ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

  • มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน (Marshall)
  • ลำโพงมาร์แชล คุ้มค่าแก่การลงทุนไหม ?
  • ซื้อ ลำโพง Marshall รุ่นไหนดี 
  • วิธีการเลือกลำโพง Marshall รุ่นไหน เหมาะกับคุณที่สุด
  • รีวิว Marshall รุ่น Emberton
  • รีวิว Marshall รุ่น Stockwell
  • รีวิว Marshall รุ่น Kilburn II
  • รีวิว Marshall รุ่น Acton II Bluetooth Black
  • รีวิว Marshall รุ่น Stockwell II
  • รีวิว MARSHALL รุ่น Uxbridge Alexa
  • รีวิว MARSHALL รุ่น Woburn II
  • รีวิว Marshall รุ่น Stanmore II Black
  • รีวิว Marshall รุ่น Tufton​
  • ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ลําโพง Marshall รุ่นไหนดีสุด เบสหนัก คุณภาพเสียงดีเยี่ยม ปี 2022
  • การเชื่อมต่อแบบไหนดีกว่ากันระหว่าง WIFI และ Bluetooth

เพลงและภาพยนตร์เป็นอะไรที่คนทั่วโลกนิยมฟังและดูกันในยามว่าง เพราะมันช่วยคลายเครียดให้กับเราได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าสังเกตคุณจะเห็นได้เลยว่าแบรนด์คุณภาพที่ผลิตลำโพงในทุกวันนี้มีให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น BOSE, JBL, Sony หรือที่ฮิตมาก ๆ ตั้งแต่ในอดีตจนมาถึงปัจจุบันนั่นคือ ‘Marshall’ ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปของลำโพงในทุกวันนี้ สามารถตีตลาดได้เกือบทุกประเทศทั่วโลก

ด้วยความที่มาร์แชลมีรูปทรงวินเทจสวยงามไม่เหมือนใคร และเทคโนโลยีที่ใส่ลงไปมีความทันสมัย สามารถตอบโจทย์คนในยุคสมัยใหม่ ใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้สายเชื่อมต่อให้รุงรังและยุ่งยาก ส่วนคุณภาพของเสียงเองก็ดีเยี่ยมไม่แพ้เบรนด์ไหน ๆ เพราะแผงควบคุมด้านบนของลำโพงจะสามารถปรับได้ทั้งความดัง, ความแหลม และเบสที่แน่นเหมือนกับอยู่ในผับหรือคอนเสิร์ตของศิลปินดังยังไงอย่างงั้น ดังนั้นใครที่กำลังสนใจ ‘ลำโพง Marshall’ อยู่และอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมในการตัดสินใจเลือกรุ่นที่เหมาะกับตัวเองอยู่ วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ครับ

ในช่วงแรก Marshall เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อผลิตและขายแอมป์กีตาร์ หรือเครื่องขยายเสียงที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อกับกีตาร์ ซึ่งในช่วงปี 1962 Marshall สามารถทำยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยม ชนิดที่ว่าวงดนตรีและนักดนตรีหลากหลายคนต้องถามหาหรือหาซื้อไปเพื่อมาใช้งานกันเยอะมาก เนื่องจากเอกลักษณ์ของเสียงที่ปล่อยออกมามีความ ‘ครันช์’ หรือเสียงแตกแบบไม่เหมือนใคร เมื่อฟังแล้วจะเข้าถึงอารมณ์ของดนตรีได้มากกว่าเดิม

ทั้งนี้ด้วยเทคโนโลยีและนวัฒกรรมที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของโลก ทำให้ทาง Marshall ไม่หยุดที่จะพัฒนาและมีการผลิตเครื่องเสียงใหม่ ๆ ออกมาขายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง และ ลำโพง ที่คุณภาพเสียงยังคงกินใจอยู่เหมือนเดิม และเพรียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีที่น่าสนใจ แต่สิ่งที่ยังคงไว้คือการดีไซน์ที่มีความคลาสสิกและวินเทจที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ ซึ่งจุดนี้ละครับที่ทำให้ Marshall สามารถตีตลาดคนรุ่นใหม่ ให้เลือกซื้อหูฟังและลำโพงของทางแบรนด์ได้ทั่วโลก แม้แต่ประเทศไทยของเราเองก็ทำยอดขายได้ดีมาก ๆ เช่นเดียวกัน

ลำโพงมาร์แชล คุ้มค่าแก่การลงทุนไหม ?

