วันที่ 3 มี.ค. 2564 | ผู้เข้าชม 11,948 ครั้ง | โดย กลุ่มเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพเครือข่าย กองส่งเสริมศักยภาพผู้สูงอายุ อาชีพผู้สูงอายุหรืออาชีพหลังเกษียณของคุณคืออะไร? บางคนอาจคิดว่าทำงานมาเหนื่อยแล้วก็อยากที่จะอยู่บ้านเลี้ยงหลาน กินเงินบำเหน็จบำนาญสบายๆ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ ไม่ได้มีเงินเก็บเหลือกินเหลือใช้ หรือคนที่ยังมีไฟในการทำงาน ไม่อยากอยู่เฉยๆรอเงินผู้สูงอายุ ซึ่งก็ไม่ได้มากพอเมื่อเทียบกับค่าครองชีพที่มีแต่จะสูงขึ้น แล้วคนอายุ 45+ ปีขึ้นไปจนถึงวัยหลังเกษียณ จะยังสามารถทำอาชีพอะไรได้บ้าง? เมื่อผู้สูงวัยครองเมืองคำถามตามมาคือ เมื่อมีผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากแล้ว ประเทศจะเป็นอย่างไร ในแง่หนึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจาก
1.ขายของออนไลน์ช่องทางสร้างรายได้มาแรง ยอดนิยมและไม่มีข้อจัดในการขาย ว่าจะอายุเท่าไหร เพศไหน อยู่ที่ไหนก็ขายได้ ยิ่งในปัจจุบันผู้สูงวัยเริ่มที่จะมีความสามารถในการใช้งานแอพลิเคชั่นบนมือถือ สังเกตง่ายๆอย่างน้อยก็ Facebook, Line ลองสร้างเพจขึ้นมาขายของ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากในคลิปสอนโพสต์ขายซึ่งมีอยู่มากมายไม่ต้องเสียเงินไปเรียนคอร์สให้สิ้นเปลือง ประการสำคัญของการขายของออนไลน์คือ “ต้นทุน” ไม่มีต้นทุนหน้าร้านให้เป็นภาระ ไม่จำเป็นสต็อกสินค้า ยิ่งไปเป็นตัวแทนจำหน่ายแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากโพสต์ขาย ขายได้ก็ส่งออเดอร์แล้วรอรับเงินส่วนแบ่งจากขายการ 2. ขายของตลาดนัด แม้ตลาดนัดจะดูซบเซาลงไปบ้างจากการเข้ามามีบทบาทของธุรกิจอีคอมเมิร์ซหรือการค้าขายออนไลน์ แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีกลุ่มคนที่ต้องการจะเห็นสินค้าจริงก่อนทำการซื้อขาย และตลาดนัดก็ยังเป็นศูนย์รวมของสินค้าหลายประเภทที่ยังตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการสินค้าหลายๆอย่างในทันทีและราคาถูก แม้ว่าจะมีขายถูกกว่าในร้านค้าออนไลน์ แต่บางคนก็ไม่อยากรอและไม่อยากจะลุ้นว่าจะได้ของดี มีคุณภาพ หรือต้องเสียเวลาเครมสินค้าอีกไหมหากได้ของชำรุดเสียหายมา ดังนั้นลองหาสินค้าที่เหมาะกับตัวมาลองขายดู ลงทุนเริ่มต้นแนะนำให้ขายเป็นร้านเล็กๆก่อน ต้นทุนก็จะมี ค่าเช่าพื้นที่ ค่าอุปกรณ์และค่าสินค้า 3. ขายประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันภัยรถยนต์ ก็สามารถไปสมัครตัวแทนขายและเริ่มต้นอาชีพเสริมนี้ได้ สิ่งสำคัญคือทักษะในการจบการขาย การพูดจาชี้ให้เห็นความสำคัญข้อดีข้อด้อย มีทักษะในการพูดสร้างแรงจูงใจ หรือหากพูดไม่เก่งแต่ข้อมูลแน่น ลองรวบรวมความกล้า ไม่แน่มันอาจจะกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้งามๆ 4. พนักงานโฮมโปร (Home Pro)หากเบื่อไม่อยากทำงานอยู่บ้าน อยากออกมาทำงานข้างนอกพบปะผู้คน การสมัครเป็นพนักงานขายของที่โฮมโปรคือทางเลือกที่เหมาะเลยทีเดียว เพราะโฮมโปรได้เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุที่มีศักยภาพในการทำงานมาร่วมงานด้วย โดยการเปิดโครงการที่มีชื่อว่า “YOUNG SMART” สนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุ ซึ่งการเป็นพนักงานจะมีหน้าที่ดูแลลูกค้า แนะนำสินค้า ดูแลสินค้าและตรวจสอบสินค้าในชั้นวางหรือโซนที่ตัวเองรับผิดชอบ 5. พนักงานร้านคริสปี้ครีม (Krispy Kreme)หนึ่งในบริษัทที่ให้โอกาสเปิดรับพนักงานผู้สูงวัยคือ Krispy Kreme (คริสปี้ครีม) และโดยรับผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่ยังมีไฟในการทำงาน สุขภาพแข็งแรง โดยไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษา สามารถเลือกเวลาทำงานรายชั่วโมงได้ ไม่จำกัดเวลาในการทำงาน โดยมีหน้าที่หลักๆคือ ขายขนม จัดขนมใส่กล่อง เก็บและเช็ดทำความสะอาดโต๊ะ 6.ทำงานฝีมือขายสำหรับผู้สูงอายุหญิงที่มีฝีมือในการเย็บ ปัก ถัก ร้อย ลองเอาความรู้ความสามารถตรงนั้นมาต่อยอดผลิตสินค้างานฝีมือแบบ Made to Order ดู เช่น สร้อยคอ ตุ๊กตา กระเป๋า ของกระจุกกระจิกน่ารักๆ หรือถักหูจับกระเป๋า ฯลฯ งานฝีมือที่เน้นใส่ใจรายละเอียด สามารถสร้างกำไรได้มากกว่าเท่าตัว 7.ทำอาหารขายเมนูโฮมเมดหรือเมดทูออเดอร์ เหมาะสำหรับคนที่อยากทำงานอยู่บ้านและมีฝีมือในด้านการทำอาหาร คุณอาจจะเปิดเพจหรือเว็บไซต์ เพื่อไว้เป็นช่องทางในการรับออเดอร์ อาจจะจัดทำเป็นชุดข้าวกล่องส่งขายก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว 8.รับเลี้ยงเด็กใช้เวลาว่างในการับเลี้ยงเด็ก พ่อแม่ที่ต้องออกไปทำงานทุกวันอาจไม่มีเวลาดูแลบุตร หรืออาจต้องไปทำธุระที่ไม่สามารถนำเด็กไปได้ ทางเลือกสำหรับพวกเขาก็คือการหาพี่เลี้ยงหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก โดยให้เริ่มจากเพื่อนบ้านในละแวกจะง่ายหน่อย เนื่องจากมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ความใจเนื้อเชื่อใจก็มีแล้วในระดับหนึ่ง เก็บผลงานไปเรื่อยๆแล้วจึงค่อยประกาศรับเลี้ยงเด็กอาจจะติดป้ายประกาศบริเวณหน้าหมู่บ้าน 9.บริการอาบน้ำ – ตัดขนสัตว์เลี้ยง ใช้พื้นที่ว่างบริเวณข้างบ้านเปิดเป็นช็อปเล็กๆ ให้บริการอาบน้ำ ตัดขน สัตว์เลี้ยง อาจจะเปิดบริการเสริมด้วยการรับเลี้ยงสัตว์ พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น เป็นต้น 10.ซื้อแฟรนไชส์ ทางเลือกสำคัญคนที่พอมีทุนสำหรับซื้อแฟรนไชส์สักอย่างหนึ่งมาสร้างอาชีพเสริม ข้อดีของระบบแฟรนไชส์ก็คือ มีการวางระบบไว้ให้เรียบร้อยแล้วในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น การขาย การตลาด อุปกรณ์ และที่สำคัญเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดแล้ว ไม่ต้องเสียเวลามาสร้างแบรนด์เอง 11. ธุรกิจการเกษตร 12. ธุรกิจฟรีแลนซ์ / ที่ปรึกษาให้กับองค์กรต่างๆ 13. ธุรกิจ Influencer 14.
ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ 15. ทำธุรกิจตู้หยอดเหรียญ เบื้องต้นที่กล่าวมานั้นก็เป็นตัวอย่างของอาชีพสำหรับคนวัย 45+ ขึ้นไปหรืออาชีพผู้สูงอายุ ที่อยากทำอาชีพอิสระหรือยังอยากที่จะทำงาน ไม่อยากปล่อยให้เวลาอันมีค่าต้องหมดไป หากจะอยู่บ้านนั่งๆนอนๆชีวิตก็คงไม่น่าตื่นเต้นอีกต่อไป ที่มา : https://www.smeleader.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8/ |