟสและ 3 เฟส

ดงั นั้นจึงมีวงจรในการควบคุมในการกลับทางหมนุ มอเตอรอ์ ยู่หลายแบบด้วยกนั เชน่ การกลับทาง

หมุนมอเตอร์ ได้ทันทีท่ ี่ไม่ตอ้ งหยดุ การทางานของมอเตอร์และการการกลับทางหมุนมอเตอร์ แบบต้อง

หยดุ การทางาน ของมอเตอร์ที่จะต้องศกึ ษาวงจรและหลกั การตอ่ ไป การควบคมุ การกลับทางหมุน

มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 1 เฟสมีการควบคุมหลายแบบแตใ่ นทีน่ ้เี ปน็ การใชส้ วิตช์ปุ่มกดในการควบคุม ซึง่

การควบคมุ มีวงจรกาลังที่ใชใ้ นการกลบั ทางหมนุ และวงจรควบคมุ ตัวอย่างในการควบคุมนเี้ ป็นการหยุด

มอเตอร์ทุกคร้ังก่อนกลบั ทางหมนุ ที่เรยี กว่าวงจร Reversing after stop

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รกั ษาระบบปัม้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 38

6.1 การกลบั ทางหมุนมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ 1 เฟส

ความหมายสัญลกั ษณ์อักษรกากบั วงจร

สญั ลกั ษณ์ ความหมาย

S1 สวิตช์ปุ่มกดหยดุ เดินมอเตอร์ (Push Button Stop)

S2 สวิตช์ปุ่มกดเดินมอเตอร์หมนุ ขวา (Forward Start)

S3 สวิตช์ปุ่มกดเดินมอเตอร์หมนุ ซ้าย (Reversing Start)

F1 ฟิวส์ป้องกนั วงจรกาลงั (Power Fuse)

F2 ฟิวส์ป้องกันวงจรควบคมุ (Control Fuse)

F3 สว่นป้องกันมอเตอร์ทางานเกินกาลงั (Overload Relay)

K1 คอนแทคเตอร์หมนุ ขวา (Forward Contac)

K2 คอนแทคเตอร์หมุนซ้าย (Reverse Contac)

M1 มอเตอร์ 1 เฟส (Single Phase Motor)

วงจรการกลบั ทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส
วงจรกาลงั

รูปที่ 2-9 รปู แสดงวงจรการกลับทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส (วงจรกาลัง)

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รกั ษาระบบปัม้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 39

หลักการของวงจรกาลังการกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ ไฟฟ้ากระแส สลบั 1 เฟส สาหรับการทางาน
ของวงจรกาลังนน้ั เมือ่ คอนแทคเตอร์ K1 ทางานกระแสไฟฟ้าจะไหลจาก ไลน์ L1 เข้าขดรัน จากขั้ว U ไปยัง
ข้ัว X แล้ว ครบวงจรที่ส่วนที่ขดสตาร์ทกระแสไหล จากข้ัว V และข้ัว Y ครบวงจรที่ N เช่นกนั จะทาให้
มอเตอร์หมนุ ขวา ในขณะทีค่ อนแทคเตอร์ K1 หยดุ ทางาน ใหค้ อนแทคเตอร์ K2 ทางานจะมกระแสไฟฟ้า
จะไหล ผา่ นขดรนั เหมอื นกบั ข้ันแรกคือข้ัว U กบั ข้ัว X สว่ นในขดสตาร์ทกระแสไฟฟ้า จะไหลจากข้ัว Y ไปยัง
ขั้ว V จะเห็นได้ว่าเปน็ การสลับ ขั้วของขอสตาร์ททาให้มอเตอรก์ ลับทิศทางการหมุน
วงจรควบคมุ

รปู ที่ 2-10 รปู แสดงวงจรการกลบั ทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั 1 เฟส (วงจรควบคมุ )
ขน้ั ตอนการทางาน

