🤦♀️ เชื่อว่าสาว ๆ หลายคน ยังคงใช้งานผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมผิดๆ ถูกๆ บางคนก็หยิบทุกชิ้นที่มีมาบำรุง แต่รู้หรือไม่ว่า ⁉ การที่หยิบมาใช้ไม่เหมาะกับสภาพเส้นผม จะทำให้ไม่สามารถทำประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ Show
ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูวิธีการเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของตนเองกันค่ะ 🙍♀️ ✨ รู้หรือไม่ ? ครีมนวดผม ทรีทเมนต์ และครีมหมักผม มีวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน!1.) ครีมนวดผม (Conditioner) 👩. เป็นแฮร์แคร์ที่ใช้สำหรับบำรุงเส้นผมหลังสระผม เพราะ แชมพูจะทำหน้าที่ในการล้างสิ่งสกปรกออกไปจากเส้นผมเท่านั้น แต่ยังทิ้งสารประจุลบ และความเป็นด่างเอาไว้ จึงต้องใช้ครีมนวดผมเข้ามาปรับสภาพผม ให้มีความเป็นกลาง ซ่อมแซมผมแห้งเสีย ทำให้ไม่พันกัน และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นมีชีวิตชีวา ✅ เหมาะกับคนที่เส้นผมมีปัญหาเพียงเล็กน้อย แต่ต้องการการบำรุงเป็นประจำทุกวัน 2.) ทรีตเมนต์ (Treatment)👩🦱 👉 ทรีตเมนต์ จะมีสัดส่วนของสารบำรุงมากกว่า ครีมนวด จึงสามารถบำรุงได้ตั้งแต่เกล็ดผมรอบนอกและตรงลึกลงไปถึงเนื้อผม และด้วยเนื้อครีมที่เข้มข้นขึ้นแต่ใช้เวลาในการบำรุงพอๆ กับการใช้ครีมนวด ✅ เหมาะกับคนที่เส้นผมมีปัญหาหรือคนที่ต้องการบำรุงแบบ Exclusive ในทุกๆ วัน 3.) ครีมหมักผม (Hair Mask)👩🦰 เป็นแฮร์แคร์ที่เต็มไปด้วยสารบำรุง และส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของน้ำมันมากกว่าน้ำ จึงทำให้เนื้อครีมมีความเข้มข้นสูง โดยจะมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื่นหรือฟื้นฟูเส้นผมมากเป็นพิเศษ จะสังเกตได้ว่าเวลาใช้เส้นผมจะรู้สึกหนักและทิ้งตัวมากกว่าปกติ ✅ เหมาะกับคนที่มีผมแห้งเสียมาก ผมทำสารเคมีบ่อย ๆ ⚠ สำหรับผู้ที่มีสภาพเส้นผมเส้นเล็กบาง ไม่ควรใช้เกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพราะจะทำให้ผมดูลีบได้ 🥰 เป็นยังไงกันบ้างคะ? หวังว่าน่าจะช่วยไขข้อข้องใจให้สาวๆ ได้ไม่มากก็น้อย แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราชอบทรีตเมนต์ที่สุด เพราะ มีสารบำรุงได้อย่างล้ำลึก แต่ใช้เวลาไม่แตกต่างจากการใช้ครีมนวด แต่ถึงอย่างไรแล้วเราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของตนเอง เพื่อผลลักธ์ที่ดีที่สุด! ✨ 7 เคล็ดลับ ดูแลผมไม่มีน้ำหนัก ให้สวย มีน้ำหนัก จัดทรงง่าย📣 นอกจากบทความดีๆ แล้ว เฮียร์ขอแนะนำโปรโมชั่นดี ในแบบนักช้อปตัวจริงต้องรู้ !! ⭐️ ส่องโปรโมชั่นทั้งหมดได้ที่นี่ >> https://salehere.co.th/promotions รับรองว่าคุณจะไม่พลาดโปรโมชั่นเด็ดๆ อย่างแน่นอน 🛒