ไฮไลท์ที่โดดเด่นของ Marshall จะอยู่ที่รูปทรงอันวินเทจดูแพงและเสียงที่ดีมาก ๆ โดยเสียงที่ปล่อยออกมาจะมีความอุ่น ซึ่งแตกต่างออกไปจากลำโพงสมัยใหม่ทั่วไป อีกทั้งยังมีเบสที่หนักแน่น ดังนั้นการเปิดแต่ละครั้งคุณจะได้รับฟังเสียงที่คมชัดและเหมือนจริง ถ้าจะบอกว่าเหมือนหลุดเข้าไปในคอนเสิร์ตก็คงไม่ผิดครับ

ในขณะเดียวกันด้วยรูปทรงและการดีไซน์ลำโพงที่ออกมามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รวมไปถึงฟังก์ชันการทำงานที่ทันสมัย มีหลายรุ่นที่ควบคุมด้วยระบบเสียงอย่าง Google Assistant และ Alexa Amazon ซึ่งคุณไม่จำเป็นจะต้องเดินไปปรับเสียงให้เหนื่อย เพียงแค่พูดสั่งการมันก็จะตอบสนองความต้องการได้ในทันที ดังนั้นบอกได้เลยครับว่า Marshall เป็นอะไรที่คุ้มค่าแก่การลงทุนแน่นอน

ซื้อ ลำโพง Marshall รุ่นไหนดี 

  • ลำโพงพกพาไร้สายขนาดเล็ก: Marshall รุ่น Emberton
  • ลำโพงบลูทูธเบสหนัก  ฟังก์ชันรับโทรศัพท์: Marshall รุ่น Stockwell
  • เบสมันส์เร้าใจ เชื่อมต่อได้มากกว่า 1 เครื่อง: Marshall รุ่น Kilburn II
  • ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก แต่เสียงดีมากเว่อร์: Marshall รุ่น Acton II Bluetooth Black
  • ระบบเสียงสเตอริโอ ดังรอบทิศทาง แบตเตอรี่อึด: Marshall รุ่น Stockwell II
  • สามารถควบคุมลำโพงผ่านเสียงพูด ผ่าน Alexa: MARSHALL รุ่น Uxbridge Alexa
  • ลำโพงบลูทูธตั้งโต๊ะ คุณภาพเสียงทรงพลัง เหมาะกับห้องขนาดใหญ่: MARSHALL รุ่น Woburn II
  • ลำโพงไร้สายคุณภาพ เสียงดีมากตามมาตรฐานของมาแชล: Marshall รุ่น Stanmore II Black
  • ลำโพงบลูทูธเสียงใส ปรับควบคุมเสียงได้เอง: Marshall รุ่น Tufton​

วิธีการเลือกลำโพง Marshall รุ่นไหน เหมาะกับคุณที่สุด

1. คุณภาพของเสียง

คุณภาพเสียงถือเป็นอันดับแรกที่ทุกคนจะต้องพิจารณาในการเลือกลำโพงสักตัวมาใช้งานครับ ซึ่งการที่จะเช็กว่าเสียงมีคุณภาพหรือไม่ ก็สามารถเช็กได้จากหลากหลายองค์ประกอบ ดังนี้

1.1 กำลังวัตต์

กำลังวัตต์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บอกได้ว่าเสียงที่ปล่อยออกมามีคุณภาพหรือดังมากน้อยแค่ไหน ซึ่งโดยปกติแล้ว กำลังวัตต์ประมาณ 15 ถึง 20 วัตต์ ก็เพียงพอที่จะปล่อยเสียงออกมาได้ดังถึง 80 เดซิเบล ทั้งนี้จริง ๆ แล้ว Marshall ค่อนข้างจะมีคุณสมบัติที่ดีในเรื่องนี้อยู่แล้ว ดังนั้นคุณสามารถข้ามส่วนนี้ไปได้ แต่ถ้าหากเป็นลำโพงจากแบรนด์อื่น คุณสามารถเช็กและดูคุณภาพของลำโพงโดยใช้เกณฑ์นี้ได้ครับ