1. กดสวิตช์ S2 คอนแทคเตอร์ K1 ทางานหมนุ ขวา คอนแทคปกติปิดของ K1 ในแถว ที่ 3 ตดั
วงจร ไม่มกี ระแสไหลไปยังคอนแทคเตอร์ K2 คอนแทคเตอร์ K2 จะทางานได้กต็ ่อเมอ่ื คอนแทคเตอร์ K1
หยดุ

2. การเปลี่ยนทิศทางการหมุนของมอเตอร์จากหมนุ ขวาเปน็ หมนุ ซ้าย จะเปลี่ยนเลยไม่ได้ต้องทา
การกดสวิตช์ S1 ก่อน

3. เมือ่ ทาการกด S1 คอนแทคเตอร์ K1 หยุดการทางาน จะให้มอเตอรห์ มนุ ซ้ายทาการ กด S3 ให้
คอนแทคเตอร์ K2 ทางานคอนแทคปกติปิด ในแถวที่ 1 ตัดวงจรไม่มกี ระแสไหลไปยงั คอนแทคเตอร์ K2
จะให้คอนแทคเตอร์ K1 ทางานต้องให้หยุดคอนแทคเตอร์ K2 ก่อนแล้วทาตามขั้นตอนที่ 1

4. ถ้าหากกดสวิตช์ S2 และ S3 พร้อมกนั ตวั คอนแทคเตอร์ตวั ใดทีไ่ ด้รับกระแสก่อนจะทางาน
ก่อน คอนแทคเตอร์ท้ังสองไม่มโี อกาสทางานพร้อมกนั ได้เพราะมีคอนแทคชว่ ยสลบั กนั ตัดเราเรียกว่า มี
Interlock ซึง่ กนั และกัน

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรกั ษาระบบป้มั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 40

6.2การควบคุมการกลับทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส

มอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส นยิ มใช้กันมากเครือ่ งจกั รในงานอตุ สาหกรรม เช่น เครือ่ งกลึง ,

เครือ่ ง กดั , เครือ่ งใส, เครนยกของ ฯลฯ เครือ่ งดงั กล่าวอาจต้องมีการทางานที่เปลีย่ นทิศทาง 2 ทิศทาง จึง

ต้องรู้จักวิธีการกลับทางหมุนมอเตอร์ 3 เฟส อย่างถกู วิธี ไม่ว่ามอเตอร์จะต่อขดลวดแบบสตาร์หรอื เดลต้า

ถ้าทาการสลับสายแหล่งจา่ ยไฟฟ้าใหก้ ับมอเตอร์คใู่ ดคู่หน่งึ จะทาให้มอเตอรก์ ลับทิศทางการหมุนได้

แสดงวงจรการกลับทางหมุนมอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟสแบบต่างๆ

รูปที่ 2-11 รูปแสดงวงจรการกลับทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส
จากระบบไฟฟ้า 3 เฟส

L1 เข้าที่ขวั้ U1 ของมอเตอร์
L2 เข้าที่ขว้ั V2 ของมอเตอร์
L3 เข้าทีข่ ว้ั W3 ของมอเตอร์
ไม่มกี ารสลบั สายไฟฟ้าเข้าข้ัวมอเตอรท์ าให้มอเตอรไ์ ฟฟ้าหมนุ ขวาหรอื ทิศทางหมนุ ตามเขม็ นาฬิกา

รูปที่ 2-12 รูปแสดงวงจรการกลับทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรักษาระบบป้ัมนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 41

จากระบบไฟฟ้า 3 เฟส ทาการสลับสายไฟฟ้าเข้าข้ัวมอเตอร์
L1 เข้าที่ขว้ั U1 ของมอเตอร์
L2 เข้าที่ขว้ั W1 ของมอเตอร์
L3 เข้าทีข่ ว้ั V1 ของมอเตอร์

มีการสลบั สายไฟฟ้าเข้าข้ัวมอเตอรท์ ี่ L2 กับ L3 ทาให้มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนซ้ายหรือทิศทางหมนุ
ทวนเขม็ นาฬกิ า