สำหรับสาว ๆ ปัญหาเรื่องผมเป็นปัญหาที่ใหญ่และมักกวนใจอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าบางคนผมเสีย แห้งและแตกปลาย จากการใช้สารเคมีและความร้อน ไม่ว่าจะเป็น ดัด ยืด ไดร์ หรือย้อมผม การกระทำข้างต้นทำให้ผมของเราขาดความชุ่มชื่น แห้งฟู ไม่มีน้ำหนักและจัดทรงได้ยาก การสระผมแล้วใช้แชมพูและครีมนวดผมอย่างเดียวก็คงจะไม่พอ เพราะครีมนวดมีเนื้อบางเบาเกินไปไม่สามารถปกปิดเกล็ดผมได้ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากคุณมี “ทรีตเมนต์หมักผม” ดี ๆ สักตัวนั่นเองค่ะ หลายคนอาจสงสัยว่าทรีตเมนต์ไม่เหมือนกับครีมนวดผมยังไง เราขอตอบเลยว่าทรีตเมนต์มีเนื้อที่หนักและช่วยให้ผมของคุณดูนุ่ม สลวย เป็นเงางาม แต่หากคุณยังไม่มีทรีตเมนต์ดี ๆ ในใจ เราจะขอเป็นกูรูให้คำแนะนำกับคุณเองค่ะ หากผมของคุณแห้งและชี้ฟูก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะการทำให้ผมชุ่มชื้นมันง่ายมาก ๆ เพราะผมของคุณก็เหมือนพืช ยิ่งคุณรดน้ำมากเท่าไรก็ยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าการใช้น้ำมันบำรุงผมเป็นประจำเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมแต่การใช้ทรีตเมนต์บำรุงผมจะช่วยบำรุงผมตั้งแต่โคนจรดปลาย ดังนั้นหากคุณต้องการรักษาเส้นผมของคุณให้เร็วที่สุดคุณต้องดูแลผมด้วยทรีตเมนต์หมักผมค่ะ นอกเหนือจากการลงทุนในเครื่องมือไฟฟ้าจัดแต่งทรงผมและสเปรย์สำหรับจัดแต่งทรงผมแล้ว ทรีตเมนต์บำรุงผมยังเป็นมาตรฐานของกิจวัตรการดูแลเส้นผมที่จำเป็น ทรีตเมนต์ที่เหมาะสมจะช่วยควบคุมผมชี้ฟู บำรุงผมแห้งเสียและยังช่วยยืดสีผมให้ดูมันวาวและมีสุขภาพดีได้นานขึ้น หากวันนี้คุณต้องการเลือกทรีตเมนต์ดี ๆ สักตัวเราก็มีมาแนะนำค่ะไปดูกันเลย ทรีตเมนต์หมักผม แบรนด์ไหนดี ช่วยลดปัญหาผมแห้ง ชี้ฟู ?
ทรีตเมนต์ผม คืออะไร และทำงานอย่างไร?ทรีตเมนต์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อมอบการบำรุงและให้ความชุ่มชื้นกับผมอย่างเข้มข้น ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่น ๆ ที่มักจะดูแลแค่ชั้นนอกของเส้นผม ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้เมื่อคุณพยายามบำรุงและดูแลเส้นผม ทรีตเมนต์อุดมด้วยส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผมที่มีศักยภาพ เนื่องจากทรีตเมนต์มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้อยู่บนรูขุมขนได้นานกว่าแชมพูหรือครีมนวดผมจึงมีเวลาในการแช่ตัวและเข้าถึงแกนกลางของเส้นผมแต่ละเส้นมากกว่าค่ะ ทรีตเมนต์มีบทบาทสำคัญมากกับเส้นผมของคุณ เนื่องจากเส้นผมของคุณต้องสัมผัสกับมลภาวะภายนอกที่ทำลายโครงสร้างของเส้นผมทุกวัน ทรีตเมนต์จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อคืนความชุ่มชื้นและบำรุงเส้นผมเพื่อลดความเสียหายที่เกิดจากองค์ประกอบต่าง ๆ ทรีตเมนต์ผมไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยปกป้องเส้นผมของคุณจากความเสียหายภายนอก เช่น ความเย็นจัดหรือความเสียหายจากแสงแดดด้วย สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดทรีตเมนต์ผมยังมีประโยชน์เล็กน้อยอื่น ๆ เช่น การทำให้ผมของคุณมีกลิ่นหอม ยิ่งไปกว่านั้นความสม่ำเสมอของเนื้อครีมที่เรียบเนียนทำให้สามารถใช้ในระหว่างการทำสปาเพื่อการผ่อนคลายได้ด้วยค่ะ วิธีเลือกทรีตเมนต์ให้เข้ากับสภาพผม1. ประเภทของเส้นผม