1.2 ความถี่ของเสียง

สามารถเช็กได้จากหน่วยเฮิรตซ์ โดยปกติหน่วยเฮิร์ตของลำโพงจะอยู่ในช่วง 100 ไปจนถึง 20,000 เฮิร์ต ซึ่งค่าในช่วงนี้ถือว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับลำโพงครับ

2. การเชื่อมต่อ

โดยส่วนใหญ่แล้วลำโพง Marshall รุ่นใหม่จะเชื่อมต่อแบบไร้สายอยู่แล้ว แต่การเชื่อมต่อแบบมีสายก็อาจสำคัญสำหรับใครหลายคน เพราะในบางครั้งการเชื่อมต่อแบบ Wireless ก็อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทาง ดังนั้นใครที่ต้องเชื่อมต่อแบบมีสายก็ให้เช็กว่าลำโพงของ Marshall ในรุ่น ๆ นั้นมีสายอะไรมาให้เราบ้าง เช่น RCA, AUX หรือ USB เพื่อใช้เชื่อมต่อเครื่องเล่นอย่าง ดีวีดี, บลูเรย์ หรือซีดี สำหรับการดูหนังหรือซีรีส์

3. แบตเตอรี่

Marshall ในแต่ละรุ่นอาจมีแบตเตอรี่ที่แตกต่างกันไปบ้างครับ โดยบางตัวอาจเชื่อมต่อกับปลั๊กไฟฟ้าโดยตรง (ไม่มีแบตเตอรี่พกพาในตัว) แต่ในหลาย ๆ รุ่นเองก็อาจมีการใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จอย่างลิเธียมไอออน ซึ่งระยะเวลาในการทำงานของมันจะอยู่ในช่วงระหว่าง 20 – 25 ชั่วโมง นอกจากนี้ลำโพงที่เป็นมีแบตเตอรี่แบบชาร์จจะมาพร้อมกับสายชาร์จอย่าง USB ที่คุณสามารถชาร์จเข้ากับ พาวเวอร์แบงค์, สมาร์ททีวี, สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊ค

4. คุณสมบัติพิเศษ

4.1 คุณสมบัติแบบอัจฉริยะ

ในทุกวันนี้ลำโพงเราสามารถสั่งการได้ด้วยเสียง ไม่ว่าจะเป็น Marshall รุ่น Standmore II หรือ Action II ที่มีระบบที่เรียกว่า Alexa Amazon หรือจะเป็น Google Assistant ดังนั้นคุณจะสามารถถามตอบ หรือ สั่งการได้โดยไม่ต้องเดินไปปรับอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น

4.2 เชื่อมต่อได้หลากหลายเครื่อง

หลายคนอาจไม่ทราบว่าเราลำโพง Marshall สามารถควบคุมผ่านมือถือและเชื่อมต่อได้หลากหลายเครื่องในเวลาเดียวกัน ซึ่งถ้าหากใครมีการจัดงานปาร์ตี้แล้วจำเป็นต้องใช้ลำโพงหลายเครื่อง แต่อยากให้ลำโพงเล่นเพลงเดียวกันและเล่นไปพร้อม ๆ กัน Marshall สามารถทำได้ สามารถซื้อได้มากกว่าเครื่องเดียวครับ

5. ประสิทธิภาพในการกันน้ำ

ปกติแล้วลำโพง Marshall ในเกือบทุกรุ่นจะป้องกันน้ำได้ดีอยู่แล้วครับ แต่มันก็อาจแตกต่างกันเล็กน้อยในส่วนของประสิทธิภาพในการกันน้ำ ซึ่งการที่เราจะเช็กว่ามันป้องกันน้ำได้ดีแค่ไหน ให้คุณไปดูที่ค่า IPX ที่จะมีตั้งแต่ IPX1 ไปจนถึง IPX8 โดยยิ่งตัวเลขด้านหลังมากเท่าไหร่ นั่นหมายความว่ามันมีประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ถ้าหากใครอยากนะไปวางไว้ใกล้ริมสระน้ำ ผมอยากแนะนำให้เลือกค่า IPX ตั้งแต่ 4 ขึ้นไป แต่ถ้าอยากนำไปฟังเพลงชิล ๆ ในห้องน้ำก็แนะนำ IPX2 ขึ้นไปครับ