รปู ที่ 2-13 รูปแสดงวงจรการกลับทางหมุนมอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส

จากระบบไฟฟ้า 3 เฟส ทาการสลบั สายไฟฟ้าเข้าข้ัวมอเตอร์

L1 เข้าที่ขวั้ W1 ของมอเตอร์

L2 เข้าที่ขวั้ V1 ของมอเตอร์

L3 เข้าทีข่ วั้ U1 ของมอเตอร์

มกี ารสลบั สายไฟฟ้าเข้าข้ัวมอเตอรท์ ี่ L1 กับ L3 ทาให้มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนซ้ายหรือทิศทางหมุน

ตามทวนนาฬิกา

รูปที่ 2-14 รูปแสดงวงจรการกลับทางหมุนมอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรกั ษาระบบปั้มน้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 42

จากระบบไฟฟ้า 3 เฟส ทาการสลบั สายไฟฟ้าเข้าขั้วมอเตอร์
L1 เข้าที่ขว้ั V1 ของมอเตอร์
L2 เข้าทีข่ ว้ั U1 ของมอเตอร์
L3 เข้าทีข่ ว้ั W1 ของมอเตอร์

มกี ารสลับสายไฟฟ้าเข้าข้ัวมอเตอรท์ ี่ L1 กบั L2 ทาให้มอเตอรไ์ ฟฟ้าหมนุ ขวาหรอื ทิศทางหมุนตาม
ทวนนาฬิกา
6.3 การกลบั ทางหมนุ มอเตอรส์ ามเฟส (Reversing of Three Phase Motors)
การกลับทางหมนุ มอเตอรส์ ามเฟสทาได้โดยการกลับข้ัวสายของมอเตอร์ที่ตอ่ เข้ากบั สายจา่ ยกาลงั 3
เฟสคู่ใดคู่หนึ่งเพียงคู่เดียว การกลบั ทางหมุนมอเตอรส์ ามเฟสด้วยคอนแทกเตอร์ที่นยิ มกนั โดยทวั่ ไป มี 3
แบบขนึ้ อยู่กับลกั ษณะการใชง้ าน คือ

6.3.1 วงจรการกลบั ทางหมุนมอเตอรโ์ ดยตรง (Direct reversing)
วิธีการกลับทางหมนุ มอเตอรส์ ามเฟสทาได้โดยการสลบั สายเมนคู่ใดคู่หนึ่งที่ตอ่ เข้ากบั มอเตอร์
ส่วนอีกเส้นหน่งึ ตอ่ ไว้เหมอื นเดิม ลักษณะการกลบั ทางหมุนแบบกลบั ทางหมนุ โดยตรง หมายถึง วงจร
สามารถทาการกลับทางหมนุ มอเตอรไ์ ด้ทนั ทีตลอดเวลาที่มอเตอร์ทาการหมุนอยู่ โดยการกดสวิตช์ S2
หรอื S3 และเมือ่ ตอ้ งการหยุดมอเตอร์กส็ ามารถทาได้โดยการกดสวิตช์ S1 (OFF)

รูปที่ 2-15 รูปแสดงวงจรการกลบั ทางหมนุ มอเตอรโ์ ดยตรง

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รักษาระบบปัม้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 43