2. รูปแบบของทรีตเมนต์คุณสามารถพบผลิตภัณฑ์ทรีตเมนต์ได้หลายรูปแบบ ในการพิจารณาว่าทรีตเมนต์ตัวไหนเหมาะกับคุณให้พิจารณาประเภทผมของคุณและสิ่งที่คุณต้องการได้รับจากการใช้ทรีตเมนต์หมักผม ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังมองหาการดูแลและบำรุงแบบดั้งเดิมให้เลือกใช้ทรีตเมนต์ที่ให้ความชุ่มชื้น ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับผมที่แห้งเสียและจัดการยากคุณอาจลองใช้ทรีตเมนต์สำหรับการอบไอน้ำแทน เพราะสิ่งเหล่านี้จะให้การแทรกซึมที่เส้นผมอย่างเข้มข้น เนื่องจากความร้อนจะเปิดรูขุมขนของเส้นผมทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงชั้นลึกของเส้นผมได้ 3. สูตรของทรีตเมนต์สูตรของทรีตเมนต์ที่คุณเลือกมีความสำคัญด้วยเหตุผล 2 ประการ ประการแรกเป็นการกำหนดคุณสมบัติและหน้าที่ของผลิตภัณฑ์ทรีตเมนต์ ซึ่งหมายความว่าคุณควรเลือกสูตรทรีตเมนต์โดยขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของคุณและผลลัพธ์ที่คุณกำลังมองหา ตัวอย่างเช่น หากคุณมีผมแห้ง คุณจะต้องการความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้นให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยน้ำมันและสารอาหารที่ให้ความชุ่มชื้น สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าส่วนผสมบางอย่างในทรีตเมนต์ที่มีนั้นสามารถทำให้คุณเกิดอาการแพ้ได้หรือไม่ ดังนั้นคุณต้องตรวจสอบรายการส่วนผสมอยู่เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณรู้ว่าคุณมีอาการแพ้หรือมีสภาพผิวเป็นใช่ไร 4. ผลลัพธ์ที่ต้องการสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผลลัพธ์ที่ต้องการจากการหมักผมจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรซื้อทรีตเมนต์ผมแบบใด ตัวอย่างเช่นหากคุณต้องการลดความเสียหายบนผมที่แห้งเสียให้เลือกทรีตเมนต์ที่ซ่อมแซมผมสูตรเข้มข้น เพราะมันจะมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ แต่หากสำหรับผมเสียมากเกินไปให้เลือกทรีตเมนต์พร้อมการอบไอน้ำ ในทางกลับกันคุณอาจต้องการเพิ่มความเงางามและรักษาผมทำสี ในกรณีนี้ทรีตเมนต์เพิ่มความชุ่มชื้นและมีสารป้องกันจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด อย่าลืมว่าเมื่อต้องการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้เลือกให้ตรงกับปัญหาที่คุณมี เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีเลือกทรีตเมนต์ของเรา ก่อนอื่นนะคะคุณต้องสำรวจตัวเองและจับดูสภาพเส้นผมว่าสภาพผมของคุณเป็นอย่างไร เพื่อช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผมของคุณค่ะ เพราะถ้าหากเลือกไม่ตรงกับสภาพผม ทรีตเมนต์ตัวนั้นก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดค่ะ พร้อมไปเลือกสินค้ากันหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันได้เลยค่ะ รีวิว X Cute Me Hair Treatment ทรีตเมนต์ราคา 71 บาท* X Cute Me เป็นทรีตเมนต์ขวัญใจร้านทำผมค่ะ ทรีตเมนต์นี้จะทำให้คุณหลงรักผมนุ่ม สลวยและฉ่ำวาว ตัวทรีตเมนต์มีส่วนผสมของไฮยารูลอนและน้ำมันจากดอกซึบากิ ช่วยฟื้นบำรุงผมที่แห้งเสีย ชี้ฟูให้กลับมามีความชุ่มชื้น