รีวิว Marshall รุ่น Emberton

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

ราคา 2,500 บาท*

ลำโพงพกพาไร้สายขนาดเล็ก

Emberton จะมีน้ำหนักเพียงแค่ 0.7 กิโลกรัมเท่านั้น ดังนั้นใครที่อยากได้ลำโพงขนาดเล็กสักตัวไปเป็นเพื่อนคู่ใจในการฟังเพลงระหว่างเดินทาง Emberton ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมาก อีกทั้งระบบการปล่อยเสียงออกมาก็ถือว่าดีเยี่ยมสวนทางกับราคาที่ไม่แพง เพราะเสียงที่ออกมาจะเป็น True Stereophonic หรือการปล่อยเสียงแบบ 360 องศา ซึ่งมีเพียงแค่รุ่นนี้เท่านั้นที่สามารถจะทำได้ นอกจากนี้ประสิทธิภาพในการกันน้ำก็ดีสุด ๆ เพราะมันมีค่าป้องกันสูงถึง IPX7 รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่ทำงานได้ยาวนานกว่า 20 ชั่วโมง

ขนาด6.8 x 16 x 7.6 เซนติเมตร
กำลังวัตต์10 วัตต์
การตอบสนองความถี่60 - 20,000 เฮิรตซ์
แบตเตอรี่ทำงานได้นานกว่า 20 ชั่วโมง
การเชื่อมต่อBluetooth 5.0
ประสิทธิภาพในการกันน้ำIPX7

รีวิว Marshall รุ่น Stockwell

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

ราคา 3,988 บาท*

ลำโพงบลูทูธเบสหนัก มีฟังก์ชันรับโทรศัพท์

อีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจในรุ่นตระกูล Stockwell เพราะการดีไซน์ของมันจะทำออกมาในลักษณะของกระเป๋าที่จะมีเคสเป็นหนัง เมื่อเปิดออกมาคุณสามารถนำเคสมารองและตั้งพิงไว้ได้คล้าย ๆ กับเคสมือถือ อีกทั้งด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 1.2 กิโลกรัม ก็ง่ายต่อการพกพาไปใช้นอกสถานที่ ส่วนประสิทธิภาพในเรื่องของเสียงก็ดีสุด ๆ เพราะมันจะมีวูฟเฟอร์ในลำโพงกว่า 2 ตัว และ Amplifier Class D ที่จะปล่อยเสียงได้ดังและสม่ำเสมอกัน ส่วนการเชื่อมต่อก็จะมีทั้งแบบ Bluetooth 4.0 ไร้สาย และการเชื่อมต่อแบบมีสายด้วย USB นอกจากนี้มันยังมีฟังก์ชันรับโทรศัพท์ด้วยการกดปุ่มรับมือถือบนแผงควบคุมของ Marshall อีกด้วย

ขนาด35 x 15 x 5 เซนติเมตร
กำลังวัตต์20 วัตต์
การตอบสนองความถี่50 - 20,000 เฮิรตซ์
แบตเตอรี่ทำงานได้นานกว่า 25 ชั่วโมง
การเชื่อมต่อBluetooth 4.0
ประสิทธิภาพในการกันน้ำไม่ระบุ

รีวิว Marshall รุ่น Kilburn II

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

ราคา 4,624 บาท*

เบสมันส์เร้าใจ เชื่อมต่อได้มากกว่า 1 เครื่อง

Kilburn II เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ปล่อยเสียงออกมาได้อย่างหนักแน่น ไม่ว่าจะเป็นเบสที่มันส์เร้าใจและเสียงของนักร้องที่ใสเป็นพิเศษ รับรองว่าลำโพงรุ่นนี้จะสร้างประสบการณ์ฟังเพลงที่ดีได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้การดีไซน์ของเครื่องก็สวยงาม เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงร็อคยุคคลาสสิก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที้ดีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบ Multi-Host ที่เชื่อมต่อได้มากกว่า 1 เครื่อง, ระบบ Bluetooth 5.0 aptx ที่เชื่อมต่อได้ไกลกว่า 30 ฟุต, แบตเตอรี่ที่ทำงานยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง และการกันน้ำในระดับ IPX2

ขนาด24.3 x 16.2 x 14 เซนติเมตร
กำลังวัตต์36 วัตต์
การตอบสนองความถี่45 - 20,000 เฮิรตซ์
แบตเตอรี่ทำงานได้นานกว่า 10 ชั่วโมง
การเชื่อมต่อBluetooth 5.0 aptX
ประสิทธิภาพในการกันน้ำIPX2

รีวิว Marshall รุ่น Acton II Bluetooth Black

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

ราคา 8,889 บาท*

ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก แต่เสียงดีมากเว่อร์

ถึงแม้ว่า Marshall รุ่น Acton II ค่อนข้างจะมีขนาดที่เล็กกว่ารุ่นอื่น แต่บอกได้เลยว่าประสิทธิภาพในเรื่องของเสียงกลับดีสวนทางแบบไม่คาดคิดเลยละครับ เพราะภายในตัวของมันจะมีซับวูฟเฟอร์และทวีตเตอร์อีก 2 ตัวที่ทำงานร่วมกันในการปล่อยเสียงที่ทรงพลังมากกว่าเดิม แต่ยังคงเสียงที่เป็นธรรมชาติเอาไว้อยู่ ในขณะเดียวกันตัวลำโพงยังมีระบบ Bluetooth 5.0 ที่ทำให้การเชื่อมต่อเร็วและไหลลื่นแบบไม่มีสะดุด นอกจากนี้ด้านบนของเครื่องยังมีปุ่มควบคุมและปรับเสียงมากมาย ทั้ง Bass, Treble และ Volume ทำให้คุณได้ฟังคุณภาพของเสียงที่ตัวเองต้องการได้ตลอดเวลา

ขนาด26 x 16 x 15 เซนติเมตร
กำลังวัตต์60 วัตต์
การตอบสนองความถี่52 - 20,000 เฮิรตซ์
แบตเตอรี่เสียบปลั๊กไฟ
การเชื่อมต่อBluetooth 5.0
ประสิทธิภาพในการกันน้ำไม่ระบุ

รีวิว Marshall รุ่น Stockwell II

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

ราคา 9,800 บาท*

ระบบเสียงสเตอริโอ ดังรอบทิศทาง แบตเตอรี่อึด

Stockwell II จะมาในขนาดที่เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้นอกสถานที่ เพราะตัวลำโพงจะมีขนาดที่กระทัดรัดและมาพร้อมกับหูหิ้วด้านบน ส่วนคุณภาพของเสียงก็ทำออกมาได้ดี ให้ความดังรอบทิศทางหรือเรียกว่า “Multi-Directional Sound” รวมไปถึงเสียงเบสที่ปล่อยออกมาได้เร้าอารมณ์สุด ๆ นอกจากนี้แบตเตอรี่ของเครื่องก็อึดมาก สามารถเล่นเพลงได้นานกว่า 20 ชั่วโมง ทั้งยังมีระบบ Muti-Host หรือการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้พร้อมกันถึง 2 เครื่องและประสิทธิภาพในการกันน้ำระดับ IPX4

ขนาด35 x 19 x 18 เซนติเมตร
กำลังวัตต์20 วัตต์
การตอบสนองความถี่ 60 - 20,000 เฮิรตซ์
แบตเตอรี่ทำงานได้นานกว่า 20 ชั่วโมง
การเชื่อมต่อBluetooth 5.0,
ประสิทธิภาพในการกันน้ำIPX4

รีวิว MARSHALL รุ่น Uxbridge Alexa

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

ราคา 13,990 บาท*

สามารถควบคุมลำโพงผ่านเสียงพูด ผ่าน Alexa

Marshall รุ่น Uxbridge Alexa จะพิเศษกว่ารุ่น ๆ อื่นที่มันจะมี Alexa สุดอัจฉริยะ ซึ่งคุณสามารถควบคุมลำโพงได้จากคำพูดของคุณเอง สามารถสั่งได้ทั้งความดังของเพลงและเพลงที่ต้องการจะเปิด ทั้งยังทำให้คุณเข้าถึงเพลงได้จากทั่วทุกมุมโลกที่มีความถี่ในระดับ 54 - 20,000 เฮิร์ต แต่ยังไม่ได้มีข้อดีแค่เพียงเท่านี้ เนื่องจากลำโพง Marshall รุ่นนี้สามารถลิงก์เข้ากับ Amazon Echo และลำโพงที่มีการรองรับ Airplay 2 หรือ Alexa ได้ทั้งหมด ดังนั้นคุณสามารถเปิดเพลงได้หลากหลายเครื่องในเวลาเดียวกัน หากใครที่ชื่นชอบการจัดปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงหรืออยากให้เพลงเล่นได้ในทุกห้อง บอกได้เลยว่า Uxbridge Alexa เหมาะกับคุณมาก ๆ

ขนาด12.8 x 16.8 x 12.3 เซนติเมตร
กำลังวัตต์30 วัตต์
การตอบสนองความถี่54 - 20,000 เฮิรตซ์
แบตเตอรี่เสียบปลั๊กไฟ
การเชื่อมต่อBluetooth Speaker
ประสิทธิภาพในการกันน้ำไม่ระบุ

รีวิว MARSHALL รุ่น Woburn II

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

ราคา 15,500 บาท*

ลำโพงบลูทูธตั้งโต๊ะ คุณภาพเสียงทรงพลัง เหมาะกับห้องขนาดใหญ่

สายปาร์ตี้หรือคนที่ต้องการเปิดเพลงในห้องขนาดใหญ่ ห้ามพลาด Marshall รุ่น Woburn II เพราะด้วยขนาดของลำโพงที่ค่อนข้างจะใหญ่กว่ารุ่นอื่น รวมไปถึงแรงขับของเสียงที่สูงถึง 130 วัตต์ ที่บอกได้เลยว่าดังสะใจทะลุมิติแน่นอน ทั้งนี้การเชื่อมต่อหรือกาจับคู่กับอุปกรณ์อื่นก็ง่ายมาก เพียงแค่กด Input ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที นอกจากนี้ยังระบบของเครื่องยังมี Bluetooth 5.0 และจับคู่กับแอปของทาง Marshall ได้ ดังนั้นคุณสามารถปรับคุณภาพเสียงเบส, ความแน่นอนของเสียง และความดังของเสียงได้ตามต้องผ่านแอป แต่หากใครอยากใช้การเชื่อมต่อแบบมีสายก็สามารถใช้แจ๊ค RCA ได้ครับ

ขนาด40 x 31 x 20 เซนติเมตร
กำลังวัตต์ 130 วัตต์
การตอบสนองความถี่30 - 20,000 เฮิรตซ์
แบตเตอรี่เสียบปลั๊กไฟ
การเชื่อมต่อBluetooth 5.0 และ Qualcomm aptX
ประสิทธิภาพในการกันน้ำไม่ระบุ

รีวิว Marshall รุ่น Stanmore II Black

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

ราคา 16,990 บาท*

ลำโพงไร้สายคุณภาพ เสียงดีมากตามมาตรฐานของมาแชล

Stanmore II Black มีดีไซน์ที่สวยงามไม่แพ้ใคร ส่วนคุณภาพของเสียงเองก็ดีและคุ้มค่าสำหรับเงินที่คุณจะเสียอย่างแน่นอน เพราะฟังก์ชันของลำโพงสามารถปรับได้ทั้งความแหลม, เสียงเบส และความดังได้อย่างอิสระ อีกทั้งกำลังไฟที่ขับเสียงออกมาจะอยู่ในช่วง 80 วัตต์ ดังนั้นรับรองได้ว่าตัวลำโพงมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะปล่อยเสียงออกมาได้อย่างครอบคลุม ในขณะเดียวกันระบบการเชื่อมต่อเองก็มีให้เลือกทั้งแบบ Bluetooth 5.0 ที่เชื่อมต่อได้เร็วถึงขีดสุด หรือหากใครที่อยากจะนำไปคอนเนคกับเครื่องเล่นต่าง ๆ ก็สามารถใช้สาย RCA และ AUX ได้ครับ

