SUMMARY ความพยายามที่จะสร้างเสถียรภาพทางการเมืองที่สำคัญประการหนึ่งของพระมหากษัตริย์ต้นรัตนโกสินทร์ ก็คือ การสร้างความสัมพันธ์อันดีในกลุ่มชนชั้นผู้ปกครอง อันได้แก่พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์และขุนนางเพื่อลดความขัดแย้งทางการเมืองอันสืบเนื่องมาจากปัญหาการสืบราชสมบัติ ซึ่งไม่มีกฎเกณฑ์การสืบราชสมบัติที่แน่นอน วิทยานิพนธ์นี้มีจุดมุ่งหมายที่จะศึกษาถึง ความสัมพันธ์ทางสังคมภายในกลุ่มชนชั้นผู้ปกครองที่มีผลโดยตรงต่อการเมืองการปกครองไทยสมัยต้นรัตนโกสินทร์ โดยจะพิจารณาถึง ลักษณะการเมืองไทยสมัยก่อนหน้านั้นที่มีความขัดแย้งทางการเมืองอย่างสูงในกลุ่มชนชั้นผู้ปกครอง อันเป็นประสบการณ์สำคัญต่อการดำเนินนโยบายทางการเมืองของสถาบันกษัตริย์ราชวงศ์จักรีในระยะแรก เพื่อศึกษาลักษณะเฉพาะของความสัมพันธ์ทางสังคมภายในกลุ่มชนชั้นผู้ปกครอง ที่ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกันในทางเศรษฐกิจและการเมือง ตลอดจนปัจจัยที่สนับสนุนให้เกิดความสัมพันธ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและผลกระทบของความสัมพันธ์ภายในกลุ่มชนชั้นผู้ปกครองต่อการเมืองไทยสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ผลของการศึกษาพบว่า ภายหลังการแย่งชิงราชสมบัติในกลุ่มชนชั้นผู้ปกครองปลายอยุธยา และการเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าใน พ.ศ. 2310 นั้น ได้เกิดการรวมตัวของขุนนางส่วนกลางที่มีความพยายามจะสถาปนารัฐแบบอยุธยาขึ้นมาใหม่ โดยมีสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เป็นผู้นำพระองค์แรกแต่ก็ต้องประสบปัญหาต่าง ๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้สถาปนาราชวงศ์จักรีขึ้นมาได้สำเร็จภายใต้ความสัมพันธ์ในลักษณะเครือญาติและอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึกในกลุ่มขุนนางส่วนกลางปลายสมัยอยุธยา ความสัมพันธ์ในลักษณะเครือญาติและอุปถัมภ์ในกลุ่มชนชั้นผู้ปกครอง ได้รับการเน้นเป็นอย่างมากในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ให้มีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นและกว้างขวางยิ่งขึ้น ด้วยการผ่อนคลายความสัมพันธ์อันเคร่งครัดของพระมหากษัตริย์ที่มีต่อพระบรมวงศานุวงศ์และขุนนาง ในส่วนความสัมพันธ์ทางเครือญาติระหว่างพระมหากษัตริย์กับ พระบรมวงศานุวงศ์ไม่ได้เน้นฐานะชาติกำเนิดที่แตกต่างกันทางสายพระราชมารดาของพระบรมวงศาสนุวงศ์เป็นสำคัญ อันมีผลต่อลักษณะเปิดกว้างในสิทธิการสืบราชสมบัติของเชื้อพระวงศ์ผู้มีความสามารถทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นคุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งของพระบรมวงศานุวงศ์ที่จะได้รับการยอมรับให้ขึ้นครองราชสมบัติ แต่ทั้งนี้ต้องอาศัยการสนับสนุนทางการเมืองจากกลุ่มพระบรมวงศานุวงศ์และขุนนาง ทำให้พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์และขุนนางสมัยต้นรัตนโกสินทร์มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติและอุปถัมภ์กันอย่างใกล้ชิดและสนับสนุนซึ่งกันและกันในทางเศรษฐกิจและการเมือง ปัจจัยที่สนับสนุนให้ความสัมพันธ์ภายในกลุ่มชนชั้นผู้ปกครองดำเนินไปได้ด้วยดี สืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางสังคมและเศรษฐกิจของชนชั้นผู้ปกครองมีผลต่อลักษณะร่วมกันในเป้าหมายทางเศรษฐกิจ จากการขยายตัวทางการค้าต่างประเทศช่วงสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ทำให้มีการประสานผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดสัมพันธภาพอย่างใกล้ชิดในกลุ่มชนชั้นผู้ปกครอง บังเกิดผลต่อความเสถียรภาพทางการเมืองของพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรี SUBJECT
|