มันจะช่วยปรับสภาพและบำรุงผมแตกปลายทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบเหมือนร้านเสริมสวย นอกจากนี้ทรีตเมนต์ยังช่วยเพิ่มสุขภาพหนังศีรษะและเสริมสร้างรูขุมขนจากภายใน เหมาะสำหรับทุกสภาพผมเลยเพราะมันจะช่วยปลอบประโลมและทำให้เส้นผมของคุณเรียบลื่นและจัดทรงง่าย ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Lolane Natura Hair Treatment ทรีตเมนต์ราคา 72 บาท* Lolane Natura Hair Treatment กระปุกสีเขียวนี้ดีมาก ๆ ค่ะ เพราะสามารถช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสียได้ดี มีส่วนผสมเริ่ด ๆ จากโจโจ้บาออยล์ ช่วยปรับสภาพและฟื้นฟูผมที่แห้งเสียให้เรียบลื่น มีน้ำหนัก ไม่แห้งเสียแตกปลาย สำหรับตัวนี้สามารถหาซื้อได้ง่ายอีกทั้งยังมีราคาถูกด้วยค่ะ ผู้เขียนชอบใช้ทรีตเมนต์ของโลแลนค่ะเพราะราคาถูกและใช้งานได้นานมาก ยิ่งคนที่มีผมสั้น 1 กระปุกใช้งานได้เกือบ 3 เดือนค่ะ แต่ผลิตภัณฑ์นี้ไม่เหมาะสำหรับหนังศีรษะแพ้ง่ายนะคะเพราะอาจจะก่อให้เกิดรังแคได้ อีกทั้งอย่าลืมล้างออกให้สะอาดด้วยนะคะ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Lolane Intense Care Keratin Repair Mask ทรีตเมนต์มาสก์เคราตินราคา 90 บาท* Lolane Intense Care Keratin Repair Mask สำหรับผลิตภัณฑ์นี้เป็นทรีตเมนต์ที่ดีมาก ๆ ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ทุกสภาพผม ไม่ว่าผมจะพังแค่ไหนทรีตเมนต์ตัวนี้ก็เอาอยู่ค่ะ ทรีตเมนต์ทำงานด้วยการเพิ่มเคราตินเข้าไปและจะช่วยทำให้ผมดูดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยทำให้ผมนุ่มสลวย ช่วยให้ผมคุณแข็งแรงและมีน้ำหนักมากขึ้น สำหรับตัวนี้ถือว่าดีมากเหมาะแก่การครอบครองมากที่สุดเลยค่ะ มันมีกลิ่นที่หอมแต่ไม่เหมาะสำหรับคนผมมันค่ะเพราะจะทำให้ผมและโคนผมมันกว่าเดิมค่ะ ทรีตเมนต์นี้มีแบบซองด้วยนะคะเหมาะสำหรับทดลองใช้ก่อนซื้อกระปุกใหญ่ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว BSC Hair Care Glossy Hair Treatment Wax ทรีตเมนต์แว็กซ์ราคา 149 บาท* BSC Glossy Hair Treatment Wax ทรีตเมนต์หมักผมสูตรนี้เหมาะสำหรับผมที่แห้งเสียมาก โดยทางแบรนด์เคลมมาว่าเห็นผลได้ในครั้งเดียว มีส่วนผสมสำคัญอย่างน้ำมันซึบากิ ซึ่งเป็นน้ำมันที่มีคุณภาพ ช่วยลดทุกปัญหาของเส้นผม ไม่ว่าจะผมแห้ง ผมพันหรือแตกปลายก็สามารถดูแลได้อย่างครบวงจร อีกทั้งยังสามารถใช้ได้ทุกวันโดยไม่ทำให้ผมร่วงอีกด้วยค่ะ ทรีตเมนต์หมักผมนี้มีกระปุกที่ใหญ่มาก สามารถใช้งานได้นานหลายเดือนเลยทีเดียวเพราะในแต่ละครั้งใช้แค่ปริมาณน้อยเท่านั้นค่ะ ใครที่อยากผมนุ่มต้องลองค่ะ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว L'oreal Paris Elseve Keratin Smooth Perfecting Mask มาสก์บำรุงเส้นผมราคา 149 บาท* L'Oreal Paris สูตรใหม่ที่มีกลิ่นหอมมาก ตัวทรีตเมนต์นี้จะเข้าไปซ่อมแซมและปกป้องเส้นผมของคุณอย่างเข้มข้น มันจะเปลี่ยนผมร่วง ผมแห้ง ผมหยาบกร้านและผมแตกปลายให้กลับไปเป็นดังเดิม เมื่อใช้เป็นประจำผมของคุณจะเปลี่ยนจากผมแห้งเสียเป็นผมนุ่มสลวย คุณสามารถรวมผลิตภัณฑ์นี้ไว้ในกิจวัตรการดูแลเส้นผมประจำวันของคุณเพื่อให้ผมมีสุขภาพดี