ขนาด35 x 19.5 x 18.5 เซนติเมตร
กำลังวัตต์80 วัตต์
การตอบสนองความถี่52 - 20,000 เฮิรตซ์
แบตเตอรี่เสียบปลั๊กไฟ
การเชื่อมต่อBluetooth 5.0, RCA และ AUX
ประสิทธิภาพในการกันน้ำไม่ระบุ

รีวิว Marshall รุ่น Tufton​

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

ราคา 17,700 บาท*

ลำโพงบลูทูธเสียงใส ปรับควบคุมเสียงได้เอง

Marshall รุ่น Tufton​ มีรูปทรงและระบบการทำงานที่พรีเมียมทั้งหมด โดยจุดเด่นของลำโพงคือ Volume Knob หรือตัวปรับเสียงสุดเท่ห์และสามารถควบคุมเสียงได้ทั้งความดัง, เบส และความแหลมของเสียง ทั้งนี้ลำโพงรุ่นนี้จะตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการพกพาไปใช้เปิดเพลงนอกสถานที่ เพราะการเชื่อมต่อของมันจะเป็นแบบ Bluetooth 5.0 อีกทั้งการตอบสนองในความถี่ช่วง 40 - 20,000 เฮิร์ต ก็รองรับการเปิดเพลงได้ทั่วโลก โดยเพลงที่ออกมาจากมีความใสและธรรมชาติสูง นอกจากนี้แบตเตอรี่เองก็ดี ไม่จำเป็นต้องชาร์จบ่อย ๆ เพราะมันอึดทนและทำงานได้ต่อเนื่องกว่า 20 ชั่วโมง

ขนาด22.9 x 16.3 x 35 เซนติเมตร
กำลังวัตต์80 วัตต์
การตอบสนองความถี่ 40 - 20,000 เฮิร์ต
แบตเตอรี่ทำงานได้นานกว่า 20 ชั่วโมง
การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
ประสิทธิภาพในการกันน้ำIPX2

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ลําโพง Marshall รุ่นไหนดีสุด เบสหนัก คุณภาพเสียงดีเยี่ยม ปี 2022

ยี่ห้อ/รุ่นสินค้าคุณสมบัติดูเพิ่มเติม

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

Marshall รุ่น Emberton

  • ขนาด: 6.8 x 16 x 7.6 เซนติเมตร
  • กำลังวัตต์: 10 วัตต์
  • การตอบสนองความถี่: 60 - 20,000 เฮิรตซ์
  • แบตเตอรี่: ทำงานได้นานกว่า 20 ชั่วโมง
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0
  • ประสิทธิภาพในการกันน้ำ: IPX7

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

Marshall รุ่น Stockwell

  • ขนาด: 35 x 15 x 5 เซนติเมตร
  • กำลังวัตต์: 20 วัตต์
  • การตอบสนองความถี่: 50 - 20,000 เฮิรตซ์
  • แบตเตอรี่: ทำงานได้นานกว่า 25 ชั่วโมง
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 4.0
  • ประสิทธิภาพในการกันน้ำ: ไม่ระบุ

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

Marshall รุ่น Kilburn II

  • ขนาด: 24.3 x 16.2 x 14 เซนติเมตร
  • กำลังวัตต์: 36 วัตต์
  • การตอบสนองความถี่: 45 - 20,000 เฮิรตซ์
  • แบตเตอรี่: ทำงานได้นานกว่า 10 ชั่วโมง
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0 aptX
  • ประสิทธิภาพในการกันน้ำ: IPX2

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

Marshall รุ่น Acton II Bluetooth Black

  • ขนาด: 26 x 16 x 15 เซนติเมตร
  • กำลังวัตต์: 60 วัตต์
  • การตอบสนองความถี่: 52 - 20,000 เฮิรตซ์
  • แบตเตอรี่: เสียบปลั๊กไฟ
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0
  • ประสิทธิภาพในการกันน้ำ: ไม่ระบุ