ลักษณะการทางานของวงจร
1. คอนแทกเตอร์ K1 ทาหนา้ ที่ตอ่ ให้มอเตอรห์ มนุ ขวา และคอนแทกเตอร์ K2 ทาหนา้ ที่ตอ่ ให้
มอเตอร์หมนุ ซ้าย
2. เริม่ เดินมอเตอร์ให้หมุนซ้ายหรอื ขวาก่อนกไ็ ด้โดยการกดสวิตช์ S2 หรอื S3 และสามารถทา
การกลบั ทางหมนุ ได้ตลอดเวลาโดยไม่จาเปน็ ต้องทาให้มอเตอรห์ ยดุ หมนุ ก่อน
3. เมื่อตอ้ งการหยุดมอเตอร์ใหท้ าการกดปุ่มสวติ ช์ S1
4. ถ้ากดสวิตช์ปุ่มกด S2 และ S3 พร้อมกันจะไม่มคี อนแทกเตอร์ตวั ใดทางาน และคอนแทกเตอร์
K1 และ K2 ไม่สามารถทางานพร้อมกนั ได้ เนื่องจากมี interlock contact K1 และ K2 ต่อไว้ก่อนเข้าคอล์ย
แมเ่ หล็กของ K1 และ K2 เพื่อเป็นการป้องกันการลดั วงจร
5. เมือ่ เกิดการโอเวอร์โหลดขึน้ โอเวอร์โหลดรีเลย์ F3 แบบมีรีเซ็ทด้วยมือ จะทาหนา้ ที่ตดั วงจร
ควบคุมออกไป
6.3.2 วงจรกลับทางหมุนหลังจากมอเตอร์หยดุ (Reversing after stop)
ลกั ษณะการกลบั ทางหมุนหลังจากหยุดมอเตอร์ หมายถึง วงจรจะกลับทางหมนุ มอเตอรไ์ ด้ เมือ่ ทา
การหยุดมอเตอร์ก่อนเท่านั้น การเริม่ เดินมอเตอร์จะเริม่ เดินใหห้ มนุ ขวาหรอื ซ้ายก่อนก็ได้ โดยการกดสวิตช์
S2 หรอื S3 และเมือ่ ตอ้ งการหยุดมอเตอร์ก็สามารถทาได้โดยการกดสวิตช์ S1 (OFF)

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รกั ษาระบบป้มั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 44

รปู ที่ 2-16 รูปแสดงวงจรการกลบั ทางหมุนหลังจากมอเตอร์หยุด

ลักษณะการทางานของวงจร
1. คอนแทกเตอร์ K1 ทาหนา้ ที่ตอ่ ให้มอเตอรห์ มุนขวา และคอนแทกเตอร์ K2 ทาหนา้ ทีต่ อ่ ให้มอเตอร์

หมุนซ้าย
2. เริ่มเดินมอเตอร์ให้หมนุ ซ้ายหรอื ขวาก่อนกไ็ ด้โดยการกดสวิตช์ S2 หรอื S3 ในขณะที่มอเตอร์กา

ลังหมุนอยู่ ไม่สามารถทาการกลับทางหมนุ ได้ จะต้องทาให้มอเตอรห์ ยดุ หมุนเสียก่อนโดยการกดสวิตช์ S1
3. ถ้ากดสวิตช์ปุ่มกด S2 และ S3 พร้อมกันจะไม่มคี อนแทกเตอร์ตวั ใดทางาน และคอนแทกเตอร์ K1

และ K2 ไม่สามารถทางานพร้อมกนั ได้ เนื่องจากมี interlock contact K1 และ K2 ต่อไว้ก่อนเข้าคอล์ย
แมเ่ หล็กของ K1 และ K2 เพื่อเป็นการป้องกันการลดั วงจร

4. เมื่อเกิดการโอเวอร์โหลดขึน้ โอเวอร์โหลดรีเลย์ F3 แบบมีรีเซท็ ด้วยมือ จะทาหนา้ ทีต่ ดั วงจร
ควบคุมออกไป

ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รกั ษาระบบปั้มนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 45

6.3.3 วงจรกลับทางหมนุ แบบจอ๊ กกิง้ (Reversing by Jogging)

ลักษณะการกลบั ทางหมุนแบบจอ๊ กกิง้ หมายถึงการกลบั ทางหมนุ มอเตอรโ์ ดยการกดสวิตช์ปุ่มกด

ค้างไว้ เมื่อปล่อยมือออกจากสวิตช์ปุ่มกดมอเตอร์ก็จะหยดุ หมุน การเริ่มเดินมอเตอร์จะเริ่มเดินใหห้ มนุ ขวา