“ตากระตุก” ไม่ใช่ลางร้าย แต่เป็นเสียงเตือนจากร่างกายเผยแพร่ 13 ก.ย. 2564 ,14:16น. Show ขวาร้าย-ซ้ายดี บางทีอาจไม่ใช่ลางบอกเหตุเสมอไป แต่เป็นเสียงเตือนจากร่างกาย ว่ามีอาการบางอย่างซ่อนอยู่ ตากระตุก (Eye Twitching) คือ อาการที่เปลือกตามีการขยับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มักเกิดขึ้นและหายได้เองในเวลาอันสั้น และแม้จะเป็นอาการเพียงเล็กน้อย หากเกิดขึ้นถี่ ๆ ก็ทำให้เกิดความรำคาญได้ แต่อาการตากระตุก ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างจากร่างกาย ว่าเรากำลังเป็นโรคร้ายบางชนิด เช่น โรคอัมพาตใบหน้า, โรคกล้ามเนื้อบิดเกร็ง เป็นต้น มนุษย์ออฟฟิศ ต้องรู้ “วิธีถนอมดวงตาคู่สวย” !!! รู้หรือไม่ว่า "ชีวิตติดจอ" ส่งผลร้ายต่อคุณแค่ไหน “ตากระตุก” เกิดจากอะไร? -เครียดสะสม พักผ่อนไม่เพียงพอ -ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป -สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป -จ้องจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน มองแสงจ้า มากเกินไป -ลม หรือมลพิษทางอากาศ ตาล้า ตาแห้ง -ระคายเคืองที่เปลือกตาด้านใน โรคภูมิแพ้ -ขาดวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารบางชนิด -ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด สิ่งที่ต้องทำเบื้องต้น เมื่อ “ตากระตุก” -นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ -ลดการใช้สมาร์ทโฟน หรือ ลดการจ้องมองที่ที่มีแสงจ้า -ลด/หลีกเลี่ยง ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน -งดการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ -ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย -ประคบร้อน/อุ่นบริเวณดวงตา นวดกล้ามเนื้อรอบดวงตา -หยอดน้ำตาเทียม เมื่อตาแห้ง หรือระคายเคือง แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม -ตากระตุกติดต่อกันนานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไป -มีอาการกระตุกบริเวณอื่นๆ เพิ่มเติมบนใบหน้า -ตาที่กระตุกมีอาการอ่อนแรงหรือหดเกร็ง / บวม แดง หรือมีสารคัดหลั่งไหลออกมา -เปลือกตาด้านบนห้อยย้อยลงมา หรือ เปลือกตาปิดสนิททุกครั้งที่เกิดอาการตากระตุก หากดูแลตัวเองแล้วไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์ รับการรักษาที่เหมาะสมกับอาการ รับประทานยาตามแพทย์สั่ง หรือ ฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งเป็นวิธีที่ผ่านการรับรองให้ใช้รักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งที่ควบคุมไม่ได้ ที่มา รพ.สมิติเวช อย่าหลงกล.. ไม่มีอาหารเสริมรักษาโรคตาได้ เตือนคนติดโซเชียล-คลั่งแชท ระวังละเมอส่งข้อความเรื่อยเปื่อยกลางดึก! ไม่พลาดทุกเหตุการณ์ติดตามข่าวจาก PPTV ได้ที่ Subscribe Share:
ตากระตุก (Eye Twitching) เป็นอาการขยับหรือกระตุกอย่างรวดเร็วของกล้ามเนื้อเปลือกตาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เกิดขึ้นได้ทั้งกับเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง แต่มักจะเกิดกับเปลือกตาบนและมักเกิดกับตาทีละข้าง อาการตากระตุกสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ โดยผู้ที่มีอาการส่วนใหญ่จะพบว่าอาการไม่มีความรุนแรงใด ๆ แต่บางรายอาจพบว่ามีอาการกระตุกอย่างรุนแรงจนทำให้รู้สึกต้องการที่จะหลับตาลงหรือก่อความรำคาญ และบางรายอาจมีอาการเพียงเล็กน้อยจนไม่สามารถสังเกตได้ อาการตากระตุก อาการตากระตุกมักจะเกิดขึ้นกับตาทีละข้างเกิดขึ้นได้กับเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง แต่โดยส่วนใหญ่จะเกิดกับเปลือกตาบน อาการตากระตุกจะมีตั้งแต่อาการที่สังเกตได้น้อยไปจนถึงกระตุกมากจนทำให้เกิดความรำคาญ และอัตราอุบัติการณ์ของอาการไม่สามารถคาดเดาได้ โดยอาจเกิดแล้วหายไปได้เองภายในเวลาอันสั้น แต่อาจกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดไป หรืออาจนานเป็นวันหรือมากกว่านั้นแล้วกลับมาเกิดซ้ำ อาการตากระตุกจะไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดและมักไม่เป็นอันตราย แต่อาจจะสร้างความรำคาญให้ผู้ที่มีอาการได้ นอกจากนั้น อาการมักจะหายไปเองโดยไม่ต้องรักษา แต่มีบางกรณีซึ่งพบได้น้อยที่อาการตากระตุกอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคเรื้อรังหรือมีความรุนแรง โดยเฉพาะในรายที่มีอาการกระตุกของส่วนอื่น ๆ บนใบหน้าร่วมด้วย สาเหตุของตากระตุก สาเหตุของตากระตุกยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่แพทย์ได้สันนิษฐานว่ามีความสัมพันธ์กับการทำงานของสมองส่วนที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อผิดปกติ โดยอาการมักเกิดขึ้นจากความเครียด การอดนอน การบริโภคคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์มาก และอาจรวมไปถึงสาเหตุต่อไปนี้ เช่น