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

Marshall รุ่น Stockwell II

  • ขนาด: 35 x 19 x 18 เซนติเมตร
  • กำลังวัตต์: 20 วัตต์
  • การตอบสนองความถี่ : 60 - 20,000 เฮิรตซ์
  • แบตเตอรี่: ทำงานได้นานกว่า 20 ชั่วโมง
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0,
  • ประสิทธิภาพในการกันน้ำ: IPX4

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

MARSHALL รุ่น Uxbridge Alexa

  • ขนาด: 12.8 x 16.8 x 12.3 เซนติเมตร
  • กำลังวัตต์: 30 วัตต์
  • การตอบสนองความถี่: 54 - 20,000 เฮิรตซ์
  • แบตเตอรี่: เสียบปลั๊กไฟ
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth Speaker
  • ประสิทธิภาพในการกันน้ำ: ไม่ระบุ

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

MARSHALL รุ่น Woburn II

  • ขนาด: 40 x 31 x 20 เซนติเมตร
  • กำลังวัตต์ : 130 วัตต์
  • การตอบสนองความถี่: 30 - 20,000 เฮิรตซ์
  • แบตเตอรี่: เสียบปลั๊กไฟ
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0 และ Qualcomm aptX
  • ประสิทธิภาพในการกันน้ำ: ไม่ระบุ

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

Marshall รุ่น Stanmore II Black

  • ขนาด: 35 x 19.5 x 18.5 เซนติเมตร
  • กำลังวัตต์: 80 วัตต์
  • การตอบสนองความถี่: 52 - 20,000 เฮิรตซ์
  • แบตเตอรี่: เสียบปลั๊กไฟ
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0, RCA และ AUX
  • ประสิทธิภาพในการกันน้ำ: ไม่ระบุ

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

รูปภาพจาก marshallheadphones.com

Marshall รุ่น Tufton​

  • ขนาด: 22.9 x 16.3 x 35 เซนติเมตร
  • กำลังวัตต์: 80 วัตต์
  • การตอบสนองความถี่ : 40 - 20,000 เฮิร์ต
  • แบตเตอรี่: ทำงานได้นานกว่า 20 ชั่วโมง
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0
  • ประสิทธิภาพในการกันน้ำ: IPX2

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

ลําโพง marshall stanmore 2 รีวิว

การเชื่อมต่อแบบไหนดีกว่ากันระหว่าง WIFI และ Bluetooth

ส่วนใหญ่แล้วลำโพง Marshall จะมีเทคโนโลยีอย่าง Bluetooth ที่สามารถจะเชื่อมต่อเข้ากับมือถือ, คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ได้เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ก็มีหลายคนที่เลือกการเชื่อมต่อแบบ WIFI เหมือนกัน ดังนั้นจึงมีหลายคนตั้งคำถามว่าแบบไหนดีกว่ากัน รวมไปถึงมันมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง ? ซึ่งวันนี้เราจะมาเฉลยกันครับ

1. การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth

การเชื่อมต่อระบบนี้จะค่อนข้างง่ายและส่วนใหญ่จะมีราคาที่ถูกกว่าการเชื่อมต่อแบบ WIFI อีกทั้งระบบบลูทูธส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในลำโพงขนาดพกพา เพราะมันไม่จำเป็นจะต้องใช้ WIFI แต่อย่างใด นอกจากนี้ระยะการเชื่อมต่อจะอยู่ในช่วง 30 ฟุตโดยประมาณ ซึ่งถือว่าค่อนข้างไกล

2. การเชื่อมต่อแบบ WIFI

ข้อดีของการเชื่อมต่อแบบนี้คือการฟังเพลงของคุณจะไม่ถูกขัดจังหวะ หากมีการโทรเข้าหรือส่งข้อความมา แต่มันอาจมีปัญหาเล็กน้อยตรงที่ถ้าหากคุณภาพของ WIFI หรือการส่งสัญญาณไม่ดีพอ คุณภาพของเสียงที่ส่งมาจากมือถืออาจจะไม่มีความคมชัด