ทรีตเมนต์ผมนี้ให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในเวลาอันสั้น กลิ่นหอมของน้ำมันดอกกุหลาบจะทำให้ผมของคุณหอมอย่างยาวนาน แนะนำให้คุณใช้เซรั่มสูตรนี้ควบคู่กันไปด้วยเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Green Bio Super Treatment ทรีตเมนต์เคราตินราคา 149 บาท* Green Bio Super Treatment เป็นทรีตเมนต์เนื้อครีมเข้มข้นที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผมเลย ไม่ว่าผมจะแห้ง แตกปลายแค่ไหนใช้แค่ซองเดียวก็อยู่หมัด โดยไม่จำเป็นต้องหมักนาน เพราะว่าตัวนี้มีเคราตินเข้มข้นมาก ๆ สามารถใช้ได้ทุกครั้งหลังจากการสระผม ทรีตเมนต์มีกลิ่นหอมมาก ราคาก็ถูกด้วย ดีงามสุด ๆ ไปเลยค่ะ ทรีตเมนต์แบบซองนี้สามารถพกพาได้ง่ายมากเหมาะสำหรับการเดินทาง แต่อย่าลืมล้างผมให้สะอาดหลังใช้นะคะ เพราะมันอาจจะทำให้เป็นรังแคได้ด้วยความปรารถนาดีจากเราค่ะ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Pantene Gold Perfection Mask Treatment ทรีตเมนต์ราคา 209 บาท* Pantene Gold Perfection Mask Treatment ทรีตเมนต์มาสก์บำรุงผมที่ผสานด้วยคุณค่าของโปรวิตามินและคอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสียและฟื้นฟูเส้นผมจากมลภาวะต่าง ๆ ช่วยให้ผมนุ่มลื่น หวีง่าย ไม่พันกัน โดยเนื้อทรีตเมนต์จะเป็นเนื้อที่เข้มข้นพิเศษพร้อมให้สารบำรุงอย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับคนที่ผมแห้งเสียมาก ๆ ค่ะ ทรีตเมนต์สามารถใช้ได้ทุกวันเมื่อใช้แล้วเส้นผมจะเปล่งประกายเงางาม แต่ว่าล้างออกค่อนข้างยากค่ะดังนั้นอย่าลืมล้างให้สะอาดนะคะ คำแนะนำอีกอย่างหนึ่งของเราก็คือแนะนำให้ใช้ร่วมกับแชมพูและครีมนวดผมจากแพนทีนค่ะ รับรองว่าผมนุ่มลื่นสลวยสวยเก๋แน่นอนค่ะ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Sunsilk Treatment Damage Restore Orange ทรีตเมนต์ราคา 261 บาท* Sunsilk Treatment Damage Restore Orange ทรีตเมนต์ที่โด่งดังและมีมานานแล้วค่ะ โดยทรีตเมนต์ก็ได้พัฒนามาจากครีมนวดผมสีส้มค่ะ ส่วนผสมหลักของทรีตเมนต์คือแคลเซียมและเคราติน เมื่อใช้งานแล้วจะทำให้เส้นผมรู้สึกสุขภาพดีและนุ่มลื่นมากขึ้น ทรีตเมนต์จะช่วยเพิ่มความเงางามและช่วยลดการชี้ฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อสัมผัสของทรีตเมนต์เนียนนุ่มและไม่จับตัวเป็นก้อนทำให้เกลี่ยง่าย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ติดทนนานมากเป็นพิเศษค่ะ ใครที่อยากให้เส้นผมนุ่มลื่นในระยะเวลาอันรวดเร็วแนะนำเลยค่ะ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Dove Treatment Mask Intense Repair Dark Blue ทรีตเมนต์ราคา 280 บาท* Dove Hair Treatment Mask Intense Repair โดฟเป็นแบรนด์ที่ทุกคนคุ้นตากันอยู่แล้ว เพราะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของผม โดยทรีตเมนต์ตัวนี้จะช่วยฟื้นบำรุงผมอย่างล้ำลึกถึงแกนผมเลยทีเดียว จึงช่วยให้ผมแข็งแรง นุ่มลื่น ทันทีที่ใช้และทางแบรนด์เคลมมาว่าสามารถฟื้นบำรุงผมเสียให้นุ่ม สลวย อย่างเห็นได้ชัดในทุกครั้งที่ใช้ โดยสามารถใช้ได้ทุกวัน ไม่ทำให้ผมมันหรือเหนียวเหนอะหนะ คุณสามารถใช้ทรีตเมนต์นี้แทนครีมนวดผมได้เลยค่ะเพราะให้ประสิทธิภาพดีกว่าและทำให้ผมนุ่มมากกว่าด้วยค่ะ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Tsubaki Premium Repair Mask ทรีตเมนต์มาสก์ราคา 459 บาท* Tsubaki Premium Repair Mask ทรีตเมนต์ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความรีบเร่งในการหมักผม เพราะมันเป็นทรีตเมนต์ที่บำรุงผมได้อย่างล้ำลึกในเวลาอันสั้น ทรีตเมนต์นี้มีประโยชน์ในการปรับสภาพผมอย่างล้ำลึก ทรีตเมนต์หมักผมนี้มีส่วนผสมที่สำคัญอย่างน้ำมันคาเมลเลียและนมผึ้ง ทรีตเมนต์จะแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมทันทีที่ใช้และล็อกสารอาหารของผมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องรอเวลาเหมือนทรีตเมนต์ผมแบบเดิม ๆ ที่คุณเคยใช้ ใครที่อยากให้ผมสวยขึ้นกว่าเดิมแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ร่วมได้ทั้งแชมพูและเซรั่มเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว L'oreal Professionnel Hair Spa Deep Nourishing Creambath ทรีตเมนต์มาสก์ราคา 405 บาท* L'oreal Professionnel ตัวนี้เป็นมาสก์ฟื้นฟูผมแห้งเสียและอ่อนแอมากได้ดี ด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากดอกบัวน้ำ สามารถช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมจากสภาพผมแห้งเสียมากหรือถูกทำลาย มันจะทำให้ผมคืนกลับสภาพเดิม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีมาก ๆ เหมาะสำหรับคนที่ผมเสียสุด ๆ ค่ะ กระปุกนี้สามารถใช้งานได้นาน อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมมากเลยทีเดียว ผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อเนียนนุ่มมาก สามารถล้างออกได้ง่ายและทำให้ผมสวยขึ้นทันตาด้วยค่ะ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว The Body Shop Shea Butter Richly Replenishing Hair mask ครีมบำรุงผมราคา 890 บาท* The Body Shop เป็นทรีตเมนต์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์ ปกติคุณทราบดีอยู่แล้วว่าเชียบัตเตอร์เหมาะสำหรับผิวของคุณ คงไม่น่าแปลกใจที่ส่วนผสมนี้จะสามารถให้ความชุ่มชื้นสูงซึ่งจะช่วยบำรุงปอยผมของคุณได้ดี เราขอบอกเลยว่าทรีตเมนต์ผมนี้เป็นหนึ่งในทรีตเมนต์ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมเสีย เพราะตัวทรีตเมนต์นี้จะช่วยให้ปอยผมของคุณไม่ชี้ฟูและมีสุขภาพดี อีกทั้งยังช่วยลดการแตกหักของเส้นผมได้ดีมาก ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Kerastase Hair Masque มาสก์บำรุงสำหรับผมเสียราคา 1,436 บาท* Kerastase เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการดูแลผม มันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผมแห้งเสียมากเป็นไม้กวาด ทรีตเมนต์หมักผมเกรดซาลอนนี้ช่วยบำรุงเส้นใยผมและยังป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นจากมลภาวะ เมื่อใช้เป็นประจำแล้วคุณจะพบว่าผมของคุณนุ่มขึ้น เบาขึ้นและพันกันน้อยลงกว่าเดิม นี่เป็นหนึ่งในมาสก์ผมที่ดีที่สุดที่คุณควรลงทุน ส่วนผสมอย่างกรดอะมิโน 6 ชนิดจะช่วยให้ผมของคุณสวยงามและมีน้ำหนักอย่างไร้ที่ติ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า เคล็ดลับในการใช้ทรีตเมนต์หมักผม
ทรีตเมนต์มาสก์มีความเข้มข้นสูง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันก็ได้ค่ะ เพราะอาจจะทำให้ผมมันเร็วได้ อาจจะใช้สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งและหากต้องการดูแลผมให้ดีอยู่เสมอ ควรใช้เซรั่มหรือน้ำมันบำรุงผม เพื่อให้ผมดูเงางามมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ หากสาว ๆ คนไหนยังไม่มีเซรั่มหรือไม่รู้จะใช้ตัวไหนเราขอแนะนำให้คุณไปเลือกได้ที่ เซรั่มและน้ำมันบำรุงผม ยี่ห้อไหนดีที่สุด ? เพราะในบทความนี้เราได้แนะนำเซรั่มบำรุงผมที่ดีที่สุดไว้แล้วค่ะ ทรีตเมนต์มีประโยชน์ต่อผมของเรามากจริง ๆ นะคะ นอกจากจะช่วยดูแลรักษาผมเสียแล้วยังช่วยให้ผมนุ่มลื่น มีน้ำหนักไม่พันกันอีกด้วยค่ะ แต่เวลาหมักผมควรระมังระวังไม่ให้โดนโคนผมมากนักเพราะจะทำให้ผมมันและเป็นรังแคได้ หากใครที่ไม่ทันระวังทำให้เกิดรังแคแล้วก็สามารถรักษาได้ด้วยแชมพูขจัดรังแคซึ่งหาไอเท็มได้ที่ แชมพูขจัดรังแค ค่ะ รับรองว่าคุณจะหมดปัญหาการเรื่องรังแคกวนใจแน่นอนค่ะ สำหรับวันนี้ขอลากันไปก่อนคราวหน้าจะนำเสนอสินค้าอะไรกันต้องไปรอชมกันค่ะ ใช้ทรีทเม้นแทนครีมนวดได้ไหมนี่ไม่ได้เรียกเพื่อให้ดูเก๋ หรือเพราะกลยุทธ์การตลาดแต่อย่างใดนะคะ แต่ว่าสองสิ่งนี้เค้าแตกต่างกันจริงๆ ตรงที่ "ทรีตเมนต์" จะมีสัดส่วนของสารบำรุงมากกว่า "ครีมนวด" รวมถึงไปสารสกัดที่มีอนุภาคเล็กลง จึงสามารถบำรุงได้ตั้งแต่เกล็ดผมรอบนอกและตรงลึกลงไปถึงเนื้อผม และด้วยเนื้อครีมที่เข้มข้นขึ้นแต่ใช้เวลาในการบำรุงพอๆ กับการใช้ ...
Treatment กับ ครีมนวดต่างกันยังไงทรีทเมนต์ผม (Treatment) เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงหลังสระผมเช่นเดียวกับครีมนวด แต่มีเนื้อครีมข้นกว่านิดหน่อย และมีสารบำรุงผมมากกว่า ช่วยบำรุงตั้งแต่เกล็ดผมรอบนอกไปจนถึงเนื้อผม เหมาะกับเส้นผมที่มีปัญหาและต้องการบำรุงแบบล้ำลึก
ทรีทเม้นท์กับคอนดิชั่นเนอร์ต่างกันยังไง▪️Conditioner ครีมนวดผม จะเน้นบำรุงผมภายนอก ซึ่งเราจะใช้กันทุกครั้งหลังสระผม ▪️Treatment ครีมหมักผม จะเน้นบำรุงผมภายใน เป็นเนื้อครีมเข้มข้นกว่า Conditioner ควรใช้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ซึ่งไม่จำเป็นเลยสำหรับคนผมมัน แต่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนผมแห้ง ผมเสีย
ทรีทเม้นท์ผม ใช้ตอนไหนใช้ทรีทเม้นท์หลังสระผมตอนกลางคืน หากใส่ตอนเช้าควรใช้ปริมาณที่น้อย และหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อใช้ทรีทเม้นท์ติดต่อกัน 3 เดือน ควรหยุดใช้ 1 สัปดาห์ (เนื่องจากทรีทเม้นท์มีน้ำมันหอมระเหยที่เข้มข้นกว่า 90% อาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของน้ำมันหอมระเหยทั่วไป)
|
ครีม นวด กับ ท รี ท เม้น ท์
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.ketiadaan Inc.