อาการตากระตุกมักจะหายไปได้เองภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์ แต่หากพบว่ามีอาการต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์
หากมีอาการตากระตุกต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเป็นสัปดาห์ หรืออาการแย่ลงและสร้างความรำคาญ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย โดยแพทย์จะวินิจฉัยด้วยการตรวจตาอย่างละเอียดเพื่อจำแนกโรคตาอื่น ๆ และภาวะที่มีอาการใกล้เคียงกัน เช่น ตาแห้ง ตาไวต่อแสง หรืออาการกระตุกที่ลามลงมายังส่วนอื่น ๆ ของใบหน้าหรือหากเกี่ยวข้องกับกล้ามส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า ควรจะต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม นอกจากนั้น หากแพทย์สงสัยว่าอาการตากระตุกมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของสมองหรือระบบประสาท แพทย์จะตรวจสอบหาสัญญาณหรืออาการอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมไปถึงอาจส่งตัวไปให้แพทย์ระบบประสาทหรือผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทโดยเฉพาะ การรักษาตากระตุก อาการตากระตุกมักจะหายไปได้เองภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์โดยที่ไม่ต้องรักษา แต่หากอาการไม่หายไป ผู้ป่วยควรพยายามหลีกเลี่ยงหรือลดสาเหตุเบื้องต้นเพื่อบรรเทาอาการตากระตุกด้วยตนเอง ได้แก่
สำหรับกรณีที่ไม่มีรุนแรง แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยา เช่น ยาโคลนาซีแพม (Clonazepam) ยาลอราซีแพม (Lorazepam) ยาไตรเฮกซีเฟนิดิล (Trihexyphenidyl) โดยยาเหล่านี้จะสามารถบรรเทาอาการหรือหยุดอาการตากระตุกได้ชั่วคราวเท่านั้น สำหรับกรณีที่อาการตากระตุกมีความรุนแรง แพทย์อาจส่งตัวให้จักษุแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อรักษาด้วยการฉีดโบทอกซ์ (Botox)ซึ่งสามารถหยุดอาการตากระตุกได้ชั่วคราวเป็นระยะเวลาไม่กี่เดือน และเมื่อโบทอกซ์หมดฤทธิ์ก็อาจต้องฉีดซ้ำอีกครั้ง นอกจากนั้นการศัลยกรรม เช่น การตัดกล้ามเนื้อ (Myectomy) เป็นการตัดกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทตาของเปลือกตาออก เป็นวิธีที่อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคตากระตุกที่มีความรุนแรงได้ ภาวะแทรกซ้อนตากระตุก อาการตากระตุกอาจเป็นอาการที่มีความรุนแรงซึ่งเกิดจากความผิดปกติของสมองหรือระบบประสาท แต่อย่างไรก็ตาม อาการตากระตุกที่เกิดขึ้นเพราะความผิดปกติดังกล่าวมักจะเกิดพร้อมกับอาการอื่น ๆ เสมอ โดยโรคหรือความผิดปกติของสมองและประสาทที่อาจทำให้เกิดอาการตากระตุก ได้แก่
เนื่องจากแพทย์ได้สันนิษฐานว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการตากระตุก ได้แก่ ความเครียด การอดนอน การบริโภคคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์มาก หรือการสูบบุหรี่ ดั้งนั้นการป้องกันในเบื้องต้นจึงทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
ตาข้างซ้ายกระตุกความหมายคืออะไรเขม่นเปลือกตาซ้าย : จะเกิดปากเสียงทะเลาะวิวาท หรือมีเรื่องเดือดร้อนเข้ามาถึงตัว เขม่นเปลือกตาขวา : จะมีญาติมิตรที่อาศัยอยู่ต่างแดนเดินทางมาหา ตากระตุกในช่วงสาย (09.00-12.00) เขม่นเปลือกตาซ้าย: จะมีเรื่องที่ไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นในครอบครัว
คิ้วซ้ายกระตุกเกิดจากอะไร1. ชนิดไม่ทราบสาเหตุ เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด มักเป็นข้างเดียว ตัวกระตุ้นที่อาจทำให้เกิด เช่น ความเครียด การอดนอน ร่างกายอ่อนเพลีย ขาดน้ำ การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือแอลกอฮอล์ ขาดเกลือแร่บางอย่าง เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม เป็นต้น
ตากระตุกข้างขวาจะดีไหมต้องพบแพทย์เมื่อเจออาการเหล่านี้
แม้ว่าอาการตากระตุกโดยทั่วไปแล้วจะไม่เป็นอันตราย แต่หากเกิดกรณีเหล่านี้ให้ไปพบแพทย์ทันที มีอาการต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ หรือยาวนานกว่านั้น การกระตุกเพิ่มมากขึ้น จากตาขวาไปตาซ้าย หรือกระจายไปตามใบหน้า บริเวณที่กระตุกเกิดการหดเกร็